บทที่ 115 วิชาดาบหนึ่งร้อยตระกูล
บทที่ 115
วิชาดาบหนึ่งร้อยตระกูล
หนึ่งเดือนต่อมา หลี่ฟู่เฉินฝึกฝนทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำมาถึงขั้นภวังค์ทั้งหมดได้หกทักษะ
ความก้าวหน้านี้เพียงพอที่จะทำให้โลกตื่นตะลึง
ถึงแม้ว่าทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำจากเป็นทักษะพื้นฐานที่สุดของทักษะดาบ แต่มันก็ยังมีเต๋าแห่งดาบอยู่บ้าง อย่างเช่นวิชาดาบหลิวซึ่งเป็นวิชาดาบรูปแบบที่นุ่มนวล หรือวิชาดาบตัดฉับพลัยที่ใช้สำหรับการตัดผ่านด้วยการโจมตีอย่างรวดเร็วภายในพื้นที่ที่มีขอบเขตจำกัด
มันไม่ยากหากจะฝึกฝนทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำไปจนถึงขั้นดีเลิศ แต่เพื่อให้กลมกลืนกับเต๋าแห่งดาบที่อยู่ภายในวิชาดาบและบรรลุขั้นภวังค์ มันจะเพิ่มความยากขึ้นไปอย่างน้อยสิบเท่า
ผู้ที่มีความสามารถไม่ดีมากนักจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน หนึ่งปี หรือแม้กระทั่งผ่านไปหลายปีเพื่อบรรลุขั้นภวังค์ของทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำ
แต่ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติพิเศษใดๆ เลย สามารถลืมเกี่ยวกับการมาถึงขั้นภวังค์ของทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำได้เลย
นี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเวลา
ในเดือนแรก หลี่ฟู่เฉินบรรลุขั้นภวังค์ได้เพียงหกทักษะดาบ ในเดือนที่สองมันกลายเป็นเจ็ด เดือนที่สามคือเก้า และเดือนที่สี่คือสิบ
เมื่อเวลาผ่านไป ความเร็วของหลี่ฟู่เฉินในการรับรู้วิชาดาบเริ่มรวดเร็วขึ้น
“ทำลาย!”
ร่างหนึ่งพุ่งเข้าหาแร่เหล็กชั้นดี ในขณะที่เขาผ่านแร่ไป หลี่ฟู่เฉินชักดาบเหล็กดำของเขาออกมาและเฉือนแร่ด้วยท่าทางยอกย้อน ดาบนี้รวดเร็วมากจนกระทั่งตาเปล่าก็ไม่สามารถตรวจจับได้
ดาบนี้แข็งแกร่งกว่าดาบทั่วๆ ไป ตัด ทำลายแร่เหล็ก ขณะที่เศษเล็กเศษน้อยบินไปทั่ว
หยุดลง เขาทำท่าทางปกติและเก็บดาบลงฝัก
หลี่ฟู่เฉินปล่อยลมหายใจและคิด ‘ดาบมีหลายหมื่นวิชา แต่หลักความเชื่อก็เหมือนกันทั้งหมด บรรลุขีดจำกัดของความเร็ว ความงดงามของทักษะ สังหาร และพลัง’
ผ่านไปอีกเดือน
เดือนนี้ หลี่ฟู่เฉินได้ฝึกฝนทักษะดาบทั้งหมดสิบแปดทักษะ มากกว่าเดือนที่แล้วหกทักษะ
ในเวลาเดียวกัน การฝึกฝนของหลี่ฟู่เฉินเองก็มีความก้าวหน้าและเขาได้มาถึงระดับที่ห้าของขอบเขตต้นกำเนิดเรียบร้อยแล้ว
แต่หลี่ฟู่เฉินเพิ่งตระหนักได้ว่าการฝึกฝนของเขาไม่นับว่ารวดเร็วมากนัก
อัจฉริยะส่วนใหญ่ในรุ่นของเขาได้บรรลุระดับที่ห้าของขอบเขตต้นกำเนิดเรีบยร้อยแล้ว โดยเฉพาะหยูเหวินเทียนที่บุกทะลวงไปยังระดับที่หกของขอบเขตต้นกำเนิดได้ตั้งแต่สองเดือนที่ผ่านมา
ความเหนือกว่าของโครงกระดูกก็ยิ่งโดดเด่นมากขึ้น หลังจากที่ผู้คนก้าวเข้าไปในโลกของการต่อสู้
ด้วยการรับรู้ที่ยอดเยี่ยมของเขา หลี่ฟู่เฉินยังคงทัดเทียมกับบุคลลที่มีโครงกระดูกระดับ 4 ดาวได้ แต่เมื่อเทียบกับโครงกระดูกระดับ 5 ดาว ยังคงมีช่องว่างที่ค่อนข้างมาก
ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ของนิกายคังหลุน ศิษย์ที่มีโครงกระดูกระดับ 5 ดาวมักจะพัฒนาไปตนเองเข้าสู่ขอบเขตปฐพีได้เมื่ออายุ 22 ปี ศิษย์โครงกระดูกระดับ 4 ดาวน่าจะพัฒนาขึ้นไปได้ประมาณอายุ 25
แน่นอน ถ้าศิษย์ที่มีโครงกระดูกระดับ 4 ดาว มีการรับรู้ที่ดี ศิษย์ผู้นั้นก็อาจสามารถพัฒนาได้เมื่อตอนอายุ 22 เหมือนกัน
แต่บันทึกที่เร็วที่สุดคือตอนอายุ 18 สำหรับศิษย์โครงกระดูกระดับ 5 ดาว บันทึกนี้ไม่มีใครทำลายได้มามากกว่าหลาย 10 ปีแล้ว
ถนนแห่งบ่มเพาะนั้นยาวนาน หลี่ฟู่เฉินมีความคิดที่ดีและไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับใครนอกจากตัวเขาเอง
ตราบใดที่เขายังคงเอาชนะขีดจำกัดของตัวเองต่อไปทีละก้าวๆ เขาเชื่อว่าสิ่งนี้เองน่าจะนำเขาไปสู่จุดสูงสุดของโลกการต่อสู้ได้
=โถงอาหารชั้นใน=
“หยูเหวินชิเซียง ยินดีด้วยกับการเอาชนะไท่เฟิงชิเซียง”
“ไท่เฟิงชิเซียงอยู่ระดับที่แปดของขอบเขตต้นกำเนิด แต่ก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของหวูเหวินชิเซียงได้แม้ผ่านไปร้อยกระบวนท่า บางทีภายในปีนี้ หยูเหวินชิเซียงอาจกลายเป็นหนึ่งในสิบอัจฉริยะชั้นในได้”
บนโต๊ะอาหารแห่งนึง ศิษย์ชั้นในสองคนกำลังทานข้าวกับหยูเหวินเทียนในขณะที่พยายามประจบประแจงเขา
การแสดงออกของหยูเหวินเทียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “การเอาชนะไท่เฟิงไม่นับว่าเป็นอะไร เขาเป็นเพียงแค่ศิษย์ชั้นสาม”
“นั่นไม่ใช่ความจริงเลย การข้ามสองระดับเพื่อเอาชนะไท่เฟิงชิเซียงไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ ภายในนิกายชั้นใน ควรมีน้อยกว่าสิบคนที่สามารถทำเช่นนี้ได้”
“ถูกแล้ว หลังจากทั้งหมด ไท่เฟิงชิเซียงก็เป็นศิษย์นิกายชั้นในมานานนับสิบปีและสะสมประสบการณ์จำนวนมากไว้ เขาไม่อาจถือเป็นนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่แปดธรรมดาๆ ได้”
“โอ้ใช่ หยูเหวินชิเซียง ท่านเคยได้ยินศิษย์ชั้นในที่ชื่อหลี่ฟู่เฉินบ้างไหม? ฉันได้ยินมาว่าเขามีสัญญาหนึ่งปีกับเหลาเทียนจุน”
“ประเมิณตนเองสูง” หลังจากพูดถึงหลี่ฟูเฉิน ดวงตาของหยูเหวินเทียนเปล่งประกายด้วยความเย็นชา
เขาเป็นคนที่ภาคภูมิใจในตนเอง และการพ่ายแพ้ต่อหลี่ฟู่เฉินย่อมเป็นหนามบงอบู่ในใจของเขาเสมอ ทุกครั้งที่เขาคิดถึงมัน มันจะทำให้เขาสูญเสียการควบคุมตัว
สองคนสังเกตเห็นและรู้ว่าหยูเหวินเทียนดูไม่มีความสุข หนึ่งในนั้นเริ่มวิจารณ์ “ประเมิณตนเองสูงเกินไปแน่นอน เหลาเทียนจุนชิเซียงเป็นศิษย์ชั้นในขั้นสอง และมีระดับเหนือกว่าหลี่ฟู่เฉินสี่ระดับ คิดว่าตัวเองเป็นใคร? แม้แต่กระทั้งดาบคลั่งชิเซียงก็ยังไม่สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้เกินสี่ระดับทั้งยังเป็นศิษย์ชั้นสองเมื่อตอนที่เขายังอยู่ในช่วงขอบเขตต้นกำเนิด”
“ความเย่อหยิ่งจะเป็นความหายนะของตัวเอง เวทีเฟิงหยุนไม่ใช่สถานที่ที่มีเมตตาเช่นนั้น”
ทั้งสองใช้โอกาสในการลดคุณค่าของหลี่ฟู่เฉิน
“ข้าหวังว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อตอนที่อยู่บนเวทีเฟิงหยุน มันจะลดความคะนองของเขาได้มาก”
แม้ว่าเขาจะเคยพ่ายแพ้ต่อหลี่ฟูเฉินมาแล้วก็ตาม แต่หยูเหวินเทียนก็ไม่ได้เห็นหลี่ฟู่เฉินอยู่ในสายตาของเขา
เขาที่มีโครงกระดูกระดับ 5 ดาวมีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านการฝึกฝน
ช่องว่างระหว่างเขากับหลี่ฟูเฉินมีแต่จะยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น ในเวลาไม่กี่ปี ช่องว่างจะใหญ่ขึ้นมากไปอีก เขาจะไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาก็จะเข้าสู่ขอบเขตปฐพีแล้ว ขอบเขตต้นกำเนิดยังคงจะสร้างความยุ่งยากให้กับขอบเขตปฐพีอยู่อีกหรือไม่?
***
เดือนที่เจ็ด
หลี่ฟู่เฉินเข้าใจทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำได้มากกว่า 26 ทักษะ คิดเป็นหนึ่งทักษะดาบต่อหนึ่งวัน
ในเดือนที่แปด หลี่ฟู่เฉินบรรลุขั้นภวังค์ของทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำกว่า 100 ทักษะที่เขาแลกมา
ดาบ 100 วิชาดาบที่สร้างจากบุคคล 100 คน ตอนนี้มันถูกเรียกว่าวิชาดาบหนึ่งร้อยตระกูล
ในช่วงเวลาที่สำคัญ หลี่ฟู่เฉินรู้สึกราวกับว่ามีคนร้อยคนกำลังใช้วิชาดาบของตัวเองอยู่ในใจของเขา เอกลักษณ์บางอย่างค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ และแข็งแกร่งขึ้น
“ทำลาย!”
ในลานบ้าน หลี่ฟู่เฉินถือดาบเหล็กดำและพุ่งไปยังแร่เหล็กชั้นดีด้วยท่าทางสบายๆ
สึบ!
พลังฉีลึกลับปราฏตัว การโจมตีของหลี่ฟู่เฉินมันถูกทำด้วยท่าทีที่เรียบง่าย แต่มันให้ความรู้สึกถึงความผันแปรนับไม่ถ้วน หากมีใครบางคนต่อสู้กับหลี่ฟูเฉิน ฝ่ายตรงข้ามอาจจะถูกตัดออกได้หากไม่ระวัง
แคร๊ก!
เศษเล็กเศษน้อยบินออกไปในลักษะขดเกลียว มีหลุมที่ดูไร้ตำหนิอยู่ใกล้ๆ กับแร่สูงสองเมตร
“ดาบเคลื่อนไหวด้วยหัวใจ ขณะที่หัวใจเคลื่อนไหวด้วยดาบ เมื่อดาบและหัวใจกลายเป็นหนึ่งเดียว ก็ไม่มีอุปสรรคใดที่ไม่สามารถเอาชนะได้”
แสงแห่งการรู้แจ้งปรากฏขึ้นในจิตใจของหลี่ฟู่เฉิน
เมื่อวันที่ผ่านมา หลี่ฟูเฉินหมกมุ่นอยู่กับสภาพจิตใจอันลึกลับนี้
ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนที่เก้า หลี่ฟูเฉินเริ่มดำใช้ออกด้วยวิชาดาบดาวตก
หลี่ฟูเฉินคิดว่าเขามีอาการประสาทหลอน เขารู้สึกว่าวิชาดาบดาวตกมีชีวิตได้เพราะการมีอยู่ของลมหายใจของเขาเอง
ตอนนี้การกระบวนดาบของดาบดาวตกเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและผันแปรไปด้วยความเป็นไปได้ที่ไร้สิ้นสุด
เช่นเดียวกับฝนดาวตก ซึ่งมีอุกกาบาตมากมาย ดาวตกทุกดวงอาจมีลักษณะเหมือนกัน แต่จุดหมายปลายทางของพวกมั้นทั้งหมดต่างก็เหมือนกัน
สึบ สึบ สึบ สึบ……
บนแร่เหล็กชั้นดี กระแสแสงนับไม่ถ้วนส่องผ่านแร่ เมื่อหลุมมากมายหลายหลุมเกิดขึ้น
“ทำลาย!”
หลังจากผ่านลำธารของแสงนับไม่ถ้วน ในที่สุดแสงสุดท้ายก็ปรากฏขึ้น
ความเร็วของแสงนี้พุ่งขึ้นมาถึงขีดจัด มันราวกับว่าเวลาหยุดนิ่ง
บึม!
เสียงที่น่าตกใจดังก้องเมื่อดาบทะลุผ่านแร่ เนื่องจากความเร็วสูงสุด เศษผงจึงบินออกไปแทนที่จะเป็นชิ้นส่วน
ทุกสิ่งเข้ามาบดบังดาบนี้ภายใต้ฝุ่นละออง
***ต่อจากนี้จะเป็นตอนเสียเงินน่ะครับอยากอ่านถูกกว่าในเว็บสามารไปซื้อตอนในกลุ่มได้ที่เพจ INdyNovel***
***ตอนในเพจ ตอนที่ 115 จะจบกลุ่ม 1 พอดี ใครอยากสมัครเข้าตั้งแต่กลุ่ม 2 ขึ้นไปนะครับ***