DC บทที่ 170: ความพยายามที่ไร้ผล (ฟรี)
DC บทที่ 170: ความพยายามที่ไร้ผล
หลังจากที่บรรจุแหวนมิติด้วยวัตถุดิบสำหรับการปรุงยาเสริมปฐพีอย่างเพียงพอสำหรับสองสามวันต่อไปข้างหน้าแล้ว ซูเมิ่งอี้ก็ทำการชำระล้างร่างกายก่อนที่จะกลับไปยังที่พักของซูหยาง
ครั้นเมื่อเธอเข้าไปในห้องปรุงยา ซูเมิ่งอี้ไม่ได้เสียเวลาและเริ่มทำการปรุงยาทันที
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในชั่วขณะที่เหมือนเพียงเธอกระพริบตา เวลาก็ผ่านไปทั้งวันแล้ว
ในวันแรก ซูเมิ่งอี้ได้ทำการปรุงยาเสริมปฐพีสี่เม็ดโดยปราศจากความผิดพลาดใด แต่พวกมันล้วนออกมาเป็นยาคุณภาพปานกลางและมีเม็ดสุดท้ายที่เป็นยาคุณภาพต่ำเนื่องมาจากความล้าจากการปรุงยาระดับสวรรค์จำนวนมาก
ครั้นเมื่อวันแรกสิ้นสุด ซูเมิ่งอี้ก็ไม่ได้จากสถานที่นี้ เธอตัดสินใจที่จะนอนที่ห้องปรุงยา อีกทั้งทำเหมือนกับว่าบ้านของซูหยางเป็นบ้านของเธอเอง
แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตระหนักว่ามีผู้อาศัยคนอื่นอีกสองคนในบ้านหลังนี้นอกจากซูหยาง และเข้าใจผิดว่ามีเพียงพวกเขาสองคนอาศัยอยู่ด้วยกันในที่พักแห่งนี้
“ฮี่ฮี่...นี่คงเป็นความรู้สึกเช่นเดียวกันกับหากเราอาศัยอยู่ด้วยกันดังเช่นสามีภรรยาแน่ๆ” ซูเมิ่งอี้ฝันกลางวันอยู่ในห้องอาบน้ำขณะที่ชำระร่างกาย
ในเวลานั้นในห้องข้างๆห้องซูหยาง ชิวเยวี่ยลืมตาขึ้นหลังจากที่เธอเสร็จสิ้นกระบวนการฝึกวิชา
“ฮ้าาา…” ชิวเยวี่ยถอนหายใจเมื่อเธอฝึกวิชาเสร็จแล้ว ดูราวกับว่าท้อใจกับผลลัพธ์ “ไม่ว่าข้าจะพยายามให้กำลังใจตนเองแค่ไหน มันก็มิอาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่ามันไร้ประโยชน์สำหรับคนที่มีพลังการฝึกปรือระดับข้าที่จะฝึกฝนวิชาในโลกนี้”
“ปราณไร้ลักษณ์ในโลกนี้แทบมิต้องกล่าวถึง กระทั่งวิชาฝีมือที่เหนือชั้นของข้า คุณภาพของมันแย่มากเกินที่จะมีประโยชน์สำหรับข้า”
กระทั่งใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงฝึกวิชาอย่างหนักหน่วง วิชาฝีมือของเธอก็ยากจะก้าวหน้าแม้จะมีเพียงสักนิด ด้วยความเร็วระดับนี้ ต่อให้เธอฝึกวิชาไปอีกร้อยปีโดยไม่พัก เธอก็ยังไม่มีปราณไร้ลักษณ์มากพอที่จะสนับสนุนให้ผ่านไปอีกระดับได้ อย่าว่าแต่เขตต่อไป
แม้ว่าเธอยังคงจะมีทรัพยากรมากมายที่สามารถใช้ดูดกลืนเป็นปราณไร้ลักษณ์ วิธีนั้นก็ใช้ได้เพียงไม่นานก่อนที่เธอจะใช้มันจนไม่มีเหลือ
อีกนัยหนึ่ง ไม่ว่าเธอจะฝึกวิชาหรือดิ้นรนทางใดก็ตาม ความพยายามทั้งหมดของเธอล้วนมีแต่ความล้มเหลว
“ทำไมสวรรค์จึงช่างโหดร้าย หรือเป็นเพราะข้าทำอะไรล่วงเกินในช่วงชีวิตก่อน” เธอถอนหายใจอีกครั้งก่อนที่จะลุกจากเตียงและออกจากห้องเพื่อไปสูดรับอากาศบริสุทธิ์
อย่างไรก็ตามทันทีที่เธอก้าวออกจากห้องของเธอ ชิวเยวี่ยพลันเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงุนงง
มีบางสิ่งแปลกไปกับสถานที่นี้ มีบางคนที่เธอไม่รู้จักอยู่ในห้องน้ำ
และโดยการใช้สัมผัสวิญญาณ ชิวเยวี่ยก็แอบมองเข้าไปในห้องน้ำ
“ลูกสาวเจ้าสถาบันหญิง เธอมาทำอะไรในสถานที่แห่งนี้ กระทั่งอาบน้ำราวกับนี่เป็นห้องของเธอ”
ชิวเยวี่ยจดจำได้ทันทีว่า ซูเมิ่งอี้เป็นลูกสาวเจ้าสถาบันหญิงซู ว่าไปแล้วชิวเยวี่ยก็เคยอยู่ที่นี่มาก่อนและเคยพูดคุยกับเธอเป็นบางครั้งในอดีต
ทันใดนั้นเอง เธอก็รับรู้ได้ถึงคนอื่นอีก
ชิวเยวี่ยหันกายไปพบกับซูหยางยืนอยู่ห่างออกไปจ้องมองเธอด้วยด้วยดวงตาหรี่แคบพร้อมรอยยิ้มลึกลับ ดูค่อนข้างน่าหวาดหวั่นในสายตาของเธอ
“อ-อะไรหรือ” เธอถามเขาด้วยลางสังหรณ์ร้ายในใจ
“อืมม ไม่มีอะไร” ซูหยางพูดอย่างง่ายๆ ไม่ปล่อยให้เธอรู้ว่าเขาพบความลับของเธอแล้ว
ตามจริงแล้ว เขาต้องการเห็นว่าเธอต้องลำบากยากนานอีกเพียงใดในการเก็บความลับนี้ไว้จากเขา
“ข้ามิเชื่อท่าน” ชิวเยวี่ยกล่าวพร้อมหรี่ตา
พลันนั้นเอง เธอคิดถึงซูเมิ่งอี้และตระหนักถึงเหตผลเดียวที่ทำไมอีกฝ่ายจึงมาอยู่ที่นี่…
“ข้าคงมิต้องถาม” ชิวเยวี่ยส่ายหน้าและกล่าว “เช่นนี้เป็นว่าเด็กหญิงจากสำนักเทพกระบี่คงมิเพียงพอสำหรับท่าน หึ ข้ารู้สึกแย่กับเธอทั้งคู่”
“อะไรกัน” ท่าทางซูหยางเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “ข้ามิได้แตะต้องเธอ หรือมีแผนการที่จะทำเช่นนั้น”
“มิต้องกังวล นั่นมิได้รบกวนข้าแม้ว่าท่านจะทำเช่นนั้น มิใช่ในตอนนี้”
"..."
ซูหยางไร้คำพูด
ดังนั้นชิวเยวี่ยจึงกล่าวต่อว่า “เฮ้..ข้าต้องการพัฒนาพลังการฝึกปรือของข้า แต่ด้วยเหตุที่เห็นได้ชัดเจน มันไม่กระเตื้องขึ้นแม้สักนิด ข้าควรทำอย่างไร ท่านเป็นถึงเซียนในชีวิตก่อน ใช่ไหม” เธอตัดสินใจถามหาคำแนะนำจากเขาซึ่งเป็นเซียน
ได้ยินคำถามของเธอ ซูหยางหัวเราะหึและกล่าวตอบด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นเช่นนั้นจริง ข้าเคยเป็นเซียน แต่ว่าข้าแทบจะมิได้ฝึกวิชาแบบปกติ เจ้าคงรู้ว่าข้าหมายความว่าอย่างไร”
"..."
ชิวเยวี่ยกลับเป็นฝ่ายไร้คำพูด
“อย่างไรก็ตาม ถ้าจะกล่าวไป นั่นก็ยังมีจุดคล้ายคลึงระหว่างวิธีการฝึกวิชาของเจ้าและของข้า เพียงแต่ว่าเจ้ามิอาจพัฒนาด้วยขาดปราณไร้ลักษณ์ที่พอเพียงในอากาศ ข้าก็มิสามารถเพิ่มพลังการฝึกปรือได้เช่นกันถ้าหากว่าคู่ฝึกของข้าทั้งหมดมีพลังการฝึกปรือต่ำ”
“ถ้าเราอาศัยอยู่ในโลกนี้นานเกินกำหนด เช่นนั้นพลังการฝึกปรือของข้าจักไปถึงจุดที่ข้ามิอาจจะพัฒนาต่อไปได้แม้ว่าข้าฝึกปรือกับหญิงสาวทั้งหมดในโลกนี้ และนั่นก็เป็นปัญหาที่กระทั่งข้าก็มิอาจแก้ไขได้”
“อย่างไรก็ตาม ข้าก็กำลังพยายามมิให้เกิดเรื่องเช่นนั้น สำหรับตอนนี้ได้เพียงแต่อดทนจนกว่าเราได้กลับไปยังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่”
หลังจากฟังคำของเขาแล้ว ชิวเยวี่ยได้แต่ทอดถอนใจ ด้วยความสัตย์จริง เธอมิได้สนใจเกี่ยวกับพลังการฝึกปรือของเธอ เหตุผลเดียวที่เธอพยายามเพิ่มพลังการฝึกปรือก็เพราะว่าเธอต้องการฝึกฝนร่วมกับเขา
“ต้องการหลับนอนกับเขาถึงขนาดนี้ ข้าคงกลายเป็นคนลามกอีกประเภทแน่…” เธอคิดในใจ
“ข้ากำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย” เธอพลันกล่าวกับเขา
เวลาต่อมา ซูเมิ่งอี้ก็ออกจากห้องน้ำด้วยท่าทางสดชื่นและร่างกายที่สะอาดส่งกลิ่นหอมฟุ้ง
“มาเริ่มกัน” เธอให้กำลังใจตนเองขณะที่เธอกลับไปยังห้องปรุงยา
วันนี้เป็นวันสุดท้ายสำหรับเธอที่จะปรุงให้ได้ยาไร้ตำหนิ หรือไม่ก็เธอไม่อาจกลับมาได้อีกแล้ว บางสิ่งที่เธอต้องหลีกเลี่ยงในทุกกรณี
ทันทีที่เธอเข้าไปในห้องปรุงยา ซูเมิ่งอี้เริ่มปรุงยาเสริมปฐพีด้วยเจตนาที่จะปรุงยาไร้ตำหนิให้ได้ในวันนี้