มารดาปีศาจ ตอนที่ 17 ซอมบี้กลายพันธุ์
ที่ยุ้งฉางนั้นมีซอมบี้ล้อมรอบอยู่ไม่น้อย จึงพอจะคาดเดาได้ว่า ภายในนั้นน่าจะมีเสบียงหลงเหลืออยู่ พวกเขาปรึกษากันเล็กน้อย จากนั้นก็ตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้น
จ้าวฉิงได้เห็นกู้พ่านพ่านและกู้ชวนแสดงพลังในรูปแบบของตัวเองออกมาอย่างต่อเนื่อง สาวน้อยกู้พ่านพ่านนั้นกลับมีความสามารถในการเสริมพลังได้อย่างเหนือความคาดหมาย เมื่อพวกเขาเริ่มต่อสู้ สาวน้อยคนนี้ก็กลายเป็นตุ๊กตาบาร์บี้จอมพลัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีกร่างซอมบี้
ในขณะที่กู้ชวนเป็นผู้ใช้ธาตุน้ำแข็ง ความสามารถที่เขาแสดงออกมาไม่แข็งแกร่งเท่าใดนัก มีไว้เพื่อช่วยประสานงานเป็นหลัก ทุกครั้งจะเป็นกู้ชวนที่ใช้น้ำแข็งของเขายึดจับเท้าของซอมบี้ เมื่อซอมบี้ไม่อาจเคลื่อนไหวได้ในระยะเวลาสั้นๆ กู้พ่านพ่านก็จะทำหน้าที่เหมือนเฮอร์คิวลิส โดยบิดคอซอมบี้หรือทุบกะโหลกของพวกมัน
พลังของอาถูใช้ในการป้องกันเป็นหลัก เขาช่วยปกป้องคู่รักหนุ่มสาวสองคนนั้นและนำพาพวกเขาไปข้างหน้า บางครั้งก็จะช่วยตัดหัวซอมบี้ที่กู้ชวนแช่แข็งไว้ หรืออาจเป็นจ้าวฉิงที่ใช้เถาไม้รัดตรึงพวกมันไว้แล้ว
เหยียนฮ่านชิงยืนอยู่ข้างกายจ้าวฉิงอย่างเงียบงัน ถือมีดไว้ในมือ ถ้าหากมีซอมบี้ตัวไหนพยายามพุ่งเข้าใส่เจ้าฉิง เขาก็จะกำจัดพวกมันทิ้งไป
ทั้งทีมมุ่งหน้าตรงไปที่ยุ้งฉางได้อย่างรวดเร็ว ยุ้งฉางดูเงียบสงบมาก เหลือเพียงซอมบี้ที่เดินกระจัดกระจายอยู่รอบๆ ไม่มากนัก
“รีบทำให้มันจบเร็วๆ เข้าเถอะ พวกเราออกมายืนทื่ออยู่ข้างนอกนี่นานเกินไปแล้ว แล้วก็เริ่มดึงดูดซอมบี้มามากเกินไปด้วย” กู้พ่านพ่านจอมเจรจากล่าวขึ้นขณะที่เธอกำลังต่อสู้ได้อย่างน่าประทับใจ
มีไม่กี่คนที่พยักหน้าให้เธอ ขณะที่พวกเขาร่วมด้วยช่วยกันเข่นฆ่าซอมบี้ต่อไป อันที่จริง ซอมบี้แต่ละตัวที่พวกเขาได้ต่อสู้ด้วยล้วนไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่ เพราะการเคลื่อนไหวอันเชื่องช้าของพวกมัน นอกจากเรื่องที่พวกมันน่าขยะแขยง, ไม่กลัวตาย และจะตายได้จริงๆ ก็ต่อเมื่อส่วนหัวถูกบดขยี้แล้ว พวกมันก็ไม่มีอะไรดีอีกเลย ถ้าหากไม่ถูกพวกมันล้อมโจมตีเป็นฝูง ต่อให้เป็นเพียงคนธรรมดาก็สามารถกำจัดซอมบี้หลายตัวได้ง่ายๆ
แต่จากประสบการณ์ของเธอ นอกเหนือจากคนอย่างเธอที่ไม่ถือเป็นมนุษย์แล้ว จ้าวฉิงก็ยังรู้จักเอ้อร์ไต ซอมบี้ที่แปลกประหลาดตัวนั้น จากการแสดงออกของเขา เขาย่อมมีความเฉลียวฉลาดอย่างแน่นอน ความสามารถในการเรียนรู้ของเขาก็ว่องไวอย่างมาก อีกทั้งเขายังแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้ด้วย หากครุ่นคิดต่อไปอีกหน่อย ก็ย่อมตระหนักได้ว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เอ้อร์ไตจะเป็นซอมบี้เพียงตัวเดียวที่สามารถกระทำสิ่งเหล่านี้ได้
ยังมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ซอมบี้นั้นอาจจะมีวิวัฒนาการได้เหมือนกับผู้ใช้พลังพิเศษ ซอมบี้อาจจะพัฒนาได้ในบางรูปแบบ เช่นว่า ความรวดเร็วในการเคลื่อนไหว, ความทนทานและความแข็งแกร่งของร่างกาย, พละกำลัง หรือแม้แต่สติปัญญาของพวกมัน
ดังนั้นแล้ว จ้าวฉิงจึงไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม คู่รักหนุ่มสาวนั้นกลับตรงกันข้าม เมื่อเห็นว่าการเข่นฆ่าซอมบี้นั้นช่างง่ายดายราวกับหั่นผัก พวกเขาก็เริ่มไม่ระมัดระวังตัวอีกต่อไป
“ข้างในต้องมีของดีๆ อยู่เยอะแยะแน่เลย!” เมื่อมาถึงประตูทางเข้า คู่รักหนุ่มสาวนั้นก็ผลักประตูให้เปิดออกอย่างบ้าบิ่นไร้ความยับยั้งชั่งใจ อาถูรีบร้องเตือนพวกเขาทันที “ระวังหน่อย! อาจจะยังมีซอมบี้อยู่อีก....”
ฝ่ายภรรยานั้นกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย พลางบ่นพึมพำกับตัวเอง “ประตูมันปิดอยู่ จะมีซอมบี้อยู่ข้างในได้ยังไงล่ะ ต่อให้มีอยู่บ้าง ฉันก็จัดการพวกมันตัวสองตัวได้เองอย่างง่ายๆ ไม่ใช่ว่าพวกคุณแค่กลัวว่าเราจะแอบขโมยเสบียงไปหรอกเหรอ....”
อาถูรู้สึกอับจนหนทางกับคนประเภทนี้ แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ใช้พลังพิเศษของตัวเองสร้างเกราะดินให้กับคู่รักหนุ่มสาวสองคนนั้น เนื่องจากเขาอยู่แค่ในระดับ 1 เขาจึงทำได้เพียงสร้างเกราะดินแผ่นบางๆ ชั้นหนึ่งป้องกันรอบจุดสำคัญของพวกนั้นไว้ ถ้าหากมีเหตุไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้น มันก็น่าจะช่วยต้านทานได้ชั่วขณะหนึ่ง
ยิ่งคิดถึงเรื่องไม่ดี มันก็ยิ่งเกิดขึ้น ขณะที่พวกเขายังกังวลกันอยู่นั่นเอง อุบัติเหตุก็เกิดขึ้น ฝ่ายภรรยานั้นผลักประตูเปิด แล้วเงาดำสายหนึ่งก็ทิ้งตัวลงมาจากด้านบน หญิงสาวคนนั้นกรีดร้อง สีหน้าซีดเผือดในพริบตา เธอหมุนกายกลับและพยายามจะหนี ทว่ากลับถูกเงาดำนั้นจับเหวี่ยงลงกับพื้น ฝ่ายสามีเมื่อเห็นเช่นนี้ก็พยายามจะเข้าไปดึงตัวเธอออกมา ทันใดนั้นเขาก็ได้เห็นชัดเจนแล้วว่าเงาดำนั้นคือซอมบี้แน่นอน
ใบหน้าของเขากลายเป็นสีเขียว หมุนส้นเท้ากลับ เขาลุกขึ้นจะจากไปโดยไม่สนใจว่าภรรยาของเขายังกองอยู่ที่พื้น โชคดีที่จ้าวฉิงตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว หญิงสาวเหยียดฝ่ามือออก เถาไม้สีเขียวพุ่งออกมาและรัดพันแขนขาของซอมบี้ อาถูก็ใช้พลังของเขาออกมาเช่นกัน เขายกพื้นดินขึ้นมาก้อนหนึ่ง กระแทกให้ซอมบี้ถอยกลับหลังไป
ฝ่ายภรรยาที่อยู่บนพื้นรีบใช้โอกาสจากสถานการณ์นี้ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา แล้ววิ่งกลับเข้าไปหากลุ่มคน ทว่าในขณะที่เธอกำลังพยายามจะหนี ซอมบี้ตัวนั้นก็สะบัดหลุดจากพันธนาการได้แล้ว
ความเร็วของมันนั้นคล่องแคล่วว่องไวอย่างถึงที่สุด ไม่ต้องเอ่ยถึงซอมบี้โดยทั่วไป แม้จะเปรียบเทียบกับผู้มีพลังพิเศษที่พัฒนาด้านความเร็วเป็นหลัก หากอยู่ในระดับ 1 ก็ยากจะตัดสินได้ว่าใครจะเร็วกว่าใคร
จ้าวฉิงขมวดคิ้วเป็นปม เถาไม้ที่เธอใช้ออกครั้งนี้ถูกสร้างขึ้นจากพลังของเธอเองล้วนๆ ดังนั้นเธอจึงสามารถสัมผัสได้ว่า ขณะที่เถาไม้นั้นรัดพันซอมบี้ หนามแหลมคมก็ได้ทิ่มแทงลงไปด้วย นี่แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าความสามารถในการป้องกันของมันอยู่ในระดับธรรมดา มีแค่ความเร็วของมันเท่านั้นที่โดดเด่นออกมาเหนือสิ่งอื่นใด
“กู้ชวน คุณช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวของมันที” ถึงแม้กู้ชวนจะไม่รู้แน่ชัดนักว่าจ้าวฉิงต้องการจะทำอะไร แต่เขาก็ยังใช้พลังออกมาทันที เพียงแต่ซอมบี้ตัวนี้กลับคล่องแคล่วปราดเปรียวเกินไป เขาจึงไม่อาจแช่แข็งขาทั้งคู่ของมันได้ทัน ด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละ เขาถึงขนาดเปลี่ยนแปลงสถานะของความชื้นจากอากาศโดยรอบให้กลายเป็นน้ำแข็งเพื่อจะจับซอมบี้ตัวนั้นไว้ให้ได้
อุณหภูมิของบริเวณโดยรอบลดต่ำลงอย่างฉับพลัน ทำให้บนร่างของซอมบี้นั้นเริ่มมีน้ำแข็งเกาะไปทั่ว ขณะที่อุณหภูมิกำลังลดต่ำลงเรื่อยๆ อาถูสร้างหลุมตะปุ่มตะป่ำทั่วพื้นที่ซึ่งซอมบี้จะต้องก้าวผ่านหลุมแล้วหลุมเล่าโดยไม่หยุดยั้ง ถึงแม้ว่าผลกระทบจะเห็นไม่ชัดเจนนัก มันก็ยังช่วยชะลอฝีเท้าของซอมบี้ตัวนั้นได้เล็กน้อย
จ้าวฉิงใช้โอกาสนี้ปลดปล่อยเถาไม้ออกมาอีกชุดหนึ่งเพื่อรัดพันซอมบี้ไว้ เดิมทีเธอตั้งใจจะต่อสู้กับซอมบี้ในระยะประชิด ทว่ากู้พ่านพ่านและเหยียนฮ่านชิง คนหนึ่งอยู่ทางซ้ายคนหนึ่งอยู่ทางขวาต่างวิ่งเข้าไปพร้อมกัน
เถาไม้ของจ้าวฉิงเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นพืชพันธุ์ในรูปแบบที่ชั้นต่ำที่สุด อาการชาที่แฝงอยู่ในหนามของมันนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบชัดเจนอะไรต่อซอมบี้เท่าใดนัก ซอมบี้ตัวนั้นดิ้นรนจนช่วงบนหลุดออกมาได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่มันกำลังจะหลบหนีตุ๊กตาบาร์บี้จอมพลังอย่างกู้พ่านพ่านก็กำมือเป็นหมัดแน่นแล้วยัดกำปั้นเข้าไปที่ใบหน้าของมัน ทำให้มันถึงกับหน้ายุบลงไป
แต่ถึงโดนเข้าไปขนาดนี้ซอมบี้ตัวนั้นก็ยังไม่ตาย มันกลับม้วนตัวลงบนพื้น ดูกล้ายกับว่ามันต้องการจะหลบหนี ก่อนที่มันจะทันได้ถอยออกไป เหยียนฮ่านชิงก็ทะยานตามไปใช้มีดในมือทิ่มแทงเข้าไปในกะโหลกของซอมบี้โดยตรง จนมันเจาะทะลุผ่านเข้าไป
ร่างการของซอมบี้กระตุกสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรงเป็นครั้งสุดท้าย แล้วจึงหยุดเคลื่อนไหวโดยสิ้นเชิง
จ้าวฉิงพ่นลมหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย หญิงสาวหรี่ตาลง เธอกำลังวางแผนจะเปิดกะโหลกซอมบี้ตัวนั้นเพื่อหาผลึก ซอมบี้ที่มีลักษณะพิเศษเช่นนี้ ผลึกที่ได้จากมันจะต้องเก็บสะสมพลังงานไว้มากกว่าซอมบี้ปกติหลายเท่า
“ซอมบี้ตัวนั้นดูแปลกประหลาดจริงๆ ให้ฉันเข้าไปดูซักหน่อย” จ้าวฉิงมุ่งตรงเข้าไปยังซอมบี้ตัวนั้น ขณะที่เธอกล่าวเช่นนี้ออกมา แสร้งทำเป็นแสดงให้เห็นว่ากำลังพลิกศพซอมบี้เพื่อตรวจสอบ คู่รักหนุ่มสาวนั้นรู้สึกอดรนทนไม่ไหวอยู่บ้างขณะที่มองดูจ้าวฉิง เพราะยามนี้พวกเขาไม่ต้องการจะเห็นรูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวของซอมบี้ตัวนั้นอีกแล้ว กู้พ่านพ่านและอาถูก็เริ่มตรวจสอบร่างการของคู่รักหนุ่มสาวสองคนนั้น ถึงอย่างไรพวกเขาทั้งคู่ก็เป็นคนธรรมดา ถ้าหากพวกเขาบังเอิญโดนกัดหรือข่วนเข้า พวกเขาก็ต้องติดเชื้ออย่างแน่นอน
จ้างฉิงลอบปรายตามองไปยังกู้ชวนและเหยียนฮ่านชิง จากนั้นก็พบว่าพวกเขาไม่ได้สนใจมองเธอเลย หญิงสาวรีบเจาะทะลุเข้าไปในกะโหลกของซอมบี้ด้วยปลายเล็บของเธออย่างรวดเร็ว ด้วยความชำนิชำนาญ เธอก็พบผลึกได้ทันที โดยไม่แม้แต่จะมองดูขนาดของมัน หญิงสาวรีบส่งผ่านมันตรงเข้าไปยังมิติส่วนตัวทันที