เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 591-2 บูชายัญ (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 591-2 บูชายัญ (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
ฟางหยวนคิดถึงตำนานมนุษย์คนแรก
เพ่ยหมิงปิงปลุกอวี๋หยิงฮวงให้ตื่นขึ้น ทั้งสองถามวิญญาณความเข้าใจอีกครั้งเกี่ยวกับวิธีช่วยเหลือบิดา
วิญญาณความเข้าใจกล่าว “มนุษย์ ภูเขาเฉิงไป่หายไปแล้ว ผู้ใดจะรู้ว่ามันจะกำเนิดขึ้นอีกครั้งเมื่อใด ข้าไม่รู้ว่าจะสามารถนำบิดาของพวกเจ้ากลับมาได้อย่างไร แต่ไม่จำเป็นต้องโศกเศร้า พวกเจ้าสามารถไปสอบถามจากวิญญาณสติปัญญา”
วิญญาณความเข้าใจเป็นผู้ให้กำเนิดวิญญาณสติปัญญาโดยการตกผลึกความเข้าใจของตนเอง
ศิษย์สามารถเหนือกว่าอาจารย์ แม้วิญญาณความเข้าใจจะไม่รู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าวิญญาณสติปัญญาจะไม่รู้เช่นกัน
ภายใต้การชี้นำของวิญญาณความเข้าใจ เพ่ยหมิงปิงกับอวี๋หยิงฮวงจึงค้นพบวิญญาณสติปัญญาในที่สุด
แรกเริ่มวิญญาณสติปัญญาไม่เต็มใจช่วยคนทั้งสอง
แต่เมื่อพวกเขาได้รับการแนะนำมาจากวิญญาณความเข้าใจ วิญญาณสติปัญญาจึงต้องกล่าวอย่างไม่เต็มใจนัก “มนุษย์ ข้าสามารถบอกวิธีที่ถูกต้องแก่พวกเจ้า แต่ข้าต้องการสิ่งตอบแทน หนึ่งในพวกเจ้าต้องส่งมอบอายุขัยครึ่งหนึ่งให้ข้า”
“ข้าจะมอบอายุขัยครึ่งหนึ่งให้ท่าน” อวี๋หยิงฮวงตอบกลับทันทีโดยปราศจากความลังเล
นางถูกปลุกให้ตื่นขึ้นโดยเพ่ยหมิงปิงและได้รับชีวิตมาจากมนุษย์คนแรก นางเป็นหนี้ชีวิตพวกเขา ดังนั้นนางจึงตอบรับเงื่อนไขนี้ทันทีและไม่ต้องการส่งต่อปัญหานี้ให้กับผู้ใด
เพ่ยหมิงปิงไม่สามารถโต้เถียงพี่สาวในเรื่องนี้
นี่หมายความว่าอวี๋หยิงฮวงจะก้าวข้ามจากวัยเยาว์เข้าสู่วัยชราและกระโดดผ่านวัยกลางคนโดยตรง
แต่เพื่อช่วยเหลือบิดา นางจึงไม่กังวลมากนัก
วิญญาณสติปัญญาได้รับอายุขัยของนางและกล่าว “กลางทะเลทรายสีทองทางทิศตะวันตก มีทะเลสาบสีฟ้าที่สงบนิ่งราวกับกระจกอยู่ที่นั่น ทะเลสาบแห่งนี้คือที่มาของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ทุกชีวิตบนโลกใบนี้มีต้นกำเนิดจากที่นั่น ใต้ทะเลสาบมีวิญญาณแห่งชีวิตอาศัยอยู่มากมาย พวกเจ้าต้องไปจับวิญญาณชีวิตมนุษย์ วิญญาณชีวิตมนุษย์สามารถคืนชีพให้กับบิดาของพวกเจ้า แต่จำไว้ว่าพวกเจ้าไม่สามารถใช้เวลาเกินสิบห้านาทีในทะเลสาบ มิฉะนั้นพวกเจ้าจะกลายเป็นสารอาหารของทะเลสาบ”
วิญญาณสติปัญญากล่าวเสริม “มันเป็นเรื่องยากที่จะหาวิญญาณชีวิตมนุษย์ มีเพียงบุคคลที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตอย่างแท้จริงเท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จ หากพวกเจ้าไม่สามารถทำก็อย่าได้กล่าวโทษข้า”
อวี๋หยิงฮวงต้องการถามบางสิ่งแต่วิญญาณสติปัญญากลับบินจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่เปิดโอกาสให้สอบถาม
.....
เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น
สัตว์อสูรโลหิตพุ่งออกมาราวกับคลื่นสมุทร ไท่เป่ยหยุนเฉิงและกลุ่มของเขาไม่ต่างจากแนวปะการังที่ถูกคลื่นน้ำซัดสาดอีกครั้งและอีกครั้ง นั่นทำให้การก้าวไปข้างหน้ากลายเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับพวกเขา
“เกือบแล้ว! อีกสามร้อยก้าวเราจะไปถึงประตูทางเข้า!” บางคนตะโกน
“ระวัง!” ผู้ใช้วิญญาณที่อยู่ด้านข้างตะโกนเตือน
ผู้ใช้วิญญาณที่พยายามสร้างขวัญกำลังใจกลายเป็นมึนงงเมื่อสัตว์อสูรโลหิตที่มีศีรษะเป็นมังกรร่างกายเป็นหมีพุ่งเข้ามาหาเขา
“ปัง”
กระดูกซี่โครงของผู้ใช้วิญญาณผู้นั้นแตกหักขณะที่เลือดพุ่งออกมาพร้อมกับเศษชิ้นส่วนอวัยวะภายใน
ร่างของเขาถูกส่งลอยกลับหลังไป ผู้ใช้วิญญาณที่อยู่ด้านหลังพยายามหยุดเขา นั่นทำให้ขบวนรบเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที
“รักษาแนวป้องกัน!” ไท่เป่ยหยุนเฉิงตะโกนเสียงดังด้วยความกังวล
ในสถานการณ์นี้ หากผู้ใช้วิญญาณกระจัดกระจายกันออกไป พวกเขาจะไม่สามารถรับมือศัตรูจำนวนนับไม่ถ้วน มีเพียงความร่วมมือเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขามีโอกาสรอดชีวิต
อย่างไรก็ตามแนวป้องกันของพวกเขายังถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง
สัตว์อสูรโลหิตที่มีรูปร่างเหมือนตั๊กแตนส่งแขนเคียงข้างขวาพุ่งออกมา
“ฉัวะ!”
ศีรษะของผู้ใช้วิญญาณถูกตัดออกจากร่างพร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดขึ้นสู่อากาศ แต่ก่อนที่เลือดจะตกลงสู่พื้น สัตว์อสูรโลหิตที่บินอยู่ด้านบนก็พุ่งลงมาดูดกลืนไปจนหมดสิ้น
ไท่เป่ยหยุนเฉิงเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าพร้อมกับหัวใจที่จมดิ่งลง ‘มันจบแล้ว’
เป็นเพียงเวลานี้ที่เงาร่างสายหนึ่งพุ่งออกไป
“ปัง ปัง ปัง ปัง...”
การต่อสู้อันดุเดือดปะทุขึ้น
มันคือจูไจ้!
ผู้ใช้วิญญาณปีศาจระดับห้าที่มีชื่อเสียง
ทุกคนรอดชีวิตแต่จูไจ้กลับต้องจ่ายด้วยบาดแผลขนาดใหญ่บนร่างกาย
ไท่เป่ยหยุนเฉิงกระตุ้นใช้งานวิญญาณบุรุษคนก่อนหน้าเพื่อรักษาเขา
อาการบาดเจ็บของจูไจ้ถูกกู้คืนเช่นเดียวกับพลังวิญญาณของเขา
นั่นทำให้สถานการณ์กลับสู่เสถียรภาพอีกครั้ง
.....
“ผลกระทบของวิญญาณบุรุษคนก่อนหน้าช่างยอดเยี่ยมนัก แต่น่าเสียดายที่มันไม่สามารถใช้กับร่างกายของผู้ใช้วิญญาณ” ฟางหยวนถอนหายใจก่อนจะคิดถึงตำนานมนุษย์คนแรกอีกครั้ง
อวี๋หยิงฮวงกับเพ่ยหมิงปิงเดินทางไปยังทะเลทรายตะวันตกและพบกับทะเลสาบสีฟ้าในที่สุด
เป็นเช่นคำกล่าวของวิญญาณสติปัญญา มันงดงามและสงบนิ่งราวกับกระจก
คู่พี่น้องแทรกซึมเข้าไปในทะเลสาบและพบวิญญาณแห่งชีวิตมากมาย
วิญญาณแห่งชีวิตเหล่านั้นอยู่ในรูปลักษณ์ของอัญมณีสีน้ำเงินที่มีรูปร่างแตกต่างกัน
บางดวงเหมือนม้า บางดวงเหมือนพยัคฆ์ บางดวงเป็นอินทรีย์ บางดวงเป็นนกพิราบ มันมีกระทั่งอสรพิษหรือมังกร
พวกเขาเห็นวิญญาณแห่งชีวิตทุกชนิดยกเว้นวิญญาณชีวิตมนุษย์
เมื่อคู่พี่น้องไม่พบวิญญาณชีวิตมนุษย์ พวกเขาจึงทำได้เพียงกลับขึ้นไปบนบกเท่านั้น
ทันทีที่พวกเขากลับขึ้นมา วิญญาณชีวิตกวางที่อยู่ในมือของเพ่ยหมิงปิงพลันส่องประกายขึ้นก่อนจะกลายร่างเป็นกวางมีชีวิตและกระโดดไปยังทะเลทรายด้านหน้า
นี่คือต้นกำเนิดแห่งชีวิต!
คู่พี่น้องมองเหตุการณ์นี้ด้วยความตื่นเต้น
เพียงเมื่อกวางจากไป อวี๋หยิงฮวงจึงตระหนักถึงบางสิ่ง “ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดวิญญาณสติปัญญาจึงบินหนีไปทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้ข้าตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิต”
“ความจริงของชีวิตคือสิ่งใดกันแน่?” เพ่ยหมิงปิงถาม
อวี๋หยิงฮวงชี้นิ้วไปที่ทะเลสาบและกล่าว “บอกข้า หากพวกเราพบวิญญาณชีวิตมนุษย์และนำกลับขึ้นมา มันจะเป็นอย่างไร?”
เพ่ยหมิงปิงคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนตอบ “มันจะเป็นเหมือนวิญญาณชีวิตกวางที่เปลี่ยนเป็นรูปแบบชีวิตที่แท้จริงถูกต้องหรือไม่?”
แต่เพียงเมื่อกล่าวจบประโยค เพ่ยหมิงปิงกลับกลายเป็นลนลาน
อวี๋หยิงฮวงเผยรอยยิ้มบาง “ดูเหมือนเจ้าจะเข้าใจแล้ว พวกเราคือรูปแบบชีวิต พวกเรากำเนิดจากวิญญาณแห่งชีวิต ร่างกายของพวกเราก็คือวิญญาณชีวิตมนุษย์”
เพ่ยหมิงปิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่ามนุษย์กำเนิดขึ้นได้อย่างไร
นี่คือต้นกำเนิดของมนุษย์
มนุษย์คนแรกเคยเป็นวิญญาณชีวิตมนุษย์และอาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้มาก่อน
แต่มนุษย์คือจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด แล้วมันจะมีวิญญาณชีวิตมนุษย์อยู่เท่าใดในทะเลสาบแห่งนี้?
แน่นอนว่ามีน้อยมากและอาจจะมีเพียงหนึ่งเดียวคือมนุษย์คนแรก
การค้นหาวิญญาณชีวิตมนุษย์ในทะเลสาบแห่งนี้ไม่ต่างจากการงมเข็มในมหาสมุทร
มันกระทั่งยากลำบากมากกว่าการค้นหาวิญญาณประสบความสำเร็จบนภูเขาเฉิงไป่
“ข้ารู้วิธีที่จะทำให้พวกเราได้รับวิญญาณชีวิตมนุษย์แล้ว เร็วเข้า!” อวี๋หยิงฮวงกล่าว
“วิธีใด?” เพ่ยหมิงปิงสังหรณ์ร้าย
อวี๋หยิงฮวงยิ้ม “นั่นคือ...ข้าจะลงไปในทะเลสาบและคืนสภาพเป็นวิญญาณชีวิตมนุษย์”
แม้ร่างกายของอวี๋หยิงฮวงจะเป็นสัตว์ประหลาด แต่แก่นแท้ของนางก็ยังเป็นมนุษย์
เมื่อนางเป็นมนุษย์ นางก็สามารถเปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นวิญญาณชีวิตมนุษย์
ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเหตุใดวิญญาณสติปัญญาจึงกล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถอยู่ในทะเลสาบได้นานกว่าสิบห้านาที
วิญญาณสติปัญญาไม่ได้กล่าวเกินจริงและยังบอกคำใบ้ให้กับพวกเขาอีกด้วย
“ไม่ ท่านไม่สามารถใช้ตนเองเป็นเครื่องบูชายัญ” เพ่ยหมิงปิงเร่งปฏิเสธความคิดของนาง
แม้เขาจะต้องการนำบิดากลับมา แต่เขาก็ไม่ต้องการสูญเสียพี่สาวผู้นี้ไปเช่นกัน
“ข้าต้องทำมัน ความหมายของชีวิตข้าคือการนำท่านพ่อกลับคืนสู่ชีวิต” อวี๋หยิงฮวงกล่าวอย่างสงบ
เพ่ยหมิงปิงไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาอีก
เขาเป็นผู้มอบความหมายของชีวิตให้กับอวี๋หยิงฮวง กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากอวี๋หยินฮวงไม่สามารถนำบิดากลับมา นางจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่
แต่ตราบเท่าที่นางเสียสละตนเองและสามารถช่วยเหลือบิดา นางจะสามารถเติมเต็มความหมายของชีวิต
“เดิมทีมนุษย์คืออัญมณีของโลกใบนี้ แต่มันเป็นอัญมณีที่ยังไม่ได้รับการขัดเกลา ทุกการกระทำของพวกเรา ทุกเส้นทางที่พวกเราเลือก มันคือการขัดเกลาอัญมณีของตนเอง”
“มนุษย์จะมีชีวิตด้วยการเสียสละชีวิตเท่านั้น”
อวี๋หยินฮวงกล่าวก่อนจะกระโดดลงไปในทะเลสาบ
เพ่ยหมิงปิงต้องการหยุดนางแต่เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใด ทั้งหมดก็คืออวี๋หยินฮวงอยู่ในร่างของสัตว์ประหลาด เขาไม่สามารถแข่งขันความแข็งแกร่งกับนาง
หลังจากสิบห้านาที อวี๋หยินฮวงจึงกลายเป็นก้อนอัญมณีอยู่ลอยกลางทะเลสาบ
มันเป็นอัญมณีที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แต่มีรอยแตกร้าวอยู่บนพื้นผิว
เพ่ยหมิงปิงคว้าอัญมณีขึ้นมาและเดินทางออกจากทะเลทราย
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีความสุขกับความสำเร็จในครั้งนี้ ตรงข้ามหัวใจของเขาจมดิ่งลงด้วยความโศกเศร้า
จากมุมมองของเพ่ยหมิงปิง เขาเป็นคนสังหารพี่สาวของตนเอง
.....
“อีกห้าสิบก้าว!” ไท่เป่ยหยุนเฉิงตะโกนด้วยพลังทั้งหมด
พวกเขาค่อยๆก้าวไปข้างหน้าอย่างยากลำบาก การต่อสู้ที่ดุเดือดทำให้พวกเขาเหลือสมาชิกอยู่เพียงห้าคนในเวลานี้
แต่ความสำเร็จอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
“อดทนอีกนิด!”
“ข้าจะฉีกร่างของพวกเจ้าออกเป็นชิ้น!”
จูไจ้กับเกาหยางปกป้องไท่เป่ยหยุนเฉิงอยู่สองข้างและตะโกนสร้างขวัญกำลังใจให้กับทุกคน
สามสิบก้าว!
ผู้ใช้วิญญาณอีกสองคนถูกทิ้งไว้ด้านหลังและหายเข้าไปในฝูงสัตว์อสูรโลหิตที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่รู้จบสิ้น
สิบก้าว!
จูไจ้กับเกาหยางใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของพวกเขาขณะที่พลังวิญญาณของทั้งสองแทบหมดสิ้น
“ชายชราผู้นี้ติดหนี้บุญคุณท่านทั้งสองแล้ว ข้าสาบานว่าจะตอบแทนพวกท่านในอนาคต” ไท่เป่ยหยุนเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ผู้อาวุโสอย่ากล่าวเช่นนั้น เพราะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสในครั้งนั้น พวกเราจึงยังมีชีวิตอยู่ในวันนี้”
“ความเมตตาของผู้อาวุโสยิ่งใหญ่ดุจขุนเขา แม้เราจะตายในวันนี้ มันก็เป็นการตอบแทบบุญคุณของท่าน”
จูไจ้กับเกาหยางกล่าวด้วยอารมณ์ความรู้สึก
คนหน้าซื่อใจคดพบเห็นได้บ่อยครั้งในฝ่ายธรรมะ ขณะที่ฝ่ายปีศาจไม่เคยปราศจากวีรบุรุษที่แท้จริง
ห้าก้าว!
“ช่วยข้าด้วย!” จูไจ้กรีดร้องก่อนจะถูกสังหาร
ไท่เป่ยหยุนเฉิงยกมือขึ้นแต่แสงสีขาวกลับไม่ส่องสว่าง
เขาตะโกนด้วยความไม่เต็มใจ “พลังวิญญาณของข้าหมดแล้ว!”
ข่าวร้ายนี้ทำให้ใบหน้าของเกาหยางกลายเป็นซีดเผือด
“ตราบเท่าที่สามารถเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ข้าจะสามารถกู้คืนพลังวิญญาณ” ไท่เป่ยหยุนเฉิงเร่งกล่าวต่อ
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเกาหยางพุ่งสูงขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้
แม้จูไจ้จะตายไปแล้ว แต่สัตว์อสูรโลหิตจะดูดเลือดจากซากศพเท่านั้น ตราบเท่าที่ยังเหลือซากศพของจูไจ้ เขาก็ยังสามารถฟื้นคืนชีพได้ในภายหลัง
“โฮก...”
สัตว์อสูรโลหิตในร่างอสรพิษยักษ์พุ่งเข้ามาจากด้านหลังและกลืนเกาหยางลงท้องไปในครั้งเดียว
สองก้าว!
ประตูห้องโถงใหญ่อยู่ใกล้มาก ด้วยร่างที่เต็มไปด้วยคราบเลือด ไท่เป่ยหยุนเฉิงวิ่งผ่านช่องว่างเล็กๆไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ถึงแล้ว!
“มนุษย์จะมีชีวิตด้วยการเสียสละชีวิตเท่านั้น จูไจ้ เกาหยาง ข้าจะจดจำพวกเจ้าตลอดไป” ไท่เป่ยหยุนเฉิงใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดผลักบานประตู
เขาล้มลงบนพื้นในห้องโถงใหญ่ ขณะที่สัตว์อสูรโลหิตไม่กล้าก้าวเท้าเข้ามาในห้องโถงแห่งนี้
ไท่เป่ยหยุนเฉิงหอบหายใจอย่างหนักหน่วงก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ที่นี่มีห้องโถงหลักสามห้องและห้องโถงย่อยอีกหกสิบเก้าห้อง หากสามารถทะลวงผ่านได้ทั้งหมด พวกเขาจะได้รับการประเมินระดับสูง หากสามารถผ่านสองห้องโถงใหญ่และสี่สิบหกห้องโถงย่อย พวกเขาจะได้รับการประเมินระดับกลาง ข้าผ่านหนึ่งห้องโถงใหญ่และยี่สิบสามห้องโถงย่อย ดังนั้นข้าจะได้รับการประเมินระดับต่ำ แต่ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็จะได้รับวิญญาณอายุยืน!”
“วิญญาณอายุยืนสิบห้าปีจะทำให้อายุขัยของข้าเพิ่มขึ้นอีกสิบห้าปี!” ไท่เป่ยหยุนเฉิงอุทานออกมาด้วยอารมณ์ความรู้สึกก่อนจะหมดสติลง