ตอนที่ 49 หนึ่งการโจมตีที่ทรงพลัง (2) [อ่านฟรี]
ตอนที่ 49 หนึ่งการโจมตีที่ทรงพลัง (2)
ณ ที่นั่งของตระกูลหลิน หลินกู่เทียนมองไปทางหลินหานที่อยู่ไม่ไกลนัก ดวงตาของเขาได้เผยความหวาดหวั่นเป็นครั้งแรก
เฉินหยู่เป็นนักหลอมกายาจนมีร่างกายที่ทรงพลัง ต่อให้เป็นเขาออกไปสู้เอง เกรงว่าคงตึงมือ แต่หลินหานกลับสามารถโจมตีอีกฝ่ายจนกระเด็นด้วยการโจมตีเดียว ทำให้หลินกู่เทียนในตอนนี้เกิดความรู้สึกอันตรายในใจ เป็นความรู้สึกที่ตัวเองไม่สามารถควบคุมได้
"ลูกศิษย์จากตระกูลสาขาที่ต่ำต้อย มีคุณสมบัติอะไรมาแย่งทุกๆอย่างของข้าไป ... " เมื่อเห็นหลินหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างหลินหานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยท่าทางของสาวน้อย ในหัวใจของหลินกู่เทียนจึงไม่สามารถยับยั้งไฟริษยาและความมุ่งร้ายที่มีอย่างท่วมท้น
ถัดไป หลินยู่ หลินฉายและคนอื่นๆขึ้นสังเวียนแล้วประลองฝีมือกัน
งานชุมนุมชาวยุทย์ได้เข้าสู่สภาวะร้อนแรง
"หลินหานแห่งตระกูลหลิน ไม่ทราบว่าข้าจะขอท้าประลองด้วยได้หรือไม่" ทันใดนั้นมีเสียงละมุนดังขึ้น
เมื่อได้ยินชื่อ "หลินหาน" ทุกคนรอบสังเวียนก็สงบลงอย่างกระทันหัน
"ลั่วหงจวิ้น อัจฉริยะแห่งตระกูลลั่ว!"
"ได้ยินมาว่า ท่าร่างของลั่วหงจวิ้นอยู่ในอันดับสองของเมืองต้วนเทียน เป็นรองแค่คุณชายอู๋เสียเท่านั้น"
ทุกคนต่างพูดคุยซุบซิบกัน บางคนก็เดาเหตุผล
ลั่วหงจวิ้นคนนี้เห็นว่าร่างกายของหลินหานแกร่งกล้ามาก จึงคิดว่าความเร็วต้องเป็นจุดอ่อนของขา เขาจึงอยากจะใช้วิชาท่าร่างที่น่าทึ่งของตัวเองมาต่อกรหลินหาน
"แผนการแยบยลดีนี่!" ผู้คนไม่น้อยดวงตาเป็นประกาย
ใช่แล้ว
หลินหานคนนี้มีความแข็งแกร่งทางกายภาพ แต่ความเร็วจะต้องเป็นจุดอ่อนอย่างแน่นอน หากในระหว่างการประลอง หลินหานไม่สามารถแตะตัวลั่วหงจวิ้นได้ ท้ายที่สุดก็ต้องหมดแรงแล้วพ่ายแพ้ไป
"เฮ้ ลั่วหงจวิ้นวางแผนแยบยลดีนี่ แต่ก็ดี จะได้ให้บทเรียนเจ็บแสบเจ้าหนูนั่นบ้าง มันจะได้รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ" หลินกู่เทียนยิ้มอย่างเย็นชา แม้ว่าพลังต่อสู้ของลั่วหงจวิ้นจะไม่ทรงพลังมากนัก แต่วิชาท่าร่างนั้นถือเป็นลำดับต้นๆของเมืองต้วนเทียน
"ดี." หลินหานพยักหน้าแล้วเดินตรงไปบนสังเวียน เขาเองก็อยากจะลองวิชายุทย์ใหม่ของตัวเอง 'ทะยานเวหา'
บนสังเวียน ลั่วหงจวิ้นในชุดสีดำ หุ่นสูงเพรียว เต็มไปด้วยความปราดเปรียว หลินหานสามารถสัมผัสกับพลังลมเล็กน้อยรอบตัวเขา
"ดูเหมือน ด้านตบะจะมีคุณสมบัติธาตุลม ด้านความเร็วเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งในขอบเขตพลังเดียวกัน แต่มีความได้เปรียบอย่างมากด้านความแข็งแกร่ง" หลินหานวิเคราะห์ได้ในพริบตา
แน่นอนว่าหลินหานย่อมรู้แผนการของลั่วหงจวิ้น
เทียบความเร็วกันเหรอ?
หลินหานยิ้มเบาๆ มุมปากแสยะด้วยความมั่นใจ
"ห่านระบำร่างสูญ!"
การเคลื่อนไหวร่างกายของลั่วหงจวิ้นดั่งเงาที่จับต้องไม่ได้ พร้อมพุ่งตรงไปยังทางหลินหานทันที ร่างกายล่องลอยไม่แน่นอน ทำให้ผู้คนไม่สามารถติดตามร่องรอยได้
"นับวันวิชาท่าร่างของลั่วหงจวิ้นจะมีความซับซ้อนมากขึ้น" ลั่วเทียนหย่างแห่งตระกูลลั่วมองลั่วหงจวิ้น ด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
ส่วนผู้คนที่อยู่ด้านล่างต่างพากันตกตะลึง
"ห่านระบำร่างสูญ! คิดไม่ถึงว่าลั่วหงจวิ้นจะใช้วิชายุทย์ขั้นกึ่งสูงสุด ดูเหมือนครั้งนี้หลินหานได้ตาลายแน่"
"ข้ามองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าร่างของลั่วหงจวิ้นอยู่ตรงไหนกันแน่!"
หลายคนดูตกใจและอุทาน ในทางตรงกันข้าม หลินหานเพียงยืนอยู่อย่างเงียบๆ อารมณ์นิ่งสงบราวกับว่าเขามั่นใจว่าจะชนะแน่ๆแล้ว
"ก็แค่การบลัฟ" หลินกู่เทียนที่อยู่ด้านล่างสังเวียนยิ้มอย่างเย็นชาในหัวใจของเขา
ซู่เหออัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งห้าผยองที่อยู่ไม่ไกลนักกำลังมองภาพนี้เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีความมั่นใจในตัวหลินหานเป็นพิเศษ
บนสังเวียนต่อสู้
"หลินหาน ลงจากสังเวียนไปซะ!" เสียงเย็นชาดังขึ้นในทันใด
ร่างเงาหลายร่างที่ไม่แน่นอนของลั่วหงจวิ้น พุ่งตรงไปที่ด้านหน้าร่างกายของหลินหาน แต่ในวินาทีต่อมา จู่ๆเขาไปปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของหลินหานด้วยสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วโจมตีด้วยหมัดทันที
"หลินหานคนนี้จะต้องพ่ายแพ้!" ผู้คนด้านล่างสังเวียนล้วนอุทานเสียงดัง
ฮู!
ลั่วหงจวิ้นปรากฏกายจนชัดเจน ดวงตาของเขาเย็นชา กำปั้นโจมตีแผ่นหลังของ "หลินหาน" แต่ในวินาทีต่อมา พลันเขาพบว่าตัวเองโจมตีใส่ภาพติดตา
"ร่างเงา?!"
ผู้คนด้านล่างสังเวียนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างตื่นตะลึง
"หลินหาน" ซึ่งยืนอยู่ที่นั่นตลอด แต่กลับกลายเป็นภาพติดตาที่หลงเหลืออยู่
แล้วร่างจริงของเขาอยู่ที่ไหน?
ชั่วขณะที่ลั่วหงจวิ้นกำลังคิดคำนวณ จู่ๆใบหน้าของเขาก็สื่ออารมณ์น่าเกลียด
"ข้าอยู่นี่!" เสียงก็ดังขึ้นในอากาศอย่างฉับพลัน
กลางอากาศ?
สายตาของทุกคนเปลี่ยนไปในทันใดแล้วจ้องมองกลางอากาศ
วินาทีต่อมาพวกเขาดูตกใจมาก
กลางอากาศ ชายหนุ่มสวมชุดสีเขียวพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า กำลังย่างเก้าเดินลงมาบนอากาศเสมือนราชันย์ สายตาจ้องมองลั่วหงจวิ้นที่อยู่ด้านล่าง