ตอนที่ 260 ผู้ช่วยเหลือที่ไม่คาดคิด
“มีการซุ่มโจมตีได้ยังไง?!”ถังถังพูดไม่ออก“ระยำเอ้ย พวกมันจับตาดูเราตลอดเวลาและรอให้เรามาติดกับงั้นหรอ?!”
“พูดตอนนี้แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา?”ไดอาน่าตอบโต้อย่างดุเดือด
หน่วยพวกเขาเข้ามาในอาณาเขตของต้นกำเนิดด และทุกอย่างก็ราบรื่น ไม่มีใครคิดว่านี่จะกลายเป็นกับดัก!
สถานการณ์พลิกผันโดยสิ้นเชิง!
สิบชั่วโมงก่อนหน้า ผู้นำต้นกำเนิดได้ลอบสั่งกองทหารให้ก่อตัวกันทางเหนือ ตกและใต้ของการปิล้อมก่อนหน้าเพื่อรีบให้มารอซุ่มโจมตี ผู้นำรู้ว่าหากหานเซี่ยวฝ่าวงล้อมได้จริง เขาย่อมผ่านมายังแถบนี้
หานเซี่ยวไม่ได้อ่านอะไรเกี่ยวกับการซุ่มโจมตี ปฏิบัติการนี้ไม่รวมผู้เล่นเพราะผู้นำจำได้จากไซเบอร์ลอสว่าหานเซี่ยวอาจเป็นพวกเหนือมนุษย์ และความกลัวว่าพวกเหนือมนุษย์อาจมีวิธีสื่อสารกันก็ทำให้เขาระวังตัว การคาดดเดาที่สมบูรณ์แบบนี้ทำให้ต้นกำเนิดสามารถจัดตั้งกอทัพโดยไม่ให้หานเซี่ยวและทีมกู้ภัยรู้ตัว
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นำยังไม่ไดออกคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ แต่เขากลับมาอยู่บนสนามรบด้วย
ในที่สุดช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึงแล้ว!
ผู้นำยืนอยู่บนเนินทรายหน้ากลุ่มของหานเซี่ยว เสื้อกันลมเขากระพือตามแรงลม และใบหน้าเขาก็ยังถูกบดบัง้วยหน้ากาก ด้านหลังเขามีผู้บริหารหลายสิบคนที่ยืนจ้องมองพวกเขาเหมือนกลุ่มนักล่า
ดวงตาสองคู่สบกัน
อุปกรณ์สื่อสารของหานเซี่ยวดังขึ้นอีกครั้ง
“แกอยากสู้กับฉันไม่ใช่งั้นหรอ?ตอนนี้ฉันอยู่ตรงหน้าแกแล้ว แกกล้ามาไหม?”
หานเซี่ยวปล่อยลมหายใจและกล่าว“ไม่เลวเลย...”
หมากตานี้ของผู้นำอยู่เหนือการคาดการณ์ของหานเซี่ยว แต่ในความเข้าใจเขา มันไม่นับว่าน่าแปลกใจอะไร การสนทนาเมื่อสองคืนที่ผ่านมาไม่เพียงแต่จะทำให้หานเซี่ยวรู้จักศัตรู แต่ผู้นำก็ยังใช้ประโยชน์จากมันอีกด้วย
ในฐานะเหยื่อกลางวงล้อมศัตรู มันยากที่จะสร้างแผนเพื่อตอบโตศัตรู การเผชิญหน้ากับกองทัพต้นกำเนิดทุกทิศทาง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่หานเซี่ยวจะคาดเดาทุกอย่างได้
ผู้นำต้นกำเนิดสุดท้ายก็แก้เกมได้หลังถูกหลอกมาหลายครั้ง!
หากเขาไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน หานเซี่ยวคงอยากปรบมือให้เขา
เขาต้องเหนื่อยแค่ไหน?มันน่าประทับใจมาก!
ไม่มีแผนใดสามารถได้ผลไปตลอด มีปัจจัยที่คาดเดาไม่ได้เสมอ และตอนนี้พวกเขาก็กำลังพบกับสถานการณ์เช่นนั้น พวกเขาทำได้แค่พึ่งพาพลังตัวเอง ทั้งหมดที่หานเซี่ยวทำมาจนถึงตอนนี้คือพึ่งตัวเอง ตอนนี้ เขายืนอยู่ตรงหน้าบุคคลที่อยู่บนจุดสูงสุดของเวอร์ชั่น1.0 แค่ไม่กี่ก้าวจากการทะลวงผ่านขอบเขตระดับ60
สถานการณ์อันตรายนี้เต็มไปด้วยโอกาส
มียอดมนุษย์ระดับCประมาณสิบคนต่อต้านกับกองทัพอาวุธหนักนับพันและผู้บริหาร50คน!
“มีอะไรจะพูดอีก?มาลุยกันเลย”
หานเซี่ยวนิ่งเฉยพลางปิดอุปกรณ์สื่อสาร ยังมีเวลาอีกประมาณครึ่งนาทีก่อนสองฝ่ายจะปะทะกัน และเขาก็ใช้เวลาเพื่อตรวจสอบสถานะตัวเอง
ไวเปอร์ยังมีพลังงาน61% เกราะประมาณ4200หน่วย พลังชีวิต3800 ซึ่งประมาณ87% เหนือกว่าค่าเฉลี่ย
รายละเอียดเขาแสดงว่า[การทดสอบขั้นสุดท้าย]มีคะแนน815/2000แล้ว
กองทัพศัตรูมีจำนวนมากพร้อมพลังสูง ข้อได้เปรียบเราอยู่ที่ความแข็งแกร่งส่วนบุคคล หานเซี่ยวคิดหวังให้เพื่อนร่วมทีมคันอื่นมีฝีมือเก่งกาจเหมือนคนบนรถเขา
ทันใดนั้นภารกิจก็โผล่ขึ้น
ท่านได้กระตุ้นภารกิจพิเศษระดับC[การซุ่มโจมตีคนทรยศ]
ข้อกำหนดภารกิจ : จัดการผู้นำต้นกำเนิด สร้างความเสียหายอย่างน้อย60%
รางวัลภารกิจ : สุ่มทักษะหรือพรสวรรค์ของผู้นำสองอย่าง
ดวงตาของหานเซี่ยวสว่างวูบ อย่างน้อย60%...นี่ไม่ง่ายเลย
เขาไม่ได้สู้กับผู้นำก่อนหน้านี้ และผู้นำก็เป็นตัวละครหลักบนอความารีนเหมือนกับเบนเน็ต เขาแข็งแกร่งมาก ในสภาพปัจจุบันเขา ลืมเรื่องการกำจัดผู้นำไปได้เลย แค่ลดพลังชีวิตเขาให้หนึ่งในสามยังนับว่ายาก
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอุปสรรคมากมายบนสนามรบ หานเซี่ยวอาจไม่สามารถแยกผู้นำออกมาสู้เดี่ยวๆได่ แต่ทว่า แม้จะยากลำบาก รางวัลภารกิจก็ช่างน่าดึงดูด
ในฐานะตัวละครหลักบนดาว ผู้นำต้องมีทักษะและพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง เขาอาจมีรัศมีโชคดีในตำนาน มันเหมือนกับการได้แจ็คพอตหากหานเซี่ยวได้รับมันมา แต่ทว่า เมื่อคิดถึงสภาพน่าสมเพชของต้นกำเนิด หานเซี่ยวก็สงสัย อืม...เขาจะมีมันไหมนะ?
จากนั้น ทุกคนก็ถูกผลักติดกับเบาะนั่งเมื่อรถทั้งสามเร่งความเร็วใส่ศัตรู
ถังถังกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ทุกคน เตรียมรับมือ!”
…
“นี่คือโอกาสเราที่จะกำจัดซีโร่และยอดฝีมือของ6ประเทศไปพร้อมกัน”
ผู้นำก้มมองดูรถที่กำลังเร่งความเร็วเข้ามา
เขามีเวลาแค่สิบชั่วโมงหรือมากกว่านั้นเพื่อระดมกำลังเหล่านี้ และยานพาหนะหนักเช่นรถถังก็ถูกทิ้งไว้ด้านหลัง กำลังหลักของการซุ่มโจมตีประกอบไปด้วยทหารราบหลายพันคนที่จะทำการยิงสนับสนุนพร้อมเฮลิคอปเตอร์สิบลำ ผู้บริ้หารหลายสิบด้านหลังเขาและผู้นำก็คือไพ่ตาย
“ยิง!”
เสียงปืนระเบิดพร้อมกัน มันฟังดูเหมือนเสียงฟ้าร้อง ห่ากระสุนพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง ครอบคลุมพื้นที่ว่างเปล่าตรงกลางทั้งหมด ทีมช่วยเหลือถูกขังไว้ตรงกลางเหมือนสัตว์ร้ายในกรง ในขณะเดียวกัน สนามพลังกึ่งโปร่งใสก็ขยายตัวและคลุมรถทั้งสามคัน การโจมตีทั้งหมดถูกม่านพลังป้องกันไว้ ทำให้มันสั่นสะเทือนตลอดเวลา แต่ทว่า รถกลับยังปกติดี
รถยังคงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ทิ้งควันดำไว้ด้านหลัง จำนวนทุ่นระเบิดที่ฝังไว้บนทรายระเบิดขึ้นเมื่อสัมผัสกับม่านพลัง ทำให้ทรายเหลือลอยขึ้นสูง ม่านพลังเริ่มหม่นแสงลง
ม่านพลังนี้มาจากภายในรถทางซ้ายของกลุ่ม ภายใต้การปกป้องของม่านพลัง กองกำลัง6ประเทศจึงเข้าใกล้ศัตรูได้โดยไม่เกิดความเสียหาย
“ฟาสซาร์ด ผู้พิทักษ์สีฟ้าแห่งออดิน่า”ผู้นำต้นกำเนิดยังคงสงบ เขามีความประทับใจต่อยอดฝีมือของแต่ละประเทศ และเขาก็ให้ความสนใจกับตัวตนพวกเขามาก
ทีมช่วยเหลือกำลังจะชนใส่ขบวนรถของศัตรู แต่ผู้นำกลับยังไม่สะทกสะท้าน เขาออกคำสั่งและกองทัพต้นกำเนิดก็ปรับตำแหน่งตัวเองเพื่อล้อมรถทั้งสามไว้พลางทิ้งระยะห่างแทนที่จะเข้าปะทะ เขาเข้าใจว่ากองทัพทั่วไปไม่มีโอกาสต่อต้านยอดอมนุษย์เหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงเตรียมการไว้แล้ว
ในไม่ช้า รถก็ติดอยู่ใจกลางวงล้อมและดวงตาของผู้นำก็เปล่งประกาย“ขอดูหน่อย ที่นี่มีใครอีกบ้าง?”
“ไป!”ไดอาน่าคือคนแรกที่ออกจากรถและปล่อยไฟออกจากมือใส่กองทหารโดยรอบ ปืนกลสามตัวในบริเวณใกล้เคียงถูกเธอเปลี่ยนเป็นกองไฟ
คนขับ อลาวพ็อกคือนักรบซานุ คนของเผ่าซานุเกิดมาพร้อมกับแถบลายบนผิว แถบเหล่านี้จะสว่างขึ้นเป็นสีแดงเมื่ออลาวพ็อตพร้อมสู้ ลายนั้นพันรอบและเลื้อยไปทั่วผิว และร่างเขาก็เริ่มขายใหญ่ ทำให้เสื้อเขาขาด ท้ายทีสุดเขาก็สูงกว่าสี่เมตร เขาเหมือนรถถังมนุษย์พลางบดขยี้ผ่านกองทัพต้นกำเนิด ทำให้ศพหลายร่างลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
นอกจากทั้งสาม อีกสองคนในรถก็ยังก้าวออกมาร่วมสู้ หนึ่งเต็มไปด้วยชุดจักรกลหนักที่ทำให้เขาคล้ายแรด อาวุธเขาเป็นค้อนสองมือที่ออกแบบมาพิเศาพร้อมจรวดที่ติดอยู่อีกฝั่งของค้อน [คล้ายกับไรน์ฮาร์ดในOverWatch] ผู้มาใหม่คนอื่นพากันปล่อยเสียงคำรามก่อนอัญเชิญแมลงจำนวนมากจากพื้นทรายขึ้นมากัดฉีกทหารต้นกำเนิด มันคือทักษะอัญเชิญสัตว์ร้าย แข็งแกร่งยิ่งกว่า[เสียงเพรียกแห่งป่า]ของหานเซี่ยว ฟาสซาร์ดเองก็ยังคงสนับสนุนพวกพ้องเขาด้วยม่านพลัง
ผู้บริหารต้นกำเนิดนับสิบรีบวิ่งมาปะทะกับศัตรู แม้พวกเขาจะนับเป็นยอดฝีมือของ6ประเทศ แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะความแตกต่างด้านจำนวน
เหล่ายอดมนุษย์ไม่มีใครกั้กความสามารถและทำให้สนามรบกลายเป็นปั่นป่วน
หานเซี่ยวลากฮีล่าที่ยังฟื้นตัวออกจากรถและก็พบว่าคนเหล่านี้ล้วนมีใบหน้าคุ้นเคย พวกเขาล้วนเป็นคนดังบนอความารีน
แต่ละคนล้วนมีพลังรบสูงสุดในแต่ละประเทศ ในอดีต ผู้เล่นต้องได้รับแต้มชื่อเสียงจำนวนมากก่อนจะมีโอกาสได้ติดต่อกับNPCเหล่านี้ แต่ตอนนี้ ตัวละคนเหล่านั้นกลับมารวมกันเพื่อหานเซี่ยว
หาเนซี่ยวได้สร้างอิทธิพลที่น่ากลัวให้กับตัวเองอย่างแท้จริง
ในสงครามนี้ อย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่สำคัญสุด
ผู้ช่วยเหลือที่ทรงพลังทุกคนล้วนอยู่ภายในการคาดการณ์ของผู้นำ เขาได้วางแผนสำหรับแต่ละคนไว้แล้ว แม้กองกำลังซุ่มโจมตีจะล้มตายไปมาก มันก็ยังคุ้มค่า
ผู้นำเหลือบมองหานเซี่ยว ผู้ยืนออกไปไม่ไกล และดวงตาเขาก็กลายเป็นเฉียบแหลม ทุกๆก้าวที่ผู้นำก้าวออกไป พลังชีวิตเขาจะระเบิดออกจากร่างก่อตัวเป็นเพลิงสีม่วงเข้ม และเพลิงก็ยังเพิ่มความรุนแรงขึ้นในทุกๆก้าว
เขาวาดฝันที่จะได้บีบสมองของหานเซี่ยวด้วยตัวเอง
ระดับพลังของผู้นำต้นกำเนิดอยู่ในขอบเขตที่ไม่มีใครรู้ และกองกำลัง6ประเทศต่างก็แสดงใบหน้าลังเลเมื่อเขาใกล้เข้ามา
“เธอดูแลตัวเองได้ไหม?”หานเซี่ยวไม่คิดหันหัวไปมอง หากผู้นำต้องการตัวเอง เขาก็จะไป ไม่ว่าจะยังไง หานเซี่ยวทำตัวเหมือนเหล็กราวกับโค้งงอไม่ได้
“ไม่มีปัญหา”ฮีล่ากล่าวรอดไรฟัน
หานเซี่ยวพยักหน้า สูดหายใจลึก และตรวจสอบอุปกรณ์ตัวเองก่อนเริ่มเดินไปทางผู้นำ แต่ทว่า ทันใดนั้น พลังมหาศาลก็ระเบิดออกจากอีกฝากของสนามรบ ผู้มาใหม่นี้ช่วยข่มพลังชีวิตของผู้นำและดึงดูดความสนใจของทุกคน!
จากนั้นเงาร่างคุ้นเคยก็ก้าวออกจากรถคันสุดท้าย้วยทรงผมสะอาดตา รูปลักษณ์เหมือนวีรบุรุษกู้โลก ร่างเขารายล้อมไปด้วยเปลวไฟสีขาวที่กำลังลุกโหมอย่างบ้าคลั่ง
เบนเน็ต!
ผู้นำต้นกำเนิดตกใจและชะงักค้าง
ทำไมผู้นำตาข่ายมืดถึงมาอยู่ในทีมช่วยเหลือ?!
ผู้นำต้นกำเนิดไม่คิดว่าผู้นำตาข่ายมืด ผู้มักเป็นกลางจะก้าวเหยียบมาบนสนามรบด้วยตัวเอง เบนเน็ตอยู่นอกแผนการที่เขาจัดเตรียมไว้โดยสิ้นเชิง ด้วยพลังของเบนเน็ตเพียงลำพัง ตอนนี้เขาไม่มีทางรู้ผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้อีกแล้ว การคำนวณก่อนหน้าทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์
ไม่เพียงแค่นั้น ยอดฝีมืออีกสี่คนที่ไม่ใช่ฝ่าย6ประเทศก็ก้าวออกมาตามเบนเน็ต สองคนคือยอดฝีมือของตาข่ายมืดและไม่ได้ด้อยไปกว่ายอดมนุษย์ของ6ประเทศคนใด อีกสองคือคนรู้จักของหานเซี่ยว ฮันเนสและเวอนิน่า คนที่เขาเคยพบในเมเปิ้ล หานเซี่ยวยอมรับภารกิจเนื้อเรื่องหลักลับจากทั้งสอง และพวกเขาก็มาเพื่อตอบแทน
บุคคลทรงอำนาจเหล่านี้มาเพื่อช่วยหานเซี่ยว!
หานเซี่ยวหยุดเดินและกล่าว“ทำไมคุณถึงมาที่นี่?คุณรวมมากับทีมช่วยเหลือได้ยังไง?”
เบนเน็ตเหลือบมองหานเซี่ยวและไม่คิดตอบกลับ เขายังโกรธที่หานเซี่ยวไม่บอกเขาถึงอีกตัวตนและไม่อยากพูดกับเขา
แม้ตาข่ายมืดจะเริ่มต้นด้วยความเป็นกลางตอนสงครามนี้เกิดขึ้น แต่เบนเน็ตก็ตระหนักว่าข้อมูลที่หานเซี่ยวขโมยมาจากสำนักงานใหญ่ของต้นกำเนิดคือกุญแจสำคัญในการยุติสงครามนี้
เบนเน็ตริเริ่มแผนพักพิงเพื่อช่วยชีวิต และตอนนี้เขาก็พบโอกาสยุติสงคราม ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนความเป็นกลางในความขัดแย้งนี้ ตาข่ายมืดยังไม่ได้ให้ทรัพยากรใดในสงครามนี้ แต่เขากลับมาด้วยตัวเอง ในฐานะคนๆหนึ่ง!
เบนเน็ตและกลุ่มของเขามองหานเซี่ยวเป็นพวกตัวเอง!เขาทำการตัดสินใจนี้ก็เพราะเขามีความมั่นใจในความสามารถตัวเองสูง เขาได้รับการยอมรับไปทั่วอความารีนว่าเป็นหนึ่งในยอดมนุษย์ที่แข็งแกร่งสุดบนดาว
“ให้ฉันจัดการเอง”เบนเน็ตกล่าวพลางมองผู้นำต้นกำเนิด มันราวกับกระสุนที่สาดตกลงมารอบตัวเขาไม่มีอยู่จริง
ผู้นำต้นกำเนิดกลายเป็นปั้นยากและเขาก็โกรธแค้นจากข้างใน
เบนเน็ตยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดูเหมือนพยายามปกป้องหานเซี่ยว ผู้นำรู้ดีว่าเขาไม่อาจจัดการหานเซี่ยวได้เว้นแต่จะจัดการเบนเน็ตก่อน
“ผู้นำต้นกำเนิด มันกล่าวกันว่าไม่มีใครเห็นแกเผยตัวมานานแล้ว ดูเหมือนว่าวันนี้ฉันจะโชคดีสินะ”เบนเน็ตกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“แกคิดว่าแกมีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องคนของฉัน?!”
ผู้นำยังคงเงียบพลางเปลี่ยนจากการเดินเป็นกลางวิ่งและจากนั้นก็กลายเป็นเส้นแสงสีดำ เบนเน็ตเองก็ไม่ได้แสดงความอ่อนด้อย เขาเปลี่ยนกลายเป็นลูกไฟสีขาวและบดขยี้กับศัตรู
จากการสังเกตของหานเซี่ยว เบนเน็ตได้ใช้[เจตจำนงค์แห่งเพลิง] จากรัศมีโชคเขา เขาย่อมเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างแน่นอน
เพลิงม่วงและขาวปะทะกัน
บูม!!!
ภาพฉากดูเหมือนนรก เสียงระเบิดดังสนั่นทำให้หูของทหารทั่วไปเริ่มมีเลือดไหล
มันเป็นการเผชิญหน้าระหว่างบุคคลที่แข็งแกร่งสุดบนดาวทั้งสองคน!