ตอนที่แล้วบทที่ 226 - ฉันไปด้วย (2) [04-11-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 228 - ฉันไปด้วย (4) [08-11-2019]

บทที่ 227 - ฉันไปด้วย (3) [06-11-2019]


บทที่ 227 - ฉันไปด้วย (3)”

หลังจบสงครามลงก็ต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการเก็บกวาด และสร้างรากฐานให้กับจักรวรรดิใหม่ และหลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์ป้อมปราการลอยฟ้าก็ได้กลับไปสู่โลกเดิม

"นับจากนี้คงจะมีคนเป็นจำนวนมากยิ่งขึ้นอีกจำเป็นต้องมีสตรีศักดิ์สิทธิ์"

"อ๊า ทำไมเธอต้องไปด้วยล่ะ? เธอจะกลับไปสวรรค์งั้นหรอ?"

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้คนต่างก็เชื่อว่านายูนาเป็นร่างอวตารของเรย์น่า และพวกเขาไม่อยากให้เธอไป แต่ว่านายูนาก็ได้ใช้รอยยิ้มที่อ่อนหวานเอาชนะพวกเขา

"ถ้าคนสวยๆแบบฉันยังอยู่โลกนี้อีกก็จะต้องมีพวกหมูอ้วนโผล่มาอีกแน่ ดังนั้นฉันเลยต้องไป"

"เธอกล้ากล่าวลาแบบผยองแบบนี้ได้ยังไงกันนะ?"

แม้ว่าทุกๆอย่างจะจบลงด้วยดี แต่ว่าในระหว่างนั้นก็มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ตายไประหว่างสงคราม นายูนาสิ่งต่างๆจะไม่เกิดขึ้นแบบนี้เลยหากว่าไม่มีเธออยู่

เหตุผลที่พวกกองทัพปีศาจแห่งการทำลายยื่นมือเข้ามายุ่งกับในโลกนี้มันก็เพราะตัวเธอ

"พระสันตปาปาปล่อยฉันไปเถอะนะ อยู่กับอิลฮานฉันจะมีความสุขกว่า!"

"ช่วยหยุดใช้คำพูดที่มันทำให้คนเข้าใจผิดได้ไหม?"

"ยูนา..."

การเกิดขึ้นของจักรวรรดิใหม่? การจบลงของสงคราม? ประวัติศาสตร์ใหม่ที่เกิดขึ้นมาจากซากศพประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนที่กระจายไปทั่วผืนแผ่นดิน

แค่เพราะนายูนายิ้มตลอดเวลามันไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เศร้าเลย เธอเข้าใจคนอื่นๆเป็นอย่างดีดังนั้นเธอก็พบว่าเธอในตอนนี้ไม่อาจจะทนอยู่ในเอลฟอร์ดได้อีกต่อไป ถ้าหากว่าไม่มียูอิลฮานอยู่ด้วยกับเธอ นายูนาก็คงจะล้มลงไปนานแล้ว

พระสันตปาปาก็รู้ดีว่าเธอไม่อาจจะโน้มน้าวให้นายูนาอยู่ได้

"แล้วเธอจะกลับมาเยี่ยมกันใช่ไหม?"

"แน่นอนสิ"

พระสันตปาปากับนายูนาได้กอดกันและกัน ในตอนนี้เองนายูนาก็ดูเหมือนจะนึกอะไรที่ลืมไปได้และหยิบเอามงกุฏบนหัวเธอออกมาส่งให้พระสันตปาปา

"ฉันคืนนี่ให้เธอนะพระสันตปาปา ฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะเก็บมันไว้แล้ว แล้วก็มงกุฏนี่ก็มีผลแค่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วย"

"ไม่หรอก ฉันดึงพลังของมงกุฏออกมาไม่ได้ เธอเก็บไว้เถอะ นี่มันเป็นของเธอแล้ว"

"แต่การที่ฉันจะเก็บ..."

"ถ้าเป็นในทางปฏิบัติล่ะก็"

ก่อนที่พระสันตปาปากับนายูนาจะเถียงกันไปมากกว่านี้ ยูอิลฮานก็เข้ามาแทรกด้วยรอยยิ้ม

"ฉันขอเอาหินพลังเวทย์ระดับสูงสุดที่มีในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไปได้ไหม? ไม่สิ ฉันจะเอา ฉันเอาชนะสงครามมาได้งั้นฉันขอเยอะหน่อยแล้วกัน"

"ว้าว!"

"อิลฮานที่บ้าอำนาจก็เท่เหมือนกัน"

ขณะที่นายูนากำลังตกใจ และเลียร่าที่ตกไปอยู่ในควมรักอีกครั้ง พระสันตปาปาที่ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ยูอิลฮานต้องการก็แสดงความสงสัยออกมา

"เราก็ได้แต่ยอมรับในสิ่งที่นายต้องการไม่ว่าอะไรก็ตาม แต่ว่าถ้านายเอาหินศักดิ์สิทธิ์ไปใช้ทำอะไรแย่ๆให้ท่านเทพธิดาของเขาเสื่อมเสียละก็ฉันไม่ยอมแน่ ฉันขอถามเหตุผลที่นายเอาหินศักดิ์สิทธิ์ได้ทำอะไรได้ไหม?"

ยูอิลฮานได้ตอบกลับไปราวกับว่าเธอคนนี้จะถามในคำถามที่รู้อยู่แล้วไปทำไป

"ฉันก็กำลังจะสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาบนป้อมปราการลอยฟ้าไงล่ะ ถ้าแบบนั้นยูนาเธอจะได้ดึงเอาพลังของมงกุฏมาใช้ได้"

"ดินแดนศักดิ์สิทธิ์...?"

"ใช่แล้ว"

พอคิดย้อนกลับไปแล้ว ยูอิลฮานเป็คนที่ได้สร้างวิหารขึ้นมาใหม่ในดินแดนนี้! พระสันตปาปามีอะไรอีกหลายอย่างที่จะถามกลับไป แต่เธอก็ตัดสินใจจะไม่พูด จากนั้นเธอก็ได้จัดการสั่งให้พาลาดินกับนักบวชส่งหินศักดิ์สิทธิ์ให้กับยูอิลฮาน

"ว้าว ทั้งหมดนี่... หินศักดิ์สิทธิ์ 17 กก... พระสันตปาปาแบบนี้จะไม่เป็นอะไรหรอ?"

"ไม่เป็นไรหรอก ในตอนนี้เรายังไม่จำเป็นต้องใช้หินศักดิ์สิทธิ์ไปซักพักอยู่แล้ว นอกไปจากนี้ดูเหมือนว่าพวกเธอจะต้องการมันมากกว่าเราอีก"

แม้ว่าจำนวนนี้จะน้อยกว่าจำนวนที่ยูอิลฮานจะได้รับจากสิ่งที่เขาทำไป แต่ว่านี้ก็ดีที่สุดที่ศาสนจักรจะทำได้แล้ว พระสันตปาปาก็กังวลเรื่องที่ว่ายูอิลฮานจะโกรธจากจำนวนนี้ด้วย แต่ว่าหลังจากรับไปแล้วยูอิลฮานก็หยักหน้าออกมา

"ฉันคิดว่านี่มันก็น่าจะพอแล้วล่ะ"

"การสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะเป็นไป... ไม่หรอก ชั่งมันเถอะ"

พระสันตปาปาได้หยุดคำถามไปกลางทาง ยูอิลฮานก็ได้แต่ยิ้มให้กับเธอ รอยยิ้มของเขานี้มันทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยมาก

"สตรีศักดิ์สิทธิ์"

"ขอให้มีความสุขนะครับสตรีศักดิ์สิทธิ์!"

"อ๊า ในที่สุดสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ได้กลับไปในที่ที่เธอควรอยู่แล้ว เธอกำลังจะกลับไปครองบัลลังก์แห่งเทพแน่นอนเลย"

"โประประทานความรุ่งเรืองนิรันดร์ให้กับเราด้วยเถิด!"

