ตอนที่ 283 คนไม่เห็นด้วย
สำนักงานใหญ่มีความหนาแน่นพอๆกับเทือกเขาดำที่ปกคลุมด้วยความเงียบ พื้นดินเต็มไปด้วยอุปกรณ์ที่ทหารทิ้งไว้ และกลิ่นฉุนของแก๊สและควันก็เต็มทั่วเมือง ในอาคารที่มีทหารซ่อน บรรยากาศตายไปแล้วและไร้ชีวิตชีวา ทหารทุกคนจ้องมองนอกหน้าต่างด้วยสายตาว่างเปล่า
ถึงแม้จะไม่เห็นกองทัพของหกประเทศในสายตา ทุกคนก็รู้ว่าขีปนาวุธจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังเล็งมาทางพวกเขา สำนักงานใหญ่สามารถเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงได้ทุกวินาที
ไม่มีใครรู้ว่าชะตากรรมพวกเขาจะเป็นยังไง
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินสุดท้ายขององค์กรต้นกำกเนิด อาจมีโอกาสเล็กน้อยที่จะยอมแพ้
ท้ายที่สุด ไม่ใช่ทุกคนที่ยอมรับความคิดเสียสละเพื่อประเทศตน
ในห้องบัญชาการใต้ดินของสำนักงานใหญ่ หน้าจอได้แสดงถึงสถานการณ์ จุดสีน้ำเงินจุดเดียวแสดงถึงสำนักงานใหญ่โดดเดี่ยว ขณะที่ทุ่งแดงแทนถึงหกประเทศ ซึ่งปกคลุมทั่วทั้งทวีป
ผู้นำผู้สวมหน้ากากยืนตรงหน้าจอด้วยมือไขว้หลัง เจ้าหน้าที่อาวุโสสบตากันเงียบๆ แต่ไม่มีใครพูดอะไร
“ท่านวางแผนที่จะทำอะไร?”เจ้าหน้าที่อาวุโสถาม
ผู้นำหลับตา ขณะที่ทุกคนกังวลถึงขั้นตอนต่อไป ผู้นำก็ตอบด้วยเสียงแหบแห้ง“ยิงนิวเคลียร์ทั้งหมด”
ทุกคนตกตะลึง เจ้าหน้าที่หัวล้านที่มีอำนาจมากตะโกน“หกประเทศปิดตายเราแล้ว และไม่มีทางที่จะเอาพวกเขาไปด้วยได้โดยการยิงก้อนหิน นี่มันการฆ่าตัวตายชัดๆ!”
“แล้วไง?แกอยากร้องขอความเมตตาจากพวกมันรึไง?”สีหน้าผู้นำไม่เปลี่ยน“อย่าลืมวิสัยทัศน์ขององค์กรต้นกำเนิด ไม่มีทางพ่าย ความตายคือทางเดียว”
เจ้าหน้าที่อาวุโสทั้งหมดเกลียดหกประเทศ แต่ทว่า ต่อหน้าความตาย ไม่มีใครสามารถยืนหยัดในความเชื่อมั่นได้ ยิ่งไปกว่านั้น จากสถานการณ์ การฆ่าตัวตายไม่ช่วยอะไร มีโอกาสที่หกประเทศจะทำลายคำสัญญาและฆ่าพวกเขาหลังยอมแพ้ แต่ก็ยัมีความหวังเล็กน้อยให้อยู่รอด
“ฉันไม่เห็นด้วย”เจ้าหน้าที่หัวล้านก้าวมาข้างหน้า
ผู้นำหันมาและจ้องเขาและเจ้าหน้าที่หัวล้าน“มีใครบ้างที่เห็นด้วยกับเขา?”
เจ้าหน้าที่บางคนมองย้อนกลับไปหาผู้นำ และบางคนก็ก้มหัวลง แต่ทั้งหมดกลับเงียบ
เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย ผู้นำและเจ้าหน้าที่ไม่เห็ฯด้วย ราวกับมีหน้าผาขนาดใหญ่แยกพวกเขาออกจากกัน
“แล้วหากฉันยืนยันละ?”ผู้นำกล่าวอย่างใจเย็น
“ปล่อยอาวุธนิวเคีลยร์ต้องใช้กุญแจสองดอก การอนุญาติของระบบ และลายนิ้วมือกับม่านตา”ชายหัวล้านตอบ“แกมีสิทธิ์ แต่มีกุญแจแค่ดอกเดียว ส่วนรองหัวหน้าก็มีกุญแจอีกดอก และเขาก็อยู่ข้างเรา”
ผู้นำกวาดตามองและถาม“งั้น เขาอยู่ไหน?”
“แน่นอนว่าเขาไม่อยู่ที่นี่ เราจะไม่ให้โอกาสแก”
ผู้นำส่ายหัว“ดูเหมือนว่าแกจะตัดสินใจมานานแล้ว”
“อย่าประมาท เรายังมีโอกาสก่อจราจลอีกครั้ง ดังนั้นเราไม่ควรเสียสละชีวิตเรา..”เจ้าหนี้ท่หัวล้านพยายามเกลี้ยกล่อมผู้นำ แต่ก็ต้องหยุดด้วยตาเบิกกว้าง เมื่อเขาพูด ผู้นำก็นำกุญแจสองดอกที่ต้องการปล่อยนิวเคลียร์ขึ้นมา และหนึ่งในนั้นก็ควรอยู่กับรองผู้นำ
“ดะ...ได้ยังไง..”
“ไม่นะ!วางมันลงเดี๋ยวนี้!”
“ทำไมกุญแจถึงไปอยู่กับแก?!”
“รองผู้นำอยู่ไหน?”
ไม่มีใครเชื่อสิ่งที่เพิ่งเกิด และห้องก็กลายเป็นสับสนวุ่นวาย
ผู้นำยึดกุญแจไว้โดยไม่พูดอะไร
“ส่งกุญแจกลับมาเดี๋ยวนี้ เราจะไม่ปล่อยให้แกทำอะไรตามใจชอบ”ชายหกัวล้านพยายามระงับความกลัวบนใบหน้า เสียงเขาสั่นเล็กน้อย
ผู้นำส่ายหัวและกวาดตามอง“พวกหนอนแมลง แกลอบติดต่อกับเมเปิ้ล โดเรียส แกทำการประนีประนอมกับออดิน่า นิวท์ เรย์เร็นสัญญาว่าจะให้ความคุ้มครอง...”
ผู้นำกล่าวถึงคนส่วนใหญ่ในห้อง และสีหน้าทุกคนก็เปลี่ยนไป“ผลที่ตามมาของการยอมจำนน แน่นอน ย่อมแตกต่างจากทหารธรรมดา ดังนั้น อย่าทำตัวเหมือนพวกแกมีความชอบธรรมสูงนัก”
สีหน้าเหล่าเจ้าหน้าที่เปลี่ยนไป และรู้สึกกลัวมาก
ถึงแม้ผู้นำจะข่มขู่อยู่ตลอด อย่างน้อย พวกเขาก็ยังเดาได้ว่าผู้นำคิดอะไร แต่ทว่า นับตั้งแต่พวกเขาแพ้สงคราม มันก็ยากจะเข้าใจความคิดเขาได้ พูดตามตรง มันเกิดเรื่องตั้งแต่ซีโร่หนีไป
ราวกับว่าเขาเป็นทะเลสาบไร้ก้น ทุกข์ทรมานจากการแพ้ ผู้นำนิ่งสงบเหมือนบ่อน้ำนิ่ง ไม่มีอะไรทำให้เขาโกรธได้อีก
ประตูเปิด และผู้บริหารนับสิบก็เข้ามาล้อมรอบเจ้าหน้าที่ระดับสูง
ผู้บริหารเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพพวกเขา หลังสงครามเริ่ม ผู้บริหารก็บาดเจ็บล้มตายไปมาก แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังมีสมองเพื่อปกป้องผลประโยชน์และอำนาจตน อุดมคติหลักขององค์กรที่รวบรวมคนเหล่านั้นคือความชิงชัง ไม่ใช่ความจงรักภักดี
เจ้าหน้าที่ไม่พูดอะไร เจ้าหน้าที่หัวล้านให้สัญยาณและเหล่าผู้บริหารก็ขยับ เตรียมโจมตีใส่ผู้นำ
ผู้นำถอนหายใจ
“งั้นฉันก็จะส่งพวกแกทุกคนไปพบรองผู้นำเอง”
…
ไกลออกไปจากสำนักงานใหญ่คือฐานหกประเทศ กองทหารติดอาวุธหลายพันรอคำสั่งพวกเขา และเครื่องบินไอพ่นก็ลอยอยู่เหนือพื้นดิน เสียงเครื่องยนต์ตัดผ่านท้องฟ้า และคลื่นกระแทกก็สั่นสะเทือนทั้งเต็นท์และอุปกรณ์บนพื้น
ยานขีปนาวุธยังอยู่ในสถานะเตรียมพร้อม และดาวเทียมกับเรดาห์คือตัวจับการเคลื่อนไหวในท้องฟ้า ทันทีที่พวกเขาเห็น พวกเขาก็สามารถทำลายมันได้ทันที จากนั้นพวกเขาก็จะใช้ความรุนแรงเพื่อบดขยี้สำนักงานใหญ่
ในศูนย์บัญชาการ เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนล้วนเดือดพล่าน
“มีเวลาแค่7ชั่วโมง 32นาที และ11วินาทีก่อนถึงกำหนด และพวกเขาก็ยังไม่ตอบสนอง”ตัวแทนออดิน่ากล่าว“ฉันคิดว่าเราควรขยายเวลาให้องค์กรต้นกำเนิดคิดอย่างถี่ถ้วนและไม่ทำอะไรโง่ๆ”
ไม่มีใครตอบ
เจ้าหน้าที่เรย์เร็นกล่าวสีหน้าเย็นชา“เราได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่อาวุธสี่คนในองค์กรต้นกำเนิด พวกเขายังพยายามโน้มน้าวผู้นำอยู่”
ตัวแทนคนอื่นพยักหน้าตกลง พวกเขาทำสิ่งคล้ายกัน เมื่อพวกเขาถูกผลักติดกำแพง เจ้าหน้าที่อาวุโสขององค์กรต้นกำเนิดก็เต็มใจยอมแพ้เพื่อความปลอดภัย
การต่อรองบ่งชี้ว่าหกประเทศอยากให้องค์กรต้นกำเนิดยอมแพ้และช่วยตัวประกัน
“มันก็ผ่านมากว่าชั่วโมงแล้วตั้งแต่การติดต่อครั้งสุดท้าย พวกเขายังไม่รายงานกลับมาเลย”
“ไม่ต้องห่วง เรายังมีเวลา”
เจ้าหน้าที่จากประเทศต่างๆคุยกันระหว่างรอ การให้ทางเลือกสำหรับองค์กรต้นกำเนิดหมายความว่าพวกเขาต้องรอ
เจ้าหน้าที่เฮสล่าพลันกล่าวขึ้น“ท้ายสุดแล้ว ใครคือผู้นำองค์กรต้นกำเนิด?ตามข้อมูลจากตาข่ายมืด ผู้นำมาจากกอลลัม ประเทศที่ล่มสลาย และตัวตนเก่าขององค์กรต้นกำเนิดก็คือมิโมก แต่เราได้ทำการค้นหาไฟล์ทั้งหมดและยังไม่อาจพบตัวตนจริงของผู้นำ”
เบนเน็ตได้ให้ข้อมูลที่ฮันเนสพบกับหกประเทศ โดยคิดว่าพวกเขาจะสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากอำนาจพวกเขา แต่ทว่า การค้นหายังติดทางตัน ผู้นำเหมือนผีที่ไร้อดีตและไฟล์ที่ซ้อนกันเป็นภูเขาก็ไม่อาจหาชื่อเขาได้ ข้อมูลเดียวที่พวกเขามีคืออะไรที่ฮันเนสพบ
“เรย์เร็นคือฝ่ายกวาดล้างกอลลัมไม่ใช่หรอ?คุณมีข้อมูลอะไรไหม?”เจ้าหน้าที่มังกรดาราถาม
เจ้าหน้าที่เรย์เร็นส่ายหัว“เราเองก็ได้ค้นหารายชื่อพลเรือนของกอลลัมแล้ว และไม่มีใครตรงกับผู้นำเลย เรายังส่งคนไปเยือนที่ตั้งเก่าของกอลลัม และพวกเขาก็ไม่พบอะไร ผมสงสัยว่าข้อมูลจากตาข่ายมืดนั้นเป็นจริงไหม...”