ตอนที่แล้วตอนที่ 2 การแสวงหาผลประโยชน์ของตระกูล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น

ตอนที่ 3 สมการพันธุกรรม


“นี่คือ...?”เฟิงหลินหรี่ตาแคบขณะมองสิ่งแปลกๆตรงหน้าเขา เขาตกใจมาก

ในพื้นที่ว่างเปล่าและแตกแยก เงาโปร่งใสสามารถมองเห็นได้ในแสงดาว เงาโปร่งใสนี้ดูเหมือนเขามาก

บนหน้าอกของเงาแวววาว ลูกบอลสีทองเด่นชัดสามารถเห็นได้ พวกมันดูคล้ายดวงอาทิตย์ที่ลุกโชติช่วง

พวกมันล้อมด้วยจุดแสงสีเงินสลัว ดูกระจัดกระจายและมีมากดั่งดวงดาว

จุดแสงเหล่านี้กะพริบระหว่างความสว่างและสลัว และการดูเงาทั้งหมดก็เหมือนการมองดูรูป

รูปที่คล้ายคลึงกับท้องฟ้า

ที่หัวของรูปจะเก็นแถวของตัวเลข

 

พลัง : 0.4

บอลแสงนี่คืออะไร...?

เฟิงหลินหรี่ตามองและเห็นแถวข้อมูลสองแถวปรากฏในหัว

ยีนลิง : 2

ยีนหิน : 1

สิ่งเหล่านี้คือแต้มพันธุกรรม?พวกมันเป็นพลังงานบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงตามข้อมูลกายภาพ?

หลายความคิดฉายผ่านหัวเฟิงหลิน แต่เมื่อเขาอ้างถึงสานการณ์ตัวเอง เขาก็มั่นใจว่าคิดถูก

เพื่อปลุกศักยภาพของยีนหนึ่ง มันจำต้องมีการพัฒนาแต้มพันธุกรรม มีอยู่สามประการด้วยกัน การปลุก การเสริมพลัง และการวิวัฒนาการ

การปลุกยีนคือระยะที่ยีนจะเปลี่ยนจากสถานะถอยหลังเป็นโดดเด่น

เมื่อยีนตื่นขึ้น มันจะควบคุมองค์กรประกอบชีวิตของร่างกายมนุษย์และสร้างอวัยวะใหม่พร้อมความสามารถ

เดิมที ร่างกายมนุษย์ไม่อาจควบคุมความสามารถพิเศษได้ แต่เมื่อบางคนปลุกยีนไฟขึ้น พวกเขาก็จะควบคุมไฟได้ หากพวกเขาปลุกยีนน้ำแข็ง พวกเขาก็จะควบคุมกระแสน้ำและควบแน่นให้เป็นน้ำแข็งได้...

อย่างไรก็ตาม กระบวนการไม่ใช่แค่ขั้นตอนเดียว แต่เป็นเหตุการณ์ที่ค่อยๆคืบหน้าและเปลี่ยนแปลง นี่คือความหมายของการปลุกยีน

หลังยีนตื่นโดยสมบูรณ์ มันก็หมายความว่าร่างกายนั้นได้ปรับตัวให้เข้ากับยีนในตำนานของตัวเองแล้ว

ถัดไป เราต้องใช้เคล็ดบ่มเพาะอย่างหนึ่งเพื่อรับกระบวนการเสริมสร้างยีน เพื่อกระตุ้นศักยภาพของยีนให้เด่นชัด

จำนวนครั้งที่สามารถเสริมสร้างยีนได้ก็แตกต่างกัน

ยิ่งระดับยีนสูง มันก็สามารถเสริมได้มากเท่านั้น

บอลแสงสองลูกแสดงให้เห็นถึงยีนในตำนานทั้งสองที่เฟิงหลินปลุกขึ้น

หนึ่งในนั้นคือยีนลิง ที่ผ่านการเสริมมาแล้วสองครั้ง ส่วนยีนหินเพิ่งผ่านมาครั้งเดียว

หลังการเสริมสร้างยีนสำเร็จ ยีนก็จะเริ่มวิวัฒนาการ

และการวิวัฒนการยีนก็คือกระบวนการสังเคราะห์ยีนที่แตกต่างกันสองแบบ ผสานยีนระดับเดียวกัน วิวัฒนาการพวกมันเป็นชุดยีนที่ระดับสูงกว่าเดิม

เมื่อการวิวัฒนาการสมบูรณ์ ผู้บ่มเพาะก็จะสามารถเข้าถึงอาณาจักรที่สูงขึ้นได้

ในกรณีนั้น จุดสีเงินริบหรี่เหล่านี้หมายถึงอะไร?

เฟิงหลินส่งเจตจำนงค์เขาไปและการระเบิดของข้อมูลก็ปรากฏ

ยีนกล้ามเนื้อ : 0

ยีนลมหายใจเต่า : 0

ยีนเขี้ยวเสือ : 0

...

ดังนั้นมันก็ปรากฏว่าแสงสีเงินสลัวเหล่านี้เป็นยีนเสื่อมถอยในร่างกายเขาที่ยังไม่ตื่น

ท้ายที่สุดเฟิงหลินก็เข้าใจ

งั้นภาพเงาโปร่งใสนี่ก็คือแผนพังพันธุกรรมของร่างเขา!

ยีนของมนุษย์มีมากเหมือนดาวในท้องฟ้า ไม่ว่าวิทยาศาสตร์จะยิ่งใหญ่แค่ไหน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่วิทยาศาสตร์จะบ่งชี้ชัดได้ทุกอย่าง

แต่ตอนนี้ ข้อมูลทั้งหมดนี้ถูกแสดงอย่างชัดเจนต่อหน้าเฟิงหลิน

ภาพฉากนี้ทำให้เขานึกถึงสมบัติระดับชาติในจีนโบราณ-คู่มือภาพประกอบการฝังเข็มของรูปปั้นทองสัมฤทธิ์

นั่นแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งทั้งหมดของจุดฝังเข็มและเส้นเลือด แต่สิ่งที่เฟิงหลินเห็นคือแผนผังพันธุกรรมทั้งหมดสำหรับร่างเขา!

ยีนมีจำนวนพอๆกับดาว อาจมากกว่าพันล้าน เฟิงหลินรู้สึกปวดหัวเมื่อมองมัน

แม้แต่ละยีนจะมองเห็นได้ชัดเจน มันก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับมัน

ด้วยความตั้งใจ เขาเบี่ยงความสนใจไปยังตันเถียนที่อยู่ใต้สะดือเขาไปสองนิ้ว กลุ่มเนบิวลาสามารถมองเห็นได้ในนั้น มีประมาณ14 นี่หมายความว่าฉันมีแต้มพันธุกรรม14หน่วยให้ใช้สินะ?กลุ่มละอองเรืองแสงนี้ดูคล้ายการผสานของเมฆและหมอกและก็ไหลอย่างต่อเนื่องเมื่อรูปร่างมันเปลี่ยนไป

ยังมีหมอกดวงดาวที่ลอยด้างข้างซึ่งบรรจบกัน พวกมันอยู่ท่ามกลางการก่อตัวของกระจุกดาว

กลุ่มเนบิวลาที่เขาเห็นก่อหน้าได้รวมกับหมอกดาว คล้ายกับแผ่นขนาดใหญ่ที่ยืดขยายไป

ศักยภาพทางพันธุกรรม : 1468%

เฟิงหลินเข้าใจความหมายมัน

เป็นไปได้มากว่าภาพโปร่งใสจะสามารถแปลงยีนในร่างเขาให้เป็นข้อมูลได้

และข้อมูลปัจจุบันของเฟิงหลินก็คือ

 

ชื่อ : เฟิงหลิน

พลัง: 0.4

ยีนลิง : 2

ยีนหิน : 1

ศักยภาพทางพันธุกรรม : 1468%

 

ไม่มีค่าสถานะเช่นพละกำลัง ความเร็วและองค์กรประกอบ ทั้งหมดเป็นขยะ ข้อมูลเกี่ยวคือสถานะพลังและยีนที่ตื่นแล้ว

