บทที่ 218 - ฉันมาหาเธอแล้ว (2) [18-10-2019]
บทที่ 218 - ฉันมาหาเธอแล้ว (2)”
"พ่อครับ พี่สาวเลียร่าดูเหมือนจะชอบพ่อมากเลยนะครับ"
"พ่อก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน"
เมื่อได้ยินยูมิลพูดออกมาตรงๆ ยูอิลฮานก็ถึงกับต้องลูบแก้มที่อยู่ๆก็แดงขึ้นมาทันที จากนั้นยูมิลก็พูดเพิ่มขึ้นมาด้วยรอยยิ้มสดใส
"แล้วพ่อก็ชอบพี่สาวเลียร่าเหมือนกัน"
"ใช่ แต่ว่าในบางครั้งความรักของเธอมันก็ดูรุนแรงเกินไป"
"แล้วพ่อไม่ชอบหรอครับ?"
"ไม่หรอก พ่อก็ชอบเหมือนกัน แต่ว่าเรื่องนี้อย่าเอาไปบอกเลียร่านะ ถ้าเธอรู้เธอจะยิ่งหนักกว่าเดิมอีก"
"อ่า ครับผม"
สำหรับเลียร่าที่ถูกพูดถึงในตอนนี้เธอกำลังหลับอย่างสบายใจหลังจากทำการลงโทษ เธอดูคล้ายกับสัตว์ป่าที่มางีบหลับอย่างสบายใจหลังจากการออกล่า
"งั้นเรามาทำอุปกรณ์ของลูกก่อนดีกว่า"
"ครับ!"
ในตอนนี้ยูมิลได้อยู่คลาส 4 ทำให้กลายเป็นร่างมังกรได้แล้ว แต่แน่นอนว่าก็ยังเป็นร่างมังกรขนาดเล็กเท่านั้น ยิ่งมิลเลเวลสูงขึ้นก็จะยิ่งตัวใหญ่มากยิ่งขึ้นไป การที่จะสร้างอุปกรณ์ที่ยูมิลจะได้ใช้ในร่างมังกรด้วยทำให้เขาต้องครุ่นคิดอย่างหนัก
"ยังไงก็เถอะ โชคดีนะที่เรามีร่างของเจตจำนงแห่งความโกลาหล"
"ว้าว มันยืดได้เรื่อยๆเลยล่ะ!"
"จริงๆไม่ว่ามันจะยืดหรือหดยังไงก็ไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญของเจ้านี่จริงๆก็เหมาะว่ามันไม่มีรูปร่างตายตัว แต่มันจะเป็นไปตามที่ลูกคิดและมานาภายใน ลูกแค่จะต้องจำเรื่องนี้เอาไว้"
ยูอิลฮานได้แบ่งศพของเจตจำนงแห่งความโกลาหลออกมาครึ่งหนึ่งและเก็บอีกครึ่งเข้าไปในช่องเก็บของ ภาพที่ยูอิลฮานได้ใช้มือจับเงาที่ไม่มีรูปร่างใดๆมันดูแล้วน่ามหัศจรรย์มาก
"วัตถุดิบนี่จะเป็นไปตามความคิดของผู้ใช้โดยที่มีมานาเป็นสื่อกลาง"
เงานี่ก็ยังคงสั่นไหวอยู่ราวกับมันยังมีชีวิตอยู่ และมันก็ได้เปลื่ยนแปลงรูปร่างไปอย่างต่อเนื่องตามที่ยูอิลฮานคิด ยูอิลฮานได้ใช้เงานี่ราวกับว่าเป็นความสามารถตั้งแต่เกิดของเขา หลังจากได้เห็นแบบนี้ยูมิลก็ยังพอจะเข้าใจวิธีใช้แล้ว
"ผมคิดว่าผมน่าจะใช้มันเหมือนกับร่างกายของผมได้เลยหากว่าผมชินกับัมนแล้ว"
"พ่อจะตั้งรูปแบบพื้นฐานของมันเอาไว้ให้ มันจะช่วยปกป้องร่างกายของลูกอย่างสมบูรณ์แบบต่อให้ลูกจะกลายเป็นร่างมังกรในทันทีก็ตาม"
"ว้าว"
