เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0091
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ [เรื่องใหม่]
••••••••••••••••••••
ตอนที่ 91 : เหล่าสัตว์ร้าย
ผู้รักษาการณ์ที่ประตูทางเข้าอดไม่ได้ที่จะมึนงงเมื่อพบว่าเป็นฉินหยุนที่วิ่งเข้ามา ขณะที่มึนงงอยู่นั้น ร่างของเขาก็ผ่านหายไปแล้ว
“อืม นั่นฉินหยุนหรือ? ไม่ใช่ว่าถูกขังอยู่ในหอคอยทัณฑ์สวรรค์?” ผู้รักษาการณ์วัยกลางคนเอ่ยถามมึนงง
“เป็นฉินหยุน ต้องรีบรายงาน!” หนึ่งในผู้รักษาการณ์เฒ่าชราเอ่ยคำและเร่งรีบวิ่งไป
เมื่อเดือนก่อน ฉินหยุนถูกคุมขังเอาไว้ในหอคอยทัณฑ์สวรรค์ และตอนนี้ถึงกับออกมาได้แล้ว!
บรรดาผู้รักษาการณ์ต่างไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาเพียงทราบว่าเรื่องนี้สำคัญยิ่ง ดังนั้นจึงต้องเร่งรายงานต่อผู้มีอำนาจสูงกว่า
ฉินหยุนก้าวเดินออกจากหอคอยทัณฑ์สวรรค์จึงพบว่าภายนอกมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นไม่น้อย โดยเฉพาะกับบรรยากาศ
หลังออกมา เขาจึงเร่งมุ่งหน้าไปยังบ้านพักในป่าไผ่
บ้านในป่าไผ่ ประตูปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา
ภายในไม่มีผู้ใดอยู่ สวนเต็มไปด้วยวัชพืช มองเพียงครั้งเดียวก็ทราบว่านี่ปล่อยถูกทิ้งร้างมาหลายวันแล้ว
“อาจารย์ไปจากสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงแล้วจริง!” ฉินหยุนรู้สึกเสียศูนย์ขณะลอบถอนหายใจอยู่ภายใน
จากนั้นเขาจึงเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังบ้านพักของผู้อำนวยการ มันเป็นบ้านที่สร้างด้วยไม้สีแดง
* * *
ในสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง บ้านไม้สามชั้นตั้งอยู่เคียงข้างลานฝึกยุทธ์
ที่ห้องหนังสือในบ้านไม้ของผู้อำนวยการจาง เขากำลังอ่านหนังสืออยู่ แต่อย่างกะทันหัน เขาได้เห็นฉินหยุนในชุดขาวยืนยิ้มตรงหน้า เขาพลันตระหนกจนคิดว่าเห็นผีเข้าตอนกลางวัน
ฉินหยุนยิ้มกล่าว “ผู้อำนวยการ ข้ามาเพื่อทวงรางวัล เมื่อเดือนก่อน ข้าจัดการเจียงหลางในการทดสอบปลายภาคเรียน เหมือนว่าข้ายังต้องได้รับหนึ่งแสนเหรียญผลึกเป็นรางวัลนะ”
ในวันนั้น รางวัลที่ฉินหยุนได้รับไปมีเพียงเม็ดยาพลังธาตุชั้นเลิศสิบเม็ด ตอนนั้นเป็นเขาโดนผู้คนจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามขัดไปก่อน
พอผู้อำนวยการจางได้ยินเสียงของฉินหยุน เขาจึงมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา กระทั่งถามออกด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “นี่เจ้าออกมาได้ยังไงกัน?”
“ข้าสร้างรูที่ยอดของหอคอย จากนั้นจึงค่อยใช้วิชาหดกระดูกเพื่อลดขนาดร่างกายและค่อยหนีออกมา”
ฉินหยุนยิ้มกล่าว “เร็วเข้าขอรับ เอารางวัลข้ามา!”
ผู้อำนวยการจางคิ้วกระตุก ทุกคนต่างทราบดีว่าหอคอยทัณฑ์สวรรค์แข็งแกร่งเพียงใด กระทั่งขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้ายังไม่อาจหลบหนีออกมา ลำพังอะไรกับเด็กหนุ่มขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้าเพียงคนเดียว...
“เจ้าช่างชอบทำอะไรที่เกินกว่าสามัญสำนึกจะคิดได้จริง ๆ” ผู้อำนวยการจางเพียงยอมรับความจริงขณะดำเนินเรื่องให้ฉินหยุนเข้าศึกษาในสถาบันของภาคเรียนถัดไป
“ตั้งแต่คนของตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามเข้าสถาบันยุทธ์ ค่าเล่าเรียนจึงเพิ่มขึ้น ทั้งหมดเป็นมูลค่าหนึ่งแสนเหรียญผลึก”
ฉินหยุนขมวดคิ้ว เพื่อหลบหนีออกมา เขาต้องหมดสิ้นเหรียญผลึกทั้งหมดที่มีในหอคอยทัณฑ์สวรรค์ เขาทำได้เพียงโอดครวญ “แพงนัก!”
ผู้อำนวยการจางส่งมอบตรานักเรียนใหม่มาให้และกล่าว “ค่าเล่าเรียนที่เพิ่มขึ้น หมายความถึงทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในช่วงสิบวันนี้มีการประลองของภาคเรียนใหม่ ก็เริ่มไปได้แล้วทั้งสิ้นแปดวัน เจ้าคิดเข้าร่วมหรือไม่? การแข่งขันนี้จัดขึ้นโดยตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม โดยหลักแล้วเป็นการออกล่าสัตว์ร้าย”
“แน่นอนขอรับ!” ฉินหยุนเร่งรีบกล่าวรับคำ เขารู้สึกเสียดายไม่น้อยที่พลาดไปแล้วตั้งแปดวัน
* * *
บริเวณทางตะวันตกของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง มีสวนขนาดใหญ่ซึ่งถูกล้อมเอาไว้ด้วยกำแพงสูง
ฉินหยุนตามผู้อำนวยการจางเข้าภายในสวน
สวนแห่งนี้คงอยู่มานานหลายปี ทั้งยังกว้างขวางยิ่ง ตอนนี้มันกำลังถูกใช้เป็นที่ทดสอบและแข่งขัน
ผู้อำนวยการจางกล่าว “ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามได้รวบรวมสัตว์ร้ายจำนวนมหาศาลไว้ที่นี่ พละกำลังของพวกมันทัดเทียมขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า จำเป็นต้องใช้การประสานงานของทั้งห้องเพื่อจัดการมันลงได้”
“และห้องเก้าก็มีเพียงเจ้า หมายความว่าเจ้าต้องล่าและสังหารพวกมันด้วยตัวเอง สำหรับผู้ที่สังหารได้มากที่สุดจะได้รับรางวัลไปตามลำดับ”
ฉินหยุนคล้ายหิวกระหายขณะยิ้มกล่าว “เริ่มได้เลยใช่หรือไม่ขอรับ?”
“เจ้าต้องระวังสัตว์ร้ายให้ดี! ตอนนี้เวลาเหลืออีกเพียงสองวัน เจ้าไม่น่าจะฆ่าได้มากมายอะไรเพียงนั้น จงอย่าได้ฝืนตนเอง...”
หลังเปิดประตู ผู้อำนวยการจางคิดอยากพูดอีกหลายอย่างก่อนฉินหยุนจะเข้าไป ทว่าในพริบตา เขาก็หายตัวเข้าไปแล้ว
หากต้องการได้รับทรัพยากรในสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงหรือสถาบันยุทธ์แห่งอื่น ก็จำเป็นต้องได้รับผลลัพธ์ที่ดีในการแข่งขันหรือการทดสอบเสียก่อน
“เหลืออีกแค่สองวัน เราต้องรีบลงมา หาสัตว์ร้ายพวกนั้นและต้องพยายามให้มากเพื่อรางวัล เราต้องไม่เสียหนึ่งแสนเหรียญผลึกเป็นค่าเล่าเรียนโดยสูญเปล่า!” ฉินหยุนคิดเช่นนี้กับตัวเอง
“วิ๊ว~”
ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนไป เมฆสีเทาเข้ามาแทนที่ ฝนเริ่มตกลงมาหนัก สภาพอากาศแปรเปลี่ยนอย่างกะทันหัน
ป่าที่อยู่ในสวนทดสอบแห่งนี้ทั้งมืดและหนาวเย็น ทั้งยังเต็มไปด้วยโคลน
ฝนสาดซัดยิ่งมายิ่งหนัก มันชะล้างร่องรอยทั้งหมดของสัตว์ร้ายจนเกลี้ยง กล่าวได้ว่ามันยิ่งทำให้ยากต่อการตามรอยสัตว์ร้าย
ฉินหยุนเพ่งจิตกับการสัมผัสออร่าอ่อนจางของสัตว์ร้าย
สัตว์ร้ายก็เป็นประเภทหนึ่งของสัตว์ปีศาจ เป็นเพราะพวกมันได้รับผลกระทบจากความขุ่นแค้น พวกมันจึงยิ่งดุร้ายและโหดเหี้ยม ร่างกายและออร่าของพวกมันแตกต่างออกไปสัตว์ปีศาจตามปกติ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายแยกพวกมันออกจากกัน
“เจอแล้ว ต้องลองใช้พลังจิตหมุนวนดู!” ใจของฉินหยุนเริ่มขยับขณะปลดปล่อยจิตวิญญาณแรกเริ่ม
จิตวิญญาณต้นกำเนิดมีการเชื่อมต่อใกล้ชิดกับจิต มันสามารถปลดปล่อยพลังจิตแรงกล้าได้ผ่านทางจิตวิญญาณต้นกำเนิด เป็นผลให้สามารถควบคุมพลังได้ดีขึ้น
อย่างฉับพลัน ฉินหยุนพบอะไรบางอย่าง ภายในใจพลันยินดีขึ้นมา “จิตวิญญาณต้นกำเนิดทรงพลังนัก ถึงกับทำให้สัมผัสถึงสัตว์ร้ายได้ชัดเจนเพียงนี้!”
ความดุร้ายโหดเหี้ยมของสัตว์ร้ายจะเผยออกซึ่งออร่าชั่วร้าย นี่เป็นพลังจิตประเภทหนึ่งที่ฉินหยุนสามารถสัมผัสได้ผ่านจิตวิญญาณต้นกำเนิด
อึดใจถัดมา ฉินหยุนมาถึงบริเวณพุ่มไม้แห่งหนึ่ง...
อย่างกะทันหัน หมียักษ์สีเทาที่เปี่ยมด้วยพลังปราณสีดำพลันโผล่พรวดออกมา!
“เวรแล้ว!” ฉินหยุนร้องอุทานขณะนำเอาค้อนราชันยักษ์วิญญาณออกมา และหวดเข้าที่หัวของหมีด้วยกระบวนท่าฟ้าคะนองสะเทือน!
สายฟ้ากราดเกรี้ยวลั่นออก ตามมาด้วยลำแสงสีแดงถูกยิงออกจนทะลุหัวหมีเพียงวูบเดียว!
หมีตัวนี้กรีดร้องก่อนล้มลงนิ่งตายสนิทกับพื้น!
“ไม่เห็นเก่งอะไรเลยนี่?” ฉินหยุนมองร่างหมีที่ตายแล้วขณะเม้มริมฝีปาก เขาเก็บมันใส่มิติเก็บของและเริ่มทำการค้นหาสัตว์ร้ายตัวต่อไป
เขาสามารถจัดการสัตว์ร้ายพวกนี้ได้ในการโจมตีเดียว! หากนักเรียนผู้อื่นได้มาเห็น พวกเขาต้องตื่นตะลึงกับพละกำลังระดับนี้อย่างไม่ต้องสงสัย!
เรื่องหนึ่งที่ควรทราบคือ เมื่อหลายวันที่ผ่านมา กระทั่งนักเรียนสองห้องร่วมมือกัน พวกเขาก็ยังไม่อาจจัดการหมีคลั่งได้!
แม้สัตว์ร้ายพวกนี้โหดเหี้ยม แต่พวกมันไม่ได้ไร้สติปัญญา พวกมันจะพยายามหลบเลี่ยงคนหมู่มาก และพวกมันก็แทบไม่คิดพบเจอผู้ใด ด้วยเหตุนี้การเจอตัวพวกมันด้วยคนเป็นหมู่คณะจึงเป็นเรื่องยากยิ่ง
แต่แล้ว ด้วยจิตวิญญาณต้นกำเนิด ฉินหยุนสามารถสัมผัสถึงออร่าของสัตว์ร้ายพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเขาเข้าไปใกล้ สัตว์ร้ายพวกนี้เมื่อพบว่าอีกฝ่ายมาโดยลำพัง มันจะกระโดดพรวดเข้าใส่โดยทันที ผลที่ได้คือค้อนของเขาจะหวดมันอย่างไร้ซึ่งความปราณี
* * *
สองวันผ่านพ้น หลายคนเริ่มรวมตัวกันตรงทางเข้าสวน
ที่ตรงนี้มีทั้งอาจารย์ ข้าราชบริพารจากนครหลวง และกระทั่งผู้อาวุโสจำนวนหนึ่งจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม
พวกเขามาก็เพราะฉินหยุน!
ทันทีที่ข่าวคราวเรื่องฉินหยุนหลบหนีจากหอคอยทัณฑ์สวรรค์แพร่กระจาย มันแทบสะท้านสะเทือนทั่วทั้งจักรวรรดิเทียนฉิน
หลายคนต่างทราบว่าหอคอยทัณฑ์สวรรค์น่าหวาดกลัวเพียงใด มันสามารถกักขังผู้ซึ่งอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้าจนตายตกได้มาก่อน
พวกเขาเดิมทีคิดว่าฉินหยุนที่โดนกักขังสิบปีคงต้องตายอยู่ภายในนั้น
แต่เรื่องราวน่าสะพรึงกลับได้รับยืนยัน ที่ส่วนปลายยอดของหอคอยทัณฑ์สวรรค์ มันถูกหลอมละลายจนเกิดเป็นรูจากภายในโดยเปลวเพลิงหลอมละลายของคนผู้หนึ่ง
ฉินหยุนครอบครองวิญญาณยุทธ์ไฟระดับทองม่วง ดังนั้นเปลวเพลิงที่ปลดปล่อยออกมาได้ย่อมชวนพรั่นพรึง เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่ทุกคนทราบ ดังนั้นนี่จึงเป็นเพียงข้อเท็จจริงเดียวที่เชื่อถือได้!
แทบทุกห้องเรียนต้องมีนักเรียนบาดเจ็บรุนแรง พวกเขาได้เห็นกันแล้วว่าสัตว์ร้ายในป่านั้นทรงพลังอำนาจเพียงใด
ตอนนี้ฉินหยุนยังไม่กลับออกมา แต่ก็เริ่มมีการนับจำนวนผลงานของชั้นเรียนกันแล้ว เป็นผู้อำนวยการให้การดูแลอยู่ทุกขั้นตอน
บรรดาอาจารย์นำส่งอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของจากห้องเรียนของตนที่เก็บร่างของสัตว์ร้ายเอาไว้ภายใน
ตอนนี้ ผู้นำของห้องเรียนจึงเริ่มนำเอาร่างของสัตว์ร้ายออกจากอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของ
หลังผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็นับกันจนเสร็จ กลุ่มที่สังหารได้มากที่สุดคือห้องแปด รวมแล้วได้สัตว์ร้ายมาทั้งสิ้นเก้าตัว
“ไม่เลวเลย ด้วยพลังของสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่ง เจ้าแทบสามารถฆ่าพวกมันได้หนึ่งตัวต่อวัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ” อาจารย์วัยกลางคนในชุดสีน้ำเงินหัวเราะภูมิอกภูมิใจขณะลูบศีรษะหัวหน้าห้องแปด
หัวหน้าห้องแปดนามจ้าวเต๋อ รูปลักษณ์ของเขาคล้ายชายชราในชุดสีน้ำเงิน ชัดเจนว่าเป็นพ่อลูกกัน
ชายชราในชุดสีน้ำเงินเป็นศิษย์ของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม เขาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อาจารย์ที่นี่ นามของเขาคือจ้าวกวงเหว่ย