ตอนที่แล้วตอนที่ 48 “ขโมยวิชา” อย่างบ้าคลั่ง [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 49 หนึ่งการโจมตีที่ทรงพลัง (2) [อ่านฟรี]

ตอนที่ 49 หนึ่งการโจมตีที่ทรงพลัง (1) [อ่านฟรี]


ตอนที่ 49 หนึ่งการโจมตีที่ทรงพลัง (1)

ในตอนแรกที่หลินหานถูกซู่เหอจับตามอง นั่นทำให้ใครหลายคนให้ความสนใจเขาอย่างมาก ทว่า ในเวลาเดียวกันพวกเขายังมีความหวาดหวั่นต่อหลินหานไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้น จึงไม่มีใครกล้าท้าประลองหลินหาน

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดในเวลานี้ เฉินหยู่แห่งตระกูลเฉินได้ท้าประลองหลินหานอย่างทนไม่ไหว

"เฉินหยู่ ในบรรดาคนรุ่นเยาว์ของตระกูลเฉินเขาถือเป็นผู้แข็งแกร่งลำดับสอง ซึ่งเป็นรองแค่เฉินอู๋เสียแห่งห้าผยองเท่านั้น ขอบเขตตบะของเขาคือยุทย์ฉะสวรรค์ขั้นสูงสุด"

"อีกอย่าง เขายังฝึกฝนเคล็ดวิชาหลอมกายาที่ทรงพลังอย่าง'เคล็ดวิชากายาหลอมศิลา' ทั้งฝ่ามือทั้งกำปั้นหนัก500กิโลกรัม

“หลินหานคนนี้ก็มีตบะในยุทย์ฉะสวรรค์เช่นกัน แต่ไม่ขึ้นสังเวียนเลย ไม่รู้ว่าเป็นการบลัฟหรือต้องการปกปิดพลังจริงๆ”

บรรดาศิษย์วัยเยาว์ส่วนหนึ่งต่างพากันพูดคุยกระซิบกระซาบ ทั้งยังสื่อความสงสัยในสายตา

"ดี" หลินหานยิ้มให้อย่างไม่แยแสต่อการท้าประลองของเฉินหยู่ เขาเดินขึ้นสังเวียนโดยสะพายดาบสนิมไว้ด้านหลัง

"หมัดศิลาเกรียงไกร!"

เฉินหยู่ไม่พูดพล่ามทำเพลง เขาใช้วิชายุทย์ทันที

หมัดศิลาเกรียงไกรเป็นวิชาต่อสู้ระดับสูงที่รู้จักกันดีในตระกูลเฉิน ความแข็งแกร่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และในเวลานี้เอง เฉินยู่ต่อยหมัดออกไปทำให้อากาศปั่นป่วน

"ฝ่ามือมังกรผงาด!" หลินหานตะโกนแล้วฟาดฝ่ามือออกไป

"อะไรนะ? ฝ่ามือมังกรผงาด?'

"หลินหานกำลังดูถูกเฉินหยู่หรือ? ทำไมเขาใช้วิชายุทย์ระดับต่ำมาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้?"

"เขาคงรนหาที่ตาย!"

มีคนจำนวนไม่น้อยที่เปลี่ยนสีหน้า สายตาดูถูก คำพูดเย้ยหยัน

"ฝ่ามือมังกรผงาด? วิชายุทย์ขั้นพื้นฐานของตระกูลหลิน?"

เฉินหยู่เองก็จดจำได้เช่นกัน สีหน้าของเขาจึงโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที พูดว่า "เจ้าดูถูกข้า! งั้นก็ตายซะ!"

บูม!

กำปั้นและฝ่ามือเข้าปะทะกัน ทำให้เกิดแรงระเบิดดังสะเทือนเลือนลั่นในทันที

"อ้ากกกกก!"

วินาทีต่อมา มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ร่างที่สูงใหญ่กระเด็นลอยไปในอากาศแล้วกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง

"อะไรหน่ะ?!"

"เฉินหยู่ถูกฝ่ามือโจมตีจนกระเด็นไปเลยเหรอ?!"

"แต่นั่นเป็นเพียงวิชายุทย์ระดับต่ำสุดเองนะ!"

ทันใดนั้นฝูงชนหันไปมองหลินหานที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตาพลันเผยความตกตะลึง

เด็ดขาดมาก  !

ร่างกายแกร่งกล้าอย่างยิ่ง!

พลังระเบิดอย่างน่าสะพรึง!

บัดนี้ สีหน้าของผู้คนมากมายกำลังอึ้งตะลึงงัน พร้อมแอบคาดเดาว่าหลินหานอาจจะเป็นผู้ใช้วิชาหลอมร่างกายเช่นกัน ทว่า จากข้อมูลที่ได้ยินแพร่หลายจากตระกูลหลิน ดูเหมือนหลินหานคนนี้จะเป็นนักดาบที่มีฝีมือสูงมิใช่หรือ

หลินหานจ้องมองเฉินหยู่ซึ่งถูกตัวเองซัดจนกระเด็นไป แต่มิได้แสดงท่าทีที่ลำพองใจแต่อย่างใด

ประการแรก เป็นเพราะเฉินหยู่ดูถูกคู่ต่อสู้ และเป็นเพราะความโกรธโกรธครอบงำ ทำให้เกิดความรู้สึกว้าวุ่นจนไม่ทันระวัง

ประการที่สอง แม้ว่าทั้งตัวเขาและเฉินหยู่ผู้นี้มีตบะให้ยุทย์ฉะสวรรค์เหมือนกัน แต่เขาได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไทกู่ควบคู่ไปด้วย สสารถ่องแท้แห่งพลังมังกรจึงมีมากมายจนเทียบได้กับปรมาจารย์ยุทย์ครึ่งขั้น

ประการที่สาม แม้ว่าเฉินหยู่จะเป็นผู้ใช้วิชาหลอมกายา แต่ร่างกายของหลินหานเองก็ทรงพลังมาก ใช่ว่าจอมยุทย์ทั่วไปจะสั่นคลอนได้

ถ้าเมื่อครู่หลินหานกระตุ้นกายาจักรพรรดิมังกร แล้วเพิ่มความแข็งแกร่งแก่ร่างกายและพลังต่อสู้ให้เป็นสามเท่า เกรงว่าแขนทั้งแขนของเฉินหยู่จะแตกหักในทันที ทว่า การประมือกันสิ้นสุดเเค่นี้ หลินหานเองก็ไม่มีความตั้งใจจะเสี่ยงชีวิตหรือเปิดเผยไพ่ในมือของเขาเร็วเกินไป

"เจ้าชนะแล้ว ... " เฉินหยู่ยืนขึ้นแล้วเช็ดเลือดจากมุมปาก ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่น

"ขอรับชัยชนะ."  หลินหานยกมือคำนับ แล้วลงจากสังเวียนอย่างนิ่งเฉย

แม้ว่าตั้งแต่ต้นจนจบจะสู้ด้วยหนึ่งกำปั้น ทั้งยังใช้วิชายุทย์ระดับต่ำสุดอย่าง "ฝ่ามือมังกรผงาด" แต่ความแข็งแกร่งของหลินหานได้สลักอยู่ในใจของผู้คนในงานแล้ว

“หลินหาน คิดไม่ถึงว่าพลังกายของเจ้าจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้” หลินหานกลับมายังที่เดิม หลินหรูเยียนจึงเดินเข้ามาใกล้แล้วพูดด้วยรอยยิ้มแสนหวาน

นางเคยได้ยินลุงกุ่ยพูดว่า นักพรตวิญญาณฝึกฝนพลังวิญญาณทำให้กายเนื้ออ่อนแอมาก แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับหลินหาน

“ค่อยน่าสนใจหน่อย” ไม่ไกลนัก ลั่วเทียนหย่างผู้เป็นศิษย์อันดับหนึ่งแห่งตระกูลลั่วเผยความแปลกใจในดวงตา

เฉินหยู่เดินกลับไปยังตำแหน่งที่นั่งของตระกูลเฉินด้วยสีหน้าหงุดหงิด เฉินอู๋เสียแตะไหล่เขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "หลินหานคนนี้แข็งแกร่งมาก บางที อาจจะมีพลังต่อสู้ในระดับเดียวกับห้าผยองแห่งเมืองต้วนเทียนอย่างพวกเราก็เป็นได้ เจ้ามิได้พ่ายแพ้อย่างน้าอดสูหรอก"

เมื่อเสียงของเฉินอู๋เสียจบลง เหล่าศิษย์ตระกูลเฉินก็ตกใจทันที ดาวรุ่งของตระกูลหลินคนนั้นแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆเหรอ?

เฉินหยู่ผู้เป็นอัจฉริยะอันดับสองแห่งตระกูลเฉิน เป็นรองแค่'คุณชายอู๋เสีย'แห่งห้าผยองเท่านั้น แต่หลินหานเอาชนะได้ในหนึ่งหมัด ทำให้บรรยากาศในสังเวียนดุเดือดเลือดพล่านขึ้น

ต่อจากนั้น ม้ามืดแต่ละคนที่แฝงกายอยู่ในขุมอำนาจต่างๆได้พากันขึ้นสังเวียน แล้วท้าทายห้าผยองรุ่นเก่า ทว่า เห็นได้ชัดว่าบรรดาคนที่ถูกเรียกว่า "ม้ามืด" ไม่ได้มีโชคแบบหลินหาน อย่าคิดว่าจะได้ต่อสู้ในระดับเดียวกับห้าผยองเลย เพราะแค่อัจฉริยะที่อ่อนแอที่สุดของห้าผยอง พวกเขายังสู้ไม่ได้

เวลานี้ ใครหลายคนที่เพ่งเล็งหลินหานก็เข้าใจได้ในที่สุด ว่าดาวรุ่งพุ่งแรงของตระกูลหลินนั้นทรงพลังจริงๆ ไม่ใช่เพราะโชคช่วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่สามารถเอาชนะเฉินหยู่ได้ในหนึ่งหมัด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด