ตอนที่แล้วตอนที่ 57 ราชาซื่อหยาง กองกำลังซื่อหยาง [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 59 จิตแห่งการต่อสู้ที่รุนแรง (1)

ตอนที่ 58 ธรรมดาเกินไป [อ่านฟรี]


ตอนที่ 58 ธรรมดาเกินไป

หลินกู่เทียน!

เสียงของผู้นำตระกูลดังขึ้นทำให้มีเสียงอึกทึกที่ด้านล่าง โดยเฉพาะสาวกไม่กี่คนที่รู้ความจริงอย่างหลินหรูเยียน หลินเหยียน หลินเทียน หลินป้าว เป็นต้น พวกเขาจึงแสดงความไม่พอใจ เพราะพวกเขาประจักษ์แก่สายตา ว่าในคืนนั้นหลินหานเจิดจรัสในงานชุมนุมชาวยุทย์แห่งเมืองต้วนเทียนมากแค่ไหน ถึงขั้นที่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งหมด จนในที่สุดก็ได้รับนามอันดับหนึ่งแห่งผยองนภาเคียงคู่กับซู่เหอ

ในเวลานี้แม้แต่หลินยู่ หลินฉายและคนอื่นๆที่ยืนอยู่แถวหน้าสุดต่างก็ขมวดคิ้ว แม้ว่าหลินหานและหลินกู่เทียนไม่เคยประมือกันมาก่อน แต่พวกเขาทั้งหมดเข้าใจดีว่าหลินกู่เทียนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินหาน เพราะในงานชุมนุมชาวยุทย์คืนนั้น  หลินหานกับซู่เหอต่อสู้อย่างสูสี แต่หลินกู่เทียนไม่อาจรับการโจมตีเดียวของซู่เหอได้

อย่างไรก็ตาม ผู้นำตระกูลมีอำนาจบารมีสูงสุด และอีกคนที่ยืนอยู่บนสังเวียนคือกองกำลังซื่อหยางในตำนาน พวกเขาเป็นเพียงศฺษย์ต่ำต้อยของตระกูลหลินจึงไม่มีสิทธิ์มีเสียงในเวลานี้

ส่วนหลินฮาน พอได้ยินคำตอบสุดท้ายจากผู้นำตระกูล เขายังไม่มีคลื่นอารมณ์บนใบหน้า ยังคงยืนเงียบในฝูงชนไม่มีโดยที่ใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

"ผู้นำตระกูล!" ในเวลานี้ หลินกู่เทียนมีสีหน้าที่รู้สึกตื่นเต้นมาก เขารีบขึ้นไปบนสังเวียนเป็นตายทันที

“นี่เป็นลูกศิษย์อันดับหนึ่งแห่งตระกูลหลินของเจ้าเหรอ?” ชายเสื้อคลุมสีดำเปล่งเสียงออกมาอย่างช้าๆ

ผู้นำตระกูลพยักหน้าและดึงหลินกู่เทียนไปที่ด้านข้างของเขาทันที พูดว่า "ใช่ กูเทียนได้อันดับหนึ่งในการประลองแห่งทำเนียบภายในมา5ปีติดต่อกัน จึงเป็นลูกศิษย์อันดับหนึ่งแห่งตระกูลหลินอย่างไม่ต้องสงสัย"

"ใช่ เจ้าหนูกู่เทียนคนนี้เป็นราชาในรุ่นาว์ในตระกูลหลินของพวกเราอย่างไม่มีอะไรเคลือบแคลง"

"นายท่านแห่งกองกำลังซื่อหยาง อัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบที่ท่านตามหา ก็คือเขา"

ในเวลานี้ ผู้อาวุโสในตระกูลต่างก็ให้ความสำคัญกับหลินกู่เทียนเช่นเดียวกับผู้นำตระกูล

เมื่อคำพูดนั้นจบลง หลินกู่เทียนเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน ร่างกายของเขาสั่นเบาๆ นี่เขากำลังจะถูกพาตัวไปที่ตำหนักแห่งราชาชื่อหยางในตำนานและอาจจะได้... คำนับราชาซื่อหยางเป็นอาจารย์??

เมื่อเห็นหลินกู่เทียนมีท่าทางตื่นเต้น ร่างกายสั่นเบาๆ ชายหนุ่มชุดคบุมสีดำขมวดคิ้วเล็กน้อย เด็กคนนี้แม้ว่าจะมีความสามารถสูงมาก แต่สภาวะจิตใจยังตื่นตัวแบบนี้คงยากที่จะทำการใหญ่

ในใจฉุกคิดความคิดหนึ่ง ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำจึงพูดว่า "หลินกู่เทียนใช่ไหม?"

“ขอรับ นายท่าน!” หลินกู่เทียนยกมือขึ้นคำนับด้วยความรู้สึกตื่นเต้น

“เจ้าโจมตีข้าโดยใช้วิชาที่ทรงพลังที่สุดของเจ้า!” ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำพูดในขณที่ยืนตรงมือไขว้หลัง

"นี่ ... " หลินกู่เทียนลังเล

"กู่เทียน ขอบข่ายของนายท่านแห่งกองกำลังซื่อหวาง ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถจินตนาการได้ เจ้าต้องใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเอง!" ผู้นำตระกูลเตือนทันที

เขามักจะตั้งความหวังต่อหลินกู่เทียนไว้สูงเสมอ หากหลินกู่เทียนสามารถเข้าสู่ตำหนักแห่งราชาชื่อหยางได้ ตระกูลหลินก็จะพลอยรุ่งโรจน์ไปตามๆกัน ยังไงซะ หลินกู่เทียนก็เป็นศิษย์น่าภาคภูมิใจที่สุดที่เขาเลี้ยงดูมา

"ขอรับ"

หลินกู่เทียนพยักหน้า จากนั้นเขามองไปชายเสื้อคลุมสีดำยืน พูดว่า "นายท่าน ข้าจะโจมตีแล้ว"

"บูม"

พลังงานที่อันทรงพลังแผ่ออกจากร่างของหลินกู่เทียน

เป็นตบะของปรมาจารย์ยุทย์ครึ่งขั้น!

สิ่งนี้ทำให้บรรดาศิษย์ทำเนียบภายในไม่น้อยพากันตกตะลึง หลินกู่เทียนคนนี้มีตบะแก่กล้า ฉากนี้ก็ยังทำให้ผู้นำตระกูลและผู้อาวุโสพอใจจนพากันพยักหน้าเช่นกัน พวกเขามองหลินกู่เทียนไม่ผิดจริงๆ

แต่สำหรับชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำที่อยู่ตรงข้าม เขายังมีสีหน้านิ่งเฉย พูดอย่างใจเย็น "ลงมือซะ"

"ตราวิญญาณมังกรและพยัคฆ์!"

หลินกู่เทียนโจมตีในทันใด สสารถ่องที่แท้พุ่งออกมาบนฝ่ามือ ร่างกายปรากฏรูปลักษณ์ของออร่าเสือและมังกรอย่างลางๆ พลันเสียงมังกรคำราดังก้องทั่วสังเวียนเป็นตาย ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ หลินกู่เทียนโจมตีด้วยพลังทั้งหมด กระตุ้นสสารถ่องแท้จริงในร่างกายอย่างบ้าคลั่ง โจมตีด้วยวิชายุทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา

วิชายุทย์แห่งโชค - ตราวิญญาณมังกรและพยัคฆ์!

"แรงกดดันทรงพลังมาก!"

"พี่หลินกู่เทียนทรงพลังจริงๆ สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะอันดีบหนึ่งแห่งตระกูลหลินของข้า!"

"ปรมาจารย์ยุทย์ครึ่งก้าว คู่ควรกับวิชายุทย์แห่งโชคบทนี้ คาดว่าการโจมตีนี้คงสามารถต่อสู้กับปรมาจารย์ยุทย์สัตตะสวรรค์ได้สักคน"

ด้านล่างสังเวียน บรรดาศิษย์ทั้งหลายและผู้สูงอายุกำลังพูดคุยกันด้วยสายตาที่เปี่ยมความนับถือ

"บูม"

หลินกู่เถียนโจมตีด้วยฝ่ามือไปชายหนุ่มเสื้อคลุมสีดทางด้านตรงข้าม มังกรและเสือส่งเสียงคำราม ก่อให้เกิดลมพายุที่พร้อมจะทำลายราบเป็นหน้ากอง

เวิง!

แต่ในขณะนี้ ชายหนุ่มเสื้อคลุมสีดำจู่ๆก็ยื่นนิ้วออกมาหนึ่งนิ้ว

ใช่ ก็แค่นิ้วเดียว!

ถัดไป ออร่าทรงพลังบนร่างกายของหลินกู่เทียนถูกบดขยี้ทันที นิ้วมือนั้นราวกับว่าหนักถึง500 กิโล ประหนึ่งภูเขาใหญ่กดทับลงมา ทำให้พลังงานทั่วร่างหลินกู่เทียนสลายไป เขากระอักเลือดออกมาอย่างทนไม่ไหว ถอยหลังไปอย่างเร็วด้วยสีหน้าหวาดกลัว

"ชี่!"

เมื่อเห็นฉากนี้ บรรดาศิษย์ซึมกระทื่อในทันใด ชายหนุ่มชุดคลุมสีดำที่ดูธรรมดาคนนี้มีพลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก การโจมตีที่เทียบเท่าปรามาจารย์ยุทย์สัตตะสวรรค์คนหนึ่ง แค่เพียงหนึ่งนิ้วก็เอาชนะหลินกู่เทียนไปทั้งอย่างนี้?

ในพริบตานั้น บรรดาผู้คนต่างมองชายหนุ่มชุดคลุมสีดำด้วยความนับถืสูงสุด

“ธรรมดาเกินไป” ชายหนุ่มชุดคลุมสีดำส่งเสียงพูดในทันใด

"อะไรนะ?"

“ธรรมดาเกินไปเหรอ?”

ผู้ตระกูลและบรรดาผู้อาวุโสในตระกูลที่โอบกอดความหวังต่างตกใจ

ส่วนสีหน้าของหลินกู่เทียนประหนึ่ง "ทา" สีขาว  คำพูดที่สงบและไร้อารมณ์ของชายชุดสีดำ “ธรรมดาเกินไป” ทำให้หัวใจเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นของเขา แปรเปลี่ยนเป็นความกลัวและความสิ้นหวังในทันที

เมื่อครู่ เขายังใฝ่ฝันที่จะเข้าสู่ตำหนักแห่งราชาซื่อหยาง และถึงขั้นวาดฝันจะได้คารวะบุคคลในตำนานอย่างราชาซื่อหวางเป็นอาจารย์ เพื่อจะทะยานขึ้นไปบนฟ้า แต่ตอนนี้คำพูดหนึ่งประโยคที่แสนจะธรรมดาของชายหนุ่มชุดคลุมสีดำคนนี้ ทำให้เขาร่วงหล่นมาจากสวรรค์ตกลงสู่นรก ใบหน้าซีดเซียวในทันที

การปฏิเสธของชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำทำให้ผู้นำตระกูลสื่ออารมณ์น่าเกลียดบนใบหน้า เขากัดฟัน พูดอย่างแข็งขัน "นายท่าน หลินกู่เทียนคนนี้ข้าเป็นคนเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ พออายุ 19 ปีได้ก้าวเข้าสู่ยุทย์ฉะสวรรค์ ตอนนี้อายุยี่สิบสองปี อีกเพียงก้าวเดียวก็จะก้าวสู่ขอบเขตของปรมาจารย์ยุทย์แล้ว หรือว่า นี่ยังไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของนายท่านอีกเหรอ? "

“ข้าบอกว่ามันธรรมดาเกินไป ก็คือธรรมดาเกินไป” ชายหนุ่มชุดคลุมสีดำพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อยในสายตา

"นายท่าน คือ... "

"หุบปาก!"

ผู้นำตระกุลอยากจะลองพูดดิ้นรน แต่เขาถูกชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีดำตะคอกให้หยุด ชายหนุ่มจ้องมองผู้นำตระกูล กล่าวด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม แฝงความเย็นชา "เจ้าสงสัยการตัดสินใจของข้าหรือ?"

"มิกล้า!"

ผู้นำตระกูลโค้งคำนับอย่างยอมรับความผิดทันที ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว หากไปกระตุกต่อมโมโหของกองกำลังซื่อหยางเข้า การที่พวกเขาจะทำลางล้างตระกูลหลินให้สิ้นซากก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมา

"ข้อมูลที่องค์8และองค์9รายงานมีความผิดพลาดเหรอ?" ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำบ่นพึมพำ สายตาของเขากวาดมองศิษย์ทำเนียบภายในด้านล่างสังเวียน

และในขณะที่สายตาของเขาสื่อความผิดหวังเล็กน้อย พร้อมกับกวาดมอง...

"เอ๋?" ทันใดนั้นเขาเห็นร่างของคนคนหนึ่ง เป็นเด็กหนุ่มในชุดสีเขียว ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา แต่ไม่โดดเด่น ทว่า ในสายตาของชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำ ชายหนุ่มในเสื้อสีเขียวนั้นมีรูปร่างสูงโปร่ง ดั่งหอกดุจกระบี่ ดวงตาสว่าง ประหนึ่งกำลังระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า ดูเหมือนจะซุ่มซ่อนพลังเอาไว้อย่างเจตนา แต่ไม่สามารถปกปิดความเจิดจรัสที่เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่นั้นได้

"ต้นกล้าดี!" ชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีดำส่งเสียง

"อะไรนะ?"

"ต้นกล้าดีเหรอ?"

ผู้นำตระกูลและผู้อาวุโสของตระกูลทั้งหลายต่างตกตะลึง พวกเขามองไปตามสายตาของชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำ พลันมองเห็นร่างชายหนุ่มในเสื้อสีเขียวที่คุ้นเคย

หลินหาน!

ผู้นำตระกูลตกตะลึงทันที ดวงตาเผยความงุนงง นายท่านแห่งกองกำลังซื่อหวางคนนี้เล็งเด็กหนุ่มอัจฉริยะจากสาขาหรือ?

เพราะเขายังไม่ทราบ ว่าหลินหานได้สมญานามอันดับหนึ่งแห่งผยองนภาในงานชุมนุมชาวยุทย์แห่งเมืองต้วนเทียนเมื่อหลายวันก่อน  ดังนั้น ในครานี้เขาจึงรู้สึกงุนงงมากและสับสนเกี่ยวกับการเลือกชายหนุ่มในชุดดำ เพราะในสายตาของเขาหลินหานโดดเด่นก็จริง แต่ยังไม่ดีเท่าหลินกู่เทียนที่เขาชุบเลี้ยงจนเติบใหญ่มากับมือ

"นายท่าน ท่าน ... มองผิดหรือเปล่า นี่ ... " ผู้นำตะกูลพยายามอธิบายอะไรบางอย่าง

แต่ในวินาทีต่อมา ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำเดินลงจากสังเวียนเป็นตายทันทีโดยไม่สนใจเขา เมื่อเห็นสิ่งนี้ สีหน้าของผู้นำตระกูลกลายเป็นสีขาวและแดงในทันใด

แต่หลินหานในเวลานี้ จ้องมองชายหนุ่มในชุดดำที่ก้าวเข้าหาตัวเองทีละก้าวทีละก้าว

กองกำลังซื่อหยาง ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ

………………………………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด