ตอนที่ 140 ความตาย
หัวของซือถูฉิงเยวี่ยกระเด็นขึ้นไปในอากาศพร้อมกับสายตาที่เบิกกว้างด้วยความไม่น่าเชื่อ
แม้ว่าเจียงวู่เฉิงจะอยู่ในขั้นอาณาแก่นทองคำ แต่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขานั้นน่ากลัวมาก ในป้อมปราการสายน้ำเขาต่อสู้กับนักฆ่าหน้ากากม่วงและสังหารเขาได้ในเวลาเดียวกัน
แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในขั้นระเบิดหยิงหยาง แต่เขาก็มีพลังที่มากกว่านักรบปกติที่อยู่ในขั้นนั้น เพียงแค่กรงจะขังเขาได้อย่างไร
"ท่านประมุข!"
"ท่านประมุข!"
เมื่อเห็นหัวของประมุขซือถูลอยอยู่ในอากาศ นักรบทั้งหมดของตระกูลซือถูทุกคนในบริเวณนั้นก็หวาดกลัวอย่างมากและไม่มีใครกล้าที่จะก้าวออกไป
หลังจากหันไปรอบๆ เจียงวู่เฉิงเดินเข้าไปในกรง เขาพังกรงขังด้วยดาบของเขาและปรากฏตัวต่อหน้าจื่ออู่เยวี่ย
"ท่านป้า"เสียงของเจียงวู่เฉิงสั่นไหว
จื่ออยู่เยวี่ยนั่งอยู่เฉยๆ จนกระทั่งนางได้ยินเสียงของเจียงวู่เฉิงเรียกนาง ดวงตาของนางส่องประกายเล็กน้อย
"เจ้าคือ....เจียงวู่เฉิง?"จื่ออู่เยวี่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แหบห้าว
"ใช่ เป็นข้าเอง"เจียงวู่เฉิงพยักหน้าและพูดว่า"ป้า ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ข้ามาเพื่อพาท่านออกไป"
"หลังจากพูดเสร็จ เจียงวู่เฉิงก็นำตัวของนางมาไว้ในอ้อมแขนของเขาและเดินออกไป
บริเวณทางออกของห้องลับ มีนักรบจำนวนมากของตระกูลซือถูปิดกั้นทางออกเอาไว้
"ใครก็ตามที่ขวางทางข้า มันต้องตาย!"เจียงวู่เฉิงพูดด้วยเสียงที่เย็นชาและมองไปรอบๆ
นักรบทั้งหมดของตระกูลซือถูรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก จนพวกเขาต้องหลบทางเพื่อที่จะให้เจียงวู่เฉิงออกไป
เจียงวู่เฉิงนำจื่ออู่เยวี่ยออกจากตระกูลซือถู จากนั้นพวกเขาก็นั่งกริฟฟินที่รออยู่ข้างนอกและบินออกไป
...
ครึ่งวันต่อมา เจียงวู่เฉิงกลับมาที่ถ้ำอีกครั้งพร้อมกับจื่ออู่เยวี่ย
อันหยิงยังคงนอนอยู่ที่พื้นถ้ำ เสียงร้องของเขาหมดลงเพราะคอที่แหบแห้ง อย่างไรก็ตามใบหน้าที่บิดเบี้ยวและดวงตาที่บ้าคลั่งของเขาแสดงให้เห็นว่าเขากำลังทุกข์ทรมานมาก
เจียงวู่เฉิงปล่อยจื่ออู่เยวี่ยเอนกายอย่างช้าๆที่ผนังถ้ำ จากนั้นเขาก็เดินไปที่อันหยิง
"นำยาแก้พิษมาให้ข้า"เจียงวู่เฉิงตะโกนออกมาอย่างเยือกเย็น เขาพยายามที่ควบคุมอารมณ์ตนเอง
อันหยิงยกหัวขึ้นและจ้องมองไปที่เจียงวู่เฉิงและจื่ออู่เยวี่ย จากนั้นเขาก็เยาะเย้ยและกล่าวว่า"เจียงวู่เฉิง เจ้าต้องการที่จะช่วยนางในตอนนี้?ฮ่าฮ่า ไร้สาระ!"
"พิษกร่อนหัวใจได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของนาง นางไม่สามารถที่จะมีชีวิตรอดได้อีกต่อไป และอีกอย่างข้าก็ไม่มียาแก้พิษและถึงข้าให้มันแก่เจ้า มันก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป"
"เจ้าดูถูกพิษกร่อนหัวใจมากเกินไป ฮ่าๆ..."
อันหยิงหัวเราะ
เพี๊ยะ!
เจียงวู่เฉิงตบหน้าเขาและพูดว่า"ไอ้บัดซบ!"
"วู่เฉิง"เสียงที่ทุ้มลึกและแหบห้าวของจื่ออู่เยวี่ยดังขึ้น
"ป้า"เจียงวู่เฉิงรีบเดินไปหาจื่ออู่เยวี่ยและก้มหน้ามองนาง
"ข้าเข้าใจร่างกายของข้าดี มันเป็นความจริงที่ข้าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงไม่กี่วันและไม่มีใครที่สามารถจะช่วยข้าได้"จื่ออู่เยวี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม"ตอนนี้ข้าไม่เสียใจอีกแล้ว ข้าได้พบเจ้าอีกครั้งและไอ้แก่บัดซบก่อนที่ข้าจะตาย"
"วู่เฉิง นำมีดมาให้ข้า"
"หืม?"เจียงวู่เฉิงตกอยู่ในภวังค์
"ข้าต้องการที่ฆ่าเขาด้วยมือของข้าเอง"เสียงของจื่ออู่เยวี่ยสั่นเทา นางมองไปที่อันหยิงด้วยสายตาที่ไม่พอใจและโหดร้าย
"ได้"เจียงวู่เฉิงพยักหน้า จากนั้นเขาก็นำเอากริชออกมาจากแหวนมิติของเขาและมอบให้นาง
จื่ออู่เยวี่ยเดินมาที่อันหยิงและพริกร่างของเขาให้หงายท้อง
"ฮ่าฮ่า จื่ออู่เยวี่ยแล้วพิษกร่อนหัวใจล่ะ?"อันหยิงมองจื่ออู่เยวี่ยพร้อมกับยิ้มเยาะ
จื่ออู่เยวี่ยไม่ตอบเขา แต่นางเลือกที่จะค่อยๆแทงกริชเข้าที่ต้นขาของเขามากกว่าอวัยวะสำคัญ
"ฮ่าๆ มาเถอะ ทรมานข้าให้มากกว่านี้!"
"ข้าทรมานแล้วอย่างไร มันเทียบไม่ได้กับความทรมานที่ผ่านมาของเจ้าหรอก"
"จื่ออู่เยวี่ยเจ้าช่างน่าสมเพจ เจ้าเป็นคนที่มีความงามเป็นอย่างมาก ความงามของเจ้าเป็นรองเพียงแค่พี่สาวของเจ้าในตระกูลจื่อ ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากพ่ายแพ้ให้กับเสน่ห์ของเจ้า แต่ดูเจ้าตอนนี้สิสภาพอย่างกับผี"
"น่าสมเพช ช่างเป็นคนที่น่าสมเพช"
อันหยิงคำรามอย่างบ้าคลั่ง จื่ออู่เยวี่ยไม่พูดอะไรเพียงแค่แทงกริงเข้าไปในร่างกายเขาเรื่อยๆ
ทีละแผล...นางแทงเขาไปมากกว่าห้าสิบครั้งติดต่อกัน
ในขณะนี้เสียงของอันหยิงก็เบาและแทบไม่ได้ยินเสียงหายใจ จากนั้นจื่ออู่เยวี่ยก็ยกกริชในมือของนางและแทงมันอย่างไร้ความปราณีเข้าที่หัวใจเพื่อหยุดลมหายใจของเขา
อันหยิงเสียชีวิตภายในครั้งเดียว!
หลังจากฆ่าอันหยิงด้วยมือของตนเอง ร่างกายของนางสั่นเทาอย่างมาก แต่ก็ปรากฏร่องรอยแห่งความสุขในดวงตาของนาง
เจียงวู่เฉิงมองสิ่งที่นางทำอย่างเย็นชา แต่เขาก็รู้สึกละอายใจและมีความรู้สึกผิดเมื่อเผชิญหน้ากับป้าของเขา จื่ออู่เยวี่ย
"วู่เฉิง"ทันใดนั้นจื่ออู่เยวี่ยก็หันมา
"ท่านป้า"เจียงวู่เฉิงเงยหน้าขึ้น
ชีบ!
เลือดของนางไหลทะลักกระเด็นเลอะใบหน้าของเจียงวู่เฉิง เขาตกตะลึงอย่างมาก
เขาเห็นจื่ออู่เยวี่ยแทงกริชเข้าไปในหัวใจของนางเอง
แม้ว่าจื่ออู่เยวี่ยจะหลั่งเลือดออกมา แต่นางยังคงยิ้มได้"หลังจากทรมานมาหลายปี มันถึงเวลาแล้วที่จะได้ปลดปล่อย"
"วู่เฉิง..."
"อย่าลืมการล้างแค้นของตระกูลจื่อ ตอนนี้เจ้ายังไม่แข็งแกร่งเพียงพอและเจ้าไม่ควรที่จะไปสู้กับหอคอยขนนกโลหิต"
"อย่างไรก็ตาม ข้าเห็นพ่อของเจ้า แม้ว่ามันจะเป็นเมื่อสามปีที่แล้ว แต่เขา...ยังคงมีชีวิตอยู่"
เมื่อนางพูดจบ จื่ออู่เยวี่ยมองเจียงวู่เฉิงเป็นครั้งสุดท้ายและนางก็ล้มลง
เจียงวู่เฉิงตกอยู่ในความตะลึง เขายืนอยู่ตรงนั้นเหมือนกับต้นไม้ที่หยั่งรากลงพื้น เขาค่อยๆคืนสติและมองดูป้าของตัวเองที่ไม่มีลมหายใจ
"อ้ากกกก!"
เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยจิตสังหารบินทะลุชั้นฟ้าไปถึงสวรรค์ชั้นเก้า!
เสียงนั้นดังอย่างมาก...แม้แต่เสียงฟ้าร้องก็เปล่งเสียงออกมาเหมือนดั่งมันสะท้องเสียงคำรามของเขา!
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกอย่างก็เงียบลงในที่สุด
เสียงฟ้าร้องและสายฝนที่โหมกระหน่ำที่กินเวลาทั้งวันทั้งคืนได้หยุดลงเช่นกัน
เจียงวู่เฉิงยืนอยู่บนเนินเขาที่ไม่มีใครรู้จักและคุกเข่าลงต่อหน้าหลุมศพนิรนาม เขาประสานมือของเขาและก้มกราบไปที่หลุมศพถึงสามครั้ง
"ท่านป้า พักผ่อนให้สบายเถอะ!"
"ข้าสาบาน หนี้เลือดของตระกูลจื่อข้าจะสะสางเอง"
เจียงวู่เฉิงกล่าวด้วยเสียงที่นิ่งสงบ แต่ความตั้งใจแน่วแน่ของเขามีมากกว่าเดิม
"หอคอยขนนกโลหิต....ทุกอย่างเกินขึ้นเพราะพวกเจ้า"สีหน้าของเขาเย็นชา
"แต่ป้าของข้าพูดถูก ข้ายังแข็งแกร่งไม่เพียงพอ ข้ายังห่างไกลจากคำว่าแข็งแกร่งอยู่ไกลนัก!"
"แม้ว่าข้าจะสามารถนำความสูญเสียมาให้แก่หอคอยขนนกโลหิตได้ แต่ข้าไม่สามารถที่จะล้มล้างมันได้"
"ข้าต้องพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของตนเอง!"
เจียงวู่เฉิงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า
การอยู่ในสุสานดาบเป็นเวลากว่าสองปี เขาได้ก้าวหน้าขึ้นอย่างมากมายและสามารถฆ่านักฆ่าที่สวมหน้ากากม่วงได้ อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของยังห่างไกลจากการที่จะสามารถล้มล้างหอคอยขนนกโลหิตได้
"มันจะดีกว่าถ้าข้าจะกลับไปที่วังมังกรเป็นอันดับแรก"
เจียงวู่ออกเดินทางในทันที
...