เหตุผลเพราะยีนคือต้นกำเนิดของชีวิตและพลังก็เป็นศูนย์รวมที่ครอบคลุมทั้งพละกำลัง ความเร็วและอื่นๆ พวกมันเป็นส่วนที่ทำให้เกิดค่าพลัง

เมื่อค่าพลังเพิ่มขึ้น ส่วนอื่นๆเหล่านี้ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แผนผังยีนไม่ใช่แค่นี้ ภายใต้ความคิดเขา ความรู้สึกมหัศจรรย์ในการควบคุมแต้มพันธุกรรมเพิ่มขึ้นในหัวเฟิงหลิน ดูเหมือนว่าเขาจะเชื่อมโยงกับพวกมันได้อย่างลึกลับ มันรู้สึกราวกับว่าเขาสามารถควบคุมพวกมันได้

มาลองดูกัน!

ด้วยความประสงค์เขา เขาเชื่อมโยงยีนที่ไม่เกี่ยวข้องสามอันเข้าด้วยกัน

ภายในตันเถียนเขา หมอกดาวกลุ่มหนึ่งจากกระจุกเนบิวล่าแยกออกจากกันและถูกฉีดเข้าไปในยีนสุ่มสามอันที่เขาเชื่อม

ศักยภาพทางพันธุกรรม-15%

จุดสีเงินสามจุดขยายและหดตัว เชื่อมโยงกันเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง ชุดค่าผสมต่างๆผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เผยให้เห็นลำดับต่างๆ...

ติ้ง ติ้ง ติ้ง..

เสียงระฆังดัง5ครั้ง..

ท้ายที่สุดยีนสุ่มทั้งสามก็เชื่อมกัน แต่รัศมีที่แสงดาวเปล่งยังคงไหลออกเป็นเส้นตรงลึกไปยังท้องฟ้าดวงดาวภายในภาพโปร่งใส ก่อตัวเป็นต้นไม้พันธุกรรม

 

ยีนกระแสอากาศx2+ยีนเมฆหมอกx3+ยีนชุ่มชื้นx1 = ยีนน้ำแข็ง

ยีนกระแสอากาศx3+ยีนเมฆหมอกx4+ยีนชุ่มชื้นx4 = ยีนฝน

ยีนกระแสอากาศx34+ยีนเมฆหมอกx2+ยีนชุ่มชื้นx1 = ยีนลมฝน

ยีนกระแสอากาศx2+ยีนเมฆหมอกx5+ยีนชุ่มชื้นx4 = ยีนสายฟ้า

ยีนกระแสอากาศx6+ยีนเมฆหมอกx7+ยีนชุ่มชื้นx5 = ยีนพายุ

ทั้งห้าสูตร!

เฟิงหลินตกตะลึง จริงๆแล้วเขากลับสามารถเรียนรู้สูตรพันธุกรรมทั้งห้าได้ทันที!

ยีนมีระดับชั้นที่แตกต่างกัน และก็สามารถแบ่งออกเป็นระดับ0 1 2....

0คือจุดเริ่มต้น ดังนั้น ยีนระดับ0จึงเป็นยีนพื้นฐาน

1คือองค์ประกอบพื้นฐานของตัวเลขทั้งหมด ตัวเลขทั้งหมดได้มาจาก1และดังนั้น ยีนระดับ1จึงเป็นยีนขั้นต้น

ระดับชั้นของยีนย่อมมีความสามารถต่างกัน พวกมันสามารถเติมเต็มกันได้และพัฒนาเป็นยีนที่ระดับสูงกว่า

ยีนระดับ0สามารถสังเคราะห์เป็นยีนระดับ1ได้ ยีนระดับ1สามารถสังเคราะห์เป็นยีนระดับ2ได้ และอื่นๆ...

สิ่งเหล่านี้เรียกว่าสูตรทางพันธุกรรม

เมื่อสูตรทางพันธุกรรมของยีนระดับเดียวกันจัดกลุ่มเข้าด้วยกัน ตอนท้ายของกระบวนการจะมีแผนภาพต้นไม้ทางพันธุกรรมขึ้นมา เนื่องจากมันดูคล้ายพิระมิด ผู้บ่มเพาะบางคนจึงเรียกมันว่าพิรามิดยีน

การบ่มเพาะยีน = ต้นไม้พันธุกรรม+สูตรพันธุกรรม+การพัฒนายีน

ต้นไม้พันธุกรรมจะแสดงเส้นทางวิวัฒนาการของยีนและชี้ไปยังทิศทางโดยรวมของอนาคต สูตรพันธุกรรมคือวิธีการสังเคราะห์ยีนระดับต่ำเพื่อเปลี่ยนให้เป็นยีนระดับสูง

และสำหรับการพัฒนายีน มันอ้างถึงวิธีการฝึกฝนและการกระตุ้นศักยภาพของยีนแต่ละตัว

จากบนลงล่าง จากมุมมองขนาดเล็กไปใหญ่ มันเกี่ยวข้องกับทุกด้าน

...

ลมพัดและฝนตก ไอน้ำสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งค้างได้เมื่ออุณหภูมิเย็นพอ และเมื่อปัจจัยทั้งหมดบรรจบกัน แม้กระทั่งพายุฝนฟ้าคะนองยังอาจเกิดขึ้น...

ยีนกระแสอากาศ ยีนเมฆหมอก และยีนชื้นคือยีนขั้น0ที่สามารถควบคุมสภาพอากาศได้ เมื่อผสานร่วมกัน พวกมันจะกลายเป็นได้ทั้งยีนน้ำแข็งหรือยีนฝนขั้น1 นื่คือความลับที่เปิดเผยไปทั่ว

อย่างไรก็ตาม เฟิงหลินไม่คิดว่าภายใต้การจำลองแต้มยีน หากเสริมความแข็งแกร่งของยีนทั้งสามต่างกัน สูตรยีนชุดใหม่จะปรากฏขึ้น

ลมสามารถกลายเป็นพายุ เมฆฝนสามารถสร้างสายฟ้าและเมื่อกระแสอากาศรุนแรงพอ พายุสายฟ้าก็จะปรากฏขึ้นตอนยีนทั้งสามผสานกัน

ใครจะสามารถจินตนาการได้ว่ายีนขั้น0ทั่วๆไปจะสามารถสร้างยีนพายุ ยีนสายฟ้าได้?

สูตรพันธุกรรมทั้งสามนี้อาจดูไม่น่าเชื่อ แต่พวกมันก็เป็นไปตามกฏแห่งธรรมชาติและยากจะปลอมแปลง

 

“โอ้พระเจ้า!ฉันสงสัยว่าสูตรเหล่านี้จะมีค่ามากแค่ไหนหากฉันขายพวกมัน”เฟิงหลินเริ่มหอบหายใจ

มันไม่ใช่ว่าเขาไม่สงบ แต่มันเพราะสูตรเหล่านี้ล้ำค่าเกินไป

สูตรพันธุกรรมคือองค์ประกอบสำคัญของการบ่มเพาะยีน การปรากฏของสูตรใหม่ย่อมหมายถึงรูปแบบของการบ่มเพาะยีนใหม่ที่ปรากฏขึ้น

ความรู้ไม่อาจประเมินค่าได้!

และสำหรับความรู้เกี่ยวกับการบ่มเพาะ พวกมันยิ่งประเมินค่าไม่ได้!

แม้มันจะเป็นแค่สูตรพื้นฐาน เฟิงหลินก็รู้ว่าหากเขาขายพวกมัน เขาย่อมทำเงินได้มากมายมหาศาล

สูตรพันธุกรรมแต่ละอันมีค่าอย่างน้อยล้านเหรียญดารา รวมแล้ว หากเขาขายพวกมัน เขาย่อมทำให้ครอบครัวเขาซื้อบ้านหรูบนตลาดได้ และพวกเขาก็จะย้ายไปยังสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม เว้นแต่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย เฟิงหลินไม่คิดทำเช่นนั้น

การขายสูตรพันธุกรรมชัดเจนเกินไป ท้ายที่สุด มีเพียงเหล่าผู้เชี่ยวชาญยีนถึงสามารถสร้างสูตรพันธุกรรมใหม่ได้

