96 สุนัขทิเบตันที่ถูกฆาตกรรม
96 สุนัขทิเบตันที่ถูกฆาตกรรม
หมู่บ้านที่หวังเย้าอาศัยอยู่นั้นไม่ได้ใหญ่หรือเล็กมาก เรื่องต่างๆมักจะรู้กันทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว การเลี้ยงสุนัขทิเบตันเอาไว้นั้นถือเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับชาวบ้านทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องง่ายมากที่จะได้รับความสนใจจากคนจำนวนมาก
สุนัขทิเบตันตัวนี้แน่นอนว่าต้องไม่ได้มาจากหมู่บ้านแห่งนี้
“ช่วยด้วย!” อยู่ๆหวังเย้าก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้อง
“ไปดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น” หวังเฟิงฮวาพูด
“ครับ” หวังเย้าพูด
เขาหาไม้มาท่อนหนึ่งจากที่บ้านและนำมันออกไปกับเขาด้วย เขาตรวจดูประตูหน้าบ้านว่าถูกล็อกเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เขาและพ่อจะออกไป
ทั้งสองเดินไปตามเสียงกรีดร้องที่ดังมา พวกเขาเห็นกลุ่มคนยืนรวมกันบนถนน มีคนหามคนเจ็บใส่รถแล้วขับออกไปอย่างเร่งรีบ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ชาวบ้านคนหนึ่งถาม
“มีคนโดนสุนัขกัด” ชาวบ้านอีกคนพูด
“สุนัข? จริงเหรอ?” หญิงชราคนหนึ่งพูดด้วยความตกใจ
“ใช่ ดูเหมือนจะเป็นสุนัขตัวใหญ่มาก คนคนนั้นโดนกัดเข้าที่ลำคอ” ชายใส่แว่นพูด
สุนัขตัวใหญ่ที่ทำร้ายคน...บางทีอาจจะเป็นสุนัขทิเบตันที่เขาเห็น! หวังเย้าคิด
หวังเย้ามองกลับไปที่บ้านของเขา
“พ่อ ผมว่าเราควรกลับบ้านกันนะครับ” ถึงแม้ว่าหวังเย้าจะล็อกประตูบ้านเรียบร้อยแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นห่วงความปลอดภัยของแม่และพี่สาวของเขาอยู่ดี
“ได้” พ่อของเขาเห็นด้วย
หวังเย้าและพ่อของเขากลับไปที่บ้าน และบอกกับแม่และพี่สาวของเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน
“สุนัขทิเบตัน?” หวังรุ่ยตกใจ “ทำไมคนในหมู่บ้านถึงได้เลี้ยงสุนัขที่ดุร้ายแบบนั้นเอาไว้?”
“มันดุร้ายและโหดเหี้ยมมากเลยเหรอ?” จางซิวหยิงถาม
“ค่ะ สุนัขทิเบตันแค่ตัวเดียวก็สามารถสู้กับหมาป่าได้ถึงสามตัวเลยล่ะ!” หวังรุ่ยพูด
“ใช่ครับ! มันยังสู้กับเสือหรือสิงโตได้เลยนะครับ!” หวังเย้าหัวเราะ
“อะไรนะ? นี่กำลังพูดถึงสุนัขตัวหนึ่งอยู่จริงๆใช่ไหม?” จางซิวหยิงถาม
“แม่ ผมล้อเล่นน่ะ ไม่ต้องพูดถึงเสือหรือว่าสิงโตเลย ไม่มีสุนัขตัวไหนจะไปสู้กับหมาป่าได้หรอกครับ แต่ว่าสุนัขทิเบตันมันเป็นพันธุ์ที่ค่อนข้างดุร้ายและหวงอาณาเขตของตัวเองมาก มันไม่ยากเลยที่จะทำร้ายผู้ใหญ่ที่แข็งแรงคนหนึ่ง ผมเห็นสุนัขตัวนั้นแล้ว มันตัวโตพอๆกับลูกวัวเลยล่ะครับ” หวังเย้าพูด
“แล้วสุนัขตัวนี้เข้ามาในหมู่บ้านของเราได้ยังไงกัน?” จางซิวหยิงถาม
“ผมก็ไม่แน่ใจ” หวังเย้าพูด
ชาวบ้านได้ยินเสียงสุนัขเห่าเป็นบางครั้งตลอดทั้งคืน
หวังเย้าออกจากบ้านหลังจากที่ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่เขาออกมาจากบ้านนั้น เขาก็เห็นชาวบ้านบางคนอยู่บนถนนพร้อมกับถือไม้เอาไว้ในมือ
เกิดอะไรขึ้น?
“ทุกคนฟัง!”
เครื่องกระจายเสียงของหมู่บ้านที่ไม่ได้ใช้มานานก็ดังขึ้น
หลังจากที่ได้ฟังประกาศจากกรรมการของหมู่บ้านแล้ว หวังเย้าก็ได้รู้ว่ามีชาวบ้านสามคนที่ถูกสุนัขทิเบตันทำร้าย แล้วเช้าของวันนี้ สุนัขตัวนี้ก็ได้เข้าไปในบ้านหลังหนึ่งแล้วกัดเด็กคนหนึ่งเข้า แล้วชาวบ้านที่เขาเห็นบนถนนนั้น พวกเขาก็กำลังรวมตัวกันเพื่อออกล่าสุนัขทิเบตัน
“บ้าเอ้ย! มันเป็นสุนัขบ้าที่ไหนกัน?” หัวหน้าของกลุ่มพูดขึ้น เขารู้สึกโกรธกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก เขาอยากจะหาสุนัขตัวนั้นให้เจอแล้วก็หั่นมันออกเป็นชิ้นๆ เพราะเมื่อคืนสุนัขทิเบตันได้เข้าไปในบ้านของเขาแล้วกัดลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งของเขา
“เย้า เธอควรจะกลับบ้านไปซะ เธอไม่ได้ยินที่เขาประกาศเหรอ?” มีบางคนจำหวังเย้าได้และบอกให้เขากลับบ้านไป
“ผมได้ยินครับ เดี๋ยวผมจะกลับบ้านแล้ว” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่กลุ่มของชาวบ้านหายไปจากสายตาของเขาแล้ว หวังเย้าก็เริ่มเดินไปยังเนินเขาหนานชานต่อ ในระหว่างทางที่กำลังเดินไปนั้น เขาก็ได้รับสายจากที่บ้านบอกให้เขาอย่าขึ้นไปบนเนินเขาคนเดียว เสียงในสายของแม่เขานั้นดูเป็นกังวลมาก ดังนั้นหวังเย้าจึงต้องกลับไปที่บ้าน
ในตอนเช้าเขาก็ไม่ได้ยินประกาศอะไรอีก และเสียงเห่าของสุนัขก็น้อยลง บางทีสุนัขทิเบตันอาจจะออกไปจากหมู่บ้านแล้ว
มันน่าจะปลอดภัยดีแล้ว หวังเย้าคิด
หวังเย้าตัดสินใจที่จะขึ้นไปบนเนินเขาหลังจากมื้อกลางวัน
“แล้วถ้าเกิดว่าสุนัขบ้านั้นยังอยู่แถวๆนี้ล่ะ?” จางซิวหยิงยังคงไม่อยากให้ลูกชายของเธอออกไปจากบ้าน
“ผมจะถือไม้ไปด้วยครับ” หวังเย้าพูด
“ไม้มันจะไปมีประโยชน์อะไร? ลูกรู้เหรอว่าจะสู้กับสุนัขตัวนั้นยังไง?” จางซิวหยิงพูด
“ผมว่าได้นะครับ แม่ดูนี่!” หวังเย้าหยิบก้อนหินขึ้นมาแล้วใช้พลังฉีทำลายก้อนหินจนกลายเป็นชิ้นเล็กๆ
“โอ้พระเจ้า!” จางซิวหยิงตกตะลึง
“ผมจะปลอดภัย ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ” หวังเย้าพูด
สุดท้ายหวังเย้าก็ถือไม้ไผ่ด้ามยาวออกไปจากบ้าน และเดินขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน
นี่คืออะไร?
หวังเย้าหยุดเดินตรงตีนเขาและก้มมองไปที่พื้น
เขาเห็นรอยเลือดที่แห้งแล้วอยู่บนพื้น
ทำไมถึงมีเลือดอยู่ตรงนี้ได้?
เขาเดินต่อไปและได้เห็นรอยเลือดคล้ายๆกันบนพื้น
หรือว่ามันจะมาจากสุนัขทิเบตันตัวนั้น? หวังเย้าเร่งฝีเท้าขึ้น
หวังเย้าเดินไปตามทางเดินบนเนินเขา แล้วเขาก็ไปถึงบนเนินเขาหนานชานในไม่ช้า
โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! เขาได้ยินเสียงซานเซียนเห่าจากที่ไกลๆ
เกิดอะไรขึ้นกัน?
หวังเย้ารีบเดิน แต่แล้วเขาก็หยุดเดินเมื่อไปได้ครึ่งทาง
มันคืออะไร?
เขาเห็นสุนัขสีดำตัวใหญ่ราวกับลูกวัวนอนอยู่บนพื้น มันมีบาดแผลนับไม่ถ้วนอยู่บนร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือดของมัน มันก็คือสุนัขทิเบตันที่ได้ทำร้ายชาวบ้านไปหลายคนตัวนั้น
ร่างกายของสุนัขทิเบตันนั้นนิ่งสนิทแล้ว แต่หวังเย้าก็ยังคงระวังตัวเมื่อเดินเข้าไปใกล้มัน แล้วเขาก็พบว่ามันได้ตายแล้วจริงๆ เลือดบนพื้นที่ไหลลงมาจากตัวมันยังไม่แห้งดี บาดแผลที่ทำให้มันถึงแก่ชีวิตอยู่ตรงบริเวณคอและท้อง ซึ่งเป็นรอยแผลขนาดใหญ่
อะไรที่ฆ่าสุนัขทิเบตันกัน? หรือว่าจะมีสัตว์ร้ายที่ไม่มีใครรู้อยู่บนนี้? เป็นไปไม่ได้! ฉันขึ้นลงเนินเขาหนานชานมาหลายปีและไม่เคยสังเกตุเห็นสัตว์ป่าที่ดุร้ายเลย สัตว์ที่ดุร้ายก็คงจะมีแต่เพียงต้าเซี่ยเท่านั้น แต่มันควรจะถูกเรียกว่านกที่ดุร้ายมากกว่า
ในตอนที่หวังเย้ากำลังสงสัยว่าอะไรที่ฆ่าสุนัขทิเบตันอยู่นั้น ซานเซียนก็วิ่งตรงมาหาเขา
“เกิดอะไรขึ้นกับนายกัน?” หวังเย้าพูด
หวังเย้าพบว่าเมื่อเขามองเข้าไปใกล้ๆ เขาก็เห็นขนบนตัวของซานเซียนนั้นยุ่งเหยิงไปหมด ขนบางส่วนของมันได้หายไปและที่ปากของมันก็มีเลือดติดอยู่ มันตื่นเต้นและส่ายหางของมันเมื่อมันเห็นหวังเย้า
เดี๋ยวก่อนนะ! หวังเย้ามองซานเซียนแล้วก็หันกลับไปมองสุนัขทิเบตันบนพื้นนั้น เขากำลังคาดเดาอยู่
“นายฆ่าสุนัขทิเบตันตัวนั้นเหรอ?” หวังเย้าถาม
โฮ่ง! โฮ่ง! ซานเซียนเห่าสองครั้งและใช้อุ้งเท้าของมันชี้ไปยังต้นไม้
“ฉันเข้าใจแล้ว ไม่ใช่แค่นายแต่ต้าเซี่ยก็ด้วยใช่ไหม?” หวังเย้าพูด
โฮ่ง! โฮ่ง!
“เด็กดี!” หวังเย้าลูบหลังของซานเซียน ซานเซียนนั้นมีขนาดตัวแค่ครึ่งเดียวของสุนัขทิเบตัน มันเป็นเรื่องน่าทึ่งมากที่มันและต้าเซี่ยสามารถฆ่าสุนัขทิเบตันตัวนั้นได้
แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ทำไมสุนัขทิเบตันถึงได้มานอนตายอยู่ที่ตีนเขาแทน?