เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0085
ตอนที่ 85 : เด็กใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุด
เจียงหลางสวมชุดคลุมยาวสีน้ำเงินปักลาย นี่คล้ายจะเป็นเครื่องแบบที่บรรดาศิษย์ของตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามสวมใส่
เขาก้าวเดินออกมาอย่างอหังการ ทั่วทั้งร่างล้วนแผ่รังสีอัตตาเปี่ยมล้น
ท่ามกลางนักเรียนใหม่ เขาคือคนที่มีระดับการฝึกตนสูงที่สุด ทุกคนล้วนรู้สึกได้ ว่าความสามารถระดับนี้ควรแค่แก่ท่าทีอหังการแล้ว
เจียงหลางปล่อยหมัดออกด้วยกำลังรุนแรง มันปะทะเข้ากับกลองยักษ์อย่างดุดัน!
เสียงปะทะรุนแรงราวกลองระเบิดออก ฝูงชนที่อยู่ใกล้กลองล้วนรู้สึกคล้ายเลือดในกายแทบจะระเบิดออก
แก้วหูทุกผู้คนล้วนอื้ออึงขณะมองขึ้นฟ้าสูง
ก้อนหินบนตัวกลองลอยขึ้นไปสูงลิบ จนกระทั่งดวงตาของมนุษย์แทบไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจน
มีแต่ผู้ที่สายตาดีเยี่ยมจึงสามารถเห็นเป็นจุดเล็กได้!
นกแก้วพลันโบยบินขึ้นฟ้า ก่อนสักพักค่อยบินลงมา
“ห้าพัน! ห้าพัน!” เสียงร้องของนกแก้วนี้คล้ายแตกตื่นไม่น้อย
นักเรียนทั้งหมดที่นี้ล้วนตื่นตะลึง!
กระทั่งนักเรียนเก่าที่อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า พวกเขาล้วนตื่นตกใจอย่างลึกล้ำต่อพลังภายในที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
“นี่คือพลังของขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก!”
“ได้ยินมาว่า ผู้ที่อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หกเคยทดสอบสิ่งนี้มาก่อน ตอนนั้นอย่างดีที่สุดก็ราวสามหรือไม่ก็สี่พันเมตร”
“น่ากลัวยิ่งนัก นี่มันระดับสัตว์ประหลาดแล้ว! ถ้าหากเขาเผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจระดับหก คงจัดการมันได้ในกระบวนท่าเดียวแน่!”
“ดูเหมือนวิญญาณยุทธ์เสียงจะส่งเสริมพลังอำนาจแก่เจียงหลางไม่ใช่น้อย!”
ขณะทุกคนสนทนากันอย่างออกรส พวกเขาก็ได้ยินคนผู้หนึ่งตะโกนขึ้น “ฉินหยุนกำลังจะทดสอบแล้ว!”
ฉินหยุนเพียงขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า ทว่าด้วยวิญญาณยุทธ์ไฟระดับทองม่วง พลังภายในของเขาไม่สมควรอ่อนด้อย
ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงคาดหวัง โดยเฉพาะกับนักเรียนเก่าที่อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า พวกเขาต้องการเห็นถึงความแตกต่างทางด้านพละกำลัง
ในสายตานักเรียนเก่าที่อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า ฉินหยุนนับว่าแข็งแกร่งยิ่ง
โดยเฉพาะศักยภาพที่เขาเผยออกในการแข่งขันประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้น กล่าวได้ว่าเขาถึงขั้นสร้างความตื่นตะลึงแก่ทั้งสามจักรวรรดิ ชื่อเสียงของเขาขจรไกลจนแทบทุกหัวมุมล้วนรู้จัก
ฉินหยุนก้าวเดินออกขณะโคจรพลังภายในของวิญญาณยุทธ์ไฟระดับทองม่วง เขาฟาดหวดกลองยักษ์ด้วยเสียงสนั่น
ก้อนหินลอยขึ้นฟ้าสูงไกลลิบ ทว่าก็ยังสามารถเห็นได้เพราะไม่ได้สูงล้ำเหมือนครั้งก่อนหน้า
หลังนกแก้วร่อนลงมาจึงตะโกน “สามพันเจ็ดร้อยเมตร!”
“โฮ่!”
บรรดานักเรียนเก่าร้องออกด้วยความประหลาดใจ ความสูงนี้ไม่ได้สูงเหมือนอย่างเจียงหลาง แต่มันก็เหนือกว่าบรรดานักเรียนเก่าที่อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้ากันทั้งสิ้น!
มันกระทั่งสูงกว่าผู้อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับหกซึ่งเคยทดสอบก่อนหน้านี้เสียอีก
ฉินหยุนเพียงขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า พลังภายในของเขายังแข็งแกร่งเพียงนี้ หากก้าวสู่ระดับหก แบบนั้นมันอาจเหนือยิ่งกว่าเจียงหลาง!
ฉินหยุนไม่ได้ใช้พลังภายในสั่นไหว ไม่เช่นนั้นเขาสมควรเหนือล้ำยิ่งกว่าเจียงหลาง แต่หากใช้ที่ตรงนี้ มันก็จะง่ายแก่การถูกเปิดเผย
“หากเราใช้พลังภายในสั่นไหว พละกำลังต้องไม่อ่อนด้อยไปกว่าเจียงหลาง!” ฉินหยุนเพียงคิดกับตนเอง ในตอนนี้ เขามีความคิดเรื่องพลังของเจียงหลางแล้ว
เจียงหลางมองฉินหยุนจากที่ไกลออกไป ดวงตานั้นเปี่ยมไปด้วยความเหี้ยมโหดดำมืด
เขาครอบครองวิญญาณยุทธ์ในตำนาน ดังนั้นย่อมต้องเป็นเด็กใหม่ซึ่งส่องประกายที่สุดของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง แต่แล้วฉินหยุนกลับขโมยแสงสีอันเจิดจ้าเหล่านั้นไปจากเขา
ตอนนี้เขาก้าวสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หกแล้ว ในที่สุดเขาจึงค่อยได้รับความสนใจ แต่แล้วเขากลับรู้สึกว่านี่ไม่เพียงพอ เขาคิดอยากทำลายฉินหยุนเพื่อดึงทุกสายตามาสู่ตน เขาต้องการทวงเกียรติยศคืนกลับมา!
จักรพรรดินี ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามตะวันตก สถาบันยุทธ์ระดับเสวียน... พวกเขาทั้งหมดล้วนคาดหวังให้เจียงหลางสามารถจัดการฉินหยุนให้สิ้นซาก หากเขาทำได้ เขาจะได้รับรางวัลจากแทบทุกฝ่าย
ช่วงบ่าย การทดสอบรอบแรกสิ้นสุดลงเรียบร้อย กว่าครึ่งของเด็กใหม่ทดสอบไม่ผ่าน นักเรียนเหล่านั้นจำต้องกลับไปเก็บของจากไปด้วยความสิ้นหวัง
สำหรับนักเรียนที่ผ่านการทดสอบรอบแรก ก็ยังมีการประลองในช่วงบ่ายรออยู่!
ในรอบแรกเพียงทดสอบความแข็งแกร่งของพลังภายใน เจียงหลางนั่งอย่างไม่ไหวติงอยู่อันดับหนึ่ง ทั้งยังได้รับรางวัลเป็นเม็ดยาพลังธาตุชั้นดีสองเม็ด ฉินหยุนได้อันดับสอง เขาได้รับเม็ดยาพลังธาตุระดับสูง ขณะที่อันดับสามได้สองหมื่นเหรียญผลึก
ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์นั่งอยู่ด้วยกันที่ม้านั่งในบริเวณลานเพื่อพักผ่อนยามเที่ยง
หยางฉีเย่ว์กอดอกเผยสีหน้าเย็นชา นางกำลังมองไปยังเจียงหลางที่อยู่ไกลออกไปพร้อมกล่าวเสียงเย็น “ฉินหยุน เจียงหลางนับเป็นคนที่นิสัยไม่ค่อยดีนัก เขาต้องเป็นคนน่ากลัวที่สุดเท่าที่เจ้าเคยเผชิญหน้าด้วยแน่!”
“ข้าจะระวังขอรับ!” เขาทราบนานแล้วว่าเจียงหลางเป็นเช่นไร ทั้งนี้อีกฝ่ายยังเป็นฝ่ายของจักรพรรดินี
เขาหันมองแม่น้ำที่อยู่ไกลออกไปจากลานฝึกยุทธ์ เขาพบว่าที่นั่นมีชายชราสองคนจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม พวกเขาสมควรมาจากตำหนักตะวันตก ทั้งยังมีคนของตระกูลเจียงรวมอยู่ด้วย
“จักรพรรดินีก็อยู่ที่นี่!” หยางฉีเย่ว์หันมองไปยังทิศทางลานกว้างและกล่าวอุทาน
จักรพรรดินีเพียงสวมใส่ชุดสีม่วงเรียบง่าย นางนำข้าราชบริพารเฒ่ามาด้วยเพียงไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือพระยาเยี่ยน
ที่นี่ไม่ใช่พระราชวังหลวง สิทธิพิเศษของพวกเขาล้วนไม่อาจใช้ที่นี่ ดังนั้นจึงไม่กล้าเปิดเผยตัวตนอย่างยิ่งใหญ่แต่อย่างใด
“ดูเหมือนพวกเขาจะมั่นใจในตัวเจียงหลางมาก หญิงโฉดชั่วผู้นี้ตอนฉินเฟิงประลองยังไม่มาเลย” ฉินหยุนกล่าวเสียงเบา
“ในภายหน้า เมื่อฉินเจิ้งเฟิงครองบัลลังก์และกลายเป็นจักรพรรดิ เขาต้องสนับสนุนผู้ฝึกตนมีพรสวรรค์อย่างเจียงหลางแน่ และตัวจักรพรรดินียังคิดเอาชนะทุกผู้คนที่ต่อต้านนาง นางคงอยากเห็นเจ้าแพ้อย่างหมดสภาพด้วยเงื้อมมือของเจียงหลางเป็นแน่” หยางฉีเย่ว์แค่นเสียงกล่าว
สีหน้าของจักรพรรดินีเย็นเยือกเหมือนอย่างเคย ขณะสายตาของนางมองที่ฉินหยุน ท่าทีอหังการนั้นคล้ายแผ่ความเย็นเยือกออก ดวงตานางหาได้ปิดซ่อนความคิดฆ่าฟันขณะแสงวูบวาบชั่วร้ายทอประกายในดวงตา มันเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง
การทดสอบรอบที่สองเริ่มขึ้นแล้ว โดยจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเพื่อแข่งขัน ฉินหยุนและเจียงหลางไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน
พวกเขาต้องแข่งขันกันในลานประลองที่แตกต่างกัน
นี่เป็นการแข่งขันระหว่างเด็กใหม่ ระหว่างเจียงหลางและฉินหยุนไม่มีการตัดสินว่าใครจะชนะในรอบนี้แต่อย่างใด
โชคดีที่การทดสอบรอบนี้เพียงแค่การทดสอบโดยรวม ไม่ว่าใครจะชนะ ก็จะไม่มีทางถูกเตะพ้นจากสถาบันยุทธ์
สิ่งที่แตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือ ผู้ที่ประลองกับฉินหยุนจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ได้รับการชี้แนะเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
สำหรับสองคนที่สู้กับเจียงหลาง พวกเขาล้วนบาดเจ็บหนัก ภายหลัง ในทันทีที่นักเรียนคนหนึ่งก้าวขึ้นลานประลอง พวกเขาเหล่านั้นจะประกาศขอยอมแพ้โดยทันที ไม่เช่นนั้นคงโดนเจียงหลางทำให้พิการอย่างไม่ต้องสงสัย
ชั่วขณะนี้ ทุกคนต่างประทับใจในตัวฉินหยุนแทนแล้ว พวกเขารู้สึกว่าอีกฝ่ายสมเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์คนหนึ่ง ระหว่างประมือกับผู้อื่น เขาจะช่วยชี้แนะและบ่งบอกถึงวิธีแก้ไขไปด้วย
บรรดานักเรียนที่ประลองกับฉินหยุนคล้ายไม่หวั่งเกรงขั้วอำนาจอย่างจักรพรรดินีอีกต่อไป เป็นเพราะเขาช่วยชี้แนะพวกเขาต่อหน้า!
หากเทียบกันแล้ว เจียงหลางผู้ซึ่งโจมตีอย่างโหดเหี้ยม นั่นเป็นตัวตนที่ไม่สมควรยุ่งเกี่ยวด้วย
จักรพรรดินีและข้าราชบริพารระดับสูงล้วนกัดฟันกรอดขณะรับชมเรื่องราว
และเมื่อใดที่เจียงหลางได้ยินผู้อื่นลอบกล่าวชมฉินหยุน เขาแทบปรารถนาจะสังหารมันผู้นั้นลงต่อหน้า
ผ่านการประมือไปหกชั่วโมง ผู้ชนะคนสุดท้ายของทั้งสองลานประลองได้แก่ฉินหยุนและเจียงหลาง พวกเขาได้เข้าสู่การประลองรอบตัดสิน!
ทันทีเมื่อพวกเขาเตรียมตัวขึ้นลานประลองยุทธ์ ต้วนเฉียนและผู้อำนวยการจางต่างแนะนำให้ฉินหยุนอย่าได้ขึ้นไป
เรื่องนี้เพราะพวกเขาได้เห็นอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายคิดทวงศักดิ์ศรีกลับคืนมา ตำหนักตะวันตกได้ใช้เวลาทั้งเดือนเพื่อทำนุบำรุงเจียงหลาง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เขาเก็บเชี่ยวความสำเร็จด้วยชัยชนะของการทดสอบ!
ฉินหยุนคือเด็กหนุ่มที่เหนือล้ำที่สุดในบรรดาสามจักรวรรดิ แม้ยังเยาว์เพียงนี้ ทุกคนกลับปรารถนาจัดการเขาเพื่อยกชื่อเสียงของตนขึ้น กระทั่งเจียงหลางผู้ครอบครองวิญญาณยุทธ์ในตำนานก็ไม่เว้น!
ตอนนี้ผู้คนรวมตัวกันเพื่อรับชมแทบเต็มรอบนอกพื้นที่ลานประลองยุทธ์ ทุกคนล้วนคาดหวัง ว่าใครกันจะเป็นเด็กใหม่อันดับหนึ่งของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงกันแน่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการประลองครั้งนี้แล้ว!