เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0075
ตอนที่ 75 : หญ้าหัวใจลึกล้ำ
ร่างของฉินเฟิงและชี่เสวี้ยถูกหลอมละลายในลาวา ผู้คนล้วนตื่นตะลึง!
เหลียวหนิงผู้ซึ่งถูกหยางฉีเย่ว์หยุดเอาไว้เองก็ร่างกายแข็งทื่อ!
ศิษย์ที่เลิศล้ำทั้งสองถึงกับเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาของเขา!
หนึ่งคือองค์ชายแห่งเทียนฉิน และอีกหนึ่งคือองค์หญิงแห่งเทียนชี่
หลังประสบอาการตื่นตะลึง บรรดาข้าราชบริพารเฒ่าจักรวรรดิเทียนฉินพลันเปี่ยมล้นด้วยความโศกและโทสะ!
ฉินเฟิง ผู้ซึ่งเป็นองค์ชายอันดับสอง ทั้งยังมีพรสวรรค์ทางวิถียุทธ์แห่งเต๋าล้ำเลิศ แต่แล้วตั้งแต่ยังอายุเยาว์เพียงนี้ กลับต้องตายในสภาพและสถานที่เช่นนี้!
ฉินเฟิงคือบุคคลผู้ซึ่งจักรพรรดินีตั้งความหวังเอาไว้สูง ในอนาคตเขาจะได้กลายเป็นผู้ช่วยเหลือแก่องค์ชายรัชทายาทฉินเจิ้งเฟิง แต่แล้วตอนนี้... เขากลับถูกฉินหยุนสังหาร
เหล่าข้าราชบริพารเฒ่าพูดกล่าวคำใดไม่ออกเพราะหยางฉีเย่ว์และต้วนเฉียนล้วนปกป้องฉินหยุน พวกเขาไม่อาจรับมือกับคนทั้งสองได้
ฉินหยุนรับคำท้าหนึ่งปะทะสาม และในเพียงไม่กี่ลมหายใจ เขาถึงขั้นเสร็จสิ้นการประลองครั้งนี้!
พละกำลังนี้น่าหวาดกลัวเกินไป มันถึงขั้นสั่นสะท้านหัวใจผู้ชมทั้งหมดในที่นี้!
ในแดนยุทธ์มังกรซ่อนเร้น หลังผ่านห้วงเวลาแห่งความเงียบพักหนึ่ง เสียงร้องอุทานราวฟ้าคำรามเป็นชุดค่อยดังขึ้น!
มีเพียงเย่เสินเหล่ยที่รอดชีวิต ทว่าก็พิการแล้ว
เป้าโทสะหลักของฉินหยุนพุ่งตรงที่ชี่เสวี้ยและฉินเฟิง!
เป็นเพราะทั้งสองยั่วยุฉินหยุน จิตสังหารของเขาจึงล้นทะลักเพราะอีกฝ่ายใช้ชื่อชี่เม่ยเหลียน
สีหน้าของฉินหยุนตอนนี้สงบขณะเดินไปข้างลานประลองยุทธ์ เขาก้มมองเหลียวหนิงและกล่าวเสียงเย็นเยือก “ข้าชนะแล้ว ตามข้อตกลง ส่งพิมพ์เขียวของค้อนราชันยักษ์วิญญาณให้ข้า!”
หยางฉีเย่ว์เองยังกล่าวด้วยน้ำเสียงคุกคาม “เร็ว นำเอาพิมพ์เขียวออกมา!”
เหลียวหนิงและอาจารย์ผู้อื่นยังตอบสนองต่อเหตุการณ์ไม่ทัน!
นี่เป็นเพราะพวกเขาไม่คิดว่าฉินหยุนจะสามารถจัดการคนทั้งสามได้!
ตอนนี้ ฉินหยุนไม่เพียงแต่จัดการคนทั้งสาม แต่เป็นเขาจัดการด้วยพละกำลังที่เหนือล้ำกว่าอย่างมหาศาล ฉินเฟิงและชี่เสวี้ยตอนนี้จมหายในบ่อลาวาไปแล้ว!
พลังอำนาจของวิญญาณยุทธ์ไฟระดับทองม่วงชวนสะพรึง เปลวเพลิงที่ปลดปล่อยหลอมละลายได้กระทั่งหิน หากไม่ได้เห็นกับตาตนเอง ย่อมไม่มีใครเชื่อเรื่องพวกนี้เป็นแน่
เหลียวหนิงกัดฟันกรอด เขาไม่คิดส่งมอบพิมพ์เขียวให้ ทว่าหลังได้เห็นออร่าคุกคามรุนแรงของหยางฉีเย่ว์ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องนำเอากระดาษออกมาและส่งมอบ
ฉินหยุนรับกระดาษเหล่านั้นมาและกางอ่าน เขาพบว่าตนขาดความเข้าใจเรื่องนี้ เขาจึงตัดสินใจส่งมันแก่ต้วนเฉียนและเอ่ยถาม “ผู้จัดการ ท่านพอช่วยข้าตรวจสอบสิ่งนี้ว่าถูกต้องได้หรือไม่ขอรับ?”
เมื่อได้รับ ต้วนเฉียนจึงขมวดคิ้วรับชมกระดาษในมือ
เหลียวหนิงและคณะพลันแตกตื่นขณะเร่งร้อนตะโกนขึ้น “ฉินหยุน นั่นถือเป็นความลับของสถาบันยุทธ์เทียนเสวียนเรา! เจ้าต้องเก็บเป็นความลับอย่าได้เผยแพร่ต่อผู้อื่น!”
ฉินหยุนแค่นเสียง “มันตกเป็นของข้าแล้ว ข้าจะทำอะไรกับมันล้วนไม่ใช่ธุระพวกเจ้า นอกจากนี้พวกเรายังไม่เคยตกลงเรื่องที่พวกเจ้ากล่าวเมื่อครู่แม้สักนิด!”
เขาไม่คิดไว้หน้าเหลียวหนิง เขาเชื่อว่าชี่เสวี้ยและฉินเฟิงที่กล้ากล่าวคุกคามต่อเม่ยเหลียนย่อมต้องมีความเกี่ยวข้องกับเหลียวหนิง
สีหน้าของเหลียวหนิงแปรเปลี่ยนขณะโทสะเผยให้เห็นผ่านดวงตา
“ถูกต้อง!” ต้วนเฉียนส่งพิมพ์เขียวคืนแก่ฉินหยุน
ฉินหยุนเก็บพิมพ์เขียวดังกล่าว ขณะเดินลงจากลานประลองกลับไปยืนเคียงข้างหยางฉีเย่ว์
เขาหันมองเชี่ยวเย่ว์หลานซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป ดวงตาเย็นชาของนางภายใต้หน้ากากยังคงเป็นเช่นเดิม มันเคยไร้อารมณ์อย่างไรก็เป็นเช่นนั้น
เมื่อเชี่ยวเย่ว์หลานพบฉินหยุนมองมา นางเร่งรีบหันไปทางอื่นพร้อมเดินออกจากแดนยุทธ์มังกรซ่อนเร้นไป
การประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้นจบสิ้นด้วยประการนี้ ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ออกจากนครหลวงเพื่อเดินทางกลับสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง
อัจฉริยะจำนวนไม่น้อยถูกทำให้พิการในการประลองยุทธ์ พวกเขาล้วนมาจากสามจักรวรรดิ
และเป็นฉินหยุนที่ก่อร่างสร้างความโกรธแค้นแก่ราชวงศ์ของทั้งสามจักรวรรดิ!
โดยเฉพาะเชี่ยวหลางจากจักรวรรดิเทียนชี่ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดที่ไม่อาจฟื้นตัวได้ในเวลาอันสั้น นอกจากนี้ราชสีห์เหมันต์ยังถูกสังหารและร่างของมันถูกฉินหยุนฉกชิงเอาไป นี่นับเป็นความสูญเสียครั้งร้ายแรง
หลังการประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้น นามฉินหยุนยิ่งมายิ่งกระฉ่อน
องค์ชายผู้เคยยากไร้ตอนนี้กลับกลายเป็นคนสำคัญผู้หนึ่งขึ้นมา!
บรรดาข้าราชบริพารขายชาติของจักรวรรดิเทียนฉินล้วนเป็นกังวล หากฉินหยุนไม่ตาย พวกเขาก็ยากอยู่อย่างสงบสุขได้
* * *
ทั้งเด็กใหม่และศิษย์พี่ในสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงล้วนอิจฉากันถ้วนหน้ายามเมื่อเห็นฉินหยุนเดินทางกลับมา
สำหรับเด็กใหม่ ความสำเร็จนี้ควรค่าแก่การชื่นชม ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะมีจักรพรรดินีเป็นศัตรู เขาคงได้รับการต้อนรับอย่างเอิกเกริกแล้ว
ที่ป่าไผ่บริเวณข้างริมทะเลสาบของฮัวหลิง
ในห้องโถงของบ้านพัก หยางฉีเย่ว์กำลังรับชมฉินหยุนนำเอาหญ้าหัวใจลึกล้ำออกมาพร้อมถอนหายใจ “สำหรับผู้ฝึกตน หญ้าหัวใจลึกล้ำคือสิ่งสำคัญยิ่งแก่ผู้ที่ฝึกฝนวิถีหัวใจแล้ว หลังกินมันเข้าไป พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับการบ่มเพาะอันทรงพลังมหาศาลของวิถีหัวใจ!”
ฉินหยุนเอ่ยถาม “อาจารย์ขอรับ หากวิถีหัวใจทรงพลัง สิ่งเด่นชัดที่จะบ่งบอกคืออะไร?”
หยางฉีเย่ว์นั่งลงและกล่าว “สามมหาวิถีประกอบด้วย วิถีกระดูก วิถีหัวใจ และวิถีวิญญาณ! วิถีหัวใจคือสิ่งที่อยู่ตรงกลาง มันสามารถส่งผลกระทบต่อทั้งวิถีกระดูกและวิถีวิญญาณ มันยังเป็นแกนกลางซึ่งเชื่อมต่อระหว่างวิถีหัวใจและวิถีวิญญาณด้วย!”
“หากวิถีหัวใจแข็งแกร่ง แบบนั้นวิถีกระดูกของเจ้าก็จะแข็งแกร่ง ในอนาคต เมื่อเจ้าฝึกฝนผ่านไปแล้ว วิถีวิญญาณก็จะยิ่งแข็งแกร่ง!”
“วิถีกระดูกเกี่ยวข้องกับร่างกาย วิถีวิญญาณเกี่ยวข้องกับวิญญาณ! เมื่อนั้นเจ้าจะได้ร่างกายที่แข็งแกร่ง วิญญาณที่แข็งแกร่ง และจิตใจที่แข็งแกร่ง! ภายหลังเมื่อเจ้ากินหญ้าหัวใจลึกล้ำเข้าไป วิถีหัวใจที่เจ้าฝึกฝนจะแข็งแกร่งได้ยิ่งกว่าสิ่งที่ควรสำเร็จในยามปกติ”
ฉินหยุนเริ่มคาดหวังต่อผลลัพธ์ที่จะได้รับจากหญ้าหัวใจลึกล้ำ เขามีวิญญาณยุทธ์คู่ รวมทั้งมีพลังธาตุคู่ เพื่อให้ได้ศักยภาพระดับใต้หล้ามาครอบครอง เขาจำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับพลังอันน่าสะพรึงของพลังธาตุทั้งสอง
หากเขาฝึกฝนวิถีหัวใจให้ทรงพลังได้ ร่างกายและจิตใจของเขาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ทั้งยังจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องอาการตีบตันได้
“จงรีบกินมันเร็วเข้า!” หยางฉีเย่ว์ยิ้มและกล่าวคำเร่ง
ฉินหยุนคว้าหญ้าหัวใจลึกล้ำก่อนเร่งร้อนเข้าห้องของตนไป
หลังจากกินหญ้าหัวใจลึกล้ำ เขาหลับตาลงและเริ่มขัดเกลามัน ไม่นานจากนั้น เขารู้สึกได้ว่าท้องของตนเริ่มร้อนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ถัดจากนั้น คลื่นพลังงานร้อนแรงเริ่มพุ่งพรวดเข้าสู่หัวใจของเขา เป็นผลให้หัวใจของเขาเต้นหนักหน่วงมากขึ้น ทั้งยังร้อนแรงมหาศาล
วันและคืนผ่านพ้น ชั่วขณะที่ฉินหยุนลืมตาขึ้น แสงสว่างสีทองพลันวาบออก!
“หัวใจของเราเปลี่ยนเป็นสีทอง!” เขาร้องอุทานหลังสำรวจตนเอง
ไม่เพียงเท่านั้น เส้นโคจรพลังทั้งหมดในร่างของเขายังได้รับการขยายขนาดอย่างมหาศาล ทั้งนี้วิถีกระดูกในร่างกายยังแปรเปลี่ยนเป็นสีทองด้วยเช่นกัน
เส้นโคจรทั้งหมดในร่างของฉินหยุนล้วนเชื่อมต่อไปยังหัวใจสีทอง ทุกครั้งที่หัวใจเต้น เลือดจะถูกสูบฉีดโคจรผ่านหัวใจนั้น
หลังเลือดไหลผ่านหัวใจสีทอง โดยฉับพลัน มันถูกเสริมกำลังขึ้น จากนั้นเลือดที่แข็งแกร่งจึงเริ่มไหลเวียนผ่านร่างกายเพื่อหล่อเลี้ยงบำรุงกล้ามเนื้อและกระดูก
“วิถีหัวใจเชื่อมโยงถึงพลังปราณ มันจะดูดซับพลังปราณและใช้เพื่อทำให้เลือดแข็งแกร่งมากขึ้น!”
“ภายหลังเมื่อเลือดแข็งแกร่ง มันจะไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกายเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกาย จากนั้นจึงค่อยถูกกระดูกซึมซับเข้าไปผ่านทางวิถีกระดูกและเสริมแกร่งให้กระดูก!”
ฉินหยุนพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและได้พบถึงการเชื่อมต่อลึกลับในร่างกาย
หลังฝึกฝนวิถีหัวใจ ตราบเท่าที่หัวใจยังเต้น เขาจะขัดเกลาเลือดตนเองและเสริมกำลังแก่ร่างกายได้เสมอ!
ตอนนี้ที่ขาดคือวิถีวิญญาณ พลังจิตของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลหากฝึกฝนมันได้สำเร็จ
“ด้วยร่างกายตอนนี้ เราสมควรรองรับพลังของกำลังภายในที่ควบแน่นผ่านทางกระบวนท่าอุกกาบาตทลายได้” เขาคิดอยากลอง ทว่าสถานที่ไม่เหมาะสมเท่าใดนัก
ฉินหยุนเมื่อฝึกฝนวิถีหัวใจสำเร็จจึงออกจากห้องเพื่อหาหยางฉีเย่ว์ให้ได้ชื่นชม
เขาเดินมาที่ห้องโถงจึงพบข้อความวางไว้บนโต๊ะ “ข้าอยู่ที่บ้านพักของอาจารย์ติง อ่านแล้วให้รีบมา!”
สีหน้าของฉินหยุนแปรเปลี่ยนเล็กน้อยขณะเกิดความคิดหลายอย่างประดังเข้ามา ถัดจากนั้น เขาจึงเร่งร้อนพุ่งพรวดผ่านประตูมุ่งหน้าสู่บ้านพักของติงเทียนฉวน
ครั้งติงเทียนฉวนและเขาออกล่าสัตว์ปีศาจในเทือกเขาเมฆมังกร พวกเขาถูกโจมตีโดยวานรเงาวายุ ซุยฮ่วย และผู้อื่น...
วานรเงาวายุและซุยฮ่วย ทั้งสองเชื่อมโยงถึงปรมาจารย์เว่ย ทว่าทั้งสองถูกสังหารแล้ว ด้วยเหตุนี้ปรมาจารย์เว่ยที่อาจพบเจออะไรบางอย่างจึงอาจลงมือต่อติงเทียนฉวน...