ถ้าหากจะมีอะไรที่เป็นเรื่องที่ไม่ดีก็คงจะเป็นในตอนนี้เขาไม่มีหินพลังเวทย์คลาส 5 อยู่เลย ยังไงก็ตามด้วยความสามารถวิศวกรรมเวทย์ของยูอิลฮานจึงทำให้มันเป็นไปได้ที่เขาจะใช้หินพลังเวทย์คลาส 4 เสริมพลังเอาไว้ก่อน แล้วค่อยให้หินพลังเวทย์คลาส 5 มาอัพเกรดขึ้นทีหลัง ดังนั้นนี่ก็เลยไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก
"เพลิงนิรันดร์"
เพลิงที่หลับไหลอยู่ภายในเกราะของเขาได้ตื่นขึ้นมาทันที แม้ว่าเจตจำนงแห่งความโกลาหลจะไม่ใช่ทั้งโลหะหรือวัตถุดิบอะไรแบบนั้น แต่ว่าก็ยังจำเป็นจะต้องใช้ไฟในการสร้างมันใหม่ พูดให้ชัดเลยก็คือเขาจำเป็นต้องใช้เพลิงนิรันดร์ที่มีสตินึกคิดเป็นของตัวเอง
"นายจะต้องกำจัดสิ่งปนเปื้อนทั้งหมดในนี้ออกไป ทำได้ไหมเพลิงนิรันดร์"
เพลิงนิรันดร์ได้ลุกหือขึ้นมาราวกับว่ามันตอบรับ จากนั้นมันก็ได้ยืดขนาดเข้าปกคลุมเงา เงาได้ดิ้นรนสองสามครั้งราวกับจะต่อต้านแต่มันก็ต่อต้านไปได้ไม่นานนัก หลังจากนั้นครู่หนึ่งรอบๆตัวก็ได้ตกลงสู่ความเงียบ และเงาก็ได้หล่นลงพื้นอีกครั้งเหมือนกับปลาที่ตายแล้ว
"มันตายไปแล้วหรอ?"
"มันตายไปนานแล้วล่ะ พ่อก็แค่กำจัดพวกสิ่งปนเปื้อนออกไปเท่านั้นแหละ"
ถึงแม้ว่าเขาจะพูดเหมือนกับไม่มีอะไรเลย แต่ว่าจริงๆแล้วหากไม่ได้มีเพลิงนิรันดร์อยู่ด้วยการจะทำแบบนี้จะต้องเป็นขั้นตอนที่วุ่นวายมากแน่นอน
"นับจากนี้ดูเอาไว้นะ ถ้าพ่อให้บอกก็ยื่นมือออกมาโอเคนะ?"
"ครับ!"
บูอิฃฮานได้วางเงาลงไปบนทั่งตีเหล็กก่อนที่จะหยิบค้อนขึ้นมา เขาได้ทาผงหินพลังเวทย์คลาส 4 ลงไปบนค้อนของเขา จากนั้นก็เริ่มอัดมานาและตวามคิดลงไปในค้อนพร้อมฟาดลงไป
ในตอนนี้เองเงาก็ได้เริ่มเปลื่ยนแปลงไปทุกนาที และยูอิลฮานก็ได้ฟาดค้อนลงไปหลายต่อหลายครั้งทำให้รูปร่างและคุณสมบัติของเงาเปลื่ยนแปลงไปทีละนิด
หากว่ายูอิลฮานได้ใช้หัตถกรรมมานาในการเกราะร่างมังกรเพลิงล่ะก็ ในคราวนี้ก็คือสิงตรงข้ามกัน เขากำลังปรับการทำหัตถกรรมมานาไปสู่กระบวนการการตีเหล็ก
นี่คือกระบวนการที่ซับซ้อนและลึกซึ้งมากๆ แต่ว่าการเคลื่อนไหวของยูอิลฮานไม่มีอาการชะงักลังเลแม้แต่นิด ในไม่ช้าเขาก็ได้เข้าไปสู่โหมดตั้งสมาธิที่เลียร่าชอบ
"มือ"
"มือ"
ยูมิลได้ยื่นมือออกไปทันทีหลังจากยูอิลฮานพูดออกมา ยูอิลฮานได้จับมือของยูมิลเอาไว้ ยูมิลที่เข้าใจถึงความต้องการของพ่อของเขาได้ส่งมานาไหลไปสู่ยูอิลฮาน ซึ่งยูอิลฮานก็ได้ส่งต่อมันลงไปบนค้อนของเขา
"พ่อกำลังเชื่อมต่อลูกเข้ากับเจ้าสิ่งนี้ตรงๆ สำหรับขั้นตอนนี้ก็เรียกมันว่า 'การเชื่อมต่อ...' ก่อนแล้วกัน"
"การเชื่อมต่อ..."
ยูมิลดูจะชอบคำๆนี้มาก เขาได้พูดคำนี้ภายในหัวซ้ำๆและส่งมานาที่แข็งแกร่งและสว่างกว่าเดิมออกมา จริงๆแล้วขั้นตอนนี้้มันใกล้เคียงกับการลบผู้ใช้คนเก่าอกและเพิ่่มผู้ใช้ใหม่ลงไป แต่ว่ายูอิลฮานก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
สีของเงาได้เริ่มเปลื่ยนไปอย่างช้าๆ จากสีดำมืดมิดที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแทรกแซงเข้ามาได้ ได้เปลื่ยนไปเป็นสีทองสว่าง
และรูปร่างที่เดิมเป็นกลุ่มหมอกควันก็ได้เริ่มที่จะเปลื่ยนไปตามที่ยูอิลฮานต้องการแล้ว
"แต่ว่ามันดูไม่เหมือนเกราะเลยนะครับ"
"ถ้าลูกอยากจะทำให้มันดูเหมือนเกราะ ลูกจะต้องผสมวัตถุคลาส 5 บางอย่างเข้าไปด้วย"
"ไม่หรอกนะ นี่ก็ดีแล้ว การที่ร่างกายเปล่งแสงสว่างออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะสว่างได้มันก็ดีแล้วครับ"
ความจริงแล้วลักษณะภายนอกไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว อย่างเกราะร่างมังกรเพลิงนรกของยูอิลฮานที่กำลังใส่อยู่ก็บางจนแทบจะดูคล้ายกับแผ่นเล็กบางๆชิ้นเดียวแล้ว เกราะนี่ของเขาหากมีใครมาเห็นก็ต้องสงสัยในพลังป้องกันของมันแน่ แต่ยังไงก็ตามพลังปองกันจริงๆของมันแข็งแกร่งอย่างไม่น่าจะเชื่อเลยล่ะ
เกราะที่ยูอิลฮานได้ทำให้กับยูมิลก็เป็นแบบเดียวกัน ไม่สิ อาจจะมากยิ่งกว่าด้วยซ้ำ
แสงสีทองได้ส่องสว่างจ้าออกมาจนถึงขีดสุด และก็เริ่มลดลงไปทีละนิดเมื่อสว่างได้ถึงจุดหนึ่ง พอผ่านไปสักพักยูอิลฮานก็ได้ปล่อยค้อนของเขาและเริ่มทำการหัตถกรรมมานาด้วยการดึงมือของยูมิลเข้าไปในกองผงหินพลังเวทย์
"ตั้งสมาธิมากกว่านี้อีกนิด"
"เข้าใจแล้วครับ"
บางทรอาจจะเพราะยูมิลได้ทำตามที่พ่อของเขาได้บอกเป็นอย่างดีทำให้กระบวนการนี้ไม่ได้ใช้เวลานานนัก เงาในก่อนหน้านี้ได้กลายมาเป็นสิ่งที่อ่อนนุ่มเหมือนเส้นไหม เปล่งแสงจางๆออกมาและเหมือนจะหายใจอยู่บางเบาตามการหายใจของเจ้าของ
[ลมหายใจแห่งเทพได้เสร็จสมบูรณ์]
[ลมหายใจแห่งเทพ]
[ระดับ - โกลาหล]
[พลังป้องกัน - 18,500]
[ความทนทาน - 3,500,00/3,500,00]
[เงื่อนไขการใช้งาน - เกี่ยวข้องกับยูมิล]
[ออฟชั่น -
1.ความต้านทานธาตุลมและพลังโจมตีธาตุลมเพิ่มขึ้น 90%
2.เก็บมานาของผู้ใช้เข้ามาเสริมพลังตัวเองและเปลื่ยนแปลงรูปร่างอย่างอิสระ
-เมื่ออยู่ในรูปลักษณ์ของอาวุธ พลังป้องกันครึ่งหนึ่งจะถูกเปลื่ยนเปนพลังโจมตี
3.ป้องกันผู้ใช้จากการลอบโจมตีที่มองไม่เห็นด้วยการกลืนกินมานาจำนวนมหาศาล
4.เสริมพลังสกิลที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ทางกายภาพเพิ่มขึ้น 30%
5.สร้างมานาขึ้นมาห่อหุ้มผู้ใช้เอาไว้ มานานี้สามารถใช้ได้ทั้งในการโจมตีและป้องกัน]
[อุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นยังไม่สมบูรณ์ แต่ไม่ว่ายังไงความสามารถก็ยังคงน่าทึ่ง]
"หืมม ยังคงไม่พอสินะ?"
ด้วยพลังป้อมกันและความทนทานที่สูงจนมาเกินไปก็พิสูจน์แล้วว่านี่คือวัตถุดิบที่ดีที่สุดแล้วที่ยูอิลฮานเคยใช้มาก่อน
ยังไงก็ตามออฟชั่นพวกนี้ยังไม่เป็นไปตามที่เขาหวังเอาไว้ เขาได้ส่ายหัวออกมา นี่มันหมายความได้เลยว่าหินพลังเวทย์คลาส 4 ยังไม่ดีพอที่จะดึงศักยภาพของวัตถุดิบคลาส 6 ออกมา
"น่าทึ่งจัง! นี่มันเท่มาก!"
สำหรับยูอิลฮานแล้วเขาไม่ชอบของที่ดึงศักยภาพมาได้ไม่หมดแบบนี้ แต่กับยูมิลแล้วเขาตกใจมากๆ ต่อให้มาตราฐานของอุปกรณ์ของเขาจะสูงยังไง แต่อาร์ติแฟคที่สามารถจะยกระดับความต้านทานธาตุลมและพลังโจมตีธาตุลมเพิ่มขึ้นได้ถึง 90% มันไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน
"แต่ว่าแค่นี้ยังไม่พอหรอกนะมิล พ่อจะอัพเกรดมันให้ในทันทีที่เขาฆ่าคลาส 5 อีกตัวเลย ดังนั้นช่วยรอก่อนนะ"
"ครับผม!"
ยูมิลได้ใส่ลมหายใจแห่งเทพลงไปในทันที แม้ว่าภายนอกมันจะดูเป็นแค่ชั้นเสื้อพิเศษบางๆเท่านั้น แต่ว่าความเป็นจริงแล้วมันกลับเพิ่มพลังให้เขามากกว่า 2 เท่าโดยที่ไม่ต้องเป็นเกราะเลย
"ผมรู้สึกตัวเบาจัง!"
ยูมิลได้กระโดดอย่างกับที่สองสามครั้งและออกไปเปลื่ยนร่างเป็นมังกรที่ด้านนอกในทันที ลมหายใจแห่งเทพก็ยังเปลื่ยนรูปร่างไปในทันทีที่ยูมิลได้เปลื่ยนร่าง มันได้ปกคลุมตัวเขาโดยที่ไม่ขัดขวางการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่นิดเดียว แถมมันยังช่วยป้องกันการโจมตีที่เจ้าเข้ามาหาเขาอีกด้วย
[พ่อครับ ขอบคุณนะครับ!]
"ดีแล้วที่ลูกชอบมัน"
ต่อให้มิลจะอยู่ในร่างมังกรแต่แค่ฟังเสียงเขาก็พอจะรู้แล้วว่ายูมิลจะแสดงสีหน้ายังไง ลูกของเขากำลังส่งรอยยิ้มใสซื่อย์บริสุทธิมาให้เขาแน่นอน
แค่นี้อาจจะยังไม่พอที่จะชดเชยในความเหงาเปล่าเปลี่ยวของเขา
แต่ว่านับจากนี้ไปสิ่งต่างๆได้เปลื่ยนไปแล้ว เขาเหนื่อยและเบื่อกับพวกกับดักอะไรพวกนี้ที่ส่งคนออกไปแล้ว เขาจะไปหาค้นพวกนั้นด้วยตัวเอง เขาจะเอาสิ่งที่เขาเคยมีกลับคืนมา เอาชนะคนที่แย่งมันไปจากเขา และแก้ไขทุกๆอย่างที่ทำได้
"ก่อนอื่นเลยก็"
เขาจำเป็นต้องสร้างอุปกรณ์ให้กับเลียร่า
เรื่องอาวุธเขาไม่จำเป็นต้องทำแล้วเพราะว่าเธอมีอาวุธที่จะแกร่งขึ้นได้เรื่อยๆ ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำก็คือเสื้อผ้าที่เป็นได้ทั้งอาวุธและเกราะในชิ้นเดียวแบบที่เขาทำให้มิล และตอนนี้เขาก็มีวัตถุดิบที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วด้วย
"เอาล่ะถ้างั้นก็"
ยูอิลฮานได้คิดหาวิธีการสร้างมากมาย แต่แล้วเขาก็เลือกวิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่ง เลียร่าเคยมีปีกอยู่คู่หนึ่งในตอนคลาส 6 และเพราะแบบนั้นทำให้เขาได้รับขกปีกมามากกว่าสามแสนอัน ด้วยจำนวนนี้เป็นพื้นฐานบวกเข้ากับเลือดและผิวหนังลงไป เขาจะต้องสร้างผลงานชิ้นเอกออกมาได้แน่
"นายกำลังจะทำจริงๆหรอ!?"
ยังไงก็ตามเพียงแค่ยูอิลฮานกำลงัที่จะเริ่มการสร้างก็ได้มีเสียงดังกังวาลออกมาจากด้านหลังของเขา คนๆนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเลียร่า
"เธอตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ?"
"ถ้ามีก้อนมานาขนาดยักษ์ลอยออกไปข้างนอกแล้วฉันยังหลับอยู่ก็คงจะแปลกแล้วล่ะ"
เลียร่าได้ชี้ไปที่ยูมิลที่ลอยอยู่ด้านนอก ลมหายใจแห่งเทพที่คลุมร่างของเขาอยู่ได้รับมานาของเขาไปและเปลื่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง แค่ได้เห็นแบบนี้ก็ทำให้เขาสงสัยแล้วว่าอุปกรณ์นั่นใชของระดับโกลาหลแน่หรอ
"บางทีด้วยมันอาจจะยกระดับขึ้นด้วยมานาของมิลโดยที่ไม่ต้องใช้หินพลังเวทย์ก็ได้ มังกรนี่น่าทึ่งจริงๆเลย"
"แต่ไม่ใช่ว่านายหรอกหรอที่ไล่จัดการกวาดล้างมังกรไปเกือบหมดโลกโลกหนึ่งนะ... แล้วนี่นายกำลังจะทำจริงๆงั้นหรอ?"
"แน่นอนสิ ฉันจะทำให้มันสวยที่สุดเพื่อที่จะได้ช่วยให้ฉันเลี่ยงจากการลงโทษของเธอได้ไงล่ะ"
จริงๆแล้วการลงโทษนั่นก็นับเป็นรางวัลได้เช่นเดียวกัน แต่แน่นอนว่าหากเขาพูดออกไปตรงๆ เลียร่าได้พุ่งเข้ามาหาเขาแน่ดังนั้นเขาเลยเลือกไม่พูดอะไรออกไป
"ฉันคิดว่านายจะเพิ่มวัตถุดิบคลาส 5 อันอื่นลงไปด้วยซะอีก"
"ด้วยความที่เป็นคลาส 6 อยู่แล้วการที่จะเพิ่มของอื่นลงไปอีกจะทำให้คุณภาพมันลดลงแทน มิลก็เหมือนกัน และเธอก็ด้วย"
แล้วเขาจะเอาขนปีก เลือดแล้วก็หนังมาทำอะไรได้ยังไงกัน? เลียร่าสงสัยในเรื่องนี้มาก แต่ว่ายูอิลฮานก็ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหว อย่างแรกเขาได้เขาได้เส้นขนออกมาจากก้านขนปีก และวางเอาไว้กับเนื้อที่แห้งแล้ว จากนั้นก็ทำการเปลื่ยนเส้นขนให้กลายเป็นด้าย
"โอ้ว? นายทำได้ยังไงกันน่ะ!?"
ยูอิลฮานเริ่มขั้นตอนต่อไปโดยที่ไม่สนใจเลียร่าที่มองฉากที่ไม่น่าเชื่อนี้อย่างตกใจเลยสักนิด เขาได้เอาหินพลังเวทย์หลายต่อหลายก้อนไปใช้กับเส้นด้ายและเริ่มใช้มานาสร้างเป็นเสื้อขึ้นมา
"ถึงในท้ายที่สุดระดับของมันจะลดลงเล็กๆจากการที่นี่ไม่ใช่การตีเหล็กก็เถอะ แต่ฉันคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นอะไร วิศวกรรมเวทย์น่าจะจัดการอะไรกับเรื่องนี้ได้"
"อ๊าาา มานากำลังถูกเสริมพลังขึ้น! นี่นายกำลังทำบ้าอะไรกันเนี้ย!"
เส้นด้ายจำนวนยาวไม่สิ้นสุดได้เปลื่ยนมาเป็นเสื้อที่ใหม่สะอาดอย่างสมบูรณ์แล้ว เนื่องจากยูอิลฮานรู้ถึงรูปร่างของเลียร่าเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ทำให้ใช้เวลาไม่นานเขาก็ได้สร้างชุดเดรสสำหรับต่อสู้สีขาวบริสุทธิ์ขึ้นมา นี่เป็นชุดเดรสที่งามสง่าที่ไม่ได้ขัดขวางการเคลื่อนไหวต่อสู้เลยแม้แต่นิดเดียว
"ว้าว ว้าวววววววววว"
นัยน์ตาเลียร่าที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยความตกตะลึงและสับสนได้เปลื่ยนกลายเป็นเต็มไปด้วยประกาย สองมือเธอกำลังสั่นกระตุกอยู่ราวกับว่าเธอพร้อมจะเข้าไปโจมตียูอิลฮานได้ตลอดเวลา
"รอก่อน"
แม้ว่าเขาจะมีความสุขที่เธอชอบในไอเทมที่เขาทำขึ้นมา และอยากจะแสดงการขอบคุณผ่านการกระทำ... แต่ยูอิลฮานได้ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
"ไม่ต้องรีบหรอก นี่มันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น"
ต่อจากนั้นเขาได้เอาก้านขนและหนังที่ตายแล้วมาทำให้เป็นผงละเอียดแล้วผสมเข้ากันกับผงหินพลังเวทย์กับเลือด เมื่อมองไปแล้วมันจะดูเหมือนเกล็ดอัญมณีที่เป็นประกายอยู่ในเลือดสีขาวบริสุทธิ์ เขาได้เปลื่ยนส่วนผสมทั้งหมดให้กลายมาเป็นสี
"อ๊า นี่มันรู้สึกแปลกๆนะ..."
"ดูให้อีก อีกไม่นานเดี๋ยวเธอก็จะเปลื่ยนความคิดแน่"
เขาได้หยิบแปรงขึ้นมาระบายสีลงไปบนชุด และสีที่แต้มลงไปนี้ได้ผสมเป็นเนื้อเดียวกับชุดราวกับเป็นสิ่งเดียวกันแต่แรกแล้ว ด้วยการแต้มสีลงไปเรื่อยๆได้ทำให้ชุดเดรสได้กลายมาเป็นสีชมพูอ่อนและเริ่มส่องแสงออกมา
"ฉันกำลังจะเริ่มการเชื่อมต่อแล้วนะ"
"อ่า โอเค"
เลียร่าที่ถูกออร่าการทำงานของยูอิลฮานกดดันทำให้เธอยอมยื่นมือออกไปแต่โดยดี แม้ว่าเธอจะตกมาอยู่ในคลาส 4 แล้ว แต่เลเวลของเธอก็ยังอยู่ในจุดสูงสุดที่เลเวล 299 มานาที่มหาศาลของเธอได้ไหลผ่านมือเธอไปสู่ยูอิลฮาน และเข้าไปอยู่ภายในชุดเดรสตามการควบคุมของเขา
แต่ในตอนนี้เองสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น
[ของนั่น... พระ... สิ่งศักสิทธิ์...]
ดวงตาสีแดงทั้งสองข้างของเลียร่าดูเหมือนจะเปล่งแสงสีชมพูจางๆออกาทั่วทั้งพื้นที่แห่งนี้