บทที่ 108 เยาะเย้ยเย็นชา ถากถางแผดเผา
บทที่ 108
เยาะเย้ยเย็นชา ถากถางแผดเผา
พร้อมๆ กับที่สัตว์ปีศาจระดับ 3 หลายตัวที่บุกเข้ามา สถานการณ์ทั้งหมดในสนามรบก็มีการเปลี่ยนแปลงทันที ขณะที่จำนวนผู้ตายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ ยันต์ช่วยเหลือไม่ใช่สิ่งที่น่าเชื่อถืออีกต่อไป
ผู้อาวุโสชั้นนอก และผู้ดูแลชั้นในซึ่งอยู่ในขอบเขตปฐพีก้าวเข้ามาอยู่แนวหน้าเพื่อรับมือกับสัตว์ปีศาจระดับ 3 มีผู้อาวุโสชั้นนอกเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เหลืออยู่เพื่อช่วยเหล่าศิษย์
และด้วยผู้คนมากมายที่ฉีกยันต์ ผู้อาวุโสชั้นนอกจึงไม่มีเวลาเพียงพอที่จะช่วยเหลือพวกเขาทั้งหมด
“นั้นคืออะไร?” จ้าวหมิ๋งเยวี่ยชี้ไปยังฝูงสัตว์ปีศาจที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล พื้นผิวของพวกมันมีทั้งสีเขียวและสีน้ำเงิน
“ปีศาจ” ใบหน้าของเฉินฟางหัวซีดลง
ไม่ว่าจะเป็นปีศาจระดับ 1 หรือระดับ 2 พวกมันทั้งหมดล้วนแล้วแต่น่ากลัว
สัตว์ปีศาจก็คือสัตว์ร้าย สติปัญญาของพวกมันไม่สูงมากนัก แต่ปีศาจมีสติปัญญาที่สามารถเทียบเท่ามนุษย์ได้
นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ความแข็งแกร่งของปีศาจมีอย่างน้อยสิบเท่าจากสัตว์ปีศาจ
ปีศาจระดับ 1 สามารถเอาชนะสัตว์ปีศาจระดับ 1 ได้ทุกชนิด ความสามารถของมันนั้นเหนือกว่าสัตว์ปีศาจระดับ 2 ขั้นต่ำ
ขณะเดียวกันความน่ากลัวของปีศาจระดับ 2 นั้น… พวกมันสามารถเอาชนะสัตว์ปีศาจระดับ 3 ขั้นต่ำได้อย่างง่ายดาย
ด้วยสติปัญญาและพลังที่มารวมกัน ปีศาจจึงกลายเป็นข้อห้ามที่จอมยุทธ์ทุกคนไม่อยากพูดคุย
“งั้นนี้ก็คือปีศาจ? มันสามารถกินเนื้อเพื่อรักษาแผลของตัวเองได้จริงๆ”
หลี่ฟู่เฉินเห็นปีศาจระดับ 1 ได้รับบาดเจ็บ แต่หลังจากนั้นมันก็หยิบศพของจอมยุทธ์ที่อยู่ตรงนั้นขึ้นมากิน ในช่วงเวลาสั้นๆ อาการบาดเจ็บทุกอย่างของมันก็หายเป็นปกติ
“มันสามารถใช้อาวุธได้เหมือนกัน” จ้างหมิ๋งเยวี่ยรู้สึกตกตะลึง
อาวุธที่เหล่าปีศาจใช้ทั้งหมดล้วนเป็นอาวุธหนัก ถ้าไม่ใช่ขวาน ก็เป็นกระบอง แม้ว่าอาวุธเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาไม่ดีและไม่ได้สวยงามเหมือนอาวุธของจอมยุทธ์ พวกมันก็มีข้อได้เปรียบในด้านความแข็งแกร่ง
“ปีศาจมาแล้ว ระวังตัวด้วย”
สู้กับปีศาจ เฉินฟางหัวไม่กล้าชะล่าใจ แม้ว่ามันจะเป็นปีศาจระดับ 1 ก็ตาม
จึก จึก จึก จึก จึก จึก
กลุ่มปีศาจเปล่งเสียงหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ ขณะที่พวกมันรีบพุ่งไปยังกลุ่มของหลี่ฟู่เฉิน
“สะพรั้งอนันย์!”
เฉินฟางหัวสูดหายใจลึกๆ และใช้วิชาดาบสะพรั้งอนันย์ ไฟดาบสีแดงอ่อนนับไม่ถ้วนห่อหุ้มปีศาจไว้
ปึส ปึส ปึส…
ครึ่งหนึ่งของปีศาจระดับ 1 ตกตายด้วยกระบวนดาบนี้ของเฉินฟางหัว ส่วนที่เหลือของปีศาจใช้โล่เพื่อป้องกันการโจมตี
“โชคดีที่การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีปีศาจมากนัก ถ้ามันมีมาก ผลลัพธ์จะแย่ยิ่งกว่านี้มาก!” ปากของหลี่ฟู่เฉินสั่น
ต่อสู้ระยะปะชิด
ปีศาจจำนวนมากยังคงอยู่ในกองทัพสัตว์ปีศาจ ล้อมรอบกลุ่มของหลี่ฟู่เฉิน
เช้ง!
มึนเมากับการต่อสู้ ปีศาจตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากร่างของสัตว์ปีศาจ และเข้ามาผ่าหลี่ฟูเฉินโดยใช้ขวาน
ขวานขนาดของมันเท่ากับล้อของเกวียนรถและคาดว่าน่าจะมีน้ำหนักอย่างน้อย 1000 กิโลกรัม แรงจากการผ่าขวานเป็นแรงขนาดมหาศาล แต่หลี่ฟู่เฉินไม่ได้พยายามเบี่ยงเบนขวานนั้นออก เขาส่งปีศาจที่บินกลับเข้าไปในฝูงสัตว์ปีศาจทันที
หลี่ฟูเฉินเงียบไปครู่หนึ่ง ในการต่อสู้ตัวต่อตัว เขาสามารถฆ่าปีศาจระดับ 1 ได้ทันที และปีศาจจะไม่สามารถทำอะไรอย่างการหยุดเขาได้
แต่ในการต่อสู้ระยะประชิด ปีศาจมีไหวพริบอย่างมาก พวกมันจะไม่เข้าสู้แบบตัวต่อตัว แต่ใช้การรบแบบกองโจรแทน
เห็นได้ชัดว่าเฉินฟางหัวและจ้าวหมิ๋งเยวี่ยก็สังเกตเห็นพฤติกรรมนี้ของปีศาจด้วยเช่นกัน
“วิชาดาบสะพรั้งอนันย์!”
เฉินฟางหัวใช้วิชาดาบสะพรั้งอนันย์ซ้ำๆ เพื่อฆ่ากลุ่มสัตว์ปีศาจและกลุ่มปีศาจ ปีศาจระดับ 1 หลายตนยกโล่ขึ้นมาไม่ทันเวลาฉะนั้นจึงถูกผ่าออกโดยเฉินฟางหัว
ด้วยเหตุนี้ การใช้ออกพลังฉีของเธอจึงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเช่นกัน
ด้วยการฝึกฝนของเฉินฟางหัว เธอไม่จำเป็นต้องกินยาสีเหลืองขั้นสูงเพื่อเติมพลังฉี
จ้าวหมิ๋งเยวี่ยเงก็เริ่มเหนื่อยอ่อนแล้วเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เฉินฟางหัวและหลี่ฟู่เฉินช่วยเธอไว้ เธอคงจะตกตายไปแล้วสองสามครั้ง
“หยดทะลวงศิลา”
เมื่อแสงดาบพุ่งออกไป หลี่ฟู่เฉินเจาะทะลุคอของปีศาจระดับ 1 ในเวลาเดียวกัน หลี่ฟูเฉินก็เหวี่ยงมือซ้ายของเขาออกไปและใช้ฝ่ามือเพลิงที่ลุกโชติช่วง ฆ่าสัตว์ปีศาจระดับ 2 ชั้นกลางไปอีกตัว
กลุ่มสามคนของหลี่ฟู่เฉินยังคงอยู่รอดต่อไปได้ แต่สถานการณ์ของกลุ่มเหลาไห่หลงที่มีกันอยู่เก้าคนกลายเป็นย่ำแย่ที่สุด
ชวู… บูม!
ศิษย์ชั้นในสองคนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และฉีกยันต์ขอความช่วยเหลือ
อย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสชั้นนอกมาหาพวกเขาและหิ้วพวกเขาทั้งสองออกไป
ชวู… บูม!
สองคนที่อยู่ในกลุ่มฉีกยันต์ช่วยเหลือเช่นเดียวกัน
ตอนนี้ กลุ่มเก้าคนของเหลาไห่หลงเหลืออยู่ห้าคน
“บ้าเอ้ย ปีศาจพวกนี้มันฉลาดเกินไป” การแสดงออกของเหลาไห่หลงมืดมนลง เขาเป็นอัจฉริยะที่อยู่ระดับหกของขอบเขตต้นกำเนิด อันที่จริงแล้วที่เรื่องมันกลายเป็นยุ่งยากก็เพราะพวกปีศาจระดับ 1
หากเป็นกลุ่มสัตว์ปีศาจระดับ 2 ชั้นต่ำ ตอนนี้เขาก็คงจะไม่หมดหวังแบบนี้
“เหลาชิเซียง หวูชิเหม่ย หลี่ฟู่เฉินอยู่ตรงนั้นกับเฉินฟางหัวชิเจี๋ยและจ้าวหมิงเยวี่ยชิเหม่ย ทำไมเราไม่ไปรวมกลุ่มกับเขา” เกาช่างเทียนแนะนำ
“ใช่ เหลาชิเซียง ท่านคิดว่าอย่างไร?” หวูชิงเหม่ยมองไปยังเหลาไห่หลง
“พวกเขามีจำนวนน้อย แต่ไม่นับเป็นไร หากเราที่จะให้ความช่วยเหลือพวกเขาสักหน่อย” เหลาไห่หลงไม่ยอมรับว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่น
ทั้งสองกลุ่มอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก หลังจากใช้เวลาสักพัก ในที่สุดพวกเขาก็รวมกัน
“ข้าสงสัยว่าทำไมเจ้าถึงกล้าที่จะมาที่ชวูเซี่ย ปรากฎว่าเฉินชิเจี๋ยปกป้องเจ้าอยู่” เหลาไห่หลงวิจารณ์หลี่ฟู่เฉิน
หลี่ฟู่เฉินหัวเราะ “เฉินชิเจี๋ยปกป้องข้าแล้วอย่างไร? ไม่เหมือนกับเจ้าหรอกที่ไม่สามารถปกป้องเพื่อนร่วมกลุ่มของเจ้าได้”
“เจ้า…” การจ้องมองของเหลาไห่หลงกลายเป็นปั่นป่วน
“พอแล้ว ตอนนี้การต้านทานคลื่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เจ้าคงไม่ต้องการฉีกยันต์ช่วยเหลือตอนนี้ ใช่ไหม?!”
เฉินฟาวหัวจ้องมองไปที่เหลาไห่หลง
ยันต์ช่วยเหลืออาจช่วยชีวิตได้ก็จริง แต่หลังจากได้รับการช่วยเหลือ ผลงานทั้งหมดในสนามรบจะไม่เกี่ยวข้องคนผู้นั้นอีกต่อไป เฉพาะผู้ที่รอดชีวิตเท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการรับรางวัล
มีสัตว์ปีศาจมากกว่า 100,000 ตัวในสนามรบ มันจะมีแกนปีศาจระดับ 1 จากซากศพสัตว์ปีศาจ 10 ตัว สิ่งนี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างโชคลาภเล็กๆ ให้กับตัวเอง
แต่แน่นอน ว่าต้องหลังจากชนะการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว
“ฮึ่ม!” ส่งสายตาเย็นชาไปที่หลี่ฟู่เฉิน เหลาไห่หลงก็ไม่ได้พูดสนทนาอีกต่อไป
เมื่อพวกเขาแปดคนทำงานร่วมกัน พลังการสู้รบของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นทันที แม้ว่าปีศาจและสัตว์ปีศาจจำนวนมากจะมาล้อมรอบพวกเขาไว้ พวกเขาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
เมื่อการต่อสู้ทวีความรุนแรงมากขึ้น พวกเขาทั้งแปดคนก็เริ่มแสดงความสามารถที่แท้จริงของตนเองออกมา
โดยเฉพาะหลี่ฟู่เฉิน ด้วยการโคจรเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับระดับที่สิบสามของเขา ส่งผลทำให้หวูชิงเหม่ยและเกาช่างเทียนตกใจ เมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงความร้อนมหาศาล
‘ดูเหมือนว่าพัฒการของหลี่ฟู่เฉินจะเร็วมากขึ้นหลังจากที่เขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตต้นกำเนิด’ หวูชิงเหม่ยคิดขณะที่เธอมองไปยังด้านข้าง
แม้ว่าหวูชิงเหม่ยจะชอบสร้างความสัมพันธ์กับอัจฉริยะที่แข็งแกร่ง แต่เธอไม่ได้เป็นคนที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่ว่าจะเป็นชางกวนหง หยูเหวินเทียน หรือเหลาไห่หลง เธอแค่มีความสัมพันธ์ที่ดูคลุมเครือกับพวกเขาเท่านั้น ไม่มีใครที่เธอรู้สึกจริงจังด้วย
หลังจากทั้งหมดแล้ว เธอก็มีโครงกระดูกระดับ 4 ดาวและเธอไม่ได้สิ้นหวังขนาดนั้น
ทีละนิดๆ เธอก็ได้รู้ว่าหลี่ฟูเฉินไม่มีแค่โครงกระดูกธรรมดาๆแน่ และเขาเริ่มคุ้มค่ากับความสนใจของเธอ
“หลี่ฟู่เฉิน มาเปลี่ยนตำแหน่งกัน ตรงนี้มีปีศาจระดับ 1 ที่ฉลาดแกมโกงมาก” หวูชิงเหม่ยเอ่ยขึ้น
“ได้”
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้สงสัยใดๆ และเปลี่ยนตำแหน่ง
ปึส!
ด้วยวิชาดาบหยด หลี่ฟู่เฉินสังหารปีศาจระดับ 1 ได้ด้วยกระบวนท่าเดียว
“หลี่ฟู่เฉิน แน่นอนแล้วว่าเจ้าซ่อนความลับไว้มากมาย จากสิ่งที่ข้าเห็น หยูเหวินเทียนเองก็ไม่ได้ดีเท่าเจ้า” ใบหน้าที่ไร้เดียงสาของหวูชิงเหม่ยเผยรอยยิ้ม
ที่ด้านข้าง เกาช่างเทียนดูเศร้าหมอง ไม่ว่าจะเป็นหยูเหวินเทียนหรือหลี่ฟู่เฉิน เขาก็รู้สึกแย่มากอยู่ดี
“นักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่สี่จะแข็งแกร่งได้ขนาดไหนกันเชียว?”
เหลาไห่หลงรู้สึกอิจฉา หลังจากสังเกตเห็นหวูชิงเหม่ยและหลี่ฟู่เฉินที่ดูสนิทสนมกันขึ้นเล็กน้อย เขาโคจรเทคนิคลึกลับหยกเงา และจงใจชนหลี่ฟู่เฉินเพื่อผลักเขาเข้าสู่กองทัพสัตว์ปีศาจ
ตอบสนองตามธรรมชาติ หลี่ฟู่เฉินค้นพบสิ่งที่เขาจะทำทันที และหลบเหลาไห่หลง นั้นจึงทำให้เขาออกไปแทน “ตั้งแต่ที่เหลาชิเซียงนั้นน่ายำเกรงมาก บางทีเจ้าอาจสามารถต่อสู้คนเดียวได้”
“หลี่ฟู่เฉิน ถามหาความตาย!”
หลังจากถูกซุ่มโจมตีจากปีศาจ เหลาไห่หลงก็โกรธและอยากจะเฉือนหลี่ฟู่เฉิน
“เหลาไห่หลง หากเจ้าทำเรื่องไร้สาระอีกครั้งข้าจะเอาเจ้าออกจากกลุ่ม!” เฉินฟางหัวกล่าวอย่างเย็นชา
“ดี ดีมากหลี่ฟู่เฉิน ใช้ประโยชน์จากความโปรดปรานของเฉินชิเจี๋ยในการการไม่แสดงความเคารพต่อข้า รอจนกระทั่งคลื่นสัตว์ปีศาจสิ้นสุดลง ฉันจะชำระหนี้นี้กับเจ้า” เหลาไห่หลงยับยั้งชั่งใจและสังหารปีศาจระดับ 1 ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว