ตอนที่ 259 กำลังเสริมและกับดัก
ทันใดนั้น ภายในรัศมีสองกิโลเมตร ศพทั้งหมดก็ปล่อยหมอกสีเทา ซึ่งค่อยๆมารวมกันรอบฮีล่า
ฮีล่าลืมตาขึ้น ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีเทาลึกลับแทนที่จะเป็นสีแดงเข้ม กระดูกเธอเริ่มส่งเสียง และบาดแผลเธอก็หาย ภายในไม่กี่ลมหายใจ กระดูกและบาดแผลในท้องเธอก็สมานตัวกัน
หือ เธอยังไม่ตาย!หานเซี่ยวประหลาดใจ
โอ้ ฉากนี่เหมือนกับคำที่ว่า’อะไรที่ฆ่าไม่ตายจะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น’ เหมือนการที่แกนดาล์ฟฟื้นจากความตายในฐานะพ่อมดขาว
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงกลายเป็นเทพธิดาแห่งความตาย แสดงพลังของเธอออกมา!
ฮีล่าลุกนั่ง และหมอกสีเทาก็หายไป ดวงตาเธอกลับเป็นปกติ และเธอก็เริ่มไออย่างรุนแรง เธอพูดด้วยน้ำเสียงเปราะบาง“ไป ทิ้งฉันไว้ซะ ฉันอ่อนแอเกินกว่าจะทำอะไร”
หานเซี่ยวกัดริมฝีปาก
บ้าจริง ทำไมฉากแบบนี้เธอถึงไม่เกิดการคลุ้มคลั่งอะไรเล่า?ความตื่นเต้นฉันหายไปหมดเลย เธอยังอ่อนแอ!
โอ้ใช่ ฉันจำได้ว่าเธอมีความสามารถที่เรียกว่า[ปฏิเสธความตาย] ที่เธอจะได้รับผลพิเศษหากพลังชีวิตเธอต่ำกว่า1% ฉันคิดว่าเธอจะเมินเฉยความเสียหายจากการโจมตีถึงตาย แต่มันกลับเป็นการรักษาด้วยความเร็วสุดยอด ช่างเป็นพลังชีวิตที่เหนียวแน่น แต่ความสามารถนี้ก็ต้องมีคูลดาวน์
ศัตรูโอบล้อมพวกเขา หานเซี่ยวลำบาก และฮีล่าก็เป็นตัวถ่วง โอกาสรอดชีวิตเบาบาง
“ไหนนายบอกว่าจะทิ้งฉันเมื่อนายจำเป็นต้องทำ?ตอนนี้มันถึงเวลาแล้ว!หนีไปซะ!”สีหน้าฮีล่าขาวซีด และเธอก็ใช้พลังทั้งหมดเพื่อพูดคำเหล่านั้น มือเธออยู่บนหน้าอกหานเซี่ยว พยายามผลักเขาออกไป
“ได้”หานเซี่ยวพยักหน้า เขาไม่ใช่คนลังเล การทิ้งเธอคือทางเลือกที่ดีสุด และการอยู่กับเธอก็ไม่ได้ช่วยอะไร เขาจะไม่ทำการเลือกที่ทำให้เขาแย่ลง
ถึงแม้หานเซี่ยวจะอยากได้ฮีล่ามาเป็นพวกจริงๆ แต่หากจำเป็น เขาก็ต้องทิ้งเธอ
เมื่อเห็นว่าหานเซี่ยวตัดสินใจได้แล้ว ฮีล่าก็ผ่อนคลายและกล่าว“ช่วยดูแลน้อง....”
ทันใดนั้น หานเซี่ยวก็ได้ยินเสียงไม่คุ้นเคยผ่านหูฟัง
“เห้ ฉันเห็นพวกนายแล้ว เรากำลังไป!”
หานเซี่ยวโล่งใจเล็กน้อยพลางมองไปทางใต้ รถหุ้มเกราะสีดำสามคำเผยอีกฝากของสนามรบ กำลังใกล้เข้ามาด้วยความเร็วสูง
เฮลิคอปเตอร์จากองค์กรต้นกำเนิดบินไปทางพวกเขา หน้าจอหานเซี่ยวซูมเข้าไปและเห็นแขนขาวของผู้หญิงสวมกำไลทำจากไข่มุกสีแดงยื่นออกจากหน้าต่างรถ
บูม!
เฮลิคอปเตอร์ตกลงมา
รถจิ๊ปทั้งสามขับหลบเฮลิคอปเตอร์ที่ตกลงมาและตรงมาหาหานเซี่ยว
“กำลังเสริมมาแล้ว!”หานเซี่ยวรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เขาตบแก้มฮีล่าและหัวเราะ“ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะยังไม่ตายนะ”
กำลังเสริมประกอบไปด้วยยอดมนุษย์ชั้นนำใน6ประเทศ และอุปกรณ์พวกเขาก็นับว่าเป็นที่สุด
รถสามคันพุ่งฝ่าสนามรบและเปิดวงล้อมขององค์กรต้นกำเนิด เอสเปอร์หญิงปล่อยพลังเธอโดยไม่เตือนอะไร เปลี่ยนสนามรบให้กลายเป็นทะเลเพลิง
นี่ไม่ใช่ไฟปกติแต่เป็นไฟที่เกิดจากพลังงานพิเศษของเอสเปอร์ หลังเปลวไฟโดนเป้าหมาย มันจะระเบิด นี่ถูกเรียกว่าเพลิงระเบิด หนึ่งในพลังทำลายล้างของเอสเปอร์ธาตุไฟ
เพียงแค่มอง หานเซี่ยวก็ตัดสินได้ว่าผู้หญิงคนนี้คือยอดมนุษย์คลาสC
กองกำลังต้นกำเนิดทั้งหมดพยายามทำลายรถ แต่รถทั้งสามก็ปล่อยควันคล้ายระเบิดควัน ซึ่งกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว บดบังวิสัยทัศน์ไปครึ่งสนามรบ
องค์กรต้นกำเนิดเสียเป้าหมายพวกเขาและก็ยังไม่เห็นทีมตัวเอง ขอบเขตวิสัยทัศน์มีความยาวแค่หนึ่งเมตร
จากนั้น เสียงไอก็เกิดขึ้นในควัน ควันมีสารระคายเคืองที่รุนแรงคล้ายแก๊สน้ำตา
“ศัตรูอยู่ไหน?!ฉันมองไม่เห็นเลย แค่ก แค่ก=”
“ฉันหายใจไม่ออก!แค่ก”
“ศัตรูใหม่เผยตัว โปรดออกคำสั่งด้วย แค่ก...ออกคำสั่งด้วย!”
“เรดาห์ไม่ทำงาน ศัตรูมีเครื่องรบกวน!”
องค์กรต้นกำเนิดสับสนวุ่ยวาย อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารทั้ง4กลับเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็วและเรียกคืนมุมมองสนามรบก่อนควันจะจางหาย จากนั้นพวกเขาก็รีบพุ่งไปยังจุดที่หานเซี่ยวเคยอยู่ แต่หานเซี่ยวกลับหายไปแล้ว
“เขาหนีไปแล้ว!”เจรอสตกใจ“แกะรอยเขาได้ไหม?”
นักสู้สามคนมองหน้ากัน
พวกเขารู้แต่วิธีสู้ แต่การแกะรอยศัตรูไม่ใช่งานพวกเขา
อินกริสมีสัมผัสที่ดีเนื่องจากการควบคุมดิน แต่เธอได้ตายไปแล้ว
ในหมอกหนา หานเซี่ยวแบกฮีล่าไว้บนไหล่เขาเหมือนแบกถุงข้าว กำลังเสริมให้ตำแหน่งพบอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าเขาก็พบรถทหารสามคัน ประตูเบาะหลังคันหนึ่งเปิด และหานเซี่ยวก็กระโดดขึ้นทันที
มีสามคนในรถ คนขับเป็นอินเดียแดงสวมแว่นและมีร่างใหญ่โต หญิงสาวผิวขาวนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ เธอคือเอสเปอร์ที่ใช้พลังเพลิงระเบิด มีชายผิวเหลืองอีกคนกำลังใช้แผงควบคุมบนเพดานรถ
“ได้เป้าหมายแล้ว เราต้องออกไปเดี๋ยวนี้!”คนขับตะโกน
รถสามคนเปลี่ยนทิศทางและทิ้งสนามรบควันไว้ด้านหลัง
กองทหารรีบไล่ควันและจัดขบวนรถใหม่ ไล่ตามรถมาทันที เฮลิคอปเตอร์รักษาระยะห่างจากรถ กลัวว่าเอสเปอร์ไฟจะยิงพวกเขาลง
“เราปลอด...”ฮีล่ากำลังจะกล่าว แต่หานเซี่ยวก็รีบปิดปากเธอ
อยู่เงียบๆ เข้าใจไหม?
ชายผิวเหลืองมองหานเซี่ยวและยิ้ม“ผมได้ยินเกี่ยวกับคุณมามาก ในที่สุดก็ได้พบตัวเป็นๆ ผมคือถังถัง สมาชิกจากแผนก13มังกรดารา ผู้อำนวยการมักกล่าวถึงชื่อคุณ คุณทำเรื่องราวใหญ่โตมาก คนขับคืออลาวพ็อกจากธีซุส และผู้หญิงคนนี้ก็คือไดอาน่าจากเมเปิ้ล”
“โอเค หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว”ไดอาน่าไม่สนใจมองกลับและกล่าว“ตอนีน้เรามีเป้าหมาย ศัตรูทั้งหมดอยู่ด้านหลังเรา เราควรทำยังไง?”
“อืม พวกเขายังมีกำลังเสริมด้านหลัง เราไม่อาจอยู่และสู้ได้”ถังถังตอบ“เราแค่ไปตามเส้นทางที่วางแผนไว้ และก็จัสลัดหลุดได้หลังขับไปครึ่งวันและซ่อนตัว”
ฮีล่าฟื้นพลังงานเธอและถาม“ทำไมพวกคุณถึงไม่ใช้เครื่องบินละ?”
“คุณอยากให้เราลอบเข้ามาในอาณาเขตของศัตรูด้วยเครื่องบินงั้นหรอ?หรืออยากให้เราถูกยิงล่วง?”น้ำเสียงของไดอาน่าทั้งเชือดเฉือนและเย็นชา
กำลังเสริมมีรถสามคัน และพวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าใครอยู่ในรถคันอื่น
หลังพบทีมสนับสนุน พวกเขาก็ยังถูกศัตรูไล่ล่า อย่างไรก็ตาม มันเป็นข่าวดีที่พวกเขาฝ่าวงล้อมมาได้ และก็มีเวลาพักบ้าง
หานเซี่ยวถอนหายใจยาว เขากำลังแลกข้อมูลให้กับ6ประเทศ มันรู้สึกดีที่มีกำลังเสริมแทนที่จะสู้ลำพัง
นอกจากถังถัง คนสองคนตรงหน้ารถเอาแต่สังเกตหานเซี่ยวเงียบๆ พวกเขาคือหัวกะทิจากประเทศตนเอง และปฏิบัติการร่วมนี้ก็เพื่อช่วยคนๆเดียว บนผิวเผิน พวกเขารู้ว่าหานเซี่ยวได้ทำเรื่องน่าเหลือเชื่อมามาก และตั้งแต่พวกเขาได้พบ พวกเขาก็อยากรู้อยากเห็นเป็นปกติ
จากการขโมยข้อมูลจากสำนักงานใหญ่องค์กรต้นกำเนิดไปจนถึงการต่อสู้กับทั้งกองทัพเพื่อหนีออกจากอาณาเขต คนทั้งหมดเหล่านี้มองหานเซี่ยวให้เหนือกว่าพวกเขาและอดลอบสังเกตหานเซี่ยวไม่ได้
หลังผ่านไปสองชั่วโมง พื้นก็แข็งตัวน้อยลง จนกลายเป็นทราย พวกเขาออกจากที่ราบและตอนนี้ก็มาถึงทะเลทราย กองทัพด้านหลังไม่อาจเห็นได้อีกและพวกเขาก็ปลอดภัยชั่วคราว
บรรยากาศหนักอึ้งคลายลง หานเซี่ยวไม่ได้ถอดชุดเขา แต่เขาแค่อยู่โหมดพัก รอการชาร์จ
“ฝั่งตะวันออกของที่ราบมีทะเลทรายขนาดเล็ก สถานที่นั่นเคยเป็นพื้นที่ทดสอบระเบิดนิวเคลียร์และรังสีก็สูงมาก มันฆ่าพืชและสัตว์จนหมด มันจะต้องใช้เวลาประมาณ8ชั่วโมงในการเดินทางผ่านทะเลทราย หลังจากนั้น เราก็จะไปถึงเขตภูเขาสลับซับว้อน ตราบเท่าที่เราหลีกเลี่ยงฐานระหว่างทางได้...”ถังถังอธิบายเส้นทางหลบหนี
ทันใดนั้น คอมพิวเตอร์ของหานเซี่ยวในชุดก็ได้รับสาย
มันมาจากผู้นำ
“ดีจริงๆ แกฝ่าวงล้อมได้จริงๆ”ผู้นำดูสงบ แต่หานเซี่ยวเดาว่าเขาคงแทบอกแตกตาย แต่ความสงสัยเขาก็พุ่งขึ้น
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!
“หึๆ แกคิดว่าแกปลอดภัยแล้วงั้นหรอ?”ผู้นำหัวเราะ“แกคิดว่าฉันจะไม่เห็นทีมที่แทรกซึมเข้ามา?”
หานเซี่ยวแข็งค้าง เรื่องเลวร้ายกำลังมา
“ฉันไม่เคยพยายามหยุดพวกเขาก็เพื่อเหตุนี้ ฉันไม่อาจแกะรอยตำแหน่งแกได้ แต่อย่างน้อยฉันก็แกะรอยกำลังหนุนได้ ฉันรู้ว่าแกต้องไปพบพวกเขา และจากการเคลื่อนไหวของแกและทีมแก ฉันสามารถเดาได้ว่าแกจะไปพบกันที่ไหน”
“ใช่แล้ว กำลังเสริมของกำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันออกของที่ราบ หมายความว่านั่นคือเส้นทางหลบหนีแก น่าเสียดาย ฉันรู้ไปตั้งแต่สิบกว่าชั่วโมงก่อนแล้ว”
“ซีโร่ แกไม่ได้รู้ทั้งหมดใช่ไหม?”
ผู้นำระเบิดจิตสังหารออกมา
“เปิดตาแกซะ และต้อนรับขบวนพาเหรดที่ฉันเตรียมไว้ใฝห้...นี่จะเป็นจุดจบของหานเซี่ยว!”
หานเซี่ยวมองออกนอกหน้าต่าง และเนินเขากับหุบเขาก็เต็มไปด้วยกองกำลังซุ่มโจมตี พร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์นับสิบที่บินวนรอบท้องฟ้า ปืนกลหลายร้อยกระจายอยู่ในฐานกระสอบทรายและทหารที่ถือปืนกลและปืนใหญ่ก็ยังรอในฐานเพื่อรอคำสั่ง
จำนวนทหารมากกว่าก่อนหน้าถึงสองเท่า