ตอนที่ 299 คนตรง
เทียบกับระดับตัวละคร ทักษะสามารถเพิ่มความสามารถโดยรวมได้
ห่าวเทียนส่งทักษะออกไปทีละอันและไล่ล่าคู่ต่อสู้เขาไปขอบเวที
ตูม!
ทันใดนั้น หมากดาราก็ปล่อยระเบิดพลังงานจากร่าง ทำให้คลื่นไฟทำลายชุดคอมโบของห่าวเทียน
“หมากดาราใช้ระเบิดพลังงานแล้วครับ!”ผู้วิจารณ์อุทาน
มีสามวิธีในการเอาชนะศึกนี้ หนึ่งคือการล้มคู่ต่อสู้ตรงๆ สองคือยอมแพ้หรือผลักให้พวกเขาลงเวที หมากเราถูกผลักชิดขอบและไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ระเบิดพลังงาน
แต่ทว่า วินาทีต่อมา ห่าวเทียนก็ใช้ระเบิดพลังงานเขา และราวกับกระทิงป่า เขาพุ่งใส่หมากดาราและปล่อยหมัดหนักที่ทำลายการป้องกันของหมากดาราและชกใส่หน้าอกเขา
บูม!
เสียงดังระเบิดขึ้น!
หมากดาราสูญเสียสมดุล ล้มลงจากเวทีและกระทแกกับพื้น ทำให้เกิดฝุ่นดินลอยขึ้น
“ผู้ชนะคือห่าวเทียน!”
“เขาชนะ!”ผู้ชมกรีดร้อง้ดวยความตื่นเต้น และแฟนๆของห่าวเทียนก็ลูกขึ้นยืนให้กำลังใจเขา
เสียงกรีดร้องจากคนนับหมื่นท่วมท้นไปทั่วลานประลอง!
หมากดาราถูกนำตัวออกด้วยสายตาเศร้าสลด แม้การต่อสู้เปิดพิธีจะจัดขึ้นเพื่อสร้างความน่าสนใจ และผู้เล่นมืออาชีพจะไม่ถูกตัดสิทธิ์ใดๆ มันก็ยังเป็นโอกาสได้รับความนิยม การชนะภายใต้สายตานับหมื่นเป็นวิธีดีสุดในการพิสูจน์ชื่อเสียง แต่ตอนนี้เขาเสียมันไปแล้ว แตกต่างจากที่วางแผนเอาไว้
แต่นั่นคือความเป็นจริง เนื่องจากเขาแพ้อย่างเป็นธรรม แม้หมากดาราจะไม่มีความสุข เขาก็ยังระงับอารมณ์ไ
ฟีนิกส์แดงเดินส่ายเอวมายังกลางเวทีด้วยรอยยิ้ม“ต้องขอบคุณผู้เล่นมืออาชีพทั้งสองที่นำการต่อสู้ระดับสูงเช่นนี้มาให้เราดูกัน หมากดารา คุณโชคไม่ดีเลยที่แพ้ คุณมีอะไรอยากจะพูดไหมคะ?”
หมากดารารวบรวมตัวเองและฝืนยิ้ม“มันเป็นการต่อสู้ที่สนุกมาก ผมได้เห็นว่าคนหนุ่มแข็งแกร่งแค่ไหน เขามีศักยภาพมาก คนอย่างเขาย่อมรับคบเพลิงของรุ่นผมไปได้และสู้เพื่อเกียรติยศบนเวทีระดับโลก...”
นี่เป็นเพียงพิธีการ ด้วยการใช้ภาษาทางการและการกล่าวถึงผู้เล่นหนุ่มและเก่า หมากดารายังเน้นย้ำถึงความจริงที่ว่าเขาเป็นมือเก่า
“ขอบคุณสำหรับความคิดของคุณนะคะ”
ฟีนิกส์แดงหันมามองห่าวเทียนและกล่าว“ห่าวเทียน คุณมีอะไรอยากจะพูดไหมคะ?”
ห่าวเทียนยื่นมือออกไปรับไมโครโฟน ฟีนิกส์แดงดีใจ เธอคิดว่าในที่สุดห่าวเทียนก็จะพูดอะไรบ้างแล้วและรีบส่งไมโครโฟนให้เขา
ห่าวเทียนจ้องหมากดาราสักพัก
“คุณมาที่นี่เพื่อหาเงินหรืออะไร?”
จากนั้นเขาก็ทิ้งไมค์และเดินออกไป เขาไม่สนใจจะพูดกับหมากดาราเลยแม้แต่น้อย
สีหน้าหมากดารากลายเป็นน่าเกลียด และเส้นเลือดก็ปูดขึ้น เขากัดฟันแน่น
เขาจะพูดอะไรต่อหน้าคนดูมากขนาดนี้ได้ยังไง?!หมากดาราโกรธ
ผู้ชมในลานประลองเข้าสู่ความโกลาหล และฟีนิกส์แดงก็พยายามสงบสติ
...
“เด็กมีบุคลิก ฉันชอบนะ”หานเซี่ยวกล่าว
เขาจำห่าวเทียนในอดีตได้ เพื่อนคนนี้ไม่สนใจเรื่องพล่ามของการเป็นมืออาชีพ และก็เกลียดการอยู่ภายใต้แสงสว่าง เขาแค่สนใจการฝึกตัวเองตลอดเวลาและมีความเป็นมืออาชีพมากพร้อมด้วยคุณธรรม กล่าวอีกนัยหนึ่งก็พวกติดเกม
ความต้องการของหานเซี่ยวตอนมองหาผู้เล่นมาฝึกฝนเป็นเพียงแค่ความนิยมและศักยภาพ มันไม่ใช่ว่าเขาดูถูกพวกกากหรืออะไร แต่มันจะทำให้เขาได้รับผลตอบแทนดีกว่าเพราะพวกเขาสามารถใช้ทรัพยากรเขาให้เกิดผลประโยชน์ได้
ด้วยทรัพยากรที่เขามีอยู่ หานเซี่ยวสามารถฝึกผู้เล่นได้ง่ายๆเพื่อให้พวกเขาไร้เทียมทานในหมู่ผู้เล่นปัจจุบัน แต่ทว่า เขาไม่ได้ทำเช่นนี้เพราะมันไม่เป็นประโยชน์ในระยะยาว ผลประโยชน์ทั้งหมดท่านเซี่ยวจัดหาให้ดาบคลั่งและคนอื่นๆ ไม่ถือว่ามากและน้อยไปสำหรับระดับผู้เล่นปัจจุบัน
แม้ผู้เล่นปัจจุบันจะมีค่าสถานะอ่อนแอ นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาควบคุมตัวละครไม่ดี หานเซี่ยวยังสามารถเรียนรู้ได้มากจากผู้เล่น แม้ปัจจุบันเขาจะทรงพลังสุดบนดาวเคราะห์อความารีน เทคนิคใหม่ที่เขาได้เรียนรู้จากผู้เล่นก็พิสูจน์ได้ว่ามีประโยชน์ในอนาคต
การโต้ความสามารถต่างๆ การแสดงมาตรการฉุกเฉิน ควบคุมการเคลื่อนไหว ...และอื่นๆ มันคือความเป็นมืออาชีพ
การแข่งขันมักสร้างผลลัพธ์ไม่แน่นอน และนี่ก็คือสิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจ
โอกาสสำหรับหานเซี่ยวที่จะออกดาวไม่ใช่แค่ใน4หรือ5เดือน เนื่องจากนี่เป็นช่วงกลางฤดูกาลแข่งขัน หานเซี่ยวจึงวางแผนใช้เวลานี้เพื่อมองหาคนมีศักยภาพ สำหรับเขาแล้ว ปัจจุบันผู้เล่นคือทรัพยากรที่มีค่ามากสุด
หลังพิธี ลานประลองก็เริ่มการแข่งขันปกติ เวทีทั้งสิบมีผู้ตัดสินคนหนึ่ง และทุกคนก็แข่งขันพร้อมกัน มีผู้เล่นประมาณหมื่นที่ลงทะเบียน และพวกเขาก็กำลังผ่านการคัดรอบแรก การแข่งแต่ละครั้งเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและใช้เวลาเฉลี่ยประมาณสิบนาที
เฉพาะเมื่อรอบคัดเลือกเข้าสู่ช่วงสุดท้าย ผู้เล่นจะได้รับการแนะนำทีละคน
ด้วยความที่การแข่งของดาบคลั่งและขนมปังสุนัขคนละวันกัน หานเซี่ยวจึงเบื่อและดูฟอรั่มสลับกับการต่อสู้
มีผู้เล่นมากมายคุยกันอย่างตื่นเต้นถึงการเปิดพิธี ฝีมือของห่าวเทียนได้รับคำยกย่องมากมาย และสโมสรนภาใคร่ก็ปล่อยข้อความออกมา แสดงความยินดีกับห่าวเทียน
..
ไม่กี่วันต่อมา...
ผู้เล่นหมดสิทธิ์ทีละคน และความตื่นเต้นของผู้ชมก็สูงกว่าเดิม หานเซี่ยวเองก็ดีใจเช่นกัน
นอกจากการขายของ การสร้างอุปกรณ์และฝึกกับฮีล่า เขาใช้เวลาว่างส่วนใหญ่กับการดูการแข่ง เขาให้ความสนใจกับการต่อสู้ของทีมเป็นหลัก ที่สองทีมจะพยายามต่อสู้กันเอง แต่ละทีมจะได้รับอนุญาติให้ส่งผู้เล่นไปหกคน
นักสู้ เอสเปอร์และช่างกล สายทั้งสามมีรูปแบบการต่อสู้แตกต่างกันมากและทำให้ทีมมีการผสมหลากหลาย ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคำนึงถึงความแตกต่างด้านการต่อสู้ แบบทีมนั้นดูสนุกกว่า
ทีมที่พบได้บ่อยมากสุดประกอบไปด้วยสายชน สายโจมตีระยะประชิด ระยะไกล และบางคนก็เป็นพวกสายควบคุม
นักสู้เป็นสายที่ได้รับความนิยมมากสุดสำหรับสายชน
เอสเปอร์จะเป็นฝ่ายทำเกม เนื่องจากพวกเขามีความสามารถหลากหลาย เอสเปอร์จึงรับได้ทั้งบทบาทการสู้ระยะประชิดและไกล
ช่างกลจะเป็นบทบาทของคนทำความเสียหาย และสร้างระเบิดภายใต้การคุ้มครองของทีม