เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0071
ตอนที่ 71 : ความภาคภูมิแห่งสวรรค์
ฉินหยุนประหลาดใจไม่ใช่น้อย เดิมทีเขาคิดเตรียมนำเอาค้อนหลอมออกมาใช้ แต่แล้วเขากลับได้เห็นเชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่ได้ใช้อาวุธ
ผู้อื่นไม่ใช้อาวุธ ดังนั้นเขาจึงไม่ใช้ เขาเร่งรีบเบือนร่างหลบเลี่ยงหมัดที่มีขุมพลังประหลาดนี้!
แม้ฉินหยุนหลบพ้น แขนเขายังรู้สึกถึงขุมพลังประหลาดที่อยู่ในหมัด มันเป็นความรู้สึกเจ็บปวดรุนแรง!
เขาเพียงโดนเล็กน้อยชั่วครู่เท่านั้น แต่เสื้อผ้าที่แขนกลับฉีกขาด กระทั่งชิ้นผิวหนังยังคล้ายโดนบดขยี้ที่แขนซ้าย ตอนนี้มันแดงก่ำด้วยเลือด!
สิ่งที่ชวนกังวลที่สุดคือนับตั้งแต่เริ่มจนจบกระบวนท่า เขาไม่รู้สึกถึงพลังปราณที่ไหลเวียนแต่อย่างใด พลังเช่นนี้ออกจะประหลาดจนเกินไปแล้ว
นอกจากนี้ความเร็วของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยยังเหนือล้ำ เป็นเรื่องยากที่จะบอก ราวกับว่านางใช้เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวได้ราวการเคลื่อนไหวเป็นไปโดยธรรมชาติ!
กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่มีผู้ใดเห็นว่านางใช้วิชายุทธ์ใด กระทั่งผู้อาวุโสยังต้องมึนงง
ทุกคนล้วนรู้สึกได้ ว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยนั้นลึกลับไม่ต่างอะไรกับชายหน้ากาก!
ฉินหยุนหลบหมัดอีกครั้ง เชี่ยวเย่ว์เหม่ยก็ปล่อยหมัดอีกหนึ่งตามซ้ำเข้ามา แต่ขณะที่นางอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร ฝ่ามือของนางพลันยื่นเข้าหาเขา
“นางอยู่ตรงนี้!”
เขาทราบว่านี่เป็นอีกหนึ่งอย่างของพลังประหลาด ครั้งนี้คู่ต่อสู้รวดเร็วจนกระทั่งสามารถโจมตีเขาได้หลายฝ่ามือ นับเป็นพลังฝ่ามือล่องหนที่ราวกับคลื่นซัดโหม!
พลังที่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยปลดปล่อย มันเงียบงันดังก่อนหน้า แต่นี่ก็ยังเต็มไปด้วยการสะกดข่มอย่างรุนแรง!
กระทั่งฉินหยุนใช้พลังจิต เขายังไม่อาจสัมผัสได้ถึงออร่าของการโจมตี เขาไม่ทราบว่ามันมาจากที่ใด เพราะแบบนั้นถึงไม่สามารถหลบได้!
สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือพยายามเหวี่ยงหมัดสะเปะสะปะ และใช้วิชามังกรหลอมอย่างเดาสุ่มเพื่อทำให้กำลังภายในประหลาดที่เข้าหาเขาโดนผลักกระเด็นกลับไป!
ถัดจากนั้น เขาต้องเร่งรีบพุ่งกายออกพร้อมใช้ฝ่ามือพันอาชาแล้วตามด้วยปราณระเบิด ทั้งสองกระบวนท่าถูกปล่อยออกอย่างต่อเนื่อง ลื่นไหล และรวดเร็ว มันมาพร้อมกับพลังอันมหาศาล
ฝูงชนเริ่มปรบมือฮือฮา ทว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลับสลายกระบวนท่าทั้งสองด้วยเพียงแค่การโบกมือ!
พลังลึกลับที่ชวนสะพรึงเข้าปะทะกับฉินหยุน!
ความเจ็บปวดกระจายทั่วร่างของเขา ที่ร่างกายตอนนี้มีบาดแผลหลายสิบแห่งกำลังเลือดไหลซิบ
เขามองเชี่ยวเย่ว์เหม่ย จ้องมองนางด้วยสายตาไร้อารมณ์ภายใต้หน้ากาก ภายในใจตอนนี้ลอบหนักอึ้ง “นี่พลังบ้าอะไร? เราแทบทำอะไรนางไม่ได้!”
กระนั้น ต่อให้เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง เขาก็ยังไม่คิดยอมแพ้แต่เพียงเท่านี้
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเคลื่อนไหวดั่งสายลมปรากฏกายตรงหน้าฉินหยุนในพริบตา!
มือขาวละเอียดราวหยกของนางปะทะเข้าที่หน้าอกฉินหยุน ราวกับนี่เพียงการสัมผัสบางเบาไร้ซึ่งพลัง ทว่ามันสามารถส่งเขากระเด็นไปยังขอบลานประลองได้!
ฉินหยุนร่างกระแทกพื้นขณะกระอักโลหิตคำโตออกจากปาก เขารู้สึกประหลาดใจขณะคิดได้กับตนเองว่า “นี่ไม่ใช่พลังที่มาจากพลังธาตุ แต่เป็นพละกำลังของร่างกาย!”
“นางไม่ได้ใช้กำลังภายใน แต่กลับสามารถแข็งแกร่งเพียงนี้โดยอาศัยแต่กำลังกาย เรื่องนี้เป็นไปได้?”
เขาพลันรู้สึกอ่อนแรงขณะกลิ้งกับพื้นหลบการโจมตี
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยร่อนลงสัมผัสพื้นบางเบา ทว่าแผ่นหินที่เป็นพื้นของลานประลองในระยะยี่สิบเมตรกลับแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กระทั่งเกิดเป็นหลุมยุบตัวขนาดใหญ่!
ฉินหยุนอดกลั้นต่อความเจ็บปวดและยันกายลุกขึ้น ยามเมื่อได้เห็นหลุมบนพื้น เขาทั้งหวาดกลัวและแตกตื่น!
ไม่เพียงแต่เขา ทุกผู้คนล้วนแข็งทื่อกับสิ่งที่ได้เห็น!
หยางฉีเย่ว์ก็พยายามขยิบตาอย่างต่อเนื่องให้ฉินหยุนเพื่อบอกให้เขาลงจากลานประลอง!
สิ่งที่น่านับถือในการประลองยุทธ์ครานี้ คือฉินหยุนไม่ได้ใช้ค้อนหลอม!
เป็นเพราะเชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่ใช้อาวุธ เขาจึงไม่ใช้ นี่คือจิตวิญญาณแห่งผู้ฝึกตน!
“เรื่องนี้ยอมรับไม่ได้ เราเกือบจะถึงอันดับหนึ่งอยู่แล้ว! ตราบเท่าที่โค่นล้มนางได้ เราจะได้รับหญ้าหัวใจลึกล้ำ ถัดจากนั้นคือการฝึกฝนวิถีหัวใจ และเมื่อนั้นเราจะสามารถก้าวขึ้นสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก”
เมื่อฉินหยุนพบเห็นเชี่ยวเย่ว์เหม่ยพุ่งเข้ามา ภายในใจพลันทะลักด้วยความหวั่นเกรง สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือสิ่งที่สะกดข่มเจตนาแห่งการเอาชนะของเขาไว้!
ตู้ม!
หมัดทั้งสองปล่อยออก ด้วยการใช้หมัดแทนค้อนพร้อมใช้กระบวนท่าแรกของวิชามังกรหลอม! เมื่อกระบวนฟ้าคำรามถูกปลดปล่อย มันมาพร้อมกับพลังสั่นไหวรุนแรงและทรงพลัง เป็นผลให้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยโดนผลักดันกลับไปหลายสิบเมตร!
ดวงตานิ่งสงบของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลับเผยร่องรอยความประหลาดใจ นี่เป็นเพราะนางค้นพบพละกำลังอันน่าตื่นตะลึงของฉินหยุน
ฉินหยุนใช้โอกาสนี้รุกคืบเข้าใส่ ก้าวเท้าของเขาดังและรุนแรงดั่งฟ้าคำรามขณะหมัดถูกปล่อยออกอีกครั้ง นี่คือกระบวนท่าที่สองของมังกรหลอม!
พลังของฟ้าคำราม ทั้งทรงพลังและรุนแรง มันมาพร้อมกับการระเบิดปราณ! เขาผลักดันเชี่ยวเย่ว์เหม่ยซึ่งเกือบจะโดนโจมตีถอยกลับไปได้หลายสิบเมตร ตราบเท่าที่เขาสามารถทำให้นางหลุดพ้นจากลานประลองยุทธ์ ตามกฎคือเขาจะได้รับชัยชนะ!
การตั้งรับของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยแข็งแกร่งจนน่าสะพรึง ถึงขนาดที่นางไม่ได้รับบาดเจ็บใดแม้รับหมัดมังกรหลอมเข้าไปถึงสองครา นางไม่คิดว่าพละกำลังของฉินหยุนฉับพลันจะทรงพลังขึ้นมา พร้อมกันนี้อีกหนึ่งการโจมตีก็โถมเข้าหาแล้ว!
“กระบวนแสงไหลหลั่ง!” ฉินหยุนใช้งานกระบวนท่าที่สาม
“พสุธาถล่ม!” นี่คือกระบวนท่าที่สี่ของวิชามังกรหลอม
ชั่วขณะที่หมัดถูกปล่อยออก พื้นลานประลองเริ่มสั่นสะเทือนรุนแรง ราวกับมันกำลังถล่ม
นี่เป็นผลที่เกิดจากฉินหยุนใช้พลังสั่นไหวก่อให้เกิดขึ้น นับเป็นพลังที่น่าสะพรึงรุนแรงยิ่ง
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยโดนผลักถอยกลับไปกว่าสามสิบเมตร!
“อีกร้อยกว่าเมตร!”
ทุกผู้คนล้วนแตกตื่นกับพลังของชายหน้ากาก โดยเฉพาะกับการโจมตีเมื่อครู่นี้!
ฉินหยุนหอบหายใจหนัก เขาได้รับบาดเจ็บจากก่อนหน้า แม้การเคลื่อนไหวของมังกรหลอมหกกระบวนจะทรงพลัง แต่มันก็ต้องใช้พลังภายในอย่างมหาศาล
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาใช้พลังสั่นไหวอย่างเต็มกำลังด้วยเช่นกัน!
เพื่อได้รับชัยชนะ เขาหาได้หวั่นเกรงว่าวิญญาณยุทธ์สั่นไหวจะถูกเปิดโปงหรือไม่ ตัวตนของเขาแท้จริงอย่างไรแล้วก็มีแต่ต้วนเฉียนกับเมิ่งเฟยหลิงที่ทราบ
เพื่อลดภาระ ฉินหยุนเริ่มใช้กระบวนท่าแรกอีกครั้ง กระบวนฟ้าคำราม!
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่สามารถตอบโต้เพราะฉินหยุนโจมตีรวดเร็ว ฉินหยุนโจมตีออกอย่างไม่คิดชีวิต กระทั่งไม่ห่วงตนเองเลยด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะกับคลื่นกระแทกนั่น มันคือสิ่งทำให้นางแตกตื่นมากที่สุด!
หลังผ่านไปหลายครั้ง เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตอนนี้อยู่ห่างจากขอบลานประลองราวสามสิบเมตร นางเกือบจะตกลงไปอยู่แล้ว!
ทุกผู้คนต่างใจเต้นระรัว ปากต้องอ้าเหวอขณะรับชมการประลองหยุดโลกนี้ ทั่วทั้งบริเวณกลับกลายเป็นเงียบกริบ
ผู้คนของเทียนฉินและเทียนเชี่ยวไม่ได้ห่วงว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจะได้รับบาดเจ็บเพราะพละกำลังของนางที่พวกเขาทราบดี นางไม่แม้กระทั่งเส้นผมร่วงหล่นสักเส้น แต่พวกเขาไม่คิดต้องการให้นางต้องหล่นจากลานประลอง!
แน่นอนว่าต่อให้นางร่วงหล่นจากลานประลอง ด้วยพละกำลังของนาง คงเป็นเรื่องไม่ยากที่จะทวงอันดับหนึ่งกลับคืนมาอีกครั้ง!
“ต้องใช้กระบวนภูผาถล่ม นั่นน่าจะทำให้นางร่วงจากลานประลองในคราวเดียวได้!” ฉินหยุนกัดฟันแน่นขณะเตรียมใช้กระบวนภูผาถล่ม ลานประลองเริ่มสั่นสะเทือนอีกครั้ง
ทว่า ครั้งนี้มันไม่ได้ทำให้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยถอย นางกระทั่งไม่ขยับ!
อย่างกะทันหัน กระแสพลังปราณความร้อนเผาไหม้เริ่มทะลักและปกคลุมทั่วทั้งโรงฝึกมังกรซ่อนเร้น!
นี่คือพลังปราณของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ในที่สุดนางก็ใช้พลังปราณ!
พลังภายในนี้นับว่าน่าสะพรึงยิ่ง ทั้งยังมีคุณลักษณะของความร้อน ชัดเจนว่าวิญญาณยุทธ์ของนางต้องมีธาตุไฟ!
“ฮึ่ม!”
นางแค่นเสียงเบาขณะตวัดมือหยกแก้วนั้นออก เปลวเพลิงสีทองม่วงพลันปรากฏพร้อมปกคลุมร่างฉินหยุนราวขุมนรกมอดไหม้
เปลวเพลิงที่นางปลดปล่อยออกคือสีทองม่วง เป็นเขาได้ยืนยันกับตนเองว่าวิญญาณยุทธ์ของนางคือวิญญาณยุทธ์ระดับทองม่วง!
ทุกผู้คนล้วนแตกตื่น!
ในที่สุดวิญญาณยุทธ์ของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยก็ถูกเผยออก! พวกเขาไม่มีใครทราบว่าเป็นวิญญาณยุทธ์ไฟจนกระทั่งถึงตอนนี้!
ไม่ใช่แค่เปลวเพลิง แต่พลังลึกลับก่อนหน้านี้ของนางก็ชวนให้ผู้คนอัศจรรย์ใจ!
ร่างของฉินหยุนถูกปกคลุมด้วยพลังลุกโชน และตอนนี้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกำลังผสานพลังทั้งสองเข้าด้วยกัน!
“เราต้องไม่แพ้!” ฉินหยุนเร่งรีบต่อต้านอย่างสุดกำลัง ตอนร่างถูกปกคลุมด้วยเพลิงพิโรธนั้นเขาแตกตื่นไม่ใช่น้อย!
เขาเร่งร้อนถอดหน้ากากออก ไม่เช่นนั้นหากหน้ากากหลอมละลายมันจะแนบติดกับหน้าของเขา หากเป็นแบบนั้นจะยิ่งเลวร้ายกว่า
ขณะชายหน้ากากถูกปกคลุมด้วยเพลิงพิโรธ ฝูงชนต่างทราบว่าผลลัพธ์ตัดสินแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอยู่ภายใน
นี่เป็นเพราะก่อนหน้านี้ พลังภายในธาตุไฟของชายหน้ากากน่าสะพรึงยิ่ง แต่ตอนนี้กลับโดนพลังภายในธาตุไฟสะกดข่มเข้าเสียเอง!
ฉินหยุนผู้ซึ่งตั้งป้องกันเปลวเพลิง ฉับพลันรู้สึกได้ถึงเปลวเพลิงรอบกายที่ผันผวน เขาตระหนกขณะคิด “นางกำลังโจมตี ต้องรีบออกไป!”
วิชามังกรหลอมกระบวนท่าที่ห้า อุกกาบาตทลาย!
ด้วยระเบิดรุนแรงคำรามร้อง หมัดของเขาตอนนี้มีสภาพคล้ายอุกกาบาตร่วงหล่นจากท้องฟ้าขณะลุกโชนด้วยเปลวเพลิง มันกำลังพุ่งเข้าหาเชี่ยวเย่ว์เหม่ย!
ชั่วขณะนี้เอง อย่างกะทันหัน เขารู้สึกได้ว่าแขนทั้งสองเกิดความเจ็บปวดไร้สิ้นสุด ราวกับพวกมันกำลังโดนฉีกกระชากเพราะขุมพลังที่แข็งแกร่งยิ่ง!
มีเพียงกำลังภายในที่สามารถครอบครองพละกำลังทรงอำนาจระดับนี้!
ฉินหยุน ผู้ซึ่งอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า ถึงกับสามารถก่อกำลังภายในของตัวเองขึ้นได้!