GE217 สตรีผู้ร้ายกาจยอมก้มหัว [ฟรี]
ครึ่งชั่วยามผันผ่าน ราวกับครึ่งค่อนชีวิต
เป่ยเซี่ยวเหมินเหงื่อนไหลโทรมกาย หน้าอกที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่สะท้อนขึ้นลง เพราะการสัมผัสของหนิงฝาน
นางขบฟันทน ลมหายใจถี่กระชั้น ใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่เปล่งเสียงร้องแม้แต่น้อย
เจ็บ… เจ็บมาก นี่ความเจ็บที่สตรีทั่วไปได้รับ ทุกๆครั้งที่นางแข็งแกร่งขึ้น ความเจ็บปวดที่นางจะได้รับจากการเป็นประจำเดือนก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ช่างน่าอับอาย สภาพเช่นนี้ทำให้นางอับอายจนอยากตาย
“ข้าเจ็บ...” น้ำตานางไหลริน
นางยอมรับว่าวิธีการรักษาของหนิงฝานไม่ธรรมดา เพราะไม่ใช่นักปรุงโอสถทุกคนจะทำเช่นนี้ได้ การรักษาไม่ได้มีเพียงการใช้โอสถ แต่ยังมีศาสตร์อีกหลายแขนง หนิงฝานเองก็ได้รับวิชาการรักษามาจากความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์
วิชาการรักษาที่ว่าคือการนวด ยิ่งผสานเข้ากับวิชาแปลงหยินหยาง ผลของการนวดก็ยิ่งน่าตื่นตะลึง
หนิงฝานจงใจรักษาโดยไม่เลี่ยงอาการเจ็บ เพื่อทำให้โลหิตของนางหยุดไหล
นางอดทนได้เป็นอย่างดี แม้ผ่านมานาน แต่นางไม่เปล่งเสียงร้องเลยแม้แต่น้อย หากเทียบกับบุรุษหลายๆคนแล้ว นางมีความอดทนกว่ามาก
นางทั้งมีพลังแข็งแกร่ง และความอดทนเป็นเลิศ...
ใบหน้านางซีดขาว เหงื่อไหลริน แต่ไม่ได้บอกให้หนิงฝานหยุด
การที่นางอยู่ในสภาพนี้ก็นับว่าเข้าทางหนิงฝาน เพราะเขาจะทำให้นางกลายเป็นคนอุ่นเตียง แม้นางจะก้าวร้าวเพียงไร แต่ไม่ได้มีผลกับหนิงฝาน
“ถ้าไม่เจ็บก็ไม่หาย...” หนิงฝานโคจรปราณสร้างเป็นเข็มขนาดเล็ก แทงลงไปใต้ผิวหนังของนางเพื่อคลายเส้นลมปราณ
“รีบๆเข้า...” แม้น้ำตาจะไหลริน แต่นางไม่ร้องโอดครวญ
“อืม… ข้าชอบสตรีที่อดทนเหมือนเจ้า”
“แต่ข้าไม่ชอบเจ้า!”
นางขบฟัน อดทนกับการรักษาของหนิงฝาน
ยามนี้ หนิงฝานใช้เข็มที่สร้างปราณ แทงเข้าบริเวณท้องน้อยของนาง ทำให้นางรู้สึกราวกับอัสนีแล่นไปทั่วร่าง จนทำให้นางสั่นสะท้าน ร่างกายมึนชาไร้เรี่ยวแรง
และความเจ็บปวดก็ค่อยๆบรรเทาไป
นางรู้สึกสบายและผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
ใบหน้าแดงระเรื่อมีเลือดฝาด ทั้งยังดูเปล่งปลั่งราวกับบุบผาแรกแย้ม
“ซัวหมิง เจ้าคนน่ารังเกียจ ข้าเกลียดเจ้า...” แววตาที่แฝงด้วยความเกลียดชังหายไป เหลือเพียงแววตาของเด็กสาวเอาแต่ใจ
นางจ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาขมขื่น
“วิชาเย้ายวนช่วยคลายความเจ็บได้”
หนิงฝานไม่ได้อธิบาย ยามนี้เขากำลังมองเรือนร่างของนางอย่างตั้งใจ
นางรู้สึกอับอายที่ถูกจ้องมอง ทั้งยังกลัวว่าหนิงฝานจะสัมผัสกายนางอีก
แต่ไม่นาน วิชาเย้ายวนก็เริ่มส่งผล สติของนางค่อยๆเลือนลาง
“ท่านปู่ทหารศิลา… ท่านหายไปไหน”
“ท่านแม่… เสี่ยวเหมินไม่ได้อยากได้ปราณสังหารสวรรค์ เสี่ยวเหมินกลัวโลหิต เสี่ยวเหมินกลัวการฆ่าฟัน”
“ซัวหมิง… เขาเป็นคนแปลก ข้าไม่เข้าใจความคิดเขา… ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเยือนหอคอยข้าก็รู้สึกแปลกๆ ถึงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แต่กลับมีปราณสังหารที่รุนแรง อีกอย่าง เขายังเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5… ทำไมเขาถึงเป็นคนแบบนั้น ทำไมข้ารู้สึกแปลกๆเวลาที่เห็นหน้า ทำไมหัวใจข้าต้องเต้นรัวไม่หยุด ถึงเขาจะน่ารังเกียจ แต่เขาก็น่าสนใจมาก”
“เขาข่มเหงข้า จงใจร่วมรักให้ข้าเห็น จนภาพนั้นฝังลึกอยู่ในใจข้า ตามหลอกหลอนข้าทุกราตรี”
“ท่านแม่… เซี่ยวเหมินเกลียดซัวหมิง”
ดวงตาพร่ามัว มือข้างหนึ่งกุมเตียงไม่ปล่อย เพื่อทนกับอานุภาพของวิชาเย้ายวน
มืออีกข้างคว้าตัวหนิงฝานไว้ จ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเหงา
“ท่านแม่… เซี่ยวเหมินเหงา...”
หนิงฝานมองนางเงียบๆ
การที่เขาข่มเหงนาง ถือเป็นการผิดต่อมารดาของนาง
ยามนี้ สตรีที่ก้าวร้าวรุนแรงอย่างนาง กลับกลายเป็นคนละคน แววตาราวกับแมวน้อยที่เพิ่งเกิด
“ท่านแม่… กอดข้าหน่อย”
“อืม… พักผ่อนเถอะ กระถางขัดเกลาของข้า”
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม นางก็เข้าสู่นิทราในอ้อมกอดของหนิงฝาน
ท่าของนางในยามนี้ดูพิกล นางอยู่ในท่าหันข้างซบอกหนิงฝาน สองมือสวมกอดไม่ปล่อย ก้นนุ่มๆของนางนั่งทับส่วนสำคัญของหนิงฝาน
หนิงฝานได้ถอดอาภรณ์ตน เพราะยังไม่คิดจะดูดซับพลังนาง แต่ยามนี้ จุดสำคัญของเขาก็เริ่มตื่นตัวจากการสัมผัสกับเรือนร่างของนาง
แม้ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่ร่างกายก็ตอบสนองไปตามธรรมชาติ ชี้โด่สัมผัสกับพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของนางอย่างแม่นยำ
ยามนั้นเอง ของเหลวบางอย่างก็ไหลออกจากหว่างขานาง เปื้อนอาภรณ์หนิงฝาน
บนเตียงนอนมีคราบโลหิตเปรอะเปื้อน บนอาภรณ์มีของเหลวบางอย่างเปรอะเปื้อน
คาดไม่ถึงว่าสตรีที่ก้าวร้าวอย่างนางจะไม่ต่างจากสตรีทั่วไป
หนิงฝานพยายามอยู่นิ่งๆไม่ขยับ แต่ดูเหมือนอีกไม่นาน ตนเองจะทนไม่ไหว
“ซัวหมิง เอามือของเจ้าออกไป แล้วก็เอาหนอนของเจ้าออกไปได้แล้ว!”
“เจ้าตื่นแล้วเหรอ? อาการเป็นยังไงบ้าง?”
มือข้างซ้ายหนิงฝานกอดนางไว้ ส่วนมือขวาวางไว้ที่ขาของนาง
การสัมผัสจากมือข้างขวาที่ไม่อยู่นิ่งของหนิงฝาน ทำให้นางรู้สึกแปลกๆ ราวกับอัสนีวิ่งพล่านไปทั่วร่าง ใบหน้าแดงระเรื่อ
“ซัวหมิง! เจ้าจะมากเกินไปแล้วนะ!”
“มากเกินไปยังไง… ก็เจ้าเป็นกระถางขัดเกลาของข้า ที่ข้ายังไม่ดูดซับพลังของเจ้ายามนี้ เพราะกลัวว่าเส้นลมปราณของเจ้าจะเสียหาย...”
หนิงฝานหยุดลูบไล้เรือนร่างนาง พลางหยิบแผ่นหยกออกมาจากกระเป๋า
เมื่อเห็นแผ่นหยก นางที่กำลังโกรธแค้นเป็นฟืนเป็นไฟ กลับสงบลง
“นี่มัน… เป็นไปได้ยังไง”
“เมื่อตอนที่เจ้าไม่ได้สติ ข้าแอบบันทึกสิ่งที่เจ้าทำลงไปในนี้… ข้าจะเก็บแผ่นหยกไว้ 1 แผ่น อีกแผ่นมอบให้เจ้า...”
เมื่อเรี่ยวแรงนางเริ่มกลับมา นางดึงผ้าห่มคลุมกาย ยื่นมือรับแผ่นหยกจากหนิงฝาน แผ่สัมผัสเทพสำรวจก่อนสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“นี่ข้า… ทำไมถึงได้ทำเรื่องน่าอายขนาดนี้… ถึงขนาดที่คิดว่าเจ้าเป็นท่านแม่… กอดเจ้า… เจ้ามันน่ารังเกียจ! เจ้าใช้วิชาเย้ายวนกับข้า!”
*เพล้ง!*
นางบดขยี้แผ่นหยกจนแตก แต่ถึงอย่างนั้น ยังมีอีกแผ่นที่อยู่กับหนิงฝาน
นางไม่ได้สนใจชื่อเสียง แต่สนใจเรื่องการกระทำ
“แผ่นหยกอยู่กับเจ้า… ทหารศิลาก็อยู่กับเจ้า...”
“ฉลาดดีนี่...”
“ทำยังไงเจ้าถึงจะยอมคือทหารศิลา และทำลายหยกแผ่นนั้น...” นางกล่าวถาม
“ไว้ถึงเวลาข้าก็จะทำลายเอง ส่วนทหารศิลา ไว้ข้าบรรลุตัดวิญญาณ ข้าจะคืนให้… ไม่ว่าเจ้าจะโหดร้ายป่าเถื่อน ไม่ว่าเจ้าจะสังหารผู้คนไปมากเท่าไหร่ สุดท้ายเจ้าก็ยังเป็นกระถางขัดเกลาของข้า”
“ฮึ่ม! ใครเป็นกระถางขัดเกลาของเจ้า เจ้ากล้าดูดซับพลังข้าเหรอ!”
“อยากลองมั้ยหล่ะ?” แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา
“ไม่!” นางรีบตอบทันที นางรู้ว่าหนิงฝานกล้าทำ
หากมารดานางอยู่ มารดาคงบอกให้นางยอมเช่นกัน
แม้นางจะเกลียดหนิงฝานขนาดไหน สุดท้ายก็ต้องยอมก้มหัวให้
“อาภรณ์ข้า กระเป๋าข้า แล้วแหวนหยวนเหยาของข้าอยู่ไหน!”
“ข้าฉีกอาภรณ์ของเจ้าไปแล้ว ส่วนกระเป๋า… ข้าเอาหยกสวรรค์ 50 ล้านภายในกับโอสถ อย่างอื่นไม่ได้แตะ… ส่วนแหวนของเจ้า ก็กลายเป็นของข้า”
หนิงฝานยื่นส่งกระเป๋าคืนนาง แต่แววตานางกลับแปรเปลี่ยนโศกเศร้า
“ข้าให้หยกสวรรค์กับโอสถเจ้าได้! แต่แหวนวงนั้น...คืนข้ามาเถอะ มันเป็นของสำคัญของข้า”
“สำคัญยังไง?”
“ข้าไม่บอก! รีบๆคืนข้ามาได้แล้ว!”
หนิงฝานส่ายหน้า สิ่งใดที่อยู่ในใจนาง หากนางไม่กล่าวเขาก้ไม่รู้
ดังนั้น เขาจึงกระตุ้นสร้อยหยินหยาง และใช้วิชาคารมกับนาง
สุดท้ายนางจึงยอมบอกว่า แหวนวงนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของนายหญิงน้อยที่ยังไม่ได้แต่งงาน
“น่าสนใจจริงๆ… แบบนั้นข้ายิ่งไม่คืน!”
“เจ้า!” หัวใจนางเต้นรัว ทั้งโกรธทั้งอับอาย
ยามนี้ดูราวกับนางตกอยู่ในกำมือของหนิงฝานเรียบร้อยแล้ว
หนิงฝานชิงแหวนไป หากเรื่องนี้ล่วงรู้ไปถึงท่านแม่ ท่านต้องเข้าใจว่าข้าแต่งงานกับหนิงฝานแล้วแน่เลย!
ทำยังไงดี
“จะว่าไป เจ้ารีบสวมอาภรณ์แล้วออกไปข้างนอกเถอะ ไม่งั้นอีกหน่อยลู่ชิงคงพังประตูเข้ามา แล้วเห็นฉากที่น่ามองเข้า...”
“แย่แล้ว!”
เมื่อคิดถึงฉากที่ลู่ชิงพังประตูเข้ามา นางก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง
หนิงฝานจะเป็นผู้ทำลายความบริสุทธิ์ผุดผ่องของนางตนไม่ได้
นางเร่งทำความสะอาดร่างกาย จัดแจงทรงผม และสวมอาภรณ์อย่างรวดเร็ว
“จะว่าไป ขาเจ้างดงามมาก...” หนิงฝานกล่าวอย่างคลุมเครือ
“ฮึ่ม! ไร้ยางอาย!” แม้นางจะกล่าวเช่นนั้น แต่นางก็แอบพึงพอใจอย่างที่สุด
นับว่าเจ้ามีสายตาเฉียบคม… ส่วนที่งดงามที่สุดของข้าคือขา ไม่ใช่หน้าอก!
ไม่นาน หนิงานและนางก็เดินออกมาจากหอคอย ตรงไปยังสถานที่ที่ลู่ชิงเฝ้ารอ ยามนี้ มันแอบสงสัยว่า เหตุใดนายหญิงน้อยของมันถึงได้พูดคุยกับซัวหมิงนานนัก
แม้จะจิบชาชั้นเลิศ แต่หาได้มีรสชาติดีมิไม่
ในความคิดของมัน นายหญิงน้อยทั้งแข็งแกร่ง และมีทหารศิลาข้างกาย ไม่สมควรได้รับอันตรายใดๆ
แต่หากนายหญิงน้อยของนางตกหลุมรักซัวหมิง และกลายเป็นคนอุ่นเตียงให้ หัวของมันคงหลุดออกจากบ่า
“ไม่มีทาง… ถึงนายหญิงน้อยจะชอบซัวหมิง แต่ด้วยนิสัยของนางแล้ว นางไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นกับซัวหมิงแน่”
ลู่ชิงยิ้มเจื่อน เพราะถึงจะคิดแบบนั้น แต่สุดท้ายมันก็คาดเดานิสัยของเป่ยเซี่ยวเหมินไม่ได้อยู่ดี
ในขณะที่มันเติมน้ำชาอยู่นั้น มันก็เห็นหนิงฝาน ศพนางสวรรค์ แล้วก็เป่ยเซี่ยวเหมิน
เมื่อนายหญิงน้อยของมันปรากฏตัว มันผ่อนคลายลงมาก แต่ในชั่วพริบตานั้น สีหน้ามันกลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
ใบหน้าของนายหญิงน้อยแดงระเรื่อ แววตายังแฝงความรู้สึกที่เพิ่งผ่านการร่วมรักมาอย่างมีความสุข แม้สีหน้าของนางจะดูเรียบเฉย แต่บรรยากาศที่นางมีต่อหนิงฝานกลับเปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว
“หรือว่านายหญิงน้อยกับซัวหมิง… เป็นไปไม่ได้!”
เมื่อมันชำเลืองไปเห็นที่สวมอยู่นิ้วหนิงฝาน มันกลับสำลักน้ำชาทันที
แหวนหยวนเหยา!
หรือนายหญิงน้อยจะยอมรับซัวหมิงผู้นี้แล้ว!
เป็นไปได้ยังไง? นี่ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วยาม เหตุใดถึงกลายเป็นแบบนี้!
“นายหญิงน้อย ท่านกับซัวหมิง...” ลู่ชิงกล่าวถามด้วยความสงสัย
“ไร้สาระ! ข้ากับซัวหมิงไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!” นางขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ
นางเพิ่งถูกหนิงฝานข่มเหงมา ลู่ชิงจึงกลายเป็นที่รองรับอารมณ์
ลู่ชิงรู้สึกราวกับอัสนีฟาดผ่ากลางใจ แม้ปากบอกไม่ได้ทำอะไร แต่ที่อยู่นิ้วซัวหมิงหล่ะ?
จบสิ้นแล้ว… นายหญิงน้อยเสร็จซัวหมิงไปแล้ว หากนายใหญ่ของวิหารสาบสูญรู้เข้า มันตายแน่!
ข้ามันไร้ความสามารถ...
ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายธรรมะทำอะไรก็ต้องระมัดระวัง
แต่ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมจะทำอะไรก็ได้ตามใจ
หากอยากได้ก็ต้องแย่งชิง
แม้หานหยวนจี๋ไม่ได้พร่ำสอนสิ่งต่างๆมากนัก แต่ชายชรามักจะกล่าวว่า ทำทุกสิ่งเพื่อให้ได้มา...