ตอนที่ 145 การคัดเลือก
"การเข้าร่วมงานเทศกาลไล่ล่าสุดตะวันออกนั้นเป็นหนทางเดียวที่จะเข้าร่วมกับนิกายเก่าแก่ เทศกาลนี้จะเริ่มต้นเมื่อใด?"เจียงวู่เฉิงเอ่ยถาม
"เทศกาลนี่จะถูกจัดขึ้นทุกๆสิบปี มันจะเริ่มขึ้นในอีกสามเดือน แต่สำหรับอาณาจักรเล็กๆอย่างราชวงศ์เทียนซ่งนั้นมีเพียงนักรบในแก่นอาณาทองคำเพียง15คนเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วม"จ้าววังขาวกล่าว
"เพียง15?"เจียงวู่เฉิงคิ้วขมวด
ราชวงศ์เทียนซ่งถึงแม้ว่าจะเป็นอาณาจักรระดับต่ำ แต่ก็มีอัจฉริยะนับไม่ถ้วน
ภายในราชวงศ์เทียนซ่ง มีผู้เชี่ยวชาญกว่า100คนในทำเนียบมังกรปฐพี พวกเขาล่วนแต่เป็นอัจฉริยะ และจะมีมากกว่านี้อีกหากนับรวมผู้เชี่ยวชาญที่ซ่อนเร้นไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม มีเพียง15คนเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในเทศกาล ดังนั้นแต่ละตำแหน่งนั้นมีคุณค่าอย่างยิ่ง
"เนื่องจากมีที่น้อยเกินไป ก่อนจะถึงเทศกาลไล่ล่าสุดตะวันออก ราชวงศ์เทียนซ่งจึงคัดเลือดบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุด15คนในการเข้าร่วม และการคัดเลือดครั้งนี้เรียกว่าการต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่ง!"จ้าววังข่าวกล่าว
"ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การต่อสู้เพื่อคัดเลือดภายในราชวงศ์เทียนซ่ง แต่มันก็ยังโหดร้ายเป็นอย่างมาก และในฐานะที่เราเป็นสถานบ่มเพาะอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้บ่มเพาะ เราสามารถเลือก10คนให้เข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาจะชิงตำแหน่งมาได้กี่คน ไม่มีใครรู้ได้"
เจียงวู่เฉิงพยักหน้า
มีเพียง15ตำแหน่งเท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นศิษย์จากวังมังกรซึ่งเป็นสถานที่ที่รู้จักกันว่าเต็มไปด้วยอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยม
"ในบรรดาศิษย์ของวังมังกร ไป่หลีเฉิงและนักรบคลั่งฉิงกังนั้นอยู่ในอันดับที่2และ6ในทำเนียบมังกรปฐพี พวกเขาทั้งสองนั้นมีโอกาสที่ยอดเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตามนั่นก็ยังได้แค่เพียงสองตำแหน่ง!
"ในการคัดเลือกครั้งก่อน วังมังกรได้รับอย่างน้อย4หรือ5จาก15ตำแหน่ง แต่คราวนี้เหล่าศิษย์ของวังมังกรเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้นั้นอ่อนแอกว่าในโดยรวม ดังนั้นความคาดหวังของเราจึงน้อยกว่าเดิม อย่างน้อยต้องได้สามตำแหน่ง!"
"นอกจากไป่หลีเฉิงและฉิงกังแล้ว เราต้องการอีกคนหนึ่งที่จะการันตีตำแหน่งนี้"จ้าววังขาวกล่าวอย่างจริงจัง
"ท่านต้องการให้ข้ามีส่วนร่วมในการคัดเลือดและได้รับสิทธิสำหรับครั้งนี้?"เจียงวู่เฉิงถามอย่างสงสัยพร้อมกับมองไปที่จ้าววังขาวและจ้าววังดำ
"ใช่"จ้าววังขาวผงกหัว"เมื่อสองปีก่อนเจ้าได้เอาชนะเซียวหมางที่อยู่ในอันดับ22ของทำเนียบมังกรปฐพี นอกจากนี้ความสามารถของเจ้าก็เป็นที่รู้จักกันโดยทั่ว ในสองปีนี้ความแข็งแกร่งของเจ้าต้องดีขึ้นอย่างมากและมีโอกาสอย่างสูงที่เจ้าจะได้รับตำแหน่งนั้นมา!"
"แต่นี่ไม่ใช่สำหรับวังมังกรเท่านั้น แต่มันยังเป็นโอกาสของเจ้าอีกด้วยในการคัดเลือกครั้งนี้"
"ข้ารู้จักตัวตนที่แท้จริงของเจ้า เจียงวู่เฉิงที่เป็นเป้าหมายของคำสั่งสีเลือดจากหอคอยขนนกโลหิต ซึ่งหมายความว่าพวกมันจะฆ่าเจ้าไม่ว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนแค่ไหน และเมื่อสองปีก่อนถึงแม้วังมังกรจะแก้แค้นหอคอยขนนกโลหิต แต่เจตนาของพวกมันคือฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน"
"ไม่มีอะไรสามารถจะหยุดหอคอยขนนกโลหิตได้ พวกมันจะไม่หยุดจนกว่าจะตาย ถ้าให้พูดตามความจริงความแข็งแกร่งของเจ้าในปัจจุบันยังอ่อนแอเกินกว่าที่จะรับมือหอคอยขนนกโลหิตได้"
"ข้าเข้าใจ"เจียงวู่เฉิงพยักหน้า
"ดังนั้นสิ่งที่เจ้าต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือเวลา"จ้าววังขาวกล่าวและยิ้ม"เจ้ามีความสามารถ ดังนั้นถ้าเจ้ามีเวลาที่เพียง เจ้าจะสามารถเติบโตและมีความเป็นไปได้ที่จะทำลายหอคอยขนนกโลหิตในอนาคต"
"แต่หอคอยขนนกโลหิตจะไม่ให้เวลากับเจ้าแต่อย่างใด พวกเขาจะใช้ทุกโอกาสในการลอบสังหารเจ้า แม้ว่าข้าจะให้ที่หลบซ่อนแก่เจ้าได้ แต่มีเพียงในวังมังกรเท่านั้นที่จะปลอดภัย ดังนั้นมันจึงยากที่จะมั่นใจในความปลอดภัยของเจ้า"
"ถ้าเจ้าทำได้โดดเด่นในเทศกาลนี้และสามารถดึงความสนใจของพวกนิกายเก่าแก่เหล่านั้น เมื่อเจ้ากลายเป็นศิษย์หลักของนิกายเก่าแก่ พวกมันจะไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องเจ้า"
จ้าววังดำพยักหน้าและพูดว่า"นิกายเก่าแก่มีพลังอำนาจและสามารถที่จะทำลายหอคอยขนนกโลหิตได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นหากเจ้ากลายเป็นศิษย์หลักของนิกายเก่าแก่ หอคอยขนนกโลหิตจะไม่กล้าฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน!"
"และเจ้าสามารถที่จะใช้ข้อดีจากการอาศัยอยู่ในนิกายเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของเจ้า จนสามารถที่จะทำลายหอคอยขนนกโลหิตได้"
"ข้าเข้าใจแล้ว"เจียงวู่เฉิงหัวเราะ
เขานั้นเห็นด้วยกับจ้าววังทั้งสอง
แน่นอนถ้าเขาสามารถชิงตำแหน่งและเข้าร่วมเทศกาลครั้งนี้และจากนั้นเขาก็เข้าร่วมนิกายแห่งหนึ่ง เขาจะสามารถปรากฏตัวได้อย่างเปิดเผย และอีกอย่างทรัพยากรการบ่มเพาะในนิกายเหล่านั้นย่อมดีกว่าในวังมังกร
"ไว้ใจข้า ข้าจะเข้าร่วมการคัดเลือด ถึงแม้ว่าข้าจะไม่แน่ใจว่าจะชิงสิทธินั้นมาได้แต่ข้าจะทำให้ดีที่สุด"เจียงวู่เฉิงกล่าว
"ฮ่าๆ ข้ารู้ว่าเจ้าต้องตกลง มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธเรื่องนี้"จ้าววังขาวหัวเราะ"เอาล่ะ นี่คือของขวัญของเจ้า"
จ้าววังขาวหงายมือของนางและมอบหนังสือเล่มหนึ่งให้แก้เขา
"นี่คือ..."เจียงวู่เฉิงมองหนังสือเล่มนี้ด้วยความประหลาดใจ หลังจากเปิดมันขึ้นการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป"เพลงดาบไร้ลักษณ์ สามกระบวนท่าสุดท้าย?"
"ใช่ นั่นคือสามกระบวนท่าสุดท้ายของเพลงดาบไร้ลักษณ์"จ้าววังขาวหัวเราะและพูดว่า"จริงๆแล้วเมื่อสองปีก่อนที่เจ้าผ่านประตูมังกรชั้นที่11 ทั้งเราทั้งสองและปรมาจารย์ทั้งหลายได้พูดคุยกันและตกลงว่าจะมอบมันให้แก่เจ้า แต่เราไม่สามารถจะทำได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในตอนนี้เจ้ากลับมาแล้ว นี่คือของของเจ้า"
"แต่สามกระบวนท่าสุดท้ายของเพลงดาบไร้ลักษณ์ไม่มีอยู่ในศาลาลับ?"เจียงวู่เฉิงรู้สึกว่ามันแปลก
"ฮ่าๆ เจ้ามันโง่จริงๆ เจ้าคิดว่าศาลาลับจะสามัญ?"จ้าววังขาวพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
เจียงวู่เฉิงรู้สึกสับสน
"จริงๆแล้วมันมีศาลาลับสองแห่งในวังมังกร หนึ่งอันใหญ่และอีกหนึ่งขนาดเล็ก เจ้ามักจะไปที่ศาลาใหญ่แม้ว่ามันจะมีสมบัติที่มากมายสำหรับนักรบในขั้นอาณาแก่นทองคำและอาณาทะเลลมปราณ อย่างไรก็ตามศาลาเล็กนั้นมีไว้สำหรับปรมาจารย์และจ้าววังทั้งหลายเท่านั้น แม้ว่ามันจะมีสมบัติเพียงเล็กน้อย แต่มันมีค่ามากกว่า!"
"เช่นเดียวกับสามกระบวนท่าสุดท้ายของเพลงดาบไร้ลักษณ์ที่ไม่ได้อยู่ในศาลาใหญ่ มันอยู่ในศาลาเล็ก"
"เจ้าประหลาดใจงั้นหรือ?"จ้าววังขาวขณะที่ยิ้มอย่างสนุกสนาน
"ใช่"เจียงวู่เฉิงหัวเราะ
เพลงดาบไร้ลักษณ์เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเพลงดาบระดับสูงภายในราชวงศ์เทียนซ่ง มันทรงพลังจนน่าเหลือเชื่อ
หลังจากผ่านประสบการณ์ในดินแดนบรรพบุรุษ วิสัยทัศน์ของเจียงวู่เฉิงนั้นเพิ่มขึ้น ไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังมีเพลงดาบเสียสละซึ่งดีกว่าเพลงดาบไร้ลักษณ์อยู่
อย่างไรก็ตาม เจียงวู่เฉิงยังคงรอคอยที่จะฝึกฝนสามกระบวนท่าสุดท้ายของเพลงดาบไร้ลักษณ์มาตลอด
...