93 ปีศาจแห่งความเย็นที่กัดกินร่างกาย
93 ปีศาจแห่งความเย็นที่กัดกินร่างกาย
“อาของลูกนี่งี่เง่าจริงๆ เขามีตำแหน่งที่ดีอยู่แล้วในบริษัท! ทำธุรกิจเองงั้นเหรอ? เขาคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยรึยังไง?!” จางซิวหยิงบ่น
พ่อของหวังเย้าไม่ได้พูดอะไร เขานั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา หวังเย้ารู้ว่าพ่อของเขานั้นก็ไม่ได้ยินดีกับเรื่องของอาคนเล็กของเขาเลย
“พ่อ อย่ากังวลเรื่องของอาเลย บางทีเขาอาจจะประสบความสำเร็จก็ได้ เขาก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว สูบบุหรี่มากๆมันไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ” หวังเย้าพูด
“พ่อรู้” หวังเฟิงฮวาพูด
หวังเย้านอนอยู่ที่บ้านในตอนกลางคืน ส่วนพ่อของเขานั้นได้ออกไปสังสรรค์ต่อกับเพื่อนๆในหมู่บ้าน
มันเป็นธรรมเนียมของคนในหมู่บ้านที่จะเชิญเพื่อนบ้านคนอื่นๆมาดื่มสังสรรค์กันที่บ้านของแต่ละคน แล้วพ่อของหวังเย้านั้นก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในหมู่บ้านอยู่หลายคน พวกเขาจึงต่างพากันเชิญพ่อของหวังเย้าไปที่บ้านเพื่อดื่ม
คนส่วนใหญ่มักจะดื่มมากขึ้นในช่วงเวลาของเทศกาล มันไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่แย่มากหรือไม่ปกติสำหรับการเมาในช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะกับคนที่ดื่มด้วยกันหลายคน
หวังเฟิงฮวาเริ่มเดินไม่ค่อยตรงในระหว่างทางกลับบ้านและตัวเขาก็มีแต่กลิ่นของแอลกอฮอล์ ดูเหมือนว่าเขานั้นจะดื่มไวน์เข้าไปหลายแก้ว
“คุณดื่มเยอะเกินไปอีกแล้วนะ!” จางซิวหยิงว่าเขา
“โชคดีที่ลูกชายของคุณ เขาเตรียมยาแก้เมาค้างไว้ให้แล้ว” จางซิวหยิงพูด
เธอบอกให้หวังเฟิงฮวาดื่มสมุนไพรที่หวังเย้าต้มเอาไว้ให้ หวังเย้ารู้ว่าพ่อของเขานั้นจะต้องดื่มหนักในช่วงปีใหม่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เลี่ยงได้ยากมาก
“สมุนไพรของเย้านี้ได้ผลดีจริงๆ!” หวังเฟิงฮวาพูด เขารู้สึกดีขึ้นมากเมื่อได้ดื่มน้ำสมุนไพรลงไป หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ค่อยๆหลับสนิท
ในวันที่สามของปีใหม่ เป็นวันที่ต้องไปเยี่ยมตายายของหวังเย้า
หวังเย้าขับรถพาครอบครัวของเขาไปที่บ้านของตายาย และได้เจอกับป้าของเขาและครอบครัว พวกเขามาถึงแทบจะในเวลาเดียวกัน
มันได้กลายเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่เมื่อมีหลายๆครอบครัวมาอยู่ด้วยกัน หวังเย้าและหวังรุ่ยได้กลายเป็นจุดสนใจ เพราะทั้งสองยังไม่มีใครแต่งงาน โชคดีที่ไม่มีคำพูดแย่ๆเกี่ยวกับหวังเย้าและหวังรุ่ย ตายายของหวังเย้านั้นมีความสุขมากที่ได้เห็นหลานๆของพวกเขา
“ไม่ต้องรีบแต่งงานหรอก การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ พวกเธอทั้งสองต้องค่อยๆหาคนที่ใช่นะ” ยายของเขาพูด
แต่พ่อแม่ของหวังเย้านั้นกลับอยากให้ลูกของพวกเขาแต่งงานให้เร็วที่สุด
ทุกคนนั่งรวมตัวกันทานมื้อเย็นใกล้กับเตาผิง หวังเย้านั้นมีช่วงเวลาที่ดีที่บ้านของตายายของเขา ปีใหม่นั้นถือเป็นช่วงเวลาที่ครอวครัวและเพื่อนฝูงมาอยู่ด้วยกันและมีช่วงเวลาดีดีร่วมกัน
หลังจากการทำงานหนัก ก็เป็นเวลาสำหรับทุกคนให้ได้ใช้ชีวิตช้าลง มีเวลาพักผ่อนและเตรียมพร้อมสำหรับปีใหม่ที่จะมาถึง
หวังเย้ากลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน หลังจากที่กลับมาจากบ้านของตายายของเขา เขาได้เอาอาหารและน้ำแร่โบราณมาให้ซานเซียนและต้าเซี่ย
ซานเซียนและต้าเซี่ยนั้นต่างก็ดีใจที่ได้เห็นหวังเย้า หวังเย้าได้อยู่คุยกับพวกมัน ถึงแม้พวกมันจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม แล้วเขาจึงไปตรวจดูแปลงสมุนไพรและอ่านคัมภีร์ เมื่อถึงเวลาบ่ายแก่ๆเขาก็กลับไปที่บ้าน
หลังจากวันที่สามของปีใหม่ ที่บ้านของหวังเย้าก็เริ่มมีแขกมาที่บ้านทุกวัน หวังเย้าและหวังรุ่ยต้องคอยอยู่ช่วยงานที่บ้าน
หวังเย้าไม่ต้องการให้พ่อของเขานำไวน์ที่เขาได้รับมาจากเทียนหยวนถูและเหอฉีเชิงออกมาต้อนรับแขก เพราะมันมีไว้สำหรับพ่อของเขาเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงได้ซื้อไวน์มาไว้สำหรับรับแขกอีกส่วนหนึ่ง และก็เป็นไวน์ที่รสชาติดีเช่นกัน
“นี่ เฟิงฮวา ไวน์นี้รสชาติดีมากเลยนะ!” เพื่อนคนหนึ่งของพ่อพูด
“ใช่แล้วล่ะ แล้วบุหรี่หวงเหอโหลวนี่ก็ดีเหมือนกัน!” เพื่อนอีกคนพูด
“เย้าเขาซื้อมาให้ฉันน่ะ” หวังเฟิงฮวาตอบ
พ่อของเขาไม่ได้พูดอะไรมาก แต่เขาก็ยิ้มอยู่ตลอดเวลา หวังเย้ารู้ว่าพ่อของเขานั้นภูมิใจในตัวเขามาก
ในวันที่หกของปีใหม่ก็ไม่มีแขกมาเยี่ยมแล้ว เพราะส่วนใหญ่นั้นเริ่มที่จะกลับไปทำงานกันแล้ว มันคือการเริ่มต้นของปีที่วุ่นวาย ชาวบ้านส่วนใหญ่นั้นทำงานในเมือง ดังนั้นเมื่อพวกเขาจากไปแล้วหมู่บ้านก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
หวังเย้ากลับไปที่เนินเขาหนานชานและนอนที่นั้น
เขามีความสุขกับการอยู่เงียบๆบนเนินเขา พอๆกับที่เขามีความสุขกับการที่ได้อยู่กับครอบครัวในวันปีใหม่
ช่วงเวลาที่ต่างกัน ความรู้สึกก็ต่างกัน
หวังเย้ามีงานให้ทำมากมายในหลายสัปดาห์นี้
เขาต้องติดตั้งค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณบนเนินเขาหนานชาน ซึ่งเป็นงานที่ซับซ่อนมาก มันต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานในการเตรียมการทั้งหมด เขายังต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบเพื่อขอใบรับรองอีกด้วย
ในแต่ละวัน กิจวัตรประจำวันของหวังเย้านั้นคือการทำงานในแปลงสมุนไพร, ฝึกพลังฉี, พาซานเซียนเดินไปรอบๆเนินเขา, แล้วกลับมาที่กระท่อม หวังเย้าได้วาดแผนที่ของเนินเขาหนานชานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขาได้ทำเครื่องหมายในจุดที่มีต้นไม้, หินและทางเดินเอาไว้ด้วย แผนที่นี้จะถูกใช้สำหรับการทำค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณ
เขาใช้เวลาอยู่คนเดียวมาหลายวันแล้ว จนกระทั่งมีแขกมาหาในวันหนึ่ง แขกของเขาก็คือเทียนหยวนถูนั้นเอง
“สวัสดีหยวนถู สุขสันต์วันปีใหม่!” หวังเย้าทักเขาจากที่ไกลๆ
“สุขสันต์วันปีใหม่เช่นกัน!” เทียนหยวนถูพูดเสียงดัง
“เชิญเข้ามาข้างในก่อน” หวังเย้าพูด เขาเชิญเทียนหยวนถูเข้ามาในกระท่อม
ภายในกระท่อมนั้นค่อนข้างที่จะเย็นมาก
เทียนหยวนถูนั่งลงและอธิบายถึงสาเหตุที่เขามาในวันนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่ายาที่หวังเย้าให้แม่ของเพื่อนเขาไปนั้นมันได้ผลดีมาก ดังนั้นเทียนหยวนถูจึงต้องการที่จะซื้อเพิ่ม
“อาการแม่ของเพื่อนคุณเป็นยังไงบ้าง? เธอป่วยอีกแล้วเหรอ?” หวังเย้าถาม
“เปล่า เธอแค่ต้องการยา เผื่อว่าในอนาคตเธออาจจะต้องใช้มัน” เทียนหยวนถูพูด
หวังเย้าไม่ได้ตอบกลับไปในทันที
มันเป็นเรื่องปกติที่จะเก็บยาบางอย่างเอาไว้ที่บ้าน แต่ไม่ใช่กับซุปเป่ยหยวน เพราะว่าหวังเย้าไม่สามารถกำหนดวันหมดอายุของซุปเป่ยหยวนได้ แต่เขารู้ว่าฤทธิ์ของมันจะลดลงเรื่อยๆหากทิ้งเอาไว้นาน
แล้วหวังเย้าก็ได้อ่านข้อมูลการรักษาของเธอมาก่อนและรู้ว่าซุปเป่ยหยวนนั้นไม่สามารถรักษาโรคที่เธอเป็นอยู่ให้หายขาดได้ มันเพียงแค่ช่วยชะลออาการของโรคให้ช้าลงเท่านั้น โรคของเธอนั้นสาเหตุมาจากความหนาวเย็นที่ร้ายกาจ ซึ่งมันได้แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายและอวัยวะภายในของเธอ มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะรักษาให้หายได้
เทียนหยวนถูยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะเพื่อรอคำตอบจากหวังเย้า
“ผมคิดว่าผมควรจะต้องเจอคนไข้เป็นการส่วนตัวก่อน” หวังเย้าพูดหลังจากที่คิดดีแล้ว
“เอ่อ...” ในตอนนี้หวังเย้าได้ทำให้เทียนหยวนถูรู้สึกลำบากใจ
เทียนหยวนถูรู้ว่าหวังเย้านั้นไม่มีการไปเยี่ยมคนไข้ที่บ้าน และเขาก็รู้ด้วยว่า ด้วยอาการเจ็บป่วยของแม่เพื่อนของเขานั้น ทำให้เธอไม่สามารถเดินทางในช่วงที่อากาศหนาวแบบนี้ได้ เพราะร่างกายของเธอนั้นอ่อนไหวกับอากาศที่หนาวเย็นแบบนี้มาก