บทที่ 220 - ฉันมาหาเธอแล้ว (4) [22-10-2019]
บทที่ 220 - ฉันมาหาเธอแล้ว (4)”
[คุณได้รับคลาสรองนักท่องมิติ ทรัพยากรที่ใช้ในระหว่างการเทเลพอตข้ามมิติลดลง 20% และหากไปในมิติที่เคยไปมาก่อนจะใช้ทรัพยากรลดลงอีก 5%]
[คุณได้รับสกิลติดตัวการปรับตัวของนักท่องมิติ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในมิติใดคุณก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากมิตินั้นๆ และเมื่อเลเวลสกิลนี้เพิ่มขึ้นความเข้าใจในมิติของคุณจะเพิ่มมากขึ้นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น]
[คุณได้รับสกิลติดตัวคำสั่งกองทัพเรือข้ามมิติ ในตอนที่คุณเทเลพอตข้ามมิติ คุณสามารถจะเลือกสมาชิกในกองทัพเรือข้ามมิติของคุณได้ สมาชิกของกองเรือข้ามมิติที่ถูกเลือกจะสามารถข้ามมิติไปกับคุณโดยที่ไม่ต้องเสียทรัพยากรใดๆเพิ่มและอาจจะได้รับผลจากสกิลการปรับตัวของนักท่องมิติเช่นเดียวกันกับคุณ]
[คุณได้รับสกิลใช้งานจ้าวแห่งมิติ เมื่อคุณได้อยู่ในมิติใดมิติหนึ่งเป็นเวลานาม คุณจะสามารถจะรับรู้ถึงผู้ที่พยายามจะเข้ามาในมิติและสามารถจะยับยั้งการเข้าได้ โอกาสในการยับยั้งสำเร็จจะขึ้นอยู่กับเลเวลของสกิลและความสามารถใหม่ๆที่คุณอาจจะได้รับมา]
คลาสนักท่องมิติที่ยูอิลฮานเพิ่งจะได้รับมานี้แตกต่างอย่างมากกับคลาสอื่นๆที่เขาเคยได้รับมา นี่นับได้เลยว่าเป็นการเปิดเส้นทางใหม่สู่โลกกว้างของยูอิลฮาน เขาก็ยิ่งรู้สึกได้ว่ากำแพงที่ขวางกั้นเขาไว้ได้หายไป
เลียร่าที่มองดูยูอิลฮานอยู่ก็ยังดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงพลังที่ยูอิลฮานได้รับมา
"พลังมหาศาลแบบนี้เป็นของคลาสรองแน่หรอ นี่มันไม่ใช่คลาสหลักหรอกหรอ...?"
"เคยมีคนได้คลาสแบบนี้เป็นคลาสหลักงั้นหรอ?"
"ไม่ ไม่เลย ไม่มีทั้งคลาสรองหรือคลาสหลัก อย่างน้อยที่สุดในความรู้ของฉันก็ไม่เคยมีคนมีคลาสแบบนี้มาก่อน"
"เข้าใจแล้ว"
ความสามารถที่สำคัญที่สุดท่องมิติได้หายไป แต่ว่าสำหรับยูอิลฮานแล้วนี่ไม่ใช่ปัญหาเลยเนื่องจากว่าเขามีความสามารถนั่นอยู่แล้ว ไม่สิที่ยูอิลฮานได้รับคลาสรองนี่มาก็เป็นเพราะสกิลข้ามมิติของเขาต่างหาก
เขาชอบในพลังของคลาสนี้ของเขามาก ก่อนหน้านี้ทรัพยากรที่ใช้ในการข้ามมิติมันกวนใจของเขามาตลอดเวลาแต่ในตอนนี้จำนวนทรัพยากรได้ลดลงมาอย่างมากในทันที
"คลาสนี่มันน่าทึ่งมาก..."
"แน่นอนสิ นอกไปจากนี้นี่ยังเป็นคลาสของที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยอีกด้วย ฉันไม่รู้เลยว่าจะมีความสามารถอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกในอนาคต..."
หลังจากพูดแบบนี้เธอก็มองไปที่ยูอิลฮาน และอยู่ๆเธอก็เอียงหัวสงสัย
"แต่นายก็ยังไปที่โลกอื่นไม่ได้สินะ?"
"ไม่หรอก ฉันไปได้"
เหตุผลที่เขายอมรับกองทัพเด็กเข้ามาและกำลังจะทำอุปกรณ์ให้เด็กๆทุกคนนันก็เพราะว่ายูอิลฮานมีความสามารถในการไปโลกอื่นยังไงล่ะ เลียร่าได้แต่สงสัยขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
"ไม่ใช่ว่านายเคยพูดว่านายมีข้อมูลไม่พอหรอกหรอ...?"
"ใช่ ฉันเคยพูดแต่มันสำหรับในตอนนี้"
ยังไงก็ตามนั่นไม่ใช่ในตอนนี้ ตอนนี้ยูอิลฮานมีสกิลบันทึกแล้ว ข้อมูลรายละเอียดทุกๆอย่างที่ยูอิลฮานเคยไปมาจะถูกสลักลึกลงไปในแก่นแท้ของเขา ดังนั้นแค่ของมูลในการท่องมิติไม่นับเป็นอะไรเลยสักนิด
"สำหรับในตอนนี้มีโลกอยู่ 32 โลกที่ฉันไปได้ ถ้าหากว่าฉันได้พบร่องรอยของมนุษย์โลกอื่น จำนวนโลกที่ไปได้ก็น่าจะเพิ่มขึ้นอีก"
แต่แน่นอนว่ายูอิลฮานก็ไม่ได้มีแผนที่จะไปค้นหาที่โลกอื่นๆแบบสุ่มๆ เพราะต่อให้เขาพาคนบนโลกกลับมาก็จะไม่มีความหมายอะไรหากว่ามีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งโผล่ขึ้นมาและกำจัดคนอื่นไปในระหว่างที่เขาไปอยู่โลกอื่น! นอกไปจากนี้มันยังเป็นไปไม่ได้อีกด้วยที่จะขนส่งคนเป็นล้านคน
"ถ้างั้นนายกำลังจะทำอะไรล่ะ"
คำถามของเลียร่าสมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ที่เธอกลับมาอยู่ในคลาส 4 เธอก็ยังคงอยู่เคียงข้างยูอิลฮานตลอด ยูอิลฮานจึงได้เลือกสมาชิกกองเรือของหมายเลขหนึ่งของเขาเป็นเธอและตัดสินใจแผนการในอนาคตของเขาให้กับเธอ
"ฉันคิดว่านี่มันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญแน่ๆ... สิ่งที่ฉันได้วางแผนจะทำได้มาพร้อมกับการได้รับคลาสของฉันในตอนนี้"
ยูอิลฮานได้วางแผนที่จะใช้ความสามารถในการข้ามมิติของเขาไปในโลกต่างๆนับไม่ถ้วนและสร้างองค์กรบางอย่างของคนที่ต้องการที่จะกลับมาที่โลกและยินดีมีส่วนช่วยในการพัฒนาโลกกลับมาเหมือนเดิมขึ้นมา เขาจะใช้การข้ามมิติไปในหลายๆโลกเพื่อเพิ่มจำนวนคนพวกนี้ขึ้นมา ทั้งการช่วยคนพวกนั้นจากวิกฤต และกระตุ้นการเติบโตของโลกหลังจากการกลับมา! เลียร่าที่ได้ยินคำพูดของเขาได้อุทานออกมากับคำพูดนี้ของเขา
"นายกำลังคิดที่จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงคนบนโลกทุกคน...?"
"โลกจะต้องอยู่ในสภาพปิดตัวไปตลอดก่อนที่มันจะก้าวเข้าไปในโลกระดับสูง แน่นอนว่าฉันก็ไม่น่าจะเจอทุกๆคนได้ ยังไงก็ตามฉันจะพยายามให้ดีที่สุด ... ตอนนี้ฉันเบื่อกับการต้องมาอยู่คนเดียวแล้ว"
การเข้าไปเชื่อมต่อกับโลกอื่นๆอย่างต่อเนื่องก็ยังจะทำให้ตัวโลกใบนี้พัฒนาเร็วยิ่งขึ้นไปอีกด้วย ทุกๆการกระทำของยูอิลฮานจะเป็นการกระตุ้นให้โลกไปสู่โลกระดับสูงได้เร็วยิ่งขึ้น นี่เป็นเหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
แน่นอนว่านี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับยูอิลฮานเช่นกัน เพราะว่าการที่โลกพัฒนาเร็วขึ้นจะทำให้มีมอนสเตอร์มากพอให้เขาล่าเก็บเลเวลด้วยเช่นกัน!
"...แล้วถ้ามันถึงตอนนั้นก็คงจะยุ่งมากเลยสินะ"
"ใช่แล้วล่ะ"
"ถ้างั้นเราก็ต้องตระเวนไปทั่วโดยไม่มีเวลาพักเลยใช่ไหม? ไม่มีเวลาได้ผ่อนคลายเลยสินะ?"
"อาจจะนะ"
เจ้าคนบ้างานนี้! เลียร่าได้ห้ามใจตัวเองเอาไว้ไม่ให้พุ่งเข้าไปเขกกระโหลกยูอิลฮานและกัดฟันถามเขาออกไป
"อิลฮาน แล้วตอนนี้นายกำลังจะทำอะไรล่ะ?"
"ฉันบอกว่าฉันกำลังจะสร้างเครื่องประดับที่เราจะใช้ไปแล้วนี่ หลังจากนั้นฉันก็จะทำอุปกรณ์ไว้ให้เด็กๆจากข้อมูลพื้นฐานที่ได้มา และจากนั้นสุดท้ายก็ไปที่โลกอื่น..."
ระหว่างยูอิลฮานกำลังพูดถึงตารางงานของเขาที่แน่นอย่างมาก เลียร่าก็ได้จับที่ข้อมือของเขา พอยูอิลฮานหันไปมองที่เธอ เลียร่าก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
"เรามาพักกันสักหน่อยเถอะ"
"ฉันไม่แน่ใจหรอกนะว่าฉันอยากจะพักไหม แต่ว่าพอเห็นสายตาที่น่ากลัวของเธอแล้ว..."
"อ๊ากกกก เพราะการตกลงมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแบบฉับพลันทำให้ฉันไม่มีแรงเลย โอ๊ย ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นลมอยู่แล้ว ฉันคิดว่าฉันคงจะต้องฟื้นฟูผิวก่อนที่จะแห้งอีก ฉันคิดว่าฉันจะต้องไปนอนหลับบนเตียงลึ้งๆซะแล้วสินี่"
เธอนี่แสดงได้แย่เกินไปไหม? ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมาและตอบเธอกลับไป
"ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันรู้แล้วล่ะว่าเธอเลย ในเร็วๆนี้ฉันยังไม่ได้ต้องการให้เธอช่วยด้วย เธอไปพักเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปพักทีหลัง"
"ไม่ ฉันจะไปนอนพักผ่อนกับนาย"
"หา?"
เลียร่าได้ออกแรงดึงข้อมือของยูอิลฮาน เขาที่สัมผัสได้ถึงอันตรายได้พยายามจะสลัดเธอออกไปแต่ก็ทำไม่ได้เลย สายตาของเลียร่าได้ส่องประกายความลึกลับออกมา
"ฉันจำที่ฉันพูดถึงการลงโทษในตอนที่นายหลอกฉันสามครั้งได้ไหมล่ะ?"
"จะ จำได้"
เลียร่าได้ดึงเขาและประกาศออกมา
"ฉันโกหก"
"อว๊าาาาากกกกกกกก!"
เด็กๆยังคงดื่มด่ำไปกับเครื่องเล่นอยู่ และยูมิลที่ชอบอยู่ข้างกายยูอิลฮานเสมอก็กำลังไปหลงไหลอยู่กับอุปกรณ์ใหม่อยู่ นี่แหละคือโอกาสที่ดีที่สุด
หากเธอปล่อยโอกาสนี้ทิ้งไปนั่นก็หมายความว่าเธอจะต้องรอยคอยไปอีกหลายปีกว่าสถานการณ์แบบนี้จะมาถึง เลียร่าจึงเลือกที่จะไม่ลังเล เธอคือสัตว์ร้ายที่จะไม่ยอมเสียเวลาเปล่า! มิสทิคกับโอโรจิที่ดูฉากๆนี้มาตลอดก็ยังอุทานออกมา
[ผู้หญิงคนนี้ ความปรารถนาของเธอพุ่งพล่านออกมาหลังจากกลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำสินะ]
[นี่เป็นภาพที่น่าสนใจมาก ในที่สุดฉันก็ได้เห็นนายท่านถูกจัดการแล้ว]
ในตอนนี้เลียร่าได้ตกลงมาในคลาส 4 แล้ว ยูอิลฮานสามารถใช้กำลังหยุดยั้งเธอได้ แต่ยังไงก็ตามยูอิลฮานไม่กล้าจะทำแบบนั้นเพราะเขากังวลว่าเลียร่าอาจจะไม่เป็นอะไรกับการต่อต้านเขาและลงโทษเขาหนักกว่าเดิม ผู้ชนะในครั้งนี้ชัดเจนอย่างมาก
"แค่สองชั่วโมง ไม่สิสาม... หกชั่วโมงเลยดีกว่า"
"มันกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลยนะ!"
"ใช่แล้วสำหรับลูกคนแรกเป็นลูกสาวก็ดีนะ นายคิดว่าเราควรตั้งชื่อว่าอะไรดีล่ะ?"
"เธอจะรีบไปแล้ว!"
ยูอิลฮานที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องความรักเลยได้คิดว่านี่เป็นเรื่องที่เร็วมากๆ แต่กับเลียร่าที่รอมาเป็นร้อยปีแล้วแค่รอยประทับที่ริมฝีปากมันไม่พอที่จะคลายการเฝ้าคอยตลอดร้อยปีของเธอได้
นอกไปจากนี้ยังมีคนอีกมากที่ชอบในตัวยูอิลฮานรวมไปถึงทูตสวรรค์อย่างเอิลต้าด้วย แถมในตอนนี้เธอยังมีคลาสสูงกว่าเธอ รวมไปถึงมนุษย์อย่างนายูนากับคังมิเรย์ด้วย! หากแค่นั้นจะทำให้เธอโล่งใจแล้ว เธอก็คงจะไม่รู้เลยว่าจะถูกพวกนั้นแย่งเขาไปตอนไหน
เธอไม่อาจจะอยู่เฉยๆเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ในตอนนี้มันถึงเวลาที่เธอจะต้องเริ่มจู่โจมแล้ว
"แล้วก็นี่มันไม่โรแมนติกเลยเหมือนกันนะ อ๊า...!"
นายรู้จักคำว่าโรแมนติกด้วยงั้นหรอ? นายนี่น่ารักจริงๆเลยน้า - เลียร่าได้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้
ยังไงก็ตามมันก็แค่นั้นแหละ
"โรแมนติกงั้นหรอ"
เลียร่าได้มองดูว่าไม่มีใครอยู่รอบๆก่อนที่จะลากยูอิลฮานเข้าไปในห้องนอนและตอบยูอิลฮานไปด้วยเสียงที่มีแค่เขาเท่านั้นที่ได้ยินก่อนที่เธอจะปิดประตูลง
"นั่นเป็นสิ่งที่เราสร้างกันได้"
***
"อว๊าาาากกกกก!"
"หมุนติ่วๆ! หมุนเลย หมุน! ว๊ากก!"
[ว้าว กรงเล็บของผมกำลังขนาดใหญ่ขึ้น!]
เด็กๆต่างก็เพลิดเพลินไปกับสวนสนุกของป้อมปราการลอยฟ้ายู่เป็นชั่วโมงและเป็นวัน ยูมิลก็ยังบินไปทั่วเพื่อทดสอบในขีดจำกัดของอุปกรณ์ใหม่เขาโดยไม่รู้ถึงเวลาที่ผ่านไปเลย
[อ๊าา... ตายไปซะ! ตายไปเลย! ฉันไม่ได้ยิน ฉันไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น! ตายยย!]
[...]
มิสทิคได้ตั้งใจจัดการกับปีศาจที่โผล่ขึ้นมายนโลกโดยที่พยายามไม่สนใจเสียงที่เธอได้ยินในหู ในขณะเดียวกันโอโรจิได้ปิดหูปิดตาและตกลงไปสู่สมาธิ
ยูอิลฮานกับเลียร่าได้ 'พักผ่อน' กับเสร็จหลังจากที่ผ่านไปได้ 3 วัน นี่มันมากกว่าเวลาเดิมที่คุยกันไว้ว่า 6 ชั่วโมงอย่างมาก
"เธอพอใจยัง?"
"...พอใจแล้ว"
"ถ้างั้นก็ไปพักซะ นับจากนี้ฉันจะไปทำงานของฉันแล้ว"
"โอเค"
เลียร่าไม่ได้คิดจะหยุดยูอิลฮานแล้ว เธอคิดเพียงแค่ว่าภาพร่างกายของเขาที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อนั้นดูเซ็กซี่มากๆ
จริงๆแล้วเธอก็ยังอย่างจะป่าวประกาศออกไปให้ทั่วอีกด้วย แต่โลกในตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย เธอจริงได้แต่คอยให้ยูอิลฮานไปหาคนเหล่านั้น
[ตาย ตา... จบแล้วงั้นหรอ?]
[เธอนี่น่ารำคาญจริงๆเลยสิ่งก่อสร้าง]
หลังจากเลียร่าไดไปพักยูอิลฮานก็ได้เข้ามาในห้องทำงานของเขา และจากนั้นมิสทิคกับโอโรจิก็ได้เริ่มคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ในตอนนี้พวกเขาเหนื่อยเกินที่จะโกรธแล้ว
[นายท่านไม่เหนื่อยลเยหรือไงนะ...?]
"ฉันยังได้ค้นพบสิ่งหนึ่งด้วย"
ยูอิลฮานได้จับค้อนขึ้นมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่จะพูดขึ้น
"ขอบเขตผลของการฟื้นฟูเหนือมนุษย์ไร้ขีดจำกัด"
[...]
[...]
แม้แต่มิสทิคกับโอโรจิก็ยังพูดไม่ออกหลังจากได้ยินคำนี้
"เอาล่ะ ถ้างั้นก็กลับมาทำงานดีกว่า"
[คนๆนี้น่าทึ่งจริงๆ]
[ถึงฉันจะอึดอัดมากๆ แต่ฉันกคงได้แต่เห็นด้วยกับเธอในเรื่องนี้...]
ยูอิลฮานได้ใช้วัตถุดิบคลาส 5 ที่เหลืออยู่มาทำเป็นเครื่องประดับสำหรับตัวเขา เลียร่าและยูมิล ในตอนนี้เขาอยู่คลาส 4 แล้ว ขีดจำกัดในการใส่เครื่องประดับของเขาก็คือ 6 อัน ยูมิลกับเลียร่าก็เหมือนกันดังนั้นเขาจะต้องทำเครื่องประดับทั้งหมด 18 อัน
มี 4 อันที่เป็นระดับโกลาหล 5 อันเป็นระดับมหากาพย์ และส่วนที่เหลือเป็นระดับตำนานทั้งหมด
"หืม ด้วยเหมือนว่าทั้งหมดนี้จะทำให้การฟื้นฟูมานาของฉันไปถึง 400%..."
[การกำลังพูดสิ่งที่น่าทึ่งเหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดาเลยนะ]
ความสามารถของเครื่องประดับโดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่มานาเป็นหลัก ไม่ใช่แค่เพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูมานาเท่านั้น แต่ยังเพิ่มขีดจำกัดของมานาสูงสุดและมีแม้กระทั่งฟังก์ชั่นในการเก็บมานาเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย
วัตถุดิบคลาส 5 นี่เข้ากันได้ดีกับมานามากดังนั้นจึงไม่ยากเลยที่เขาจำทำในสิ่งที่ต้องการขึ้นมาได้
"เอาล่ะ ถ้างั้นก็ถึงเวลาสร้างอุปกรณ์ให้เด็กๆแล้ว"
[การสร้างชุดเกราะกับอาวุธให้เด็กทั้ง 9,300 คนจะต้องใช้เวลานานขนาดไหนกันนะ...?]
[ถ้าเป็นนายท่านก็คง 4 วันล่ะมั้ง?]
"เฮ้ อุปกรณ์พวกนี้ไม่ใช่ของผลิตจำนวนมากนะ แต่เป็นอุปกรณ์ปรับแต่งเฉพาะบุคคล ดังนั้นมันจะใช้เวลายาวกว่านั้นอีก ฉันคิดว่าคงสัปดาห์นึงได้มั้ง?"
หากมีใครมาได้ยินคำพูดนี้ก็คงตกตะลึงจนพูดไม่ออกแน่ แต่จู่ๆแล้วยูอิลฮานก็เงยหน้าขึ้นมา
"ชิ เวลาเหมาะเลย"
[เวลาอะไรล่ะ?]
"เวลาสำหรับเหตุการณ์ใหม่ไงล่ะ"
ยูอิลฮานได้วางมือจากการสร้างของในทันทีที่เขาพูดจบ สิ่งที่เขาทำนั้นเรียบง่ายมาก แต่ทั้งป้อมปราการลอยฟ้ากลับเริ่มสั่นไหว
"หืม?"
"กรี๊ดด!"
[พ่อครับ?]
"...นั่นมันอะไรนะ?"
เด็กๆที่กำลังมีความสุขกับเครื่องเล่น ยูมิลที่กำลังฝึกใช้อาวุธใหม่ซ้อมต่อสู้ รวมไปถึงเลียร่าที่กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข ทุกๆคนได้ตกใจยืนขึ้นมาในทันที
[อะ อะไรน่ะ?]
มิสทิคได้เป็นตัวแทนในการถามออกมา ยูอิลฮานที่มือยังคงจับกำแพงอยู่เลยพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่ดังไปทั่วทั้งป้อมปราการ
"เวลาพักผ่อนจบลงแล้ว ตอนนี้พวกเรากำลังจะมุ่งหน้าไปสู่เบร์ย่าแล้ว"
ใรตอนนี้อุปกรณ์สื่อสารที่อยู่นิ่งในกระเป๋าของเขามาตลอดเวลา 3 ปีกำลังสั่นไหมและส่องแสงออกมาอย่างบ้าคลั่ง
สัญญาณนี้เป็นสัญญาณที่มาจากนายูนาอย่างแน่นอน