ตอนนี้ เฟิงหลินไม่ใช่ผู้บ่มเพาะด้วยซ้ำ เขาไม่มีพลังพอจะปกป้องความลับและอาจนำความปัญหามาสู่ตัวเอง

เฟิงหลินไม่หยุด เขาดำเนินการทดลองต่ออย่างรวดเร็ว

แสงสีเงินสลัวเชื่อมโยงเข้ากันอย่างรวดเร็วภายใต้การควบคุมของเขาและสูตรต่างๆก็ปรากฏมากขึ้น

ยีนเพลิงx7ยีนหินx3 = ยีนแม็กม่า

ยีนกล้ามเนื้อx5+ยีนฮอร์โมนx1+ยีนโปรตีนx3 = ยีนเพาะกาย

ยีนหนังปลาx3+ยีนระบบทางเดินหายใจx5+ยีนดำน้ำx3 = ยีนสะเทินน้ำสะเทินบก

....

สูตรมากมายผุดขึ้น และเขาก็เริ่มผลักดันขอบเขต พยายามพลิกกลับ

เขาได้รับความรู้สำหรับยีนขั้นสูงมาบ้างและตอนนี้ก็พยายามทะลวงผ่านพวกมัน

ยีนเทพทะยาน = ยีนกล้ามเนื้อz2+ยีนความเร็วx6+ยีนกระแสอากาศz3

ยีนเนตรเพลิง = ยีนเพลิงx3+ยีนวิสัยทัศน์x5

ยีนยักษ์ = ยีนกระดูกx3+ยีนกล้ามเนื้อx3+ยีนเติบโตx5+ยีนฮอร์โมนx3

สูตรใหม่อนุมานขึ้น และศักยภาพพันธุกรรมเขาก็หมดลงอย่างรวดเร็ว เฟิงหลินค่อยๆเข้าใจว่าผลของความสามารถเขายอดเยี่ยมแค่ไหน

นี่อาจเป็นเพราะการกลายพันธ์ของวิญญาณเขาเมื่อเขาข้ามโลก ผลที่ออกมานับว่าเกินจินตนาการและมีความคล้ายคลึงกับสมการทางคณิตศาสตร์

ใช่แล้ว นี่คือสมการทางพันธุกรรม!

เช่นเดียวกับสมการทางคณิตศาสตร์ วิธีแก้ปัญหาสามารถอนุมานได้

ยีนกลายเป็นตัวแปรในสมการทางพันธุกรรม ชุดยีนระดับสูงสามารถสร้างได้จากการลดศักยภาพของยีนต้นลงเพื่ออนุมานผลลัพธ์สุดท้ายขึ้น หรือคนสามารถย้อนกระบวนการและแยกส่วนประกอบของยีนที่มีขั้นสูงกว่าเพื่อดูว่ายีนขั้นต่ำจะสังเคราะห์มันได้ไหม

สมการทางพันธุกรรม นี่คือความสามารถของฉัน!

เฟิงหลินรำพึงเงียบๆ สำหรับเขา ความสามารถการได้รับสมการทางพันธุกรรมไม่ได้จำกัดแค่นี้

หากคนอื่นได้รับความสามารถเขา พวกเขาอาจสรุปสมการได้เล็กน้อย แต่นั่นไม่ใช่กับเขา

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ ผ่านตำนานและโบราณต่างๆ เขารู้ทิศทางอนาคตของการบ่มเพาะเขา แต่แต่ละขั้นจะยังต้องถูกเขาทบทวนซ้ำๆ

เฟิงหลินมีความรู้ที่จำเป็น ตามความเข้าใจเขาถึงตำนาน รวมถึงความสามารถการคิดสมการทางพันธุกรรม เขาอาจคาดการณ์เส้นทางบ่มเพาะของการเป็นเทพในอดีตได้

นี่คือผลกระทบของความสามาถรการสร้างสมการพันธุกรรม

หากเขาไปถึงขั้นนั้นได้จริงๆ ใครก็สามารถจินตนาการได้ว่ามันยิ่งใหญ่แค่ไหน

บางทีเขาอาจเป็นพระเจ้าก็ได้

แน่นอน สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือศักยภาพพันธุกรรมที่เพียงพอ

สมการพันธุกรรม แม้จะทรงพลัง พวกมันก็ไม่อาจใช้เล่นๆได้ มันต้องมีศักยภาพพันธ์กรรมในร่างเพื่อนำไปใช้ประโยชน์

ตามอัตราการใช้แต้ม เขาคาดว่าแต้มเขาจะหมดเมื่อเขาเปิดใช้งานความสามารถเขาหลังผ่านไปร้อยครั้งหรือมากกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม ศักยภาพพันธุกรรมมาจากไหน?เฟิงหลินยังไม่รู้

โอ้!

ในเวลานั้น ดวงตาของเฟิงหลินก็สว่างขึ้นเมื่อนึกถึงประเด็นที่เขาละเลยไปก่อนหน้า

เนื่องจากกรณีนี้ ทำไมฉันถึงไม่คาดการณ์ว่าเส้นทางในอนาคตฉันควรเป็นยังไง?

ทุกคนกล่าวว่าไม่มีสูตรพันธุกรรมใดที่สามารถสังเคราะห์ยีนลิงและยีนหินให้เป็นยีนระดับสูงได้ ดังนั้น เขาจึงมักถูกมองเป็นขยะ

แต่ทว่า ตอนนี้เขาได้รับความสามารถนี้มาเพื่อสร้างสูตรพันธุกรรมใหม่ มันอาจมีวิธีสังเคราะห์ยีนลิงและยีนหินจริงๆ

มันคุ้มค่าที่จะลอง!

หัวใจของเฟิงหลินเต้นกระหน่ำ หากเขาทำสำเร็จ เส้นทางอนาคตเขาก็จะไร้ขีดจำกัด

บทกวีโบราณกล่าวไว้ว่า’เมฆจะบดบังการมองเห็นเราและไม่มีที่ใดให้ไปเมื่อดินแดนถูกสำรวจจนหมด แต่ทว่า มันมักมีความหวังในเวลาที่มืดมนสุด’

นี่ใช่สถานการณ์ของเขาไหม?

ภายใต้ความสามารถการคำนวณ แม้จะเป็นเส้านทางพิการก็ยังเป็นเส้นทางสู่สวรรค์ได้!

หัวใจเขาร้องบอกเสียงดัง

เฟิงหลินรู้ว่านี่คือโอกาสเดียวของเขา เขาควบคุมเจตจำนงค์เขาและเริ่มเชื่อมต่อสองยีนเข้าด้วยกัน

ศักยภาพยีน-10% -10% -10%...

อย่างรวดเร็ว ศักยภาพยีนอีก60%จากที่เหลือถูกผลาญ อย่างไรก็ตาม สมการใหม่เขากลับประเมินด้วยอัตราที่ช้ามาก

ยีนหินและยีนลิงรวมกันอย่างต่อเนื่อง แต่พวกมันก็ดูเหมือนไม่ลงร้อยกัน เหมือนน้ำกับไฟ ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่มีทางหลอมรวมกันได้เลย

“หรือฉันจะไม่มีทางเดินบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะได้จริงๆ?”เฟิงหลินรู้สึกสั่นคลอน

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะมาโลกนี้ หากเส้นทางเขาถูกตัดก่อนเริ่ม แล้วเขาจะยอมรับมันได้ยังไง?

ไม่ เขาจะไม่ยอมแพ้!

เฟิงหลินทุ่มสุดตัว เขายังคงใช้ศักยภาพพันธุกรรมเขาลงในสองยีน พยายามกระตุ้นพวกมัน

ท้ายที่สุด หลังใช้ศักยภาพยีนไป360% กลุ่มดาวในตันเถียนเขาก็สลายตัว นอกจากนี้ สูตรพันธุกรรมใหม่ยังปรากฏต่อหน้าเขา

เฟิงหลินมองอย่างประหลาดใจ แต่ในไม่ช้าสีหน้าเขาก็ตามมาด้วยความตกใจ ยินดีและสับสน

ยีนลิงx10+ยีนหินx10 = ยีนลิงหิน???

..

….

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด