เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0072
ตอนที่ 72 : มังกรซ่อนเร้นอันดับหนึ่ง!
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเร่งรีบพุ่งเข้าใส่คลื่นความร้อน ฉับพลันนางรู้สึกได้ถึงคลื่นกำลังภายในที่พุ่งเข้าหานาง ถึงกับทำนางประหลาดใจ กำลังภายในนี้ถึงกับเป็นของผู้อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า!
ตู้ม!
หมัดที่ฉินหยุนต่อยออกคือหมัดอุกกาบาตทลายที่มาพร้อมกำลังภายในของเขา ราวกับอุกกาบาตสองลูกพุ่งเข้าใส่ร่างของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย มันบังคับให้นางต้องถอยกลับถึงหลายก้าว!
“ได้ผลไหม?” แขนของฉินหยุนรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงขณะทรุดกายกับพื้น ขณะสำรวจโดยรอบ เปลวเพลิงตอนนี้ยังคงลุกโชนล้อมกายเขาเอาไว้อยู่
ท่ามกลางเปลวเพลิงไม่มีผู้ใดเห็นฉินหยุน พวกผู้ชมทำได้เพียงแค่รอให้เปลวเพลิงกระจายตัวออกจึงค่อยสามารถมองเห็น!
เปลวเพลิงสีทองม่วงของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยปลดปล่อยพลังรุนแรงยิ่ง เป็นผลให้ฉินหยุนรู้สึกราวกับโดนเผาไหม้!
ฉินหยุนฝึกฝนพลังธาตุไฟมาไม่ใช่น้อย ด้วยวิญญาณยุทธ์ไฟระดับทองม่วงของตน เขาสามารถใช้พลังธาตุไฟเพื่อยืนหยัดต่อเปลวเพลิง หาไม่แล้ว เขาคงถูกเผาจนร่างดำเป็นตอตะโกไปแล้ว
เขาเองก็ไม่อาจมองเห็นว่าภายนอกเกิดอะไรขึ้น และก็ไม่มีผู้ใดเห็นเขาเช่นเดียวกัน ทั้งหมดที่เห็นก็เพียงแต่เปลวเพลิงลุกโชนล้อมเอาไว้
แขนของฉินหยุนเจ็บปวดยิ่ง เขาแทบไม่อยากขยับ เขาเพียงแต่อยากนั่งตรงนี้เงียบงันเพื่อรอคอยผลลัพธ์ในท้ายที่สุด
พร้อมเสียงวูบ เปลวเพลิงเริ่มสั่นไหวรุนแรงอีกครั้ง!
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยโจมตีเข้ามาอีกครั้งแล้ว เป็นผลให้ใจของฉินหยุนต้องเต้นระรัว!
แม้การโจมตีเมื่อครู่แข็งแกร่งยิ่ง แต่มันไม่อาจทำอะไรนาง!
ท่ามกลางเปลวเพลิง ฉินหยุนมองเด็กสาวในชุดขาวที่พุ่งกายเข้ามา เมื่อเขาเห็นใบหน้าของนาง เขาก็อดไม่ได้ที่จะแตกตื่นมึนงง
เด็กสาวหน้ากากแตกสลายไปแล้ว เมื่อนางพุ่งกายเข้ามา นางจึงได้เห็นใบหน้าของฉินหยุนเช่นกัน สีหน้าเปี่ยมด้วยโทสะปรากฏที่ใบหน้าขาวราวหยกแก้วนั้นขณะมาพร้อมความประหลาดใจ!
หมัดอุกกาบาตทลายของเขาไม่อาจทำอันตรายนาง แต่มันทำลายหน้ากากนางได้!
ใบหน้านี้คุ้นเคยทั้งยังงดงาม
เชี่ยวเย่ว์หลาน!
ผู้หญิงตรงหน้าเขาถึงกับเป็นเชี่ยวเย่ว์หลาน!
อย่างไรแล้ว ที่ฉินหยุนมั่นใจคือเชี่ยวเย่ว์หลานไม่ได้เตี้ยและยังสูงกว่าเล็กน้อย นอกเหนือจากนั้นแล้วทั้งหมดทั้งมวลคือเชี่ยวเย่ว์หลาน!
ไม่นานมานี้ เชี่ยวเย่ว์หลานลอบเข้ามาที่สถาบันยุทธ์ฮัวหลิงเพื่อพบเขาครั้งหนึ่ง เพราะแบบนั้นเขาจึงจดจำนางได้เป็นอย่างดี
“เป็นเจ้า!”
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานต่างร้องออกพร้อมกัน!
“เจ้าไม่ใช่เชี่ยวเย่ว์เหม่ย!” ฉินหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกขณะอุทานด้วยอารามประหลาดใจไม่น้อย “เจ้าคือเชี่ยวเย่ว์หลาน!”
เขาไม่อาจเข้าใจว่าเพราะอะไรเชี่ยวเย่ว์หลานถึงปรากฏตัวที่นี่
ทว่า นี่ก็สามารถอธิบายได้ว่าเพราะอะไร แม้เขาจะลงทุนสุดแรง เขาก็ไม่อาจทำร้ายอีกฝ่ายได้แม้เพียงนิด!
เป็นเพราะเชี่ยวเย่ว์หลานคือผู้ที่กำลังประลองกับเขา นางเป็นถึงผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด!
“น้องสาวข้าไม่อยากต่อสู้ ดังนั้นข้าจึงมาพบนาง และข้าจึงช่วยนางต่อสู้!” เชี่ยวเย่ว์หลานตอบกลับเย็นเยือก “ข้าใช้วิชากระดูกร่ำร้อง เพื่อลดขนาดร่างกายลงให้คล้ายกับน้องสาวข้า”
มุมปากของฉินหยุนพลันกระตุก ไม่มีผู้ใดทราบว่าเชี่ยวเย่ว์หลานผู้ซึ่งอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด จะเข้าร่วมการประลองแทนน้องสาวของนาง ทั้งยังสวมหน้ากากปิดบังตัวตนไว้
ทั้งสองเป็นพี่น้องโดยสายเลือด ดังนั้นจึงสามารถผ่านการทดสอบหยดโลหิตเพื่อเข้าร่วมประลองยุทธ์ได้
“ก็ได้ เจ้าอยากชนะก็เอาไป!” ฉินหยุนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
ตอนนี้เขาได้ทราบแล้วว่าคู่ต่อสู้คือเชี่ยวเย่ว์หลานซึ่งอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด เขาทำได้เพียงแต่ทอดถอนต่อโชคชะตาตนเองแล้ว
เชี่ยวเย่ว์หลานนำหน้ากากอีกหนึ่งออกมาสวมปิดบังใบหน้าและกล่าว “เจ้าก็จงดูแลตัวเองให้ดี!”
ฉินหยุนพบว่าคำพูดนี้ทั้งลึกลับและดึงดูด ขณะที่เขาคิดกล่าวอะไรสักอย่าง เขาพลันตระหนักได้ว่าเปลวเพลิงมลายหายจากรอบกาย ชั่วขณะนี้ ทุกคนถึงกับได้เห็นตัวตนแท้จริงของเขา!
หลายคนเคยเห็นเขามาก่อน หลังใบหน้าถูกเปิดเผย พวกเขาล้วนแตกตื่น!
“นั่น... ไม่ใช่ฉินหยุนหรือ?”
“เป็นฉินหยุน!”
“นักล่ามังกรนั่น! เป็นฉินหยุน!”
แดนยุทธ์มังกรซ่อนเร้นพลันร้อนแรงดั่งไฟลุกขณะเสียงอื้ออึงดังซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความประหลาดใจ ชัดเจนว่านี่เป็นเหตุการณ์เกินผู้ใดคาดคิด!
ทุกผู้คนล้วนตื่นตะลึง!
ฉินเจิ้งเฟิงและฉินเฟิงต่างมองกันเองอย่างไม่เชื่อสายตา!
โดยเฉพาะฉินเฟิง ขณะที่ตื่นตกใจ เขาก็เกิดความรู้สึกรุนแรงภายในเพราะต้องพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของฉินหยุน!
ฉินเจิ้งเฟิงกำหมัดแน่น เขาทราบเรื่องฉินหยุน แต่เขาไม่เคยเห็นพละกำลังของฉินหยุนด้วยตาตัวเองมาก่อน
ตอนนี้เขาได้เห็นมันด้วยตาตัวเองแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าองค์ชายตกยากผู้ซึ่งถูกพรากเส้นวิญญาณไปถึงสี่เมื่อไม่กี่ปีก่อน ถึงกลับกลายเป็น “นักล่ามังกร” หรือชายหน้ากากที่ส่งผลสะท้านสะเทือนทั่วนครหลวง!
“ไอ้เวรนี่อีกแล้ว!” เว่ยเสวียนคุนสบถออกเสียงเบากับตนเอง
“องค์หญิงเย่ว์เหม่ย รีบสังหารมันเร็วเข้า!” ใบหน้าของเยี่ยนหยุนเปี่ยมด้วยโทสะขณะตะโกน “อย่าให้มันมีโอกาสได้ประกาศยอมแพ้!”
“สังหารมัน!” ฉินเทียนอี้ตะโกนลั่นจากข้างลานประลอง “เป็นมันที่ทำร้ายเชี่ยวหลางบาดเจ็บร้ายแรง ขอท่านรีบล้างแค้นต่อพี่ชายท่าน!”
“เย่ว์เหม่ย รีบจัดการมันเร็วเข้า มันคือผู้ฝึกวิชาของปีศาจ มันคือตัวนำเภทภัย!” ฉินเฟิงตะโกน “ทั้งมันยังเป็นอดีตคู่หมั้นพี่สาวเจ้า หากเจ้าไม่สังหารมัน มันจะกลายเป็นตราบาปต่อชีวิตของพี่สาวเจ้า!”
ศิษย์หลายคนจากสำนักดังริษยาฉินหยุนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เพื่อเอาอกเอาใจเทียนเชี่ยวและเทียนฉิน พวกเขาจึงร้องตะโกนดังก้องให้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยรีบลงมือสังหารฉินหยุน!
ฉินหยุนนั่งกับพื้นเพราะอาการบาดเจ็บ ผิวหนังที่แขนของเขาปริแตกขณะต้องห้อยดิ่งกับพื้น อาการบาดเจ็บนี้รุนแรงไม่น้อย
ทั้งนี้เขายังไม่เหลือพละกำลังใดอีก เขาไม่อาจกระทั่งพูด ทำได้เพียงรอเชี่ยวเย่ว์หลานโจมตีเข้ามา
บรรดาผู้อาวุโสล้วนแตกตื่น หากพวกเขาไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง พวกเขาคงไม่เชื่อแน่ว่าฉินหยุนจะครอบครองพละกำลังได้มหาศาลถึงเพียงนี้!
โดยเฉพาะกับรอบที่ประลองกับเชี่ยวหลางก่อนหน้านี้ ยันต์หนังสัตว์ทั้งหมดนั้นที่เขาขว้างปาออกต้องเป็นเขาสร้างขึ้น เช่นเดียวกับค้อนหลอมที่ไม่ธรรมดานั่น ทั้งหมดทั้งมวลมันเพียงพอให้จัดการเชี่ยวหลางได้!
ด้วยพรสวรรค์ระดับนี้ มันสามารถเทียบเปรียบได้กับศิษย์หลายคนที่มีความพิเศษซึ่งถูกคัดเลือกโดยสถาบันยุทธ์ระดับเสวียน!
เชี่ยวเย่ว์หลานตอนนี้ยืนอย่างอหังการจ้องมองฉินหยุน ผู้ซึ่งกำลังนั่งนิ่งอยู่กับพื้น สายตาของนางภายใต้หน้ากากนั้น...
ทุกผู้คนต่างคิดว่าเรื่องนี้แปลกประหลาด เพราะเหตุใดนางถึงเว้นช่วงไม่โจมตีนานเพียงนี้?
เพียงกระบวนท่าเรียบง่าย นางย่อมสามารถสังหารฉินหยุนและสร้างชื่อแก่ตนเองได้!
แน่นอนว่ามีเพียงแต่ฉินหยุนที่ทราบว่านางคือเชี่ยวเย่ว์หลาน!
ฉับพลันนี้เอง นางเคลื่อนไหว!
ทุกคนต่างอารมณ์เดือดพล่านด้วยความตื่นเต้นขณะต้องการเห็นคอของฉินหยุนถูกปลิดปลง เพียงนางยกมือฟาดฟันออกก็สามารถจบชีวิตฉินหยุนได้แล้ว!
“หากเจ้าไม่อยากตาย อย่าได้บอกผู้ใดว่าข้ามาแทนเย่ว์เหม่ย!” น้ำเสียงของเชี่ยวเย่ว์หลานคมกริบขณะข่มขู่ มันไหลเข้าโสดประสาทรับฟังของฉินหยุนก่อนเขาจดจำเอาไว้ นางพลันหันกายกลับและเดินลงจากลานประลองยุทธ์จากไป
เชี่ยวเย่ว์หลานเดินออกจากลานประลองยุทธ์!
เรื่องนี้ทำเอาผู้คนแตกตื่นตัวแข็งค้าง พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตา!
การลงจากลานประลองหมายความถึงยอมรับความพ่ายแพ้!
นางถึงกับปล่อยชัยชนะตรงหน้าให้หลุดลอย!
เรื่องนี้เกิดขึ้นได้เช่นไร? ผู้คนล้วนสับสนกันทั้งสิ้น!
กระทั่งฉินหยุนยังแทบไม่เชื่อสายตาว่านี่คือความจริง
เขามักคิดเสมอมาว่าเชี่ยวเย่ว์หลานเกลียดชังเขาเส้นเลือด
เป็นเพราะครั้งหนึ่งเขาคือคู่หมั้นของเชี่ยวเย่ว์หลาน ทั้งแม่นางผู้นี้ยังเป็นคนที่รักหน้าตายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของเขายังเลวร้ายจนกลายเป็นสิ่งแปดเปื้อนต่อประวัติของนางที่เป็นธิดาแห่งสวรรค์!
ทว่าชั่วขณะนี้ เชี่ยวเย่ว์หลานถึงกับยอมมอบตำแหน่งอันดับหนึ่งแก่เขา!
ฉินเฟิงและเย่เสินเหล่ยกัดฟันแน่นขณะมองฉินหยุน พวกเขาล้วนริษยาจนดวงตาแดงฉานแทบทะลุออกมาได้!
มันเป็นเพราะพวกเขาได้ยินหลายคนสนทนากันด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเรื่องเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเกิดความนับถือต่อฉินหยุน เพราะแบบนั้นนางจึงยอมปล่อยวางอันดับหนึ่งให้อีกฝ่าย
“นักล่ามังกรชนะ! เลื่อนขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของเทียบอันดับมังกรซ่อนเร้น!” กรรมการประกาศดังก้องหลังผ่านความตื่นตะลึงมาได้
บุคคลผู้ซึ่งอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า ถึงกับสามารถต่อสู้และคว้าอันดับหนึ่งของเทียบอันดับมังกรซ่อนเร้นมาได้!
ตอนนี้อันดับสองคือผู้ทรงพลังอย่างเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ไม่มีใครหาญกล้าท้านางประลองอย่างแน่นอน
ตราบเท่าที่นางปล่อยเรื่องไว้เช่นนี้ คงเป็นเรื่องยากที่จะมีผู้อื่นสามารถสั่นคลอนอันดับหนึ่ง
หยางฉีเย่ว์เองก็ประหลาดใจไม่น้อยขณะเดินขึ้นมาบนลานประลองและพาฉินหยุนจากไป!
บรรดาข้าราชบริพารเฒ่าของจักรวรรดิเทียนฉินทำได้เพียงแต่รับชมอย่างไม่อาจทำอะไรต่อฉินหยุนที่ออกจากลานประลองได้
ย้อนกลับไปครั้งนั้น เขาคือองค์ชายรัชทายาทที่พวกเขาร่วมกันทำให้อีกฝ่ายพิการด้วยมือของตนเอง แต่แล้วตอนนี้พรสวรรค์เขากลับเลิศล้ำดั่งฉินเจิ้งเฟิงและฉินเฟิง
นี่หมายความถึง ในอนาคต มีโอกาสอย่างสูงล้ำที่เขาจะได้กลายเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ซึ่งครอบครองพละกำลังอันเหนือล้ำกว่าผู้ใด หรืออาจกระทั่งได้กลายเป็นปรมาจารย์จารึกที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ เรื่องนี้ทำเอาหลายผู้คนตกอยู่ในความกังวล!
“หรือจะเป็นเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเล็งฉินหยุนเอาไว้? แม้พละกำลังฉินหยุนไม่เทียบเท่านาง แต่พรสวรรค์แทบไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งนี้ยังเป็นอาจารย์จารึกที่วัยเยาว์ที่สุด ทั้งยังครอบครองวิญญาณยุทธ์ไฟระดับทองม่วง!”
“ฟังดูไม่เลวหากเชี่ยวเย่ว์หลานแต่งงานกับองค์ชายรัชทายาท และเชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้แต่งงานกับฉินหยุน!”
“เรื่องนี้ชักน่าสนุกแล้ว จักรพรรดินีแห่งเทียนฉินคงนอนไม่หลับแน่!”
ทุกผู้คนล้วนพูดคุยกันถึงเรื่องนี้
ฉินเจิ้งเฟิง ฉินเฟิง และฉินเทียนอี้ องค์ชายทั้งสามของเทียนฉิน พวกเขาล้วนเผยสีหน้าน่าเกลียดทางใบหน้า
โดยเฉพาะกับฉินเฟิง เขาคือผู้ที่หวังครองใจเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ทว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลับไม่เคยมองเขาในสายตาแม้สักครั้ง!