ยูอิลฮานได้เข้าไปในป้อมปราการลอยฟ้าพร้อมๆกับยูมิล เลียร่า นายูนา และคังฮาจินท่ามกลางสายตาของประชาชนที่เฝ้ามองดูอยู่

คนที่ศรัทธาในเรย์น่าต่างก็ทำท่าทางเหมือนกับนายูนากำลังกลับไปเป็นเทพจริงๆ นอกจากนี้คนอื่นๆนอกจากเธอก็ถูกมองเป็นทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์เธอ

พอได้มองฉากนี้แล้วคังฮาจินก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมา

"...ฉันก็ใช้เวลาอยู่ในเบร์ย่าเท่ากันกับเธอนะ แต่ดูภาพนี้สิ มันดูเหมือนว่าต่อให้ฉันไม่อยู่ที่นี่แล้วก็ไม่มีอะไรต่างเลย"

"ถ้านายเสียใจงั้นอยู่ที่นี่ต่อไหมล่ะ? คังฮาจินพูดตรงๆเลยนะต่อให้นายไปด้วยก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี"

"ยูอิลฮานนายไม่คิดว่านายพูดตรงเกินไปเลยเรอะ!?"

คังฮาจินได้ตะโกนตอบกลับมาราวกับว่าตัวเขาเองก็แข็งแกร่งเหมือนกันนะ แต่ว่าสำหรับยูอิลฮานที่จัดหารศัตรูคลาส 4 ได้แบบง่ายๆแล้ว

ตามมาตราฐานของยูอิลฮาน คังฮาจินขาดทั้งพรสวรรค์ ความเชี่ยวชาญสกิล แล้วแม้กระทั่งเลเวล ยูอิลฮานไม่อยากจะพูดออกไปเพราะนี่มันโหดร้ายเกินไป แต่ว่านายูนาได้จัดการแทนเขาเอง

"แต่ว่าพี่ฮาจินได้พยายามอย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องฉันมาตลอดจนถึงตอนนี้ ถึงแม้ว่าพี่เขาจะไม่ได้ช่วยอะไรมากเลยก็ตามที"

"เธอนี่แย่มาก!"

คังฮาจินได้ตะโกนใส่นายูนาและเผลอคิดครู่หนึ่งว่า 'ถ้าฉันแกร่งเท่าเขาความสัมพันธ์ของเขากับนายูนาจะเป็นยังไงกันนะ?' แต่แล้วเขาก็หัวเราะออกมาเมื่อคิดว่านั่นมันไร้ความหมาย

เขายังคงไม่อาจจะทิ้งจิตวิญญาณในการแข่งขันในวัยนี้ได้งั้นหรอ? ถ้ามันเป็นแบบนั้นเขาก็ยังคงมีความรู้สึกไร้สาระอยู่กับนายูนาอีกงั้นหรอ? แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาไม่ชอบตัวเขาเองเลย

ยังไงก็ตามนายูนาก็เอาแต่มองดูภาพด้านนอกของป้อมปราการลอยฟ้าที่ยกระดับความสูงขึ้น ยูอิลฮานที่กำลังดูแลกองทัพเด็กอยู่ในด้านหนึ่งก็พูดขึ้นมาอย่างสงบ

"สกิลข้ามมิติได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว รอซักแป๊บนะ อีกเดี๋ยวเราจะกลับไปที่โกลแล้ว"

"แล้วนายจะทำอะไรหลังเรากลับไปที่โลกล่ะ? เดี๋ยวสิ มีอะไรเกิดขึ้นกับโลกมั้งในตอนนี้?"

"ในตอนนี้ก็มีพวกปีศาจอัปลักษณ์ที่โผล่มาพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดบนโลก อย่างแรกเลยระหว่างหาโลกที่จะไปต่อเขาก็จะกระทืบปีศาจพวกนั้นให้หมดแบบ ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อย่ากจะใช้เวลานั้นทำดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย"

"..."

การคุกคามจากมอนสเตอร์ เรื่องนี้คือเหตุผลหลักที่ว่าทำไมมนุษย์ในโลกอื่นๆต้องดิ้นรนได้ถูกยูอิลฮานปฏิบัติเหมือนกับแหล่งค่าประสบการณ์บนโลกเท่านั้น! แล้วมอนสเตอร์พวกนั้นทั้งหมดต่างก็มีเลเวลที่มากกว่า 250 อีกด้วย

"แค่ปีศาจพวกนั้นเพียงตัวเดียวก็ทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตกอยู่ในอันตรายได้แล้ว..."

"พวกนั้นอ่อนแอกว่าเมื่อเทียบกับมอนสเตอร์บนโลก อย่าแรกเลยมอนสเตอร์บนโลกใช้การโจมตีจิตใจได้"

"ถึงแบบนั้นการโจมตีจิตใจมีแต่นายนั่นแหละ"

"..."

ขณะที่นายูนาไม่รู้จะตอบอะไรยูอิลฮานกลับไป สกิลข้ามมิติก็ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว พอยูอิลฮานได้ให้สัญญาณ นายูนากับคังฮาจินก็มองเห็นรอบๆเพื่อดูว่ามีอะไรเปลื่ยนแปลงไหม แต่ว่าพวกเขาก็ไม่เจออะไรเลย เลียร่าได้แต่หัวเราะออกมา

"พวกนายไม่เชื่อในคำพูดของอิลฮานงั้นสิ?"

แค่นายูนากำลังจะพูดอะไรออกมา ยูอิลฮานก็กระโดดกับที่ ป้อมปราการลอยฟ้า นายูนา คังฮาจิน และเด็กๆทั้งหมดต่างก็กระพริบตาครั้งหนึ่งเท่านั้น

ในตอนนี้พวกเขาก็ได้กลับมาอยู่บนโลกแล้ว

"หา นี่มันที่โลกจริงๆ"

"พระเจ้า ที่นี่คือเกาหลีบนโลกแน่ๆ ถึงทุกๆอย่างจะพังไปหมดก็ตาม!"

มานาในสภาพแวดล้อมและร่องรอยอารยธรรมได้เปลื่ยนแปลงไป รวมไปถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ก็พังทลายลงไป ทั้งนายูนาและคังฮาจินก็ได้หมดคำพูดไป ด้วยการกระทำเดียวของยูอิลฮานได้ข้ามโลกไป! ต่อให้เห็นกับตาก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลย

[กรรรรรรรรรร!]

[ขะ เขามาแล้ว ตอนนี้จำนวนมากขึ้นกว่าเดิมด้วย]

[ฆ่า ฆ่า ฆ่า!]

การมาครั้งนี้ของเขาทำให้เกิดเสียงดังรวมถึงยูอิลฮานยังไม่ได้ทำการซ่อนตัวกับป้อมปราการเลยทำให้มีมอนสเตอร์พุ่งเข้ามาจากทุกทาง แน่นอนว่าเนื่องจากว่ายูอิลฮานได้ไม่อยู่โลกแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้นทำให้พวกมอนสเตอร์ยังรวมกันไม่มากนัก แต่ว่าถึงแบบนั้นมอนสเตอร์ที่เขามองเห็นทั้งหมดต่างก็เป็นคลาส 4 ที่มีเลเวลมากกว่า200 เป็นอย่างน้อย

ยังไงก็ตามยูอิลฮานได้มองไปที่มอนสเตอร์อย่างดุร้ายและหัวเราะเรียกมิสทิค

"มิสทิค"

[นายท่าน ฉันจะต้องได้รับค่าตอบแทนในการทำแบบนี้]

"ได้ ได้ เดี๋ยวฉันจะจ่ายให้เมื่อถึงเวลา ตอนนี้ก็ไปจัดการมันได้แล้ว"

[กรี๊ดดด ฉันเกลียดนายท่าน!]

มิสทิคได้บ่นไปพร้อมๆกันกับใช้ร้อยนัยน์ตาโจมตีศัตรูที่เข้ามา ในขณะเดียวกันยูอิลก็ได้ตรวจดูมอนสเตอร์ทุกๆตัวและถอนหายใจออกมา

"หืม ดูเหมือนพวกคลาส 5 จะไม่โผล่มาเลย"

"นายกำลังคิดอะไรกัน? ในเมื่อนายฆ่าต้นกำเนิดของพวกมันไปแล้วก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นสิ โลกที่สร้างมอนสเตอร์แบบนั้นได้ขึ้นเองตามธรรมชาติก็บ้ามาตั้งแต่แรกแล้ว"

"แต่ถึงแบบนั้นแล้ววัตถุดิบดีๆล่ะ..."

"...ตอนนี้นี่นายกำลังผิดหวังงั้นหรอ?"

ยูอิลฮานได้เลียริมฝีปากอย่างหมดแรง และเลียร่าก็ได้มองไปที่เขาเหมือนมองตัวประหลาด นายูนาก็ยังคิดถึงเรื่องที่พวกเขาคุยกันเมื่อตะกี้นี้และได้รู้ถึงเรื่องของมอนสเตอร์คลาส 5

"มีสิ่งมีชีวิตชั้นสูงโผล่ขึ้นมาบนโลกด้วย!?"

"ถึงมันจะน่ารำคาญที่จะอธิบายก็เถอะนะ แต่ก็จริงนั่นแหละ"

"อธิบายมาเลยนะ! มีสิ่งมีชีวิตชั้นสูงโผล่ขึ้นมาในเวลาสั้นๆที่นี่ได้ยังไงกัน!?"

แน่นอนว่ายูอิลฮานก็ไม่ได้อธิบายออกไป หากพูดถึงเรื่องในสามปีที่แล้วไป เขาก็ยังจะต้องอธิบายถึงหนึ่งพันปีที่ถูกทิ้งไปด้วย เขากลัวปฏิกิริยาตอบกลับของนายูนาหลังจากได้ยินเรื่องนั้นเขาก็เลยพูดออกไปไม่ได้ ยูอิลฮานมีน้ำใจในแบบของเขาเองแล้ว

"ไม่ต้องห่วงหรอก พวกมันจะไม่โผล่มาอีกแล้วล่ะ"

"มันเกี่ยวกับพี่สาวเลียร่าด้วยใช่ไหม? ใช่ไหมล่ะ!?"

"ฉันบอกว่าจะไม่อธิบายไง"

"บู๋"

หน้ามุ๋ยของนายูนาน่ารักมากทีเดียว ยูอิลฮานได้รีบเปลื่ยนเรื่องไปในทันที

"นับจากนี้ฉันจะไปสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์นะ หลังจากนี้ยูนาเธอจะปลอดภัยมายิ่งขึ้น และการป้องกันของป้อมปราการลอยฟ้าก็จะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ฉันจำเป็นต้องให้เธอช่วยในระหว่างการสร้างด้วย"

"นายมันเปลื่ยนเรื่องได้โง่มาก! แต่ถึงแบบนั้นฉันจะช่วย! เจ้าโง่ งี่เง่า!"

"... ยูนาเธอจะได้เจอกับสิ่งใหม่ๆอีกมาก"

ยูอิลฮานได้ใช้หินศักดิ์สิทธิ์และโลหะล้ำค่าที่เขาเหลืออีกจำนวนหนึ่งมาเริ่มการสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์

ส่วนยูมิลได้นำกองทัพมังกร(กองทัพเด็กๆ)ของเขาที่ได้รับอุปกรณ์ที่ยูอิลฮานสร้างให้ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ในเบร์ย่าไปหาประสบการณ์การต่อสู้จริงบนโลก และยกระดับความสามารถของพวกเด็กๆ ขณะเดียวกันเลียร่าก็ได้เกาะติดยูอิฮานอยู่ตลอดเวลา และนายูนาก็ได้ทำหน้ามุ๋ยช่วยยูอิลฮานสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ส่วนคังฮาจินก็คอยคุ้มกันรอบๆตัวเธอ

ในเวลานี้เครื่องมือสื่อสารก็ไม่ได้ดังขึ้นอีกแล้ว

เพราะแบบนี้เองทำให้พอเมื่อผ่านไปไม่นานดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ได้สร้างขึ้นสำเร็จ และในวันเดียวกันนี้ยูอิลฮานก็ได้รู้ถึงการตายของผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาผ่านสกิลปกครอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด