GE187 วิหารสาบสูญ หอคอยโอสถ [ฟรี]
เรือลอยลำเทียบท่า หนิงฝานป้องมือจางลาคนบนเกาะมุกหยกฟ้า
ตอนนี้จิงสั่วสมควรถึงเกาะเผิงไหลแล้ว...
เรือลำที่หนิงฝานโดยสารกลับนั้นแตกต่างจากเรือล่องสวรรค์ แม้จะช้ากว่าแต่ก็ปลอดภัยกว่าเช่นกัