ตอนที่ 62 การกลับมา [อ่านฟรี]
ตอนที่ 62 การกลับมา
หมู่บ้านฉางหยุนตั้งอยู่สุดเขตแดนของรัฐหยานรัฐเยียน หมู่บ้านได้พัฒนาจนเกิดเป็นเมืองเล็กๆ ในเมืองนั้นมีตระกูลใหญ่สองตระกูลคือตระกูลหลินและตระกูลจ้าว
ตระกูลหลินอยู่ในหมู่บ้านฉางหยุนมาเป็นเวลาร้อยปี ทุกวันนี้ผู้อาวุโสของตระกูลคือหลินหงเซินผู้มียุทย์ปัญจะสวรรค์ ส่วนคนรุ่นเยาว์ของหมู่บ้านฉางหยุนส่วนใหญ่พึ่งจะก้าวเข้าสู่ยุทย์เอกาสวรร์
ในเวลานี้ อารมณ์หดหู่ของตระกูลหลินที่มีอยู่แต่เดิมได้หายไปหมดสิ้น เพราะทุกคนเห็นร่างชายหนุ่มชุดสีเขียวที่ก้าวช้าๆมาทางประตูเข้าสู่ตระกูลหลิน เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่คุ้นเคยและแปลกตานั้น คนทุกคนเกือบจะร้องไห้ด้วยความดีใจ
นั่นคือเขา!
ราชาหนุ่มที่เคยออกไปจากตระกูล!
ในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว
เมื่อได้ยินข่าวการกลับมาของหลินหาน ทุกคนในตระกูลต่างก็เริ่มเดือด่าน ผู้เฒ่าหลินหงเซินนำกลุ่มของผู้อาวุโสระดับสูง รวมถึงหลินหลาง หลินสือ และหลินฉวนมาด้วย
"ท่านปู่! พ่อ! ลุงสอง! ลุงสาม!"
เมื่อเห็นญาติผู้ใหญ่ที่ไม่เจอเป็นเวลานาน ดวงตาของหลินหานจึงเอ่อน้ำตานอง หลังจากออกจากบ้านเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว
"หานเอ๋อ!"
"เสี่ยวหานโตขึ้นแล้ว!"
“ฮ่าฮ่าฮ่า นายน้อยอัจฉริยะของตระกูลหลินกลับมาแล้ว!” หลินหงเชินและทุกคนหัวเราะเสียงดัง สายตาดูตื่นเต้น
ก่อนออกเดินทาง พวกเขากำชับหลินเย่ให้บอกหลินหานว่า อย่างน้อยๆต้องมียุทย์ฉะสวรรค์แล้วค่อยกลับมา ตอนนี้หลินหานกลับมาแล้ว ส่วนหลินเย่ที่อยู่ข้างหลังก็มีสีหน้าที่มั่นใจมาก ทำให้คนในตระกูลหลินรู้สึกตื่นเต้น ตอนนี้ สองมือของหลินหลางสั่นเล็กน้อย เขาก้าวไปข้างหน้า มองใบหน้าที่คุ้นเคยและแปลกตานั้น ชายฉกรรจ์น้ำตาเอ่อนอง "หานเอ๋อ!"
"พ่อ!" หลินหานรู้สึกแสบในจมูกเล็กน้อย แต่ในวินาทีต่อมาเขาหัวเราะเสียงดัง "พ่อ ท่านปู่ ลุงสอง ลุงสาม! ข้ากลับมาแล้ว ทุกอย่างให้ยกให้ข้าจัดการเอง!"
ทุกอย่างยกให้ข้าจัดการเอง!
เพียงประโยคเดียวก็ให้ทุกคนรู้สึกถึงความมั่นใจของหลินหาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลินหงเซิน สายตาของ ชายชรามองหลินหานย่างคาดหวัง พร้อมถามว่า "หานเอ๋อ ตอนนี้ระดับพลังของเจ้าคือ.."
"บูม"
ในพริบตาที่ผู้อาวุโสพูดจบ พลังที่น่ายำเกรงถูกปลดปล่อยออกจากร่างของหลินหาน เพื่อให้ทุกคนสบายใจเขาจึงแอบปลดปล่อยพลังของวิญญาณ'มังกรสีทอง'ของตัวเองมา อานุภาพพลังแห่งราชามังกรอันน่าสะพรึงอย่างหาใดเปรียบ ได้ปกคลุมขยายไปทั่วทั้งตระกูลหลินในพริบตา
พลังอานุภาพนี้ทำให้สายตาของคนนับไม่ถ้วนต่างตกตะลึง พลังนายน้อยแห่งตระกูลเย่คนนี้ก้าวถึงระดับใดเเล้ว?
โดยเฉพาะหลินหงเซินที่ผ่านประสบการอย่างโชคโชนมาทั้งชีวิต เขาเคยรู้สึกถึงพลังอานุภาพของผู้แข็งแกร่งขอบเขตปราาจารย์ยุทย์มาตั้งมากมาย แต่ในเวลานี้ หลินหานกลับให้ความรู้สึกแตกต่าง มันเป็นความหวาดกลัวที่ออกจากส่วนลึกของวิญญาณ!
เมื่อคิดได้ดังนี้ สายตาของชายชราได้เพ่งมอง เพื่อสังเกตการณ์ให้ละเอียดขึ้น
และแล้วหลินหานก็เก็บพลัง ทุกคนจึงถอนหายใจยาวๆ จากนั้น ทุกคนหันไปมองหลินหานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความยินดี
ตระกูลหลินจะรอดเเล้ว!
ในเวลานี้ ร่างบอบบางอ้อนแอ้นของหญิงสาวเดินออกจากด้านหลังของหลินสือ นางมองหลินหานเดินเข้ามาทางประตูใหญ่ ดวงตาคู่งามเปี่ยมความดีใจ
หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น นางคือหลินเยวี่ยเอ๋อ
ในเวลานี้ เมื่อได้เห็นที่พึ่งทางใจของตัวเองกลับมาแล้ว นางเต็มไปด้วยน้ำตาในดวงตา รีบวิ่งอย่างอดใจไม่ไหว พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของหลินหาน แล้วพูดอย่างสะอึกสะอื้น: พี่หลินหาน ในที่สุดพี่ก็กลับมาแล้ว ฮือฮือฮือ เสี่ยวเยวี่ยเอ๋อกลัวมาก ... "
“พี่ชายกลับมา เสี่ยวเยวี่ยเอ๋อ เจ้าไม่ต้องกลัวอีกแล้ว” หลินหานปลอบใจหลินเยวี่ยเอ๋อในอ้อมกอด จากนั้นดวงตาของเขาก็เยือกเย็นลง แล้วพูดว่า "คนตระกูลจ้าวได้แตะต้องเจ้าหรือไม่"
“เปล่าหรอก พวกเขาแค่มาบังคับการแต่งงาน ดูเหมือนกำลังทดสอบท่าทีตระกูลหลินของเรา แต่ทุกวันนี้ตระกูลจ้าวเริ่มอยู่ไม่สุขกันแล้ว ...” หลินสือเห็นลูกสาวของตัวเองร้องไห้ในอ้อมกอดของหลินหาน ในที่สุดในสายตาของเขาก็สื่อความโล่งใจดั่งได้ปลดเปลื้อง
หลินหานกลับมาแล้ว นั่นหมายความว่าในที่สุดตระกูลหลินก็จะมีเสาหลัก จากพลังลมปราณของหลินหานเมื่อครุ่ ทำให้หลินสือตระหนักได้ว่า ตัวเองอาจจะรับการโจมตีของหลานชายคนนี้ไม่ได้เลยสักครั้ง
อัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลหลินคนนี้ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง!
“คุณหนูเยวี่ยเอ๋อวางใจเถอะเจ้าค่ะ นายน้อยเก่งกาจมาก! ก็นายน้อยเป็นถึงศิษย์อันดับหนึ่งของตระกูลหลัก!” ในเวลานี้ เสี่ยวหนู่ที่อยู่ด้านหลังของหลังหลินพลันลุกขึ้นพูด
"อะไรนะ?"
"หานเอ๋อเป็นถึงศิษย์อันดับหนึ่งของตระกูลหลัก!"
คำพูดของเสี่ยวหนู่ทาสตัวน้อย ทำให้หลินหงเชินและคนอื่นๆรู้สึกตกใจมากขึ้น สำหรับพวกเขา สายเลือดตระกูลหลักคือการดำรงอยู่ที่สูงส่งและไม่สามารถอาจเอื้อมได้ แต่ตอนนี้หลินหานนกลายเป็นอันดับหนึ่งของตระกูลหลักแล้วหรือ?
“เสี่ยวหนู่พูดถูก” หลินเย่ยืนขึ้นด้วย ในเวลานี้สีหน้าของเขาดูภาคภูมิใจมาก “ข้าเห็นมากับตาว่าตอนอยู่ในตระกูลหลัก ขนาดผู้อาวุโสของตระกูลยังต้องโค้งคำนับเวลาเจอพี่หลินหาน!”
เมื่อพูดจบ ได้เกิดเสียงลุกฮือ
อะไรนะ?
ผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลหลินยังต้องโค้งคำนับทักทายกับหลินหานเหรอ?
คำพูดของหลินเย่ทำให้ผู้คนตกตะลึงและแทบไม่อยากจะเชื่อ ถ้าผู้อาวุโสของตระกูลหลักสักคนมาที่หมู่บ้านชางหยุน เขาจะกลายเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ปานเรียกฟ้าเรียกฝนได้ แต่บุคคลที่ยิ่งญ่เหล่านั้นโค้งคำนับทักทายหานเอ๋อของพวกเขา?!
กลุ่มคนหันไปมองดูหลินหาน หลินหานไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการยอมรับ
"ฉี่!"
หลังจากได้รับการยอมรับจากหลินหาน หลินหงเซิน หลินหลาง หลินสือ และหลินฉวนต่างสูดลมหายใจเข้าลึกๆในทันที
ไม่ทันได้รู้สึกตัว หานเอ๋อของพวกเขาก็เติบโตมาถึงขั้นนี้แล้วเหรอ?
เมื่อเห็นอย่างนี้ หลินหานก็แอบหัวเราะในหัวใจ
ถ้าท่านปู่ พ่อ ลุงสอง ลุงสาม รู้ว่าแม้แต่ผู้นำตระกูลยังต้องแสดงความนับถือแก่เขา ไม่รู้ว่าเขาจะตกใจขนาดไหน
"ข้ารู้ตั้งนานแล้วว่าพี่หลินหานเก่งกาจที่สุด!" หลินเยวี่ยเอ๋อที่อยู่ในอ้อมแขนยิ้มร่า
“เอาหล่ะ เสี่ยวเยวี่ยเอ๋อ พี่ชายกลับมาแล้ว ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ ปล่อยพี่ชายได้แล้ว” หลินหานลูบหัวเล็กๆของหลินเยวี่ยเอ๋อ
"ไม่ ไม่เอา! เสี่ยวเยวี่ยเอ๋ออยากกอดพี่ชาย "หลินเยี่ยเอ๋องอลแก้มป่อง กอดเขาขึ้นแน่น
ร่างกายเล็กๆบอบบาของเด็กสาวเกาะติดอยู่ในอ้อมแขนของหลินหาน ดูราวกับว่านี่เป็นสถานที่ที่นางรู้สึกอบอุ่นที่สุด
เมื่อเห็นอย่างนี้ หลินหานก็กางมือออกแล้วหัวเราะเจื่อนๆ
"ฮ่าฮ่าฮ่า!"
คนในตระกูลหลินที่อยู่โดยรอบก็หัวเราะเสียงดังลั่นเช่นกัน
บรรยากาศที่หดหู่ได้สลายหายไปหลังจากที่หลินหานมา
เมื่อรู้ถึงความแข็งแกร่งของหลินหาน นัยน์ตาของคนตระกูลหลินจึงแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่อยากจะต่อสู้ พวกเขาไม่กลัวอีกต่อไป กล่าวว่า “นายน้อยหลินหาน ตระกูลจ้าวโอหังเกินไป การบีบเรื่องการแต่งงานเป็นแค่เรื่องรอง ที่จริงแล้วพวกเขาอยากจะฮุบเหมืองเเร่ของตระกูลหลินของเรา”
"ฮุบเหมืองแร่เหรอ?" คิ้วหลินหานเหี่ยวย่น
ตระกูลหลินและตระกูลจ้าวสามารถยืนอยู่จุดสูงสุดในหมู่บ้านฉางหยุน แล้วกลายเป็นสองขั้วอำนาจได้ เพราะพวกเขาควบคุมวิถีชีวิตของหมู่บ้านฉางหยุน ซึ่งก็คือเหมืองศิลาวิญญาณ
แต่ตอนนี้ตระกูลจ้าวอยากจะฮุบเหมืองแร่ของตระกูลหลินอย่างเปิดเผย!?
ดวงตาของหลินหานแสดงออกถึงความเย็นชาและจิตสังหาร คนตระกูลจ้าวน่ารังเกียจนัก คิดจะฮุบเหมืองแร่เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว นี่เท่ากับเป็นการทำลายล้างตระกูลหลิน
ครานี้ มีร่างของคนผู้หนึ่ีงซึ่งจมูกและใบหน้าบวมเขียว ได้วิ่งเข้ามาจากด้านนอกประตู
เขาคุกเข่าข้างหนึ่งข้างหนึ่งด้วยสีหน้าหวาดกลัว "ผู้นำ คนของตระกูลจ้าวกลับมาอีกแล้ว คราวนี้นายจ่าวเทียนเจว๋นายน้อยตระกูลจ้าวก็มาด้วย ประกาศกร้าวว่าถ้าไม่ส่งคุณหนูเยสี่ยเอ๋อไปให้ จะขุดรากถอนโคนลูกหลานตระกูลหลินทั้งหมด! "
"สามหาว!"
"น่ารังเกียจ!"
"ตระกูลจ้าวสมควรตาย!"
เมื่อได้ยินคำพูดของคนผู้นี้ ทุกคนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ในเวลานี้ พอหลินเยวี่ยเอ๋อได้ยินชื่อของจ้าวเทียนเจว๋ ร่างกายของนางก็สั่นเล็กน้อย
หลินหานรู้สึกถึงความกลัวของหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขน เขาลูบหลังที่หอมละมุนของนาง ชายตาเย็นยะเยือก
…………………………………………………….