ตอนที่ 263 ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย
ทรายปลิวตามสายลมราวกับโลกถูกปกคลุมด้วยผ้าบาง เมื่อทราบลงมากองกับพื้น มันก็กลับกลายเป็นเงียบสงัด
ในสายลมแรง เงาของชายคนหนึ่งลุกขึ้นยืนด้วยความลำบาก
ตึ๋ง แหมะ แหมะ
เลือดหยดจากมุมปากผู้นำ ผู้นำปิดหน้าตัวเองและลุกขึ้นยืน
ในเวลานั้น บรรยากาศกลับเย็ดยะเยือก การต่อสู้ทั้งหมดหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
ผู้นำองค์กรต้นกำเนิดมักสวมหน้ากากเหล็กดำ เกือบไม่มีใครรวมถึงคนขององค์กรต้นกำเนิดรู้ตัวตนจริงเขา
เพื่อให้มีความสามารถในการเป็นผู้นำ ผู้นำควรเป็นชายที่มีเบื้องหลังใหญ่โต ทุกประเทศต่างมีการคาดเดาถึงตัวตนของผู้นำ และพวกกเขาก็คิดว่าในเมื่อองค์กรถูกสร้างในช่วงยุคเก่า การคาดเดาที่น่าเชื่อถือสุดก็คือเขาเป็นตำนานในยุคเก่า
หานเซี่ยวเองก็มองดูเช่นกัน ไม่มีผู้เล่นคนใดในชีวิตก่อนหน้าเขาสามารถค้นหาตัวตนของผู้นำได้ ดังนั้นเขาจึงอยากรู้เหมือนคนอื่น
ผู้นำวางมือลง และใบหน้าเขาก็แสดงต่อสายตาทุกคน มันเป็นใบหน้าบิดเบี้ยวมีแผลเป็นมากมาย ราวกับมีแมลงคลานอยู่ใต้ผิวหนัง รอยแผลดูเหมือนจะถูกข่วนจากสัตว์ป่า
ที่สำคัญสุด มันเป็นใบหน้าไม่คุ้นเคย
แม้รูปลักษณ์จะน่ากลัว แต่เค้าโครงก็ยังจดจำได้ หานเซี่ยวมั่นใจว่าเขาไม่เคยเห็นหน้านี้ตอนเขามองข้อมูลบนเครือข่ายมืด เขามองดูเบนเน็ตและยอดมนุษย์จาก6ประเทศและพวกเขาก็ล้วนสับสน
ไม่มีใครรู้จักผู้นำ
เบนเน็ตขมวดคิ้ว เขาคือตำนานจากยุคเก่า และยังจำตำนานในวันวานได้ รวมถึงคนที่ตายไปแล้วด้วย แต่เขาก็ไม่อาจจำหน้าของผู้นำได้ มันหลงเหลือแค่สามความเป็นไปได้
หนึ่ง ผู้นำได้สวมหน้ากากตอนยุคเก่า สอง เขาได้เปลี่ยนรูปลักษณ์เขาเพื่อปิดซ่อนตัวตน สาม เขาไม่ใช่คนที่ทรงพลังในยุคเก่า
ด้วยรูปลักษณ์ที่เปิดเผย ผู้นำกลับยังไม่แสดงสีหน้าอะไร
ไม่มีใครจำเขาได้?หน้ากากนั่นแค่พยายามซ่อนใบหน้าน่ากลัวเพื่อหลีกเลี่ยงการลดขวัญกำลังใจของทหารงั้นหรอ?หานเซี่ยวขมวดคิ้ว เด็กๆคงร้องไห้เมื่อเห็นหน้าผู้นำ หากเขาม่าสวมหน้ากาก เขาอาจมาพร้อมดีบัฟ-ขวัญกำลังใจ20
การต่อสู้ยังไม่จบ คำถามถูกทิ้งไว้ด้านหลัง หานเซี่ยวเปิดฉากบุก เหวี่ยงค้อนเขาด้วยเวลาเพียงสามสิบวินาทีก่อนไวเปอร์จะพัง
ปัง ปังปัง!
หมัดที่ปกคลุมไปด้วยพลังงานสีม่วงปะทะกับค้อน และเสียงของโลหะก็กระทบกันไม่หยุด
ดวงตาของผู้นำอาฆาตแค้นถึงขีดสุด และเขาก็มองเห็นสภาพย่ำแย่ของชุด ตราบเท่าที่เขาลากถ่วงการต่อสู้ ชุดก็ย่อมแตกและนั่นคือจุดจบของช่างกล
ป้องกัน
ผู้นำเปลี่ยนเป็นท่าป้องกันและรับการโจมตีจากหานเซี่ยว ภายใต้การโจมตีหนัก ผู้นำกลับไม่สะดุ้งและแข็งกร้าวเหมือนหิน
ร่างที่ไม่อาจขยับและค้อนที่ไม่อาจทำลายปะทะกันอย่างรุนแรง และก่อให้เกิดคลื่นลมกระโชก
กริ้ก!
หลังผ่านไปสามสิบวินาที ไวเปอร์ก็ส่งเสียงแปลกๆ และชิ้นส่วนและชิปก็แตกกระจายเหมือนดอกไม้
ชุดจักรกลแตก
หานเซี่ยวเผยร่างจริงเขา
“ย๊ะ!”ผู้นำคำรามและเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกทันที ทุ่มพลังงานทั้งหมดใส่หมัดและชกท้องหานเซี่ยว นอกจากนี้ยังเสริมด้วยวทักษะเจาะเกราะ
ปัง!ปุง!
หนึ่งการโจมตีกลับเกิดสองเสียง อย่างแรกคือหมัดกระทบร่าง จากนั้นผลก็ส่งผ่านร่างหานเซี่ยวและสร้างเสียงระเบิดอีกเสียงเมื่อพลังงานพุ่งออกจากหลังหานเซี่ยว เสียงระเบิดนั่นดังพอจะทำให้ทุกคนหูหนวก ทำให้ทรายด้านหลังหานเซี่ยวเป็นหลุม
ภายใต้พลังเช่นนั้น หานเซี่ยวกลับไม่ขยับ เขาไม่ได้ถอยหลังและดูดซับแรงปะทะทั้งหมด
“เป็นไปได้ยังไง!”ผู้นำไม่เชื่อสายตา
ช่างกลจะป้องกันหมัดด้วยร่างกายได้ยังไงฦ
จากนั้น เงาก็ปรากฏเหนือหัวผู้นพ และค้อนก็เริ่มบดขยี้อีกครั้ง ผู้นำพยายามป้องกันค้อนด้วยแขน แต่ความเจ็บปวดก็แล่นผ่านแขนเขา และร่างเขาก็จมลงพื้นจนกระทั่วทรายมิดเข่า ราวกับเขาถูกตอกตะปูลงพื้น
รูม่านตาของผู้นำสะท้อนให้เห็นเงาของชายคานนั้น พลังงานมันหนาแน่นยิ่งกว่าเขาในฐานะนักสู้!
“ทำไม..”ผู้นำกัดฟัน จากนั้นก็ตระหนัก“แกทะลวงผ่านขีดจำกัดแล้ว?”
การเลื่อนสายอาชีพทุก20ระดับมักเป็นคอขวดสำหรับNPC ผู้ไร้ซึ่งค่าสถานะ พวกเขาไม่อาจทำลายขีดจำกัดได้ง่ายๆด้วยภารกิจ ดังนั้น ทางเดียวที่พวกเขาจะเลื่อนขั้นได้คือการฝึกหนักและโลค
ในบรรดายอดมนุษย์ชั้นนำของอความารีน ไม่มีข่าวว่ามีคนใดสามารถทะลวงคอขวดได้ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะยกระดับต่อไป
ความฝันของทุกคนกลับกลายเป็นสิ่งที่เขาเกลียดสุดในตอนนี้
นี่คือ...โชคชะตางั้นหรอ?
คำพูดดังก้องในหูเขาเหมือนเครื่องเล่นแผ่นเสียง
“กินค้อนบดขยี้ของฉันซะ!”หานเซี่ยวตะโกนชื่อทักษะมั่วๆและทุบค้อนลงบนหัวผู้นำ
โดยปราศจากไวเปอร์ หานเซี่ยวจึงเสียค่าสถานะโบนัสไป ยิ่งไปกว่านั้น เขายังใช้กระสุนหมดแล้ว สิ่งเดียวที่เขาเหลือคือค้อน และผิวเผิน มันดูเหมือนเป็นการต่อสู้ยากลำบาก แต่ทว่า ด้วยค่าสถานะใหม่เขาทั้งหมด มันจึงเทียบได้กับนักสู้บอสระดับ60 นอกจากนี้ ผู้นำยังอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสโดยมีพลังชีวิตเหลืออีกแค่37%เท่านั้น
เมื่อพลังชีวิตถึงจุดที่ต่ำกว่ากำหนด ผลดับีปทั้งหมดจะเริ่มปรากฏและค่อยๆลดพลังต่อสู้ ความแตกต่างระหว่างชายสองคนไม่มากนักหลังไวเปอร์พัง หานเซี่ยวยังสามารถรับมือกับผู้นำและช่วยโลกได้
เมื่อเห็น ผู้นำก็หมดกำลังใจ ด้วยสภาพร่างกายเขา เขาไม่มีทางสู้กลับได้เลย เขายังคงถูกค้อนทุบอย่างต่อเนื่องจนเลือดสาดกระจาย
อีกด้านหนึ่ง ยอดมนุษย์จากหกประเทศไม่อาจเชื่อสายตาตัวเอง
ในความคิดพวกเขา คนเดียวที่จะสู้กับผู้นำได้ก็คือเบนเน็ต และไม่มีใครคิดว่าชายคนนี้จะเป็นหานเซี่ยว
เบนเน็ตเป็นชายที่แข็งแกร่งสุดอย่างไม่ต้องสงสัย คนเดียวที่สามารถยืนเทียบเคียงกับผู้นำได้ แต่หานเวี่ยวกลับทุบตีผู้นำได้ง่ายๆโดยไม่ได้รับบาดเจ็บนอกจากชุดที่พัง
พวกเขาเห็นทุกอย่าง มันไม่ใช่การซุ่มโจมตีหรือลอบโจมตี มันเป็นการต่อสู้ที่มีเกียรติและตรงไปตรงมา นี่ยังหมายความว่าหานเซี่ยวเหนือกว่าเบนเน็ตไปแล้ว
ใครคือเบนเน็ต?!เขาคือชายผู้แข็งแกร่งสุดบนดาว
ฝีมือของหานเซี่ยวสามารถกำจัดคำว่า’แข็งแกร่งที่สุด’ไปได้
ตอนนี้เขาคือยอดมนุษย์ที่แข็งแกร่งสุดบนดาวแล้ว!
สภาพความวุ่นวายถูกทำลายเมื่อหานเซี่ยวเข้าร่วมสนามรบ
อารมณ์ของไดอาน่าระเบิดเหมือนพลังเธอ เธอเกือบโยนบอลไฟใส่เบนเน็ตและถาม“เขาทรงพลังถึงขั้นนั้นจริงๆงั้นหรอ?ทำไมเขาถึงต้องการการสนับสนุนจากเราด้วย?”
“ความรู้สึกนี้...มันไม่ผิดแน่ เขาเพิ่งทะลวงผ่านขีดจำกัดในการต่อสู้นี้!”ดวงตาของถังถังสั่นไหว
ความตกใจและความอิจฉาปรากฏบนใบหน้าทุกคน
หลังเห็นผู้นำกำลังพ่ายแพ้ ขวัญกำลังใจของทหารก็ลดลง และในไม่ช้า ศัตรูก็ตื่นตระหนก
ปัง!
ค้อนฟาดบนหน้าอกอีกครั้ง ผู้นำกระอักเลือด เขาคำรามทั้งๆที่เลือดเต็มปาก
พลังงานสีม่วงกลายเป็นหนาแน่นขึ้นอีกครั้งและมีชีวิตเหมือนเปลวไฟโหม
หานเซี่ยวคิดว่าผู้นำกำลังจะใช้ทักษะไม้ตาย เขาถือค้อนไว้ด้านหน้าและเตรียมพร้อมรับการโจมตี
แต่วินาทีต่อมา ผู้นำกลับหันหลังและวิ่งสุดชีวิต เขาใช้พลังงานเป็นตัวสนับสนุนและวิ่งเหมือนจรวด หลังวิ่งไปไกลสองร้อยเมตร เขาก็ตรงไปในฐานและพลังงานเขาก็หมดลง ทั่วร่างเขาหมดพลังและทรุดลงกับพื้นทรายด้วยเลือดที่ยังไหลจากจมูกและปาก
ด้วยอาการบาดเจ็บหนัก เขาแทบไม่อาจรับการโจมตีของหานเซี่ยวได้อีก ไม่ว่าเขาจะโกรธแค่ไหน เขาก็ต้องหนี
“เขาหนีไปแล้ว!เขายอมรับความพ่ายแพ้!”
หานเซี่ยวรีบตรวจสอบข้อมูลการต่อสู้
ผู้นำมีพลังชีวิตเหลือแค่14%และอยู่ในสภาพอ่อนแอ
การทำภารกิจลดพลังชีวิต60%ของเขาสำเร็จแล้ว