ตอนที่ 90 : ร้านใหม่(อ่านฟรี)
“นี่ท่าน ฉันคิดว่าท่านต้องขยายร้านค้าอีกแล้วละ” เหลียงชีผู้มาถึงช้ากว่าปกติ เขาบ่นหลังจากที่รู้สึกว่ารอนาน
ธุรกิจของฟางฉีกำลังเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง
“ร้านใหม่จะเปิดวันพรุ่งนี้” ฟางฉีตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์
“พะ พรุ่งนี้หรอ?” เหลียงชีหัวเราะ “พนันได้เลยว่าการขยายร้านเป็นเรื่องยาก!”
ฟางฉีหยักไหล่โดยไม่สนใจในคำพูดของเหลียงชี
“เดี๋ยวนะ ฉันลืมไป” เหลียงชีตบหน้าผากตัวเอง “มันอาจเป็นสิ่งที่ยากสำหรับเรา แต่สำหรับบางคนอาจง่ายเหมือนการยกนิ้ว” เขาน่าจะกำลังพูดถึง ‘ผู้ฝึกฝนที่ทรงพลัง’ ซึ่งอยู่เบื้องหลังคาเฟ่แห่งนี้ ฟางฉีพยักหน้าเมื่อได้ยินสิ่งที่เหลียงชีพูด
ขณะนี้เจียงเสี่ยวหยูกำลังเรียนรู้วิธีการปรุงอาหารอยู่ในครัว เธอกำลังตั้งใจทำอาหารบางอย่างให้ฟางฉี เจียงเสี่ยวหยูเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่ฉลาดมาก ใบหน้าของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยรอยเลอะ
เธอเดินออกจากครัวเพื่อมาหาฟางฉี เมื่อเขาเห็นหน้าเธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “นี่เธอเอาตัวเองเขาไปอบด้วยหรอ? ฮ่าๆ”
เจียงเสี่ยวหยูจ้องหน้าเขาตาเขม็ง เธออยากจะพุ่งตัวเขาไปกัดหูเขาจริงๆ หลังจากอ่านตำราใช้เวลาเรียนรู้เพียงไม่กี่วันเจียงเสี่ยวหยูก็เริ่มมีความรู้เรื่องอาหารบ้างแล้ว ฟางฉีมองดูอาหารบนโต๊ะหน้าตาและกลิ่นไม่ค่อยน่าประทับใจนัก
ฟางฉีเอื้อมตะเกียบออกไปคีบพริกเขียวและหมู เจียงเสี่ยวหยูที่มองรู้สึกประหม่าทันที
“ช่วงโปรของเธอเพิ่งจะเริ่มขึ้น ฉันจะตัดสินใจด้วยสิ่งนี้” ฟางฉีกล่าวก่อนจะกัด
“ช่วงโปรคืออะไร?” เจียงเสี่ยวหยูถาม “รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เนื้อเปื่อยไป รสชาติยังไม่ค่อยทั่วถึง” ฟางฉีส่ายหัว ทักษะของเธออยู่ไกลเกินที่จะได้รับคริสตัล
“ฉันทำอาหารจานนี้ตามตำรา มันจะเปื่อยเกินไปได้ยังไง” เจียงเสี่ยวหยูเท้าเอวพลางถามด้วยสีหน้ากังวลใจ “รสชาติทำไมไม่ทั่วถึงนะ”
เธอโยนตำราลงบนโต๊ะแล้วพูดต่อ “นายไม่รู้วิธีทำอาหารซะหน่อยนายตั้งใจจะแกล้งฉัน! ถ้านายไม่กินฉันกินเอง” เจียงเสี่ยวหยูพูดพลางเขยิบจานมาข้างหน้าตัวเอง
“เอ่อ.. ฉันน่ะหรอไม่รู้วิธี?” ฟางฉีทำหน้านิ่ง
เขาเปิดตำราอาหารของเจียงเสี่ยวหยูก่อนจะพูดอย่างใจเย็น “เธอต้องหมักเนื้อก่อนแล้วจึงนำมาผัด การควบคุมอุณหภูมิความร้อนก็สำคัญ การทำอาหารเป็นเหมือนศิลปะ บางอย่างเธอก็ต้องใช้เซ้นส์ของตัวเอง หนังสือบางทีก็ไม่ได้บอกทุกอย่าง”
ฟางฉีเคาะหน้าผากเธอเบาๆ (งื้อออ ดูสวีท)
“บทเรียนต่อไป ฉันจะให้เธอไปอีกร้านเพื่อช่วยทำความสะอาด” เจียงเสี่ยวหยูรู้สึกเหมือนกำลังจะร้องไห้ แง! เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่ฟางฉีกำลังพูดถึงคืออะไร แต่คิดว่ามันคงไม่ธรรมดา
ในที่สุดฟางฉีก็พร้อมที่จะขยายร้านใหม่ตรงข้ามถนน มันชั่งเป็นทำเลที่ดีสำหรับเขา เขาเดินไปที่ร้านใหม่อย่างใจเย็น โดยทิ้งเจ้าตัวเล็กเดินตามอย่างหงอยๆ เขาตัดสินใจจะจัดระเบียบเล็กน้อยเนื่องจากเจียงเสี่ยวหยูสามารถดูแลร้านเก่าแทนเขาได้
ปัจจุบันเขามีสองภารกิจ คือ ภารกิจเกี่ยวกับ The Legend of Sword and Fairy และภารกิจที่สองคือการเรียนรู้ทักษะ
งานทั้งสองมีความสำคัญเท่าๆ กันในเมื่อตอนนี้เขามีอุปกรณ์พิเศษสำหรับสตรีมอยู่ในมือ เขาจึงเลือกให้ความสำคัญกับภารกิจแรกก่อน อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะเล่นผ่าน
เมื่อทำภารกิจแรกเสร็จเขาจะมุ่งเน้นไปที่การยกระดับทักษะของเขาต่อ!
…
วันรุ่งขึ้น คาเฟ่ทั้งสองฝั่งของฟางฉีเปลี่ยนไป แถมห้องนอนและห้องครัวในชั้นสองของร้านแรกก็ถูกเปลี่ยนไปเช่นกัน
ระบบของเขามีความขยันในการก่อสร้างอย่างมาก ระบบออกแบบให้มีสะพานเชื่อต่อกันระหว่างคาเฟ่ทั้งสอง สะพานทำจากวัสดุที่คล้ายกัน ด้วยวิธีนี้คาเฟ่จึงเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกัน
ใครๆ ที่มองผ่านแวบแรกก็มักจะคิดว่า มีคนสร้างสะพานเล็กๆ บนนถนนตึกทั้งสองข้างทำด้วยอิฐสีขาวและกระเบื้องสีดำ สะพานอยู่ตรงกลางผสานกับถนนที่มีอยู่ด้วยความลงตัว ทำให้พื้นที่ดูน่าสนใจและมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม
ผนังด้านข้างของคาเฟ่ทั้งสองแห่งทำจากกระจก นั้นทำให้ร้านของฟางฉีดูโดดเด่นกว่าร้านค้าอื่นๆ นอกจากนี้ก้อนอิฐยังถูกตกแต่งด้วยการฝังเม็ดอัญมณีไว้ซึ้งทำให้ตัดกับตัวอาคารดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
ด้านในคาเฟ่ถูกพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้นเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ในตอนนี้ทั้งสองคาเฟ่มีจอยักษ์สำหรับการสตรีมสด คอมพิวเตอร์ถูกจัดเรียงใหม่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น
ขณะเดียวกันฟางฉีสังเกตว่าระบบของเขาขยายพื้นที่พักผ่อนในร้านทั้งสองฝั่งให้กว้างขึ้นกว่าเดิมมาก ไฟก็เช่นกันถูกตกแต่งใหม่ราวกับยกร้านใหม่มาตั้ง ตอนนี้คาเฟ่ทั้งสองได้เปิดให้บริการแล้ว
ตอนนี้เขามีคอมพิวเตอร์มากกว่า 150 เครื่องตราบใดที่ลูกค้าไม่มาในเวลาเดียวกัน มันคงพอให้บริการสำหรับทุกคนอย่างเต็มที่
หลังจากเปิดร้านฟางก็เดินไปซื้อขนมปังมากิน เจียงเสี่ยวหยูเองก็กำลังกินอาหารของเธอ เธอจ้องหน้าฟางฉี “ฉันจะทำอาหารให้นายกินจนกว่าลิ้นของนายจะพังเล้ย คอยดู!”
ลูกค้าเก่าอย่างซงฉิงเฟิง หากวันนั้นพวกเขาไม่ไปไหนก็จะเดินทางมาคาเฟ่ตั้งแต่เช้า พวกเขาไม่ชอบที่จะเข้าแถว หากมาสายก็ต้องรอสองถึงสามชั่วโมง
เมื่อเปิดประตูเขามาในคาเฟ่ ซงฉิงเฟิงสังเกตเห็นความแตกต่างในทันที
“นี่ท่าน! ทำไมวันนี้ที่นี่มีความพิวเตอร์น้อยกว่าปกติ?”
ฟางฉีชี้ไปฝั่งตรงข้ามถนน “คาเฟ่สองแห่งเปิดให้บริการแล้ววันนี้”
ซงฉิงเฟิงมองตามนิ้วของฟางฉี เขาเห็นร้านที่ดูละม้ายคล้ายกันฝั่งตรงข้าม แม้ว่าร้านจะไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ตอนนี้รวมกันสองแห่งก็ไม่เล็กอีกต่อไป
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นซงฉิงเฟิงจึงเดินข้ามถนน ไปคาเฟ่อีกฝั่ง ตึกทั้งสองมีขนาดกว้างขวางพอๆ กันแต่แตกต่างกันที่ร้านเก่ามีเคาน์เตอร์และตู้เย็น
ซงฉิงเฟิงเดินกลับมาเอ่ยถามฟางฉีว่า “ไม่มีใครดูแลฝั่งนู้นหรอ? แล้วถ้าเกิดปัญหาละ?”
ฟางฉีหยักไหล่ “ฉันไม่จำเป็นต้องอยู่ เพื่อลงโทษคนก่อปัญหานี่”
ซงฉิงเฟิงสตั้นพลางคิด เขาจำได้ว่าเกิดฟ้าผ่าอันลึกลับ “นั้นสิ นายพูดถูกคงไม่มีใครกล้าก่อปัญหาหรอก!”