หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.26 - การต่อสู้ระหว่างสองพยัคฆ์และมังกร (ฟรี)
หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.26 - การต่อสู้ระหว่างสองพยัคฆ์และมังกร
ไม่ว่าอย่างไรมนุษย์ก็ต้องเคียงคู่กับความตาย แต่โอกาสนั้นสำหรับหวูเต๋าระดับปรมาจารย์นักสู้นับว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่ง
สามผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์นักสู้ฉวยโอกาสที่กู่ฉิงซานเล็งเป้าหมายอื่น พุ่งเข้ามาใกล้กู่ฉิงซานอย่างรวดเร็ว บัดนี้พวกเขามาหยุดอยู่เบื้องล่างโคมไฟข้างถนนแล้ว
ทั้งสามมองหน้ากัน ก่อนจะกระโจนขึ้นไปบนโคมไฟพร้อมๆกันและเหวี่ยงกำปั้นและเท้าเข้าใส่ร่างของกู่ฉิงซานอย่างเต็มกำลังจากทุกทิศทาง
กู่ฉิงซานกำธนูยาวด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างผละลงอย่างนุ่มนวล
“เอานี่ไปกิน!”
กู่ฉิงซานคำรามก้อง พลังวิญญาณในตันเถียนระเบิดออกมาราวกับน้ำหลาก
ดวงตาของกู่ฉิงซานสาดประกายสีฟ้า ก่อนที่มันจะลุกลามไปทั่วทั้งร่าง และระเบิดอย่างรุนแรงกระจายออกไปรอบทิศ
เทคนิคนี้เป็นเพียงกำลังภายนอกขั้นพื้นฐานที่สุด ที่ถูกเรียกว่า “แรงดันวิญญาณ”
ในต่างโลก พวกฝึกยุทธระดับก่อกำเนิดและเตรียมเข้าสู่ระดับก้าวสู่เทพ จะสามารถใช้แรงดันวิญญาณกดทับเมืองทั้งเมืองเอาไว้ได้ และจะทำให้ผู้คนในเมืองที่ถูกกดทับไม่อาจเคลื่อนไหวได้
ด้วยแรงดันวิญญาณระดับปราณปรับแต่งขั้นห้าของกู่ฉิงซานในตอนนี้ จึงสามารถทำได้แค่เพียงระเบิดมันออกมาในรูปแบบของแรงผลักดันเล็กๆน้อยๆ
ทว่าสำหรับผู้ที่ไม่เคยพบเจอกับพลังเช่นนี้มาก่อน สำหรับกู่ฉิงซานแล้วมันก็เปรียบดั่งการรังแกพวกเขา
สามปรมาจารย์นักสู้ยังไม่ทันจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ถูกเหวี่ยงออกไปด้วยแรงผลักที่มองไม่เห็น ลอยเคว้งไปในอากาศ
“ขอบใจสำหรับเป้าดีๆ”
ดวงตาของกู่ฉิงซานหรี่แคบลง เขาดึงศรสามดอกออกมาโดยไม่ได้ใช้พลังวิญญาณ และสาดศรออกไป
สามปรมาจารย์นักสู้ถูกเสียบทะลุทั้งๆที่อยู่กลางอากาศ ช่วงเวลาที่ร่วงลงสู่พื้นดิน ร่างของทั้งสามก็เย็นเยียบกลายเป็นซากศพไปแล้ว
กู่ฉิงซานยังคงยืนอยู่บนโคมไฟ ในมือถือคันธนูและหันไปมองรอบๆ
30ปรมาจารย์นักสู้บัดนี้ถูกสังหารจนเกลี้ยง ร่างไร้วิญญาณของพวกเขานอนแผ่อยู่ตลอดเส้นทาง
“ไอ้เปรตนี่ ถึงกับจัดการ 30 ปรมาจารย์นักสู้ลงได้ …”
ใบหน้าของเนี่ยหยุนเปลี่ยนแปรไม่หยุด ขาของเขาสั่นสะท้านจะแทบจะไม่อาจฝืนยืนไหว
เขากัดฟันก่อนจะลากสองขาวิ่งไปยังประตูรถเหินเวหาและกล่าวด้วยความเคารพ “ท่านลุงหม่า ผมคงต้องขอให้คุณลงมือแล้ว”
ชายชราวางสองมือลงบนเข่า ย่อตัวลงเล็กน้อย และเดินลงจากรถเหินเวหา จ้องมองไปยังฉากถนนเบื้องหน้า
เขาจ้องมองทุกๆศพด้วยสายตาจริงจัง
“นี่มันช่างโหดเหี้ยมจริงๆ แม้จะเป็นเพียงลูกศร แต่กลับทำได้ถึงขนาดนี้ ทำเอาฉันแทบจะยับยั้งชั่งใจไว้ไม่อยู่เลยจริงๆ”
ชายชรากล่าว ย่อหัวเข่างอตัวลงเล็กน้อย ก่อนที่พื้นเบื้องล่างจะปราฏกร่องรอยปริแตก และร่างของเขาก็พุ่งระเบิดออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่! ตรงไปยังทิศทางของกู่ฉิงซาน
ระยะทางดังกล่าวนับว่าค่อนข้างไกล ทว่าฝ่ายตรงข้ามกลับสามารถพุ่งตรงมาได้อย่างรวดเร็ว เกรงว่าคู่ต่อสู้จะต้องเป็นหวูเต๋าระดับยอดปรมาจารย์นักสู้เป็นแน่ กู่ฉิงซานเพียงแค่มองก็สามารถวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นชายชราก็เงื้อมสองกำปั้นและเหวี่ยงมันออกไปยังเบื้องหน้า
สายตาของกู่ฉิงซานแปรเปลี่ยนอย่างฉับพลัน เขาไม่ลังเลเลยที่จะกระโดดถอยฉากออกมา และหยุดยืนลงใต้แสงจากโคมไฟ
ในเวลาเดียวกันชายชราก็ยังลอยอยู่ในอากาศอย่างชัดเจนและห่างจากกู่ฉิงซานอยู่หลายสิบเมตร แต่คู่กำปั้นของเขากลับมาถึงเป้าหมายแล้ว
“หมัดทะลวงปืนใหญ่!”
ตูม!
หมัดแรกส่งเสียงคำรามอย่างนุ่มนวล ตามมาด้วยอีกหมัดที่ส่งเสียงคำรามดังสนั่น และช่วงบนของเสาไฟก็หายวับไปเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว
“เจ้าหนู หลบได้สวยนี่” ชายชรากล่าวและร่อนลงสู่พื้น
กู่ฉิงซานไม่ได้เอ่ยตอบโต้ใดๆ เขาเพียงยกคันธนูขึ้นและยิงออกไป
ชายชราสะบัดแขนอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่คลื่นอัดอากาศจะส่งลูกศรของอีกฝ่ายกระเด็นออกไป
กู่ฉิงซานขมวดคิ้วมุ่น เกิดความหดหู่ขึ้นในหัวใจของเขา
“สองแขนกลับสามารถสร้างแรงอัดอากาศได้ เห็นทีว่าความแข็งแกร่งระดับนี้ จะต้องเป็นพลังอำนาจของกุ่ยชั่ง(หวนคืนไร้ลักษ์)อย่างแน่นอน”
หวูเต๋าขอบเขตยอดปรมาจารย์นักสู้ มีโอกาสที่จะได้รับพลังศักดิ์สิทธิ ชายชราเบื้องหน้าเขาดูเหมือนเห็นได้ชัดว่าได้รับการกระตุ้นเข้าสู่หวนคืนไร้ลักษ์ และสองแขนของเขาได้รับพลังพิเศษของหวนคืนไร้ลักษ์ไป
ชายชรากล่าวได้ถูกต้อง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลูกศรโดยตรง เขาเพียงแค่วาดสองแขนออกไป ด้วยพลังของหวนคืนไร้ลักษ์ก็เพียงพอแล้วที่จะหยุดมัน
ฝีเท้าของกู่ฉิงซานไม่หยุดนิ่ง ชายชราก็ไล่ล่าเขาทุกฝีก้าว จนเสาไฟตลอดเส้นถนนพังทลาย บิดเบี้ยว ผิดรูปไปหมด
ตูม ตูม ตูม!
เสาไฟเสาแล้วเสาเล่าหักโค่นลง และชายชราก็เริ่มไล่ล่ากระชั้นชิดเข้ามาเรื่อยๆ
“ตายซะเถอะไอ้หนู ฉันขอรับหัวของแกไปล่ะ!” ชายชรากระแทกหมัดอย่างโหดเหี้ยม
กู่ฉิงซานยังคงไม่กล่าวอันใด เขาดึงธนูกองทัพขึ้นและหมุนมันจนดูราวกับจันทร์เต็มดวง
เขาเหวี่ยงตัวกลับอย่างฉับพลัน “ระบำผันผวน!”
ธนูยาวส่งเสียงกรีดร้องราวกับฟ้าผ่าคำรามอยู่ตลอดเวลา
เงาสีเทาที่ราวกับมีชีวิต ร่ายรำดั่งมังกร แหวกว่ายราวกับงูน้ำอยู่บนอากาศเลื้อยไปตามเส้นทางต่างๆที่ไม่อาจคาดเดาได้
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!?” ชายชราครวญเสียงต่ำ เท้าของเขาตอกลงกับพื้น ดวงตาเหลือบมองไปทุกทิศทางอย่างระแวดระวัง
และศรทั้งห้าดอกก็มาถึงในเวลาเดียวกัน!
ชายชราขณะนี้เปรียบดั่งสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเลที่แหวกว่ายอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขายืดหยุ่นและกลิ้งไปมาอย่างต่อเนื่องเพื่อหลบเลี่ยงลูกศรที่ถูกยิงเข้ามา
พลังอำนาจของลูกศรเหล่านี้ทรงประสิทธิภาพยิ่งกว่าที่แล้วๆมา เหนือเกินกว่าที่ชายชราจะจินตนาการได้ควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวอันซับซ้อนของมัน ทำให้ชายชราต้องใช้กำลังทั้งหมดที่มีในการหลบเลี่ยง!
เดิมทีหวูเต๋าระดับยอดปรมาจารย์นักสู้มักจะมีสัมผัสทางวิญญาณบางอย่างอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ลูกศรเลื้อยมาถึงร่างของเขา ชายชราจะบิดตัวเพื่อหลบเลี่ยง หรือใช้สองแขนเหวี่ยงออกไปปะทะทันที
แม้จะตกใจแต่ก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ จนในที่สุดเขาก็สามารถหลบเลี่ยงลูกศรทั้งหมดลงได้
“นี่มันวิธีการยิงธนูแบบไหนกันเนี่ย?”
ชายชราพักหายใจครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถาม
เขาเกิดความรู้สึกเสียใจบางอย่างขึ้นในหัวใจ ในช่วงต้นหากรู้ว่าลูกศรของอีกฝ่ายสามารถเลื้อยไปในอากาศราวกับมันมีชีวิตได้ เช่นนั้นเขาคงไม่รีบที่จะทุ่มกำลังเข้าโหมโจมตี
แต่จะเลือกวิธีที่ปลอดภัยกว่าอย่างแหวกว่ายไปช้าๆ ค่อยๆกระชั้นชิดไปทีละนิด
ทว่าตอนนี้ทั้งสองฝ่ายไล่ล่ากันจนมาหยุดอยู่ตรงจัสตุรัสท้องถิ่น ซึ่งเป็นสถานที่เปิดกว้าง และจู่ๆอีกฝ่ายก็ใช้วิธีการยิงธนูอันแปลกประหลาดและทรงพลังออกมา
นอกจากนี้ระยะห่างระหว่างทั้งสองยังเหมาะสมกับวิธีการโจมตีของอีกฝ่าย
ไอ้หนูนี่ มันคำนวณเอาไว้แล้ว?
ชายชรารู้สึกได้ถึงไอเย็นเยียบในอากาศเสียดแทงเข้ามาในหัวใจของเขา
“มันคือวิธีการยิงธนูแบบใช้ฆ่าคน” กู่ฉิงซานกล่าวตอบโต้เป็นครั้งแรก สองแขนเคลื่อนไหว ก่อนความเร็วและถี่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกลับใช้ออกด้วยสกิล
ระบำผันผวน!
ระบำผันผวน!
ระบำผันผวน!
สามครั้งติดต่อกัน ‘ระบำผันผวน’ กลุ่มศรที่ถูกยิงออกไปเป็นเงาวูบไหวแลดูคล้ายดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานเต็มที่ ปกคลุมร่างของยอดปรมาจารย์นักสู้
ยอดปรมาจารย์นักสู้ยามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเพียงหนึ่ง ‘ระบำผันผวน’ เขายังต้องใช้พลังเป็นอย่างมากในการหลบเลี่ยง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้านี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถหลบเลี่ยงได้อีกต่อไป
ฟัฟ ปุ๊ ปุ๊!
เสียงของลูกศรที่ทะลวงเข้าสู่เนื้อหนังสดๆ แม้จะเป็นเพียงเสียงเล็กๆ ทว่าในยามค่ำคืนอันเงียบสงบ คุณกลับสามารถได้ยินมันได้อย่างชัดเจน
หมอกเลือดปะทุขึ้นเหนือยอดปรมาจารย์นักสู้ ทั้งร่างเซไปหลายก้าวและล้มลงในที่สุด
ร่างกายของชายชราบัดนี้แลดูคล้ายเม่นที่ที่ปกคลุมไปด้วยหนามแหลมของลูกศร พลังวิญญาณได้ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา และทำลายพลังชีวิตของเขาไปโดยสมบูรณ์
เมื่อยอดปรมาจารย์นักสู้เสียชีวิต ดวงตาของเขากลับยังคงไม่ปิดลง มันกลับเผยให้เห็นถึงความไม่เต็มใจและเสียใจที่ไม่รู้จักประเมินความแข็งแกร่งทั้งของตนและอีกฝ่าย
วิสัยทัศน์เบื้องหน้าของเนี่ยหยุนราวกับถูกทำลายลงไปโดยสมบูรณ์
นั่นคือยอดปรมาจารย์นักสู้! ตัวตนอันยิ่งใหญ่ที่ยืนอยู่เหนือปรมาจารย์นักสู้ทั่วๆไป แถมยังเป็นยอดปรมาจารย์นักสู้ที่ได้กระตุ้นพลังศักดิ์สิทธิของหวนคืนไร้ลักษ์มาแล้วอีกด้วย
แม้กระทั่งพวกเฉาฟ่าน(ผ่าเหล่า)ก็ยังไม่อาจโค่นยอดปรมาจารย์นักสู้ลงได้ง่ายดายเช่นนี้
พวกเขาเหล่านี้คือผู้ที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลเนี่ย และเพื่อเป็นการประจบตระกูลไป่ เนี่ยหยุนจึงทุ่มสุดตัว
ระยำ เจ้าเด็กนี่มันน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว
แผ่นหลังของเนี่ยหยุนผุดไปด้วยเม็ดเหงื่อเย็น
ตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องรักษาชีวิตของตน รอจนกว่าทางตระกูลไป่จะลงมือด้วยตนเอง ถึงเวลานั้นไอ้เปรตนั่นก็จะตายลงในที่สุด
หลังจากทั้งหมดนี้ ตระกูลไป่นั้นเป็นถึงหนึ่งในเก้าตระกูลใหญ่ แม้กระทั่งตระกูลเนี่ยของเขาก็ไม่อาจนำมาเปรียบเทียบได้
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เนี่ยหยุนก็ยกสองมือขึ้นตะโกน “ฉันเป็นหลานชายสายตรงของผู้นำตระกูลเนี่ย ตอนนี้ฉันขอยอมแพ้ กู่ฉิงซานจะดีที่สุดถ้านาย ….”
ฟิ้ว!
ลูกศรบินเจาะทะลวงผ่านหน้าอกของเขา
เนี่ยหยุนกุมหน้าอกที่เป็นหลุมลึก เซถอยหลังไปหลายก้าว และในที่สุดก็สะดุดล้มลงกับพื้น
เลือดไหลออกมาจากปากและจมูกของเขา
ฉันกำลังจะตาย ฉันกำลังจะตาย ฉันกำลังจะตาย!
สมองของเนี่ยหยุนกระจ่างชัดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น อาการสำนึกเอ่อล้นออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ
ชีวิตดีที่ ความมั่งคั่งอันมหาศาล อนาคตที่สดใสโชติช่วง ขณะนี้ทั้งหมดที่กล่าวมาจะจากเขาไปตลอดการ
ไม่ ไม่สมควรจะเป็นแบบนี้ ทำไมถึงเกิดขึ้นกับฉัน ทำไมฉันจะต้องตาย!
จู่ๆเขาก็ร้องตะโกนราวกับภูติผี “กู่ฉิงซาน! ในความเป็นจริงแกมันก็เป็นคนประเภทเดียวกันกับฉัน ถ้าแกมีพละกำลังแกก็ต้องการที่จะกำจัดตัวอุปสรรคเหมือนกัน! ต่อไปแกก็จะยิ่งฆ่ามากขึ้น ใกล้ชิดกับความตายมากขึ้น ฉันขอสาปแช่งแก! สาปแช่งแกให้ทุกทรมานก่อนตาย และตายไปโดยไม่แม้แต่จะมีที่กลบฝัง!”
“ฉันต่างกับนาย” กู่ฉิงซานวางธนูยาวลง “ฉันได้แก้แค้นแล้วในชีวิตนี้ แม้จะฆ่าผู้คนไปนับไม่ถ้วน แต่ฉันก็ไม่เคยรังแกใครก่อน”
เขากวาดสายตาไปยังศพที่กระจัดกระจายเต็มถนน บนใบหน้าของเขาไร้ซึ่งร่องรอยความรู้สึกใดๆ
สีหน้าของเนี่ยหยุนเต็มไปด้วยความกล้ำกลืน เขาเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก “ตระกูลไป่จะต้องมาแน่ แก … จะต้องตาย ส่วนฉันขอล่วงหน้าไปรอแกก่อน”
สองตาของเนี่ยหยุนค่อยๆหุบลง และจมลงสู่ความมืดมิดไปตลอดกาล