บทที่ 228 - ฉันไปด้วย (4) [08-11-2019]
บทที่ 228 - ฉันไปด้วย (4)”
[เอลฟ์โจรแห่งเงามืดฟีเรียเลเวล 182 เสียชีวิตแล้ว]
"อิลฮาน?"
นายูนาที่กำลังช่วยยูอิลฮานจัดการกับพลังศักดิ์สิทธิ์ของหินศักดิ์สิทธิ์อยู่ได้เรียกยูอิลฮานขึ้นมาเมื่อเห็นเขาหยุดการแกะสลักหินลง สีหน้าของเธอก็ยังได้เปลื่ยนเป็นจริงจังขึ้นเมื่อเห็นเขากัดริมฝีปากตัวเอง
"มีอะไร? นายบาดเจ็บหรอ? ให้ฉันรักษาไหม?"
"ฉันไม่เป็นไร แต่ว่าดูเหมือนจะเกิดเรื่องใหญ่กับลูกน้องของฉัน"
เขาพยายามจะทำใจเย็นอยู่ แน่นอนว่าในหัวของเขาตอนนี้กำลังคิดคำนวนอยู่ตลอดเวลา
'เวรเอ้ย ฉันชุบชีวิตคนที่ตายไปแล้วไม่ได้...!'
คนที่ตายไปก็คือเอลฟ์หนึ่งในสี่คนที่มีคลาสโจรที่เป็นลูกน้องของเขา ฟีเรีย เธอเป็นหนึ่งในคนที่ภักดีกับเขาที่สุดแล้วก็ยังทำตามที่เขาสั่งโดยไม่ลังเลใดๆ แถมในปัจจุบันนี้ตัวเธอในปัจจุบันก็น่าจะกำลังต่อสู้อยู่กับมหาภัยพิบัติขั้นที่ 4 กับเอลฟ์คนอื่นๆในดาเรย์
เอลฟ์พวกนั้นไม่เพียงแต่แกร่งกว่าผู้คนของโลกที่กระจายตัวอยู่เท่านั้น แต่ยังมีเอริเซีย เฟมิล และเผ่าพันธ์หมาป่าคนอื่นๆไปช่วยอีกด้วย ยูอิลฮานก็เลยคิดว่าต่อให้ปล่อยพวกเอลฟ์เอาไว้ก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมาได้
แต่ว่าหากฟีเรียตายแบบนี้ มันดูจะไม่ธรรมดาแล้ว
'หรืออาจจะมีบางอย่างที่ผิดจากปกติเกิดขึ้นกับเธอ'
ทำไมก่อนตายเธอถึงไม่ใช้เครื่องมือสื่อสารกันนะ? เธอคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรงั้นหรอ? แล้วใครกันที่ทำร้ายฟีเรีย?
ความสงสัยที่พรั่งพรู ความโมโหและความโกรธได้ทำให้ร่างกายเขาเริ่มสั่น ลูกน้องที่อยู่กับเขามาหลายปีได้ตายแล้ว มันคงจะแปลกมากแน่ที่เขายังใจเย็นได้อยู่ นอกจากนี้เธอยังตายในที่ที่เขาไม่เห็น ไม่รู้เหตุผล เขารู้สึกอึดอัดเอามากๆ
ยังไงก็ตามเขาก็ยังรู้ดีว่าการปล่อยให้ร่างกายถูกสัญชาตญาณครอบงำเป็นสิ่งที่แย่ที่สุด เขาเสียฟีเรียไป แต่ว่าเขาก็ยังมีคนอื่นๆที่ต้องปกป้องอยู่อีก
สำหรับตอนนี้เขาต้องทำให้หัวเย็นลงก่อน
"ฟู่"
เขาได้สูดหายใจเข้าลึกๆและถอดอุปกรณ์ออกไป แม้ว่าจะน่าเสียดายที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเขายังไม่เสร็จดี แต่ว่าก็ไม่เป็นไร โชคดีที่เขายังได้ทำให้อุปกรณ์ให้กองทัพมังกรเสร็จแล้วในระหว่างที่เขาอยู่เบร์ย่า
นายูนาได้มองมาที่เขาเงียบๆ ในที่สุดยูอิลฮานก็เอางานทุกๆอย่างที่ทำอยู่เก็บไปและพูดกับเธอ
"ดูเหมือนว่าเราต้องไปดาเรย์แล้ว"
"ได้เลย ฉันจะไปกับนาย"
"นายพูดว่าดาเรย์งั้นหรอ?"
"พวกเรากำลังไปดาเรย์หรอพ่อ?"
เลียร่าที่ออกไปเล่นกับยูมิลที่สวนก็ยังกลับมาหลังจากได้ยินเสียงเขา ยูอิลฮานได้หยักหน้าอย่างหนักแน่นและพูดออกมาด้วยเสียงราวกับกระซิบ
"ฟีเรียที่อยู่ดาเรย์ตายแล้ว... บางทีเราอาจจะต้องการพลังของกองทัพในเวลานี้"
"...ครับ เด็กๆก็พร้อมแล้ว"
"ทำได้ดีมาก"
อย่างแรกเลยเขาต้องยืนยันในความปลอดภัยของเอลฟ์ที่เหลือรวมไปถึงเผ่าหมาป่าด้วย และเขาก็จะต้องจัดการทำให้คนที่เกี่ยวข้องกับการตายของฟีเรียทุกคนต้องชดใช้
แม้ว่ามันจะมีความเป็นไปได้สูงที่ดาเรย์จะอยู่ในสถานการณ์ที่ร้ายแรง จากความจริงที่ว่าฟีเรียที่มีอุปกรณ์ระดับตำนานยังตายลงก็ตาม แต่ยูอิลฮานก็ไม่มีความคิดที่จะถอยให้กับเรื่องนี้
"ดาเรย์... โลกที่นายกลับมาแล้วแกร่งขึ้น"
"ถ้ามันกดดันมากไป นายจะอยู่ที่นี่ก็ได้นะคังฮาจิน"
"ไม่ ฉันจะทำหน้าที่ของฉัน ปกป้องยูนา"
"ไม่น่าเชื่อถือเลยซักนิด"
เขาไม่จำเป็นต้องไปถามในกองทัพมังกรแล้ว แค่คำพูดจากยูมิลก็เกินพอแล้ว
"พวกเราก็จะสู้ด้วยเหมือนกัน"
"เราจะสู้"
"โอเค"
เด็กๆต่างก็ยอมรับกันออกมาแบบนี้ และใส่อุปกรณ์เตรียมสู้ แม้ว่าช่วงชีวิตของเด็กๆจะไม่ยาวนานมากนัก แต่ 99% ของชีวิตพวกเขาอยู่กับการต่อสู้และสงครามจนชินชาไปแล้ว การกระทำของเด็กๆพวกนี้ต่างก็ทำให้ต้องนึกถึงเหล่าทหารที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
"ฮีโร่ พวกเราเตรียมตัวพร้อมแล้ว"
"กัปตัน เตรียมตัวสำหรับการเดินทางแล้ว!"
สุดท้ายแล้วยูอิลฮานก็มองไปที่เลียร่า เธอได้อยู่ในชุดเดรสของเธอพร้อมหอกสีชมพูดในมือแล้ว
"พร้อมนะ"
"พร้อม"
เลียร่าได้ตอบกลับมาสั้นราวกับเธอรู้ดีว่าเขาคิดอะไรอยู่
"งั้นไปกวาดล้างพวกมันให้หมดกัน"
"ได้เลย"
ยูอิลฮานได้เปิดใช้งานสกิลข้ามมิติ ป้อมปราการลอยฟ้าได้กระโดดข้ามมิติอีกครั้งเหมือนกับในตอนที่เขาไปเบร์ย่า...
"อั๊ก?"
...หรือว่าไม่
[กรี๊ดดดดดด!? แรงต้าน แรงต้านมันทำให้ฉันเจ็บเกินไปแล้ว!]
[ทั้งที่เธอเป็นสิ่งก่อสร้างทำไมเธอถึงเจ็บได้ล่ะ!]
[ฉันถูกฉุดดึงเอาไว้หมดเลย! ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์หรือบาเรียก็ตาม!]
เสียงร้องของมิสทิคได้แสดงความรู้สึกของเธอออกมาเป็นอย่างดี ยูอิลฮานได้พยายามจะไปที่ดาเรย์ที่ที่เขาเข้าใจเป็นอย่างดีด้วยสกิลบันทึก แต่ว่าแรงดีดกลับมันมากเกินไป
"อ๊าาา หนักจัง หน้าอกของฉันใหญ่ขึ้นอีกแล้วงั้นหรอ...?"
"เกิดอะไรขึ้นกับความหนาแน่นของมานากัน?"
นายูนากับคังฮาจินที่ค่อนข้างปกติกันก็ขมวดคิ้วพึมพัมกันออกมา แม้ว่าพวกเขาพวกเขาจะรู้สึกคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่ว่าพวกเขาจำไม่ได้เลยว่ามันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาเมื่อไหร่และที่ไหน
"อากาศอร่อยจัง"
"ว้าว ร่างกายฉันเบามาก"
ในขณะเดียวกันกองทัพมังกรที่เป็นมนุษย์สายพันธ์ใหม่ที่เกิดขึ้นมาก็ได้สูดหายใจลึกอย่างยินดี บางทีการที่พวกเขาเกิดมาแบบพิเศษอาจจะทำให้พวกเขาแกร่งขึ้นตามสภาพแวดล้อมก็ได้ พวกเขาจะแกร่งขึ้นจากการดูดกลืนมานารอบๆ
"อิลฮาน เราได้มาที่ดาเรย์แล้วหรอ?"
แม้กระทั่งยูอิลฮานก็ยังตัวแข็งทื่อไปอยู่วินาทีหนึ่ง เลียร่าเป็นคนเดียวที่ยังปกติดีอยู่ เธอได้ตรวจสอบเขาดู
"นี่เป็นโลกระดับสูง"
"เป็นแบบนี้สินะ?"
"ใช่แล้ว"
"ชิ"
ยูอิลฮานได้เดาะลิ้นขึ้นมา ในที่สุดเขาก็พอจะรู้แล้วว่าสถานการณ์มันเปลื่ยนไปเป็นยังไง
"โอ้ นี่เป็นโลกระดับสูง! ฉันรู้สึกว่ามันคุ้นเคยนิดๆ!"
"ละ โลกระดับสูง!? นี่มันไม่ได้หมายความว่ามีสมาชิกของฝ่ายกองทัพกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอยู่ที่นี่หรอ...?"
เพราะแบบนี้เองทำให้เขาได้ข้อสรุปบางอย่างออกมา ยูอิลฮานได้เห็นด้วยกับคำพูดของคังฮาจินอย่างไม่ลังเลใจใดๆ
"ที่นี่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงจะใช้พลังของพวกเขาได้อย่างไม่มีข้อจำกัดแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมที่นี่ถึงถูกอัพเกรดมาเป็นโลกระดับสูงก็เถอะนะ"
"ถ้างั้นหากเราโชคร้ายไปเจอกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่จะพยายามฆ่าเรา...!"
"นั่นมันก็แน่นอนว่าพวกมันจะต้องเป็นแหล่งค่าประสบการณ์ชั้นดีเลยล่ะ"
"...อ่า ใช่แน่นอนสิ"
"พวกสิ่งมีชีวิตชั้นสูงให้ค่าประสบการณ์โครตจะเยอะเลยนะ ถ้านายไม่ได้ฆ่าซักคนก็อย่ามาพูดเลย"
"แล้วก็นะช่วยเงียบด้วย"
ด้วยความที่ยูอิลฮานได้มองสิ่งต่างๆต่างไปจากสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแล้วทำให้คังฮาจินที่รู้สึกหวดากลัวและกังวลต่อหน้าเขามันเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์อย่างมาก
ในขณะเดียวกันนายูนาที่อยู่ถัดไปจากยูอิลฮานก็ยังยิ้มออกมาหลังจากได้รู้ว่าที่นี่เป็นโลกระดับสูง และดูเหมือนว่าการที่อยู่ข้างยูอิลฮานจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดไม่ว่าจะไปที่ไหน อย่างน้อยที่สุดในตอนนี้เธอก็ได้ข้อสรุปที่ดีกว่าคังฮาจิน
ยูอิลฮานได้นึกย้อนไปถึงในตอนที่ดาเรย์ยังอยู่ในช่วงมหาภัยพิบัติขั้นที่ 3 ในตอนที่เขามาถึง แน่นอนว่าก่อนที่ทุกคนบนโลกจะถูกขับไล่ เขาได้ยินมาแล้วว่าที่นี่ได้เจอเข้ากับมหาภัยพิบัติขั้นที่ 4 แต่ว่าการกลายมาเป็นโลกระดับสูงมันก็จะต้องมีมหาภัยพิบัติอีกครั้งหนึ่งนะ! ในตอนนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะให้คำตอบที่เขาสงสัยได้คือเลียร่าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบุคคลสำคัญของกองทัพสวรรค์
"เลียร่า การเป็นโลกระดับสูงมันง่ายงั้นหรอ? แม้แต่ที่โลกฉันยังไม่เป็นโลกระดับสูงเลย"
"มันไม่ง่ายหรอก แต่ว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าที่ดาเรย์นี่พิเศษเหมือนโลกนาย นายไม่เคยคิดหรอว่าการที่มีกองทัพมังกรคลาส 4 เต็มทั่วทั้งทวีปทั้งๆที่พึ่งอยู่ในมหาภัยพิบัติมันเป็นเพราะกองทัพปีศาจแห่งการทำลายนะ? นายก็คิดเอาไว้ว่ามันก็คล้ายๆกันกับพวกปีศาจประหลาดที่มีอยู่ทั่วบนโลกในตอนนี้นั่นแหละ มันก็แค่โลกทั้งสองโลกมันพิเศษเท่านั้นเอง"
"นั่นมันก็จริงนะ แต่ว่า..."
"นอกไปจากนี้ดาเรย์ก็ยังเป็นโลกที่สวนอาทิตย์อัสดงก็ยังเข้ามาแทรกแซงอีกด้วยนี่ อ่า มีเบาะแสมากมายเกินไปจนแม้แต่ฉันก็ยังคิดเรื่องนี้ไม่ออกเลย"
พอมาคิดเรื่องนี้แล้วเลียร่าพูดถูก ดาเรย์เป็นโลกที่มีกองทัพปีศาจแห่งการทำลายและสวนอาทิตย์อัสดงยื่นมือเข้ามายุ่งย่ามก่อนโลกของเขาซะอีก
กองทัพปีศาจแห่งการทำลายไม่ได้ต้องการในดาเรย์เอง แต่ว่ามังกรต้องการมัน พวกมังกรได้ทำให้ที่นี่การเป็นรังของมันหลังจากที่กำจัดเอลฟ์ออกไป แต่สวนอาทิตย์อัสดงได้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อช่วยเอลฟ์หลบซ่อนจากมังกร
หรือก็คือพวกสวนอาทิตย์อัสดงพยายมจะปกป้องมนุษยชาติในโลกใบนี้ และตราบเท่าที่โลกใบนี้ยังมีมนุษยชาติอยู่ก็ยังมีโอกาสที่จะพัฒนาต่อไป
"สวนอาทิตย์อัสดงต้องการดาเรย์ก็เพราะพวกนั้นมองการณ์ไกลกว่ากองทัพปีศาจแห่งการทำลาย ฉันเคยได้ยินมาว่าหัวหน้าของพวกนั้นมีความสามารถในการทำนาย บางทีนั่นอาจจะเป็นเรื่องจริง..."
"ในเวลานั้น ฉันไม่ได้มีเวลาคิดถึงในสิ่งที่ฉันทำเลย..."
แรกเริ่มเลยที่เขามาที่ดาเรย์ก็เพราะเขาได้ยินว่ามังกรอาจจะบุกไปที่โลกของเขา เขาก็เลยมากำจัดมังกรทั้งหมดออกไป และในระหว่างที่เขากำลังกำจัดมังกร ตอนนั้นเขาก็ถูกมังกรแปลกๆที่มีชื่อว่าเลซิดน่าจูงจมูกทำให้เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรมังกรรวมถึงตัวเธอ...
ยังไงก็ตามมันได้จบลงด้วยการที่เขาได้รับเอลฟ์มาอยู่ใต้บังคับบัญชา กลายเป็นจักรพรรดิของเหล่าเอลฟ์ เขาได้สอนเอลฟ์ต่อสู้ สร้างกองกำลังระดับสูงให้เหล่าเอลฟ์ และการพัฒนาของโลกยิ่งเร่งขึ้นไปอีกในตอนที่เผ่าพันธ์หมาป่าเข้ามา
...หรือก็คือยูอิลฮานเป็นตัวการหลักเลยที่ทำให้ดาเรย์กลายเป็นโลกระดับสูง
"เวรเอ้ย"
เขาควรจะพาเอลฟ์ทั้งหมดกลับไปที่โลกกลับเขามากกว่าทิ้งให้เหล่าเอลฟ์บุกเบิกที่ดาเรย์ แต่ว่าสิ่งที่เปลื่ยนแปลงไปเป็นแบบนี้ทำให้เขาเศร้างั้นหรอ? ไม่มีทางล่ะ ยูอิลฮานก็แค่คิดถึงการเกิดโลกระดับสูงขึ้นเท่านั้นเอง
"ถึงแบบนั้นนี่ก็ไม่ได้ใหม่อะไร กองทัพสวรรค์ก็ยังคงไร้ประโยชน์อย่างเคย ถ้าหากเธอบอกฉันถึงเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ สิ่งต่างๆก็คงไม่เปลื่ยนมาเป็นแบบนี้หรอก"
"ฉันก็คิดแบบนั้น"
"ทั้งเธอ เอิลต้าแล้วก็สเปียร่าด้วย"
"มะ ไม่มีใครรู้ซะหน่อยว่ามันจะส่งผลแบบนี้นี่นา! ยังไงก็ตามนี่ก็เป็นความผิดของกองทัพสวรรค์!"
"แล้วทีนี้เธอก็โยนความผิดไปให้พวกนั้นเพราะเธอไม่ใช่หนึ่งในกองทัพสวรรค์แล้วงั้นสิ..."
ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมา ดูเหมือนว่าเลียร่าก็ยังคิดว่ากองทัพสวรรค์ไร้ความสามารถแล้วเช่นกัน แต่แน่นอนเขาคิดต่างออกไป
'ใครจะไปรู้ล่ะ ฉันคิดว่าบางทีกองทัพสวรรค์ก็ต้องการในโลกระดับสูงเหมือนกันก็ได้...'
บางทีกองทัพสวรรค์ก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิดต่อให้คนในโลกใบนี้จะสูญพันธ์กันไปหมด
ไม่สิ แน่นอนว่าพวกนั้นอาจจะก้าวเข้ามา 'ปกป้อง' ก็ได้ แต่ว่าพวกกองทัพสวรรค์จะให้ค่าอะไรมากกว่ากันล่ะ? โลกระดับสูง หรือสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ? - คำถามนี้มีอยู่ตลอดในหัวของเขา
ไม่ใช่ว่าการที่กองทัพสวรรค์พูดถึงเรื่องการที่จะปกป้องสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำก็เพื่อให้การจัดหาโลกระดับสูงราบรื่นตั้งแต่แรกแล้วหรอกหรอ?
ระหว่างที่ความคิดของยูอิลฮานกำลังไปในแง่ลบ คำถามคังฮาจินก็ได้ขัดความคิดของเขาเอาไว้
"ยูอิลฮาน ถ้างั้นตอนนี้สิ่งมีชีวิตชั้นสูงล่ะ...?"
"น่าจะอยู่ในสงครามของโลกใบนี้"
ในเวลาเดียวกันนี้เอง
[กรรรรรรรรรร!]
[สำหรับสัตว์หน้าโง่ แกกล้ามากเลยนะ!]
ไม่ไกลไปจากป้อมปรากรลอยฟ้ามีประกายแสงที่ทรงพลังมากพอที่จะทำให้คนตาบอดได้เลย และมีโล่ป้องันเอาไว้อยู่ปรากฏขึ้นมา แต่เนื่องจากว่าที่นี่ไม่มีใครที่เป็นคนธรรมดาอยู่เลยทำให้ทุกๆคนมองเห็นสิ่งนั้นด้วยตาที่เปิดกว้าง
พวกเขาส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าแสงนั่นคืออะไร แต่ว่ามีเพียงยูอิลฮานที่หัวเราะออกมาเพราะนี่มันไร้สาระมากจริงๆ
"นี่มันเป็นภาพที่ฉันคุ้นเคยมากเลยล่ะ"
"ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย"
เลียร่าได้แสดงความสงสัยออมกาอย่างไม่พอใจ
ใช่แล้ว ในตอนที่มาดาเรย์เป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ยูอิลฮานกับเลียร่าแยกกัน ในเวลานั้นยูอิลฮานยังอยู่ในคลาสสอง เขาได้เห็นเวทย์แบบนี้หลายต่อหลายครั้งกับเอิลต้า คนที่ใช้เวทย์พวกนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกไปเสียจากพวกมังกรที่อยู่ที่นี่
"มังกร"
"มังกร...?"
ยูมิลที่คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆจะได้เจอเข้ากับเผ่าพันธ์ตัวเองได้พึมพัมออกมาเหมือนกับกำลังฝันอยู่ ยูอิลฮานได้ลูบหัวเขาและถามออกมา
"ลูกอย่างเจอพวกมังกรไหม?"
"อืม... ไม่ครับ ผมอยากจะอยู่กับพ่อที่นี่เท่านั้น"
ยูมิลได้กอดแขนของยูอิลฮานเอาไว้ในขณะที่พูดแบบนี้ แต่ว่าความรู้สึกไม่ใช่สิ่งที่จะเปลื่ยนไปง่ายๆ เนื่องจากว่ายูมิลไม่เคยเห็นมังกรตัวอื่นๆเลยแม้แต่ตัวเดียวทำให้ยูมิลรู้สึกถึงแรงกระตุ้นบางอย่าง
"เราควรจะไปดูกันหน่อยไหมล่ะ?"
"ไม่ครับ ไม่เป็นไร พ่อสำคัญกว่า"
"โอเค"
ยูมิลพยายามที่จะคิดถึงยูอิลฮานที่เสียฟีเลียไป ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมาแห้งๆและลูบหลังของยูมิลเอาไว้ เขาได้สูดหายใจเอามานาที่อยู่ภายในดาเรย์เข้ามาก่อนที่จะยกมือขึ้น
"ทุกๆคนจับไว้แน่นๆนะ พวกเราจะเคลื่อนย้ายกันแล้ว"
"เคลื่อนย้าย? ที่ไหน?"
"ที่ที่ฟีเรียตายไงล่ะ"
ทุกๆคนในที่นี้ไม่มีใครเข้าใจในคำพูดของยูอิลฮานเลย พวกเขาต่างก็สงสัยกันทั้งนั้น ยังไงก็ตามยูอลฮานตัดสินใจว่าการแสดงให้พวกนี้ดูจะเร็วกว่าทำให้เขาดีดนิ้วใช้งาน 'มัน' ในทันที
'มัน' คือวงเวทย์ที่ปกคลุมไปทั่วทั้งดาเรย์ที่ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของยูอิลฮาน