บทที่ 223 - ฉันมาหาเธอแล้ว (7) [28-10-2019]
บทที่ 223 - ฉันมาหาเธอแล้ว (7)”
"ฮ่าาาาาห์"
เมื่อยูอิลฮานได้เหวี่ยงค้อนลงทุกๆอย่างที่อยู่ในเส้นทางได้ถูกลบหายไปหมด ยิ่งไปกว่านั้นเพลิงสีขาวที่มาพร้อมกับการโจมตีก็ได้กระจายออกไปโจมตีศัตรูด้วยตัวมันเอง
"สิ่งมีชีวิตชั้นสูง?"
"นั่นเป็นทูตสวรรค์ใช่ไหม!? แต่ทูตสวรรค์มาสู้กับเราได้ยังไงกัน!"
"โกงแล้ว นี่มันคือการโกง!"
ผู้คนที่เห็นการโจมตีนี้ต่างก็สับสนวุ่นวายขึ้นไปตามๆกันทั้งนั้น
"สิ่งมีชีวิตชั้นสูง? พวกนายคงไม่มีวันได้สู้กับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอีกแล้วล่ะ... ฮ่าห์!"
"อ๊ากกก!"
[ก๊าซซซซ!]
ยังไงก็ตามต่อให้พวกนี้จะพูดกันยังไงก็ไม่มีอะไรเปลื่ยนแปลงไปอยู่ดร ไม่ว่าพวกนี้จะคิดหรือพูดอะไรออกมา ยูอิลฮานก็ทำแค่จัดการใช้ค้อนของเขาลบศัตรูออกไป
"อ๊ากกกก!"
"พวกเราเอาชนะไม่ได้...!"
ทุกๆครั้งที่ยูอิลฮานที่มีขนาดยักษ์เหมือนกับเหวี่ยงปุยนุ่น กองทัพจักรวรรดิก็จะถูกกวาดล้างออกไปเหมือนกับฟองสบู่ที่ถูกน้ำ! ในที่สุดแล้วเปลวเพลิงสีขาวก็ได้ปกคลุมไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ของสนามรบและเผ่าแค่พวกทหารของจักรวรรดิ
"เขาคือตัวแทนของท่านเทพธิดา"
"ความงดงาม ความแข็งแกร่ง... เขาจะต้องเป็นตัวแทนของท่านเทพธิดาแน่นอน!"
"แต่ฉันคิดว่าเหมือนฉันเคยเห็นเขามาก่อนนะ..."
"มันไม่มีทางที่นายจะเคยเห็นแน่! เขาน่ะเป็นตัวแทนของเทพธิดา"
ไม่มีใครคิดเลยว่ายูอิลฮานที่กำลังกวาดล้างกองทัพจักรวรรดินี้เป็นคนๆเดียวกันกับคนงานที่มาก่อสร้างวิหารให้กับพวกเขาในก่อนหน้านี้ พวกเขามีแต่ความยินดีที่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นมาต่อหน้าและชูหอกและดาบขึ้น
"เทพธิดายังคงอยู่ข้างเรา! ลงทัณฑ์พวกหมูพวกนั้นกัน!"
"โอ้วววววว!"
เพราะป้อมปราการลอยฟ้าและยูอิลฮานได้ทำให้ธงแห่งชัยชนะได้มาอยู่ทางฝั่งเอลฟอร์ดแล้ว นี่ไม่จำเป็นต้องให้กองทัพเด็กๆ มิลหรือเลียร่าต้องมามีส่วนร่วมเลย
"ฮ่าาาาห์!"
[นั่นแหละ เอาไปๆ! อย่าหนีนะ ยอมตายซะดีๆ!]
ยูอิลฮานได้ทำลายรูปขบวนทัพของทหารจักรวรรดิและจัดการกวาดล้างทุกๆคนที่เขาเห็น ในขณะเดียวกันมิสทิคก็จะใช้อาวุธโจมตีระยะไกลจากบนป้อมปราการลอยฟ้าโจมตีลงมาฆ่าพวกทหารจักรวรรดิที่กำลังหนี
ในตอนนี้ไม่มีใครเลยที่สามารถจะหนีไปได้ทั้งๆที่มีชีวิตอยู่
หากจะมีอะไรที่พอจะทำได้อยู่ก็คงจะเป็นการสั่นกลัวพร้อมทั้งภาวนาให้การตายล่าช้าออกไปให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
"ฮาจิน นายพอจะรู้จักคนพวกนั้นไหม?"
"ฉันคิดว่าฉันรู้จักนะ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่รู้จักเหมือนกัน"
"นายกำลังหมายความว่าอะไร?"
"ไม่หรอก อย่าสนใจเลยก็แค่เรื่องไร้สาระน่ะ"
คังฮาจินได้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่หมดแรง
เขาเพิ่งตัดสินใจที่จะตายเพื่อนายูนา แต่แล้วการตัดสินใจครั้งนี้ของเขาก็ได้พังยับเยิน แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่มีอะไรที่ดีกว่าการที่ทุกคนรอดแบบนี้อยู่แล้ว แต่ถึงแบบนั้นทำไมเขาถึงได้รู้สึกไร้พลังกันนะ?
นอกไปจากนี้ ปราสาทนั่น! ลำแสงนั่นด้วย! ถ้าเขารู้ว่าจะมีกำลังเสริมเขาก็คงจะมีความสุขแน่ๆ! แต่ว่าการที่จู่ๆก็มาปรากฏตัวในการที่เขาได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ไปนี่มันอะไรกัน!?
"อ่า นั่นแหละ ใช่เลย อย่าแพ้นะ"
ยังไงก็ตามพอมองไปที่นายูนาที่กำลังส่งกำลังใจไปให้กับยูอิลฮานแล้ว ความคิดพวกนี้ของเขาก็หายไปเช่นกัน
เธอคงจะคิดถึงเขามากสินะ? นี่ทำให้กระทั่งคังฮาจินก็ยังรู้สึกอบอุ่น
เขาได้อธิบายให้พระสันตปาปาที่ยังสงสัยอยู่ออกไปสั้นๆ
"ชายคนนี้เป็นชายคนที่ยูนารัก เขาน่าจะมานาที่หลังจากที่เธอเรียกเขา... แต่ถึงแบบนั้นฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาทำได้ยังไง"
"โอ้ ยูนาเธอรักคนที่น่าทึ่งแบบนี้สินะ"
คังฮาจินก็ได้แต่เห็นด้วยกับพระสันตปาปา เขาน่าทึ่งจริงๆนั่นแหละ! แต่ว่าในครั้งล่าสุดที่เจอกันเขาก็ไม่ได้น่าทึ่งขนาดนี้นี่นา!
หลังจากเขาปรากฏตัวมาได้ครึ่งชม. สงครามก็ได้จบลงไปแล้ว มีคนถึง 190,000 คนที่ถูกเขาฆ่าไป ในขณะเดียวกันก็มีอีก 10,000 คนที่ถูกจับตัวไว้
จำนวนนี้มันมหาศาลมากๆ แต่ว่าค่าประสบการณ์ที่ยูอิลฮานได้ยังเพิ่มขึ้นไปถึง 3% เลยด้วยซ้ำไป แต่นี่ก็ไม่แปลกอะไรในเมื่อเลเวลของเขาสูงมากๆแล้ว การฆ่าศัตรูทีเลเวลประมาณ 100 กว่าๆไม่ได้ให้ค่าประสบการณ์เขาแม้แต่นิดเดียว
"ฟู่ววว"
"อิลฮาน!"
หลังจากสงครามที่จบลงแล้ว เขาก็ได้ลงมายืนบนพื้น ตอนนี้เองนายูนาได้พุ่งเข้าหาเขาทันที เขาได้คิดอยู่ครู่หนึ่งว่าจะหลบหรือไม่หลบดีก่อนที่เขาจะเลือกหลบเธอ แต่ว่านายูนาก็ได้เปลื่ยนทิศทางในทันทีราวกับเธอรู้อยู่แล้วว่าเขาจะทำแบบนั้น
"ทำไมนายถึงต้องหลบฉันด้วยล่ะ!"
"เหตุผลนั่นมันก็เพราะ..."
เพียงแค่ยูอิลฮานกำลังจะอธิบายเหตุผลออกไป เขาก็ต้องหยุดเอาไว้หลังจากที่ได้เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาของนายูนา นายูนาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสะอื้น
"ฉันน่ะ... ฉันอยากเจอนายมากๆเลยนะ"
"อืมม แต่ก่อนแยกกันเธอ..."
"ฉันอยากจะเจอนายมากๆ ทำไมนายต้องหลบฉันด้วยล่ะ..."
"..."
ในตอนที่ทั้งคู่แยกกัน เธอก็ยังคงวางท่าอยู่เลยนี่ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นในเวลา 3 ปี ถึงได้ทำให้เธอเป็นแบบนี้กันนะ
ยูอิลฮานได้หันไปขอความช่วยเหลือจากคังฮาจิน แต่ว่าเขาก็แค่หยักหน้าอย่างพอใจ สำหรับคังฮาจินแล้วเขาได้อยู่ในโหมดของพี่ชายแล้วมันไม่มีทางที่เขาจะเข้าใจในความรู้สึกของยูอิลฮานได้
[นายท่านเนื้อหอมขนาดนี้เลย? ผู้หญิงคนนี้ก็สวยอีกด้วย]
[ดึงดูดเพศตรงข้าม]
มิสทิคได้ตกใจในความสามารถของยูอิลฮานอีกครั้งหนึ่ง และโอโรจิได้พูดคำพูดออกมาเหมือนนักปราชญ์ แต่ไม่ว่ายังไงสองคนนี้ก็ไม่ได้ช่วบอะไรยูอิลฮานเลย
ยูอิลฮานได้แต่ถอนหายใจปลอบนายูนาก่อน
"ดูเหมือนจะอันตรายมากเลยนะ ดีนะที่เธอเรียกฉันหลังจากที่ฉันมาที่ฝั่งนี้ได้"
"อื้อ..."
"แต่ว่าในเมื่อทุกๆอยากจบลงแล้ว ฉันก็อยากจะให้เธอปล่อยฉัน..."
"ฟู่..."
นายูนาไม่ได้ตอบกลับมาแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงสูดหายใจเข้าออกยาวๆออกมา จากนั้นเขาก็ได้เห็นว่านายูนาได้หลับไปทั้งๆที่ยืนอยู่แล้ว
"อะไรเนี้ย..."
"ฟู่..."
หลังจากที่ต้องตึงเครียดมานานรวมกับความเหนื่อยล้าที่สะสมทำให้หลังจากที่เธอโล่งใจแล้วเธอก็ได้หลับลงไปในทันที เมื่อยูอิลฮานได้รู้แบบนี้เขาได้รู้สึกสงสารเธอ เขาได้ลูบหัวนายูนาที่กำลังหลับลงอยู่และถามคังฮาจินขึ้น
"เธอไม่ได้นอนมานานแค่ไหนแล้ว?"
"ประมาณอาทิตย์ได้ เธอกดดันตัวเองมากไปนิด"
คังฮาจินได้ตอบกลับมา ถึงแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกหนักเปลือกตาและไม่ได้หลับมาเป็นอาทิตย์เช่นเดียวกัน ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น ทั้งพระสันตปาปาและเหล่าพาลาดินคนอื่นๆก็ไม่ได้หลับมาเป็นอาทิตย์เช่นเดียวกัน ที่พวกเขาทนมาได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะพลังศักดิ์สิทธิ์
"เรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นเลย"
มีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะคุยและฟัง แต่ยังไงก็ตามในสถานการณ์แบบนี้มันยังไม่เหมาะที่จะคุยกัน ยูอิลฮานได้ประกาศขึ้นอย่างเชื่อมั่น
"ทุกๆคนไปนอนเถอะ ไว้ค่อยมาคุยกันหลังจากนอนแล้ว"
"แต่ว่ากองทัพจักรวรรดิจะ..."
"ถ้าหมายถึงกองทัพอ่อนๆที่อยู่ในป่านั่นล่ะก็ไม่ต้องห่วงหรอก"
เลียร่าได้กระโดดลงมาจากป้อมปราการมายืนอยู่ข้างๆยูอิลฮานอย่างสวยงาม เธอในตอนนี้กำลังสวมใส่ชุดเดรสที่ยูอิลฮานทำให้และในมือมีหอกที่มีพลังของเทพแห่งความรักอยู่ ตัวเธอในตอนนี้ดูทั้งกล้าหาญและงดงาม
"อ่า สวยจัง"
"บางทีอาจจะสวยกว่าสตรี... อ๊า ไม่สิ"
ความงามของเลียร่าที่ได้รับพรจากเทพแห่งความรัก ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนที่ได้รับพรจากเทพธิดาแห่งความงามเลย แต่เลียร่าก็ไม่ได้ให้เหล่าพาลาดินได้ชื่นชมความงามของเธอมากนัก เธอได้หันไปมองพระสันตปาปาในทันที
"ฉันจะจัดการพวกนั้นเอง เธอเป็นหัวหน้าที่นี่ใช่ไหมล่ะ? พาทุกๆคนไปนอนพักรวมถึงตัวเธอเองด้วย แล้วไว้ค่อยมาคิดอะไรต่อหลังจากเธออื่น"
"...ถ้าคุณพูดแบบนั้น"
เมื่อรู้ได้ว่าคำพูดที่เลียร่าพูดออกมาเป็นความจริง พระสันตปาปาก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ พวกเธอได้รีบเก็บกวาดสนามรบ มัดเชลย และให้ทุกๆคนไปนอนพักทั้งๆที่ยังไม่มืดเลย
"งั้นไว้เจอกันนะ โอ้ ช่วยดูแลยูนาของเราด้วยนะ"
พระสันตปาปาได้กลับมาอยู่ในวัยเดิมของเธอ เธอได้ยิ้มออกมาเล็กๆและเข้าไปในวิหาร ในเวลาเดียวกันนนี้คังฮาจินก็ยังคงอยู่ข้างๆยูอิลฮานโดยที่ยังไม่ยอมไปนอน
"คังฮาจินนายก็ดูเหนื่อยมากๆเหมือนกันนะ"
"ฉันยังมีอะไรที่อยากจะพูดอยู่"
คังฮาจินได้มองไปรอบๆว่าไม่มีใครอยู่อีกก่อนที่จะโค้งให้กับยูอิลฮาน
"ขอบคุณมากๆ พวกเราได้ก่อปัญหาให้นายมากมายจนถึงตอนนี้ แต่ว่านายก็ยังมาช่วยเราที่ต่างโลกนี่..."
"...ฉันคิดว่าเหมือนเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยนะ"
"พอนายพูดถึงแล้ว นั่นมันก็จริงแหละนะ" (เคยเกิดเรื่องแนวๆนี้ขึ้นในตอนที่เจอกันในดันเจี้ยนครั้งแรกครับ)
คังฮาจินได้เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับยูอิลฮานเล็กๆ
เขายังได้เห็นนายูนาที่ยังคงหลับอยู่ในแขนของยูอิลฮานและรอยยิ้มของเขาได้กว้างขึ้น
"ช่วยดูแลยูนาด้วยนะ โดยส่วนตัวแล้วฉันก็อยากจะให้นายดูแลเธอต่อไปตลอด.."
"ไม่ล่ะ ฉันมีคนต้องดูแลแล้ว..."
พอยูอิลฮานรู้สึกว่านี่มันน่าอึดอัดมาก คังฮาจินก็เอียงหัวสงสัยออกมา ยังไงก็ตามเมื่อเลียร่าโน้มตัวเข้ามาหายูอิลฮานเงียบๆและมองไปที่คังฮาจิน ในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและใบหน้าของเขาได้เปลื่ยนเป็นแข็งทื่อ
"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกันเนี้ย... อ๊า ถ้าเป็นแบบนี้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้แล้วสินะ..."
"แต่ถึงแบบนั้นฉันก็พูดกับเธอในตอนนี้ไม่ได้ก็เพราะว่าตอนนี้เธออ่อนแอทั้งกายใจ..."
"ฮึ่ม"
พอมาคิดว่ายูอิลฮานมีคนรักแล้ว และเธอคนนั้นก็สวยไม่แพ้นายูนาเลยซักนิด
คังฮาจินได้รู้สึกอึดอัดเอามากๆ นี่ไม่ใช่เพราะยูอิลฮานมีคนรัก แต่เพราะ...
"ยูนาน่ะไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่"
ไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนนี้เธอเอาแต่ใจจนตัวตายเลยไม่ใช่หรอ? พอคิดย้อนไปแล้วว่าเธอรั้นยังไงตั้งแต่เด็ก เขาก็สรุปออกมาได้เองโดยธรรมชาติ
นอกไปจากนี้ยูอิลฮานก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้เลยด้วย เรื่องที่ว่ายูอิลฮานเป็นรักแรกของยูนาด้วย นี่มันหมายความว่าไม่มีใครเลยที่จะรู้ว่าเธอจะทำอะไรกับยูอิลฮานในอนาคตอีก
แน่นอนว่าเนื่องจากยูอิลฮานยังไม่ได้รู้ในด้านนี้ของยูนาทำให้เขาขำเล็กน้อยกับความกังวลของคังฮาจิน"
"ฉันคิดจะบอกเธอในตอนที่เธอสงบลงแล้วนะ นี่น่าจะมีผู้ชายอีกมากที่น่าสนใจกว่าฉันอีกในโลกใบนี้ อีกไม่นานยูนาก็คงจะหาคนรักใหม่ของเธอได้แน่"
"ฮึ่ม ถ้าเธอยังคงพยายามอีกฉันจะช่วยซ้ำเติมเธอเอง"
"อย่าฆ่าเธอ โอเคนะ..."
ในตอนนี้แม้แต่เลียร่าก็ยังไม่อาจจะโยนนายูนาออกไปจากอ้อมแขนยูอิลฮานได้ ยูอิลฮานได้พบว่านี่โชคดีเอามากๆและยกเธอขึ้นมา เขาคิดว่าเขาควรจะหาที่นอนที่เหมาะสมให้กับเธอ ที่ที่ไม่ใช่อ้อมแขนของเขา
"นายก็ต้องไปพักเหมือนกันนะคังฮาจิน พวกเราจะดูแลที่นี่ให้เอง"
[นายท่านก็แค่โยนหน้าที่มาให้ฉันคนเดียวนั่นแหละน่า!]
"เงียบน่า"
คังฮาจินก็อยากจะถามเรื่องของป้อมปราการลอยฟ้า แต่ว่าเมื่อคิดถึงสถานการร์ในปัจจุบันของเขา เขาก็ลืมกลืนคำถามออกไป ยูอิลฮานที่ให้เขาไปแล้วก็ไดกลับไปที่ป้อมปราการลอยฟ้าพร้อมเลียร่า
"พี่สาวคนสวยล่ะ!"
"กัปตันพวกเรามาทำอะไรที่นี่หรอ?"
"พวกเราจะเล่นเจ้านั่นได้อีกไหมอะ?"
แม้ว่าเด็กๆจะเล่นเครื่องเล่นมาตลอดสามวันพวกเด็กๆก็ยังคงเต็มไปด้วยพลังงานเช่นเดิม ยูอิลฮานได้แต่หัวเราะเบาๆและหยักหน้าให้กับเด็กๆ
พวกเด็กๆได้วุ่นวายขึ้นในทันที การพักผ่อนนี่แหละคือส่วนที่น่าพอใจมากที่สุด
"อืมมม"
บางทีอาจจะเพราะเสียงรบกวนพวกนี้ทำให้นายูนาละเมอขึ้นมมาในอ้อมแขนของยูอิลฮาน พอมองไปที่เธอแล้วนี่มันคือการยั่วสัญชาตญาณดิบของผู้ชายชัดๆ แต่ในใจของยูอิลฮานก็คิดว่าตลอดชีวิตของเธอก็คงจะเจอเรื่องร้ายๆมาตลอดเพราะพวกผู้ชายแน่
จะมีผู้ชายประเภทในกันที่จะปล่อยเธอเอาไว้อิสระในโลกแบบนี้? ก่อนที่จะเกิดมหาภัยพิบัติเธอยังปลอดภัยอยู่เพราะมีครอบครัวที่มีอำนาจอยู่ แตสำหรับในตอนนี้เธอจะต้องเอาตัวรอดด้วยพลังของตัวเองเพียงอย่างเดียว สามปีที่เธอต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่ก็คงจะต้องยากลำบากมากเช่นกัน นี่ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพอเห็นเขาแล้วเธอถึงร้องไห้ออกมา
"นะ นายชอบผู้หญิงคนนี้? มากกว่าฉันอีกหรอ? เพราะจูบแรกนั่นหรอ?"
"เธอจะให้ฉันปฏิเสธอีกกี่รอบกันห๊ะ?"
"...แต่ว่ามันก็จริงนี่น่าที่ว่าผู้หญิงคนนี้พิเศษกว่าคนอื่นใช่ไหมล่ะ?"
"แต่ที่พิเศษที่สุดสำหรับฉันคือเธอนะ"
ยูอิลฮานได้พานายูนาไปนอนในเตียงห้องรับแขกและห่มผ้าห่มให้กับเธอ เขาก็ยังเขกหน้าผากของเลียร่าให้เธอใจเย็นลงอีกด้วยเมื่อเขาได้เห็ฯว่าเลียร่ากำลังคิดเหมือนกับจะลอบโจมตีนายูนา
"โอ๊ย"
"ฉันจะออกไปข้างนอกนะ ช่วยเฝ้าระวังกับมิสทิคที่นี่ที"
"ไป? ไปไหนล่ะ?"
ยูอิลฮานได้หยักไหล่ออกมากับคำถามของเลียร่า มันราวกับว่าคำถามที่เธอออกมานี้เป็นสิ่งที่เธอน่าจะรู้อยู่แล้ว
"ก็พวกลี คาเทียน่าอะไรนั่นมันร่วมมือกับกองทัพปีศาจแห่งการทำลายไม่ใช่หรอ? เธอคิดว่าไงล่ะ มันจะมีอะไรอยู่ในค่ายของจักรวรรดินั่นล่ะ?"
"หัวหน้าจักรวรรดิหรอ?"
"นั่นก็ใช่แต่ยังมีอย่างอื่นอีกด้วย"
"มอนสเตอร์?"
"วิวัฒนาการจากมอนสเตอร์ไปอีกนิด"
"...อย่าบอกนะว่านายกำลังจะไปลอบฆ่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูง?"
"..."
ยูอิลฮานไม่ได้ปฏิเสธออกมา นี่คือช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเขา ในตอนนี้สิ่งมีชีวิตชั้นสูงยังไม่ได้กังวลถึงตัวเขา มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะฆ่าพวกมัน
"นาย นั่นมัน..."
เลียร่ากำลังคิดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กัน แต่ว่าพอเธอคิดเร่องนี้จริงๆแล้ว เธอก็พบว่ามันคงไม่มีทางที่ยูอิลฮานล้มเหลวแน่
"เฮ้อ ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะนะ แต่ว่าถ้านายเจอกับคลาส 6 ก็ต้องหนีมาเลยนะ"
"แน่นอนสิ"
"พ่อครับ ผมขอไปด้วยได้ไหม?"
ยูมิลที่นั่งฟังมาตลอดเวลาได้ถามขึ้นในทันที ยูอิลฮานได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบกลับมา
"ได้สิ นี่มันก็ถึงเวลาให้มิลหาประสบการณ์แล้ว"
"อย่าพูดเหมือนกับนายกำลังสอนมิลกินเบียร์ธรรมดาๆสิ!"
"เย้!"
"แล้วเธอก็อย่าไปมีความสุขกับอิลฮานสิมิล!"
ยูอิลฮานกับยูมิลได้ออกไปจากป้อมปราการลอยฟ้าอย่างยินดีโดยไม่สนใจเลียร่าเลย ยูมิลได้เปลื่ยนร่างเป็นมังกรให้พ่อเขานั่งบินออกไป ด้วยความเชี่ยวชาญในการซ่อนตัวของทั้งสองคนที่ผสานเข้าด้วยกันทำให้ไม่มีใครมองเห็นทั้งสองคนได้เลย
"เฮ้อ ในที่สุดคู่หูที่เลวร้ายที่สุดก็รวมทีมกันแล้ว..."
[พวกเขาซ่อนตัวไปได้ยังไงกันทั้งๆที่ฉันยังมองทั้งสองคนอยู่น่ะ!?]
ขณะที่เลียร่าถอนหายใจออกมาและมิสทิคตกตะลึง สองพ่อลูกก็ออกบินไปในจุดหมายปลายทางอย่างต่อเนื่อง
ปลายทางที่พวกเขากำลังไปก็คือจุดที่มีทหารของกองทัพปีศาจแห่งทำลายอยู่รวมกัน 4 ตัวในเบร์ย่า