ตอนที่ 132 เจ้ากำลังรบกวนข้า
ซือหยูลงเริ่มลงมือก่อน ขณะที่เจียงเมิ่งเอ๋อร์และเมิ่งหยูยังคงยืนอยู่กับที่
ฮึ่ม...พลังลมปราณที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาอย่างดุเดือด เห็นได้ชัดว่าสิ่งซือหยูใช้ออกมาคือเพลงดาบจักรวาลไร้ขอบเขตซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เพลงดาบของนิกายดายเทียนหยวน ด้วยการฟันที่รุนแรง ดาบยาวของเขาแสดงพลังมหาศาล
"ฮ่าฮ่า น่าขัน!"ซูเปายิ้มและฝ่ามือของเขาก็สร้างพลังที่น่าสะพรึงกลัวขึ้น ในช่วงเวลาต่อไป กำปั้นของเขาก็พุ่งตรงไปข้างหน้า
มันทำให้ดูเหมือนช้างป่าขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาพวกเขา
กำปั้นของเขากระแทกดาบยาวจนทำให้เกิดโค้งงอที่ใบดาบ จากนั้นกำปั้นอันทรงพลังของซูเปาก็ยังคงมุ่งตรงไปที่ซือหยู
"อะไร?"ซือหยูตกใจมาก เขาไม่ได้คาดคิดว่าการเคลื่อนไหวที่เขาพยายามเรียนรู้อย่างหนักจะถูกทำลายอย่างง่ายดาย
กำปั้นนั้นกระแทกเข้าใส่ซือหยู
"อั่ก!"
เลือดคำหนึ่งพุ่งออกมาจากปากของซือหยูทันที ร่างของเขางอไปข้างหลัง
"ซือหยู"เมิ่งหยูตกใจ เงาดาบนั้นพุ่งตรงไปที่ลำคอของซูเปาในทันที
"ดี"ด้วยรอยยิ้ม ซูเปาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและกำปั้นที่มีพลังอันน่ากลัวของเขาก็พุ่งออกมา
กำปั้นที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งที่ยิ่งกว่า
ปัง!
ฉากเดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง เลือดไหลออกมาจากปากของเมิ่งหยูมากมายและตัวของเขาก็กระแทกเข้ากับเก้าอี้ข้างๆ เนื่องจากการกระแทกที่รุนแรง เก้าอี้จึงกระเด้นด้วยแรงน่าเหลือเชื่อ
โดยบังเอัญ ทิศทางที่เก้าอี้กระเด็นไปนั้นคือที่ที่นักดาบที่สวมชุดคลุมสีดำนั่งอยู่
เมื่อพบว่ามีเก้าอี้กระเด็นมาหาเขา ดาบสีดำในมือของเขาสะบัดและแผ่พลังลมปราณที่เพียงพอจะทำให้เก้าอี้แตกเป็นชิ้นๆ
"ข้าแค่อยากจะดื่มอย่างเงียบๆ แต่เจ้า...กำลังรบกวนข้าอยู่"เสียงเย็นๆเปล่งออกมาในทันที
"หืม?"ทุกคนนั้นมองไปที่นักดาบในชุดคลุมสีดำอย่างรวดเร็ว
ข่าวที่ว่าตำหนักขุนพลดาบนั้นจะสู้กับกลุ่มสัตว์ป่าคลั่งในสวรรค์อมตะแห่งนี้ได้แพร่กระจายไปสักพักแล้ว ดังนั้นจะไม่มีแขกมาที่สวรรค์อมตะในวันนี้ แต่นักดาบที่สวมชุดคลุมสีดำกลับอยู่ในที่แห่งนี้ตลอดทั้งวัน
เมื่อคนของทั้งสองกลุ่มมาถึงที่นี่ พวกเขาล้วนเห็นนักดาบคนดังกล่าว แต่พวกเขาไม่ได้สนใจแต่อย่างใด
แต่ตอนนี้..
"ไอ้นี่..."เจียงเมิ่งเอ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อนางเห็นร่างของนักดาบที่สวมชุดคลุมสีดำ นางนั้นรู้คุ้นเคยราวกับเขารู้จักเขา แต่นางก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าเพราะอะไร
ที่จริงแล้วนางควรจะรู้จักคุ้นเคยกับเขา เนื่องจากตัวตนที่แท้จริงของนักดาบชุดคลุมดำคือเจียงวู่เฉิง เขาคือคนที่เป็นดั่งฝันร้ายของนางในช่วงสามปีที่ผ่านมา
เจียงวู่เฉิงดึงหมวกไผ่ของเขาลงเพื่อไม่ให้มองเห็นหน้าตาของเขาได้
"ข้าพูดกับเจ้า"เสียงของเจียงวู่เฉิงดังขึ้นอีกครั้ง"เจ้ารบกวนเวลาของข้า เจ้าจะทำยังไงดี?"
เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ ทุกคนจากตำหนักขุนพลดาบก็ตกตะลึง
ไม่เหมือนกับพวกนั้น พวกของซูเปาตะโกนว่า"ไอ้ลูกสุนัข!ออกไป!"
เมื่อตะโกนใส่เจียงวู่เฉิง ซูเปาก็ยื่นมือใหญ่ของเขา ดูเหมือนว่าซูเปากำลังจะคว้าคอของเจียงวู่เฉิงและโยนเขาออกไป
ซูเปาพุ่งเข้าหาเจียงวู่เฉิงด้วยความรวดเร็ว
วืด!
แสงดาบอันดุร้ายได้พัดผ่านเข้ามา
มันเร็วจนไม่น่าเชื่อ!
แสงนั้นหายไปทันที
ไม่มีใครสามารถเห็นเส้นทางของแสงดาบได้อย่างชัดเจน สิ่งที่พวกเขาเห็นคือแสงดาบที่ว่องไว และเจียงวู่เฉิงก็ยังคงนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะ อย่างไรก็ตามซูเปาที่แต่เดิมจะเข้าไปคว้าคอของเจียงวู่เฉิงนั้นแข็งทื่อ
"เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขาถึงนิ่งไปอย่างนั้น?"ซือหยูกล่าวและรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
"หุบปาก"เจียงเมิ่งเอ๋อร์พูดด้วยความโกรธ
ซือหยูตกใจกับเรื่องนี้
"ตายแล้ว ซูเปาตายไปแล้ว"เจียงซินหงพูดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ"เจ้าไม่เห็นรอยเลือดที่ไหลออกมาจากคอของซูเปาหรือ?เขาถูกฆ่าตายในกระบวนท่าเดียว"
"อะไรนะ?"เมิ่งหยู,ซือหยูและเหล่านักรบจากตำหนักขุนพลดาบต่างตกตะลึง
"ใช่ มีคราบเลือดจริงๆ'
"พลังรอบๆตัวเขาเริ่มหายไป"
"เขาตายไปแล้วจริงหรือ?"
ทุกคนนั้นตกตะลึง
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าซูเปานั้นโจมตีซือหยูและเมิ่งหยูด้วยหมัดของเขาจนทำให้ทั้งสองบาดเจ็บสาหัส นั่นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขา อย่างไรก็ตามเขาถูกฆ่าตายภายในกระบวนท่าเดียว
ตึก!
ในที่สุดร่างของซูเปาก็หล่นลงมาอย่างอ่อนแอ
"น้องสาม!"เสียงร่ำไห้และคำรามโหยหวนดังขึ้น
มันทำให้ตำหนักขุนพลดาบตกตะลึง แต่มันทำให้กลุ่มสัตว์ป่าคลั่งดุร้ายยิ่งขึ้น ซูหลงและซูฮูต่างก็ตกใจและโกรธอย่างมาก พวกเขาจ้องไปที่เจียงวู่เฉิงด้วยความโกรธเกรี้ยว เจตนาฆ่าฟันถูกปล่อยออกมาอย่างน่าทึ่ง
"เจ้าฆ่าน้องสามของข้า ดังนั้นข้าจะฆ่าเจ้าซะ!"ซูหลงโกรธอย่างมาก ร่างของเขานั้นวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในขณะที่ปล่อยออร่าที่น่าหวาดกลัวเหมือนสัตว์ร้ายออกมา
ทันทีที่พวกเขารู้สึกถึงพลัง เมิ่งหยูและซือหยูหน้าซีดเซียวทันที
ก่อนหน้านั้นพวกเขาคิดว่าเขาจะสามารถสู้กับซูหลงได้ และถึงแม้เขาจะพ่ายแพ้แต่หากเขาร่วมมือกันสามคนเขาย่อมชนะอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้พวกเขาล้วนตระหนักได้ว่าพวกเขาไร้เดียงสาเกินไป
ซูหลงไม่ต้องโจมตีพวกเขา แค่ปลดปล่อยพลังออกมาก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวในทันที นั่นทำให้พวกเขาสูญเสียความกล้าหาญที่จะต้องต่อสู้จนหมดสิ้น
"แข็งแกร่งมาก!"
"นั่นคือความแข็งแกร่งของผู้เชี่ยวชาญในทำเนียบมังกรปฐพี?"
เมิ่งหยูและซือหยูอ้าปากค้างเมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
เจียงเมิ่งเอ๋อร์จ้องมองด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
ทันทีที่ซูหลงพุ่งไปข้างหน้า แสงดาบก็กระพริบอีกครั้ง
แสงดาบนั้นงดงามและมีเสน่ห์ราวกับทำให้เมามาย
แสงดาบนั้นดูเหมือนจะเคลื่อนไหวช้า แต่มันถูกขยายอยู่ภายในส่วนลึกดวงตาของซูหลง
ความกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาของซูหลง จากนั้นแสงดาบก็ลอดผ่านหน้าอกของเขา
ในขณะที่สวมหมวกและซ่อนใบหน้าของเขาให้มากที่สุด เจียงวู่เฉิงก็ปรากฏตัวที่ด้านหลังของซูหลง โดยมีเลือดหยดลงมาจากคมดาบสะบั้นชีพของเขา
รูปร่างและพลังที่น่าหวาดกลัวของซูหลงหายไปในทันที จากนั้นเขาก็หันหัวของเขาและพูดอย่างช้าๆ"เจ้า เจ้าเป็นใคร..."
ทันใดนั้น ปุบ!
ซูหลงก็ร่วงหล่นในทันที
เจียงวู่เฉิงดึงหมวกไผ่ของเขาลงและจ้องมองไปที่ซูฮูที่เป็นคนรองของสามพี่น้องตระกูลซู
"ทั้งพี่ชายและน้องชายของเจ้าตายแล้ว ตอนนี้ถึงตาของเจ้าแล้ว"
ทันทีที่เสียงของเขาจบ แสงดาบอันสวยงามก็เปล่งประกายอีกครั้ง
ซูฮูจ้องมองด้วยตาของเขา และเขาก็ล้มลงในวินาทีต่อมา
...