ตอนที่แล้วตอนที่ 9 เผยความสามารถ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 ศักยภาพที่พุ่งทะยาน

ตอนที่ 10 หอต่อสู้ลวงตา


อันดับ 1: จ้าว ไค, 1,250 คะแนน!

อันดับ 2: เฟิง หลิน, 1228 คะแนน!

อันดับ 3: ตู่ จื่อหมิง, 987 คะแนน!

...

ในที่สุดคะแนนของเฟิง หลินก็อยู่ที่อันดับ 2

ในยุคสมัยดวงดาวการสอบจะเน้นไปที่ส่วนของการต่อสู้มากกว่าข้อเขียน

ท้ายที่สุดการสอบข้อเขียนก็เป็นแค่การทดสอบความรู้และทฤษฎีเท่านั้น ขณะที่การทดสอบต่อสู้จะทดสอบยีนและการบ่มเพาะ

จักรวาลนั้นไร้ขีดจำกัด ด้วยเผ่าพันธุ์และชาติพันธุ์จำนวนนับไม่ถ้วน

ดูเหมือนว่าจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้จะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง

กฏอันโหดร้ายทำให้ทุกเผ่าพันธุ์ตื่นตัวรวมถึงมนุษย์ด้วย เมื่อเกิดข้อผิดพลาด เผ่าพันธ์อาจดับสูญ

มีเพียงการวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องเท่านั้นที่จะสร้างการปกครองในจักรวาลแสนโหดร้ายนี้

ตรงกันข้ามกับทฤษฎีบริสุทธิ์ การบ่มเพาะทางพันธุกรรมเกี่ยวข้องกับวิวัฒนาการของธรรมชาติพื้นฐานแห่งชีวิต เห็นได้ชัดว่ามันเป็นจุดสนใจหลักของการสอบ

เช่นเดียวกับการสอบข้อเขียนไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ในการทำข้อสอบ

มันถูกคำนวณด้วยสูตรคงที่ ขึ้นอยู่กับพลังชีวิตซึ่งเป็นปัจจัยหลักพร้อมด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งเป็นปัจจัยรองทำให้ทั้งสองประสานกันจนเป็นผลลัพธ์สุดท้าย

สิ่งนี้บ่งบอกว่าด้วยคะแนนพลังที่สูง ความเร็วที่รวดเร็วและความแข็งแกร่งที่มีประสิทธิภาพ คะแนนสุดท้ายจึงไร้ขีดจำกัด

มันถูกตั้งด้วยวิธีนี้เพื่อให้คนขยันบ่มเพาะและทะลวงระดับพลังทันทีที่กลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว

เฟิง หลินได้รับการเปลี่ยนแปลงในเวลาอันสั้นโดยใช้ความสามารถสมการทางพันธุกรรมเพื่อปรับปรุงตัวเอง

อย่างไรก็ตาม เขาก็แค่คนธรรมดา ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เขาก็ไม่อาจกลายเป็นสุดยอดผู้เชี่ยวชาญทันที

ยังคงมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างพลังของเขากับจ้าว ไค ซึ่งได้คะแนนเป็นอันดับแรกในชั้นเรียน

ในการสอบครั้งที่สอง เขาได้คะแนน 640 คะแนนซึ่งน้อยกว่าคะแนนของจ้าวไคที่1,000 คะแนน คะแนนรวมของเขาน้อยกว่าของจ้าว ไคเล็กน้อย

เขาเป็นหนึ่งในสองผู้สมัครที่ทำคะแนนได้มากกว่า 1,000 คะแนนในชั้นเรียน

ตู่ จื่อหมิงซึ่งอยู่ในอันดับที่สามมีคะแนนห่างกันมากและไม่ได้จัดอยู่กลุ่มเดียวกันอีกต่อไป

การล้าหลังชั่วคราวไม่ใช่เรื่องใหญ่

เฟิง หลินรู้ดีว่ารากฐานการบ่มเพาะครั้งก่อนของเขานั้นแย่มาก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คาดหวังว่าจะก้าวกระโดดได้ในคราเดียว

ด้วยสมการทางพันธุกรรมที่ผ่านการเสริมสร้าง และสะสมแต้ม ความก้าวหน้าของเขาจะรวดเร็วแค่ไหน?

บางทีจากการสอบครั้งต่อไป เขาอาจจะทำได้ดีกว่าจ้าว ไคและผู้ชายคนนี้อาจไม่ใช่เป้าหมายที่เขาไล่ตามก็ได้!

เฟิง หลินมั่นใจในเรื่องนั้น

ในทุกชั้นเรียนมีเพียงสามอันดับแรกเท่านั้นที่มีสิทธิ์ฝึกฝนในเจดีย์ต่อสู้ลวงตา อันดับอื่นไม่มีความหมาย

นักเรียนสิบอันดับท้ายเศร้าสลด

พวกเขาสูญเสียโอกาสในการเข้าสอบวิทยาลัยและได้รับใบรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายเท่านั้น พวกเขาต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพในสังคม

ในยุคสมัยดวงดาว การแข่งขันที่โหดร้ายมีอยู่ทั่ว

ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้น แต่สิ่งเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นกับโรงเรียนด้วย

แต่ละโรงเรียนจะต่อสู้เพื่อการจัดอันดับที่ดีในการสอบก่อนเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อรักษาชื่อเสียงที่ดีและจัดหาทรัพยากรชั้นเลิศให้นักเรียนชั้นเลิศ

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น นอกเหนือจากการผลิตอัจฉริยะแล้ว อัตราการลงทะเบียนก็มีบทบาทสำคัญเหมือนกัน

บางคนที่ไม่เหมาะสมกับวิทยาลัยจะลดอัตราการลงทะเบียน

ดังนั้นนักเรียนเกรดต่ำบางคนในแต่ละชั้นเรียนจึงไม่ได้ทำการสอบคัดเลือกทุกปี บวกกับ ผู้ที่ลาออกยังไม่อาจซ้ำชั้นได้ ไม่มีเรื่องยุติธรรมในยุคดวงดาว

เดิมที เฟิงหลินเป็นหนึ่งในนั้น ตอนนี้ ด้วยความพยายามของเขา เขาจึงเปล่งประกายเหนือคนอื่นและกลายเป็นอันดับสอง

แม้ว่าเฟิง หลินจะดูสงบนิ่ง แต่เขาเองก็รู้สึกดีใจอย่างมาก

กลุ่มเฟิงคิดว่าเฟิงหลินคงไม่อาจสมัครเข้าวิทยาลัยได้ ดังนั้น พวกเขาจึงส่งเขาไปฝึกงานในโรงงานกลุ่ม

ตอนนี้เฟิง หลินก้าวไปอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง ตราบใดที่เขายังอดทน เขาจะสามารถต่อรองกับกลุ่มของเขาได้ในไม่ช้า และหลบหนีจากชะตากรรมที่ถูกวางเอาไว้

"คนอื่นออกไปก่อน เธอสามคนตามฉันมา!" อาจารย์ใหญ่หญิงประกาศและส่งสัญญาณให้กับเฟิง หลิน จ้าว ไคและ ตู่จื่อหมิง

นอกห้อง พวกเขาขึ้นรถไฟแม่เหล็กลอยฟ้าและตรงไปอาคารบ่มเพาะ

ระหว่างการเดินทางจ้าว ไคและตู่จื่อหมิงหัวเราะและพูดคุย แต่ไม่มีใครเหลียวมองมาที่เฟิง หลิน เพียงแค่ส่งสายตาเหยียดหยาม

เฟิง หลินก็ลังเลที่จะไปยุ่งกับพวกเขาเช่นกัน เขานั่งบนที่นั่งของเขาและปรับลมหายใจเขาเพื่อกู้คืนพลังงานที่ใช้ไป

ในขณะเดียวกันอาจารย์ใหญ่ข้างๆก็กำลังสำรวจเขาอย่างเงียบ ๆ เธออยากรู้ว่าทำไมจู่ๆเขาถึงเก่งกาจขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอไม่ค้นพบอะไรเกี่ยวกับเฟิง หลินเลย นอกจากความสงบและวุฒิภาวะที่เกินอายุของเขา

เขาอายุยังน้อยแต่มีนิสัยเหมือนผู้ใหญ่ หากไม่มีอะไรไม่คาดฝัน อนาคตเขาย่อมสดใส

เธอพยักหน้ากับตัวเอง สนใจเฟิงหลินขึ้นเล็กน้อย

รถไฟเร็วและพวกเขาก็มาถึงอาคารโอ่อ่าในไม่ช้า คนกลุ่มใหญ่ได้มารวมตัวตรงทางเข้าและรอเงียบๆ

เมื่อพวกเขาเห็นเฟิงหลินและคนอื่น พวกเขาก็โบกมือและทักทายจ้าวไคกับตู่จื่อหมิง

มีเพียงไม่กี่ชั้นเรียนในโรงเรียมมัธยม ดังนั้น นักเรียนชั้นนำจากชั้นเรียนต่างๆจึงรู้จักกัน

“เอ๊ะ ทำไมฟางชานถึงไม่อยู่นี่?ไม่ใช่ว่าเขาคืออันดับสามในชั้นเรียนงั้นหรอ?แล้วหมอนี่เป็นใคร?”

“เราไม่เคยเห็นเขามาก่อน?”

“ดูจากจุดยืนเขา เขาดูเหมือนอันดับสองของชั้น นี่เขาผลักตู่จื่อหมิงไปอันดับสามงั้นหรอ?”

“คนเช่นนี้ปรากฏในห้อง17ตั้งแต่ตอนไหน?”

….

นักเรียนจากชั้นเรียนอื่นมองเฟิงหลินที่ปรากฏตัวขึ้น

อาจารย์ใหญ่หญิงกำลังสนทนากับอาจารย์ใหญ่คนอื่นพลางชี้มาทางเฟิงหลิน

เฟิงหลินลดหัวลงและนั่งสมาธิโดยไม่ใส่ใจ

“จ้าวไค เขาเป็นใคร?”เด็กชายคนหนึ่งเอนตัวมาถามจ้าวไคด้วยรอยยิ้มเหยียด

“ก็แค่เด็กโชคดี!”สีหน้าจ้าวไคกระตุก เขาตอบพลางแสร้งทำเป็นไม่สนใจ

กระนั้น เด็กชายน่ารักก็ไม่ใจง่าย เมื่อเห็นจ้าวไคโมโห ดวงตาเขาก็ม้วนลงพลางตัดสินเฟิงหลิน

เขารู้ว่าจ้าวไคทั้งหยิ่งและประมาท ผู้ชายคนนี้ต้องไม่ธรรมดาถึงทำให้จ้าวไคโกรธได้ขนาดนี้

หลังรู้ว่ามีคนจ้องเขา เฟิงหลินกลับไม่แสดงเจตนาเข้าใกล้ เขารอการเปิดตัวของหอต่อสู้ลวงตา

หลังแบกรับความเครียดมานาน เขาก็ไม่มีเวลาสนใจมาคุยเรื่องยิบย่อย

ไม่นาน หอต่อสู้ก็เปิด

พวกเขาเข้าไปตามลำดับ จากนั้นเฟิงหลินก็ถูกส่งไปยังห้องกว้างขวางที่ว่างเปล่า

นี่คือหอต่อสู้ลวงตา?หืม ฉันสงสัยว่ามันเป็นยังไง ระบบหอต่อสู้ลวงตานี้เกิดจากเทคโนโลยีดวงดาว มันคือครั้งแรกของเฟิงหลินในนี้ ดังนั้นเขาจึงอยากรู้มาก

ทันใดนั้น ไฟก็ดับลงและมืดสนิท

แสงได้มาบรรจบกันจากทุกมุมเช่นอุกกาบาตที่พบกันบนท้องฟ้าและสร้างภาพลวงตาต่างกัน หอสูงสามสิบชั้นพลันปรากฏต่อหน้าพวกเขา

นี่คือมิติลวงตาที่สร้างขึ้นโดยพลังงาน

“การสะสมพลังงานเสร็จสมบูรณ์ หอต่อสู้ลวงตาเปิดขึ้นแล้ว!นักเรียนปีอาวุโส เฟิงหลินไม่มีบันทึกการเข้าสู่หอต่อสู้ลวงตามาก่อน เริ่มจากชั้นแรก!”เสียงหุ่นยนต์ดังขึ้น

หอต่อสู้ลวงตามีอยู่สามสิบชั้น ยิ่งสูง มันก็ยิ่งยาก มันเหมือนกับอุปสรรค์ที่ยากจะเอาชนะได้

ความคืบหน้าของทุกคนในหอจะถูกบันทึกไว้โดยความทรงจำหลักของหอต่อสู้ลวงตา ครั้งหน้าที่เข้ามา เขาจะเริ่มอีกครั้งจากจุดที่อยู่

เนื่องจากเฟิงหลินไม่เคยมาที่นี่ เขาจึงเริ่มจากชั้นหนึ่ง

นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง

เริ่มจากชั้นล่างสุด เขาย่อมเข้าใจความเป็นจริงของหอต่อสู้ลวงตาและฝ่าแต่ละชั้นได้

ประตูชั้น1ของหอเปิดขึ้นในความเงียบ

เฟิงหลินก้าวเข้าไป ภาพฉากเปลี่ยนไปเหมือนเขาเข้ามายังโลกใหม่

มันเป็นสนามฝึกต่อสู้ ตรงใจกลาง ชายร่างกำยำยืนอยู่ในทุ่ง ให้กลิ่นอายดุดัน เขาสวมชุดคลุมยาวสีขาวล้าสมัย

ไม่ต้องสงสัย นี่คือมนุษย์โบราณจากยุคศักดินา

เมื่อเฟิงหลินเข้าใกล้ ดวงตาเขาก็ลืมขึ้น เปล่งรัศมีกดขี่

“ผู้สืบทอดลำดับ7แห่งหมัดหง หงกัง!โปรดชี้แนะด้วย!”เขาประกบมือ เตรียมพร้อมสู้ เฟิงหลินประหลาดใจเล็กน้อย ชายคนนี้คล้ายกับคนมีชีวิตและไม่เหมือนการจำลองด้วยคอมพิวเตอร์

“เชิญ!”เฟิงหลินประกบมือเขาและทำท่าเคารพ

หลังทักทาย พวกเขาก็เริ่มสู้กัน....

“ยะ!”

หงกังถอนหายและตะโกน เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างดุดันและเคลื่อนไหวเหมือนพายุ ปล่อยหมัดรุนแรง

หมัดดังกล่าวคือการบิดเบือนสวรรค์ การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในชั่วพริบตา

ละเอียดอ่อนดั่งหญิงสาวและเร็วเหมือนกระต่าย หมัดนี้มีแก่นแท้ของวิชายุทธ์เขา

หมัดบิดเบือน

ฝ่ามือผีเสื้อ!

ศอกย้อนกลับ!

...

หมัดหงคือเทคนิคหมัดฮั่วเซียโบราณ มันดุดันและทรงพลังมาก เมื่อใช้แล้ว หมัดของผู้ใช้จะไหลลื่นและโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่อาจหลีกเลี่ยง

หงกังคือผู้เชี่ยวชาญหมัดหง การเคลื่อนไหวเขาทั้งมั่นคงและดุดันดั่งพยัคฆ์

เฟิงหลินไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการต่อสู้  ในความเป็นจริง นี่คือครั้งแรกที่เขาได้สู้ ไม่แปลกใจเลย เขาถูกสะกดข่มตั้งแต่การเคลื่อนไหวแรกและติดอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก

ในการเคลื่อนไหวครั้งที่สาม เขาก็ทุ่มพละกำลังออกมาและกระโดดห่างออกไปสิบก้าว ทำให้ระยะห่างยาวขึ้นก่อนเปลี่ยนท่าทาง

หมัดทหารกล้า!

ในฐานะนักเรียนที่มีภูมิหลังปกติ เขาไม่มีทางเรียนรู้วิชายุทธ์ยีนอันล้ำค่าได้

หมัดทหารกล้าคือวิชายุทธ์เสริมร่างกายขั้นพื้นฐาน การเคลื่อนไหวเรียบง่ายและทรงประสิทธิภาพ

เฟิงหลินกระโดดและพัวพันกับศัตรู เขาสนุกกับการสู้จริงๆ

ในแง่ของความเชี่ยวชาญและความสามารถการคว้าโอกาส เฟิงหลินไม่อาจเทียบได้กับหงกัง แต่เขาก็พบบางสิ่งที่แปลกประหลาด

ความเร็วและพละกำลังของศัตรูด้อยกว่าเขามาก

เขาหยุดชั่วคราว ตระหนักว่าอะไรคือสาเหตุ

ในความเป็นจริง สำหรับชั้นที่สูงขึ้นในหอลวงตา ค่าสถานะพลังชีวิตจะเพิ่มขึ้น0.1

ในฐานะผู้พิทักษ์ชั้น1 หงกังจึงมีพลังชีวิตแค่0.1 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของมนุษย์โลกโบราณ

และอย่างที่กล่าว ความแข็งแกร่งยับยั้งได้ทุกสิ่ง!

แม้เฟิงหลินจะไม่เชี่ยวชาญเท่าหงกัง แต่เขาก็เอาชนะศัตรูได้ด้วยความได้เปรียบจากพละกำลังมหาศาล

เวลาผ่านไป เขายิ่งเชี่ยวชาญหมัดทหารกล้าขึ้น

แม้เขาจะเคยฝึกฝนมาก่อน มันก็เทียบไม่ได้กับประสบการณ์สู้จริง ตอนนี้ มันคือการต่อสู้จริงๆ เขาย่อมได้รับประสบการณ์มากกว่าการฝึก

หลังการเสริมสร้างยีน ร่างเขาก็เต็มไปด้วยพลังชีวิต พละกำลัง ความเร็วและการประสาน...พวกมันเหนือกว่าขีดจำกัดของคนทั่วไป เขาเรียนรู้วิชายุทธ์ได้เร็วมากเช่นกัน

ท้ายที่สุด เขาก็พบแก่นแท้ของหมัดทหารกล้าและเริ่มเชี่ยวชาญมากขึ้น

ในขณะนี้ เขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหงกังแล้วในแง่ของวิชายุทธ์ พลังของเขาทำให้การต่อสู้น่าเบื่อ

มังกรพันคอ!

เฟิงหลินใช้กระบวนท่าสังหารของหมัดทหารกล้า กระโดดไปในอากาศ ขาเขาเหมือนมังกรที่พันรอบร่างหงกัง ด้วยการบิดอย่างรุนแรง เขาทำให้ร่างหงกังที่เกิดจากกลุ่มพลังงานสลายหายไป

จากนั้นประตูชั้นสองก็เปิดขึ้น

ศักยภาพยีน+10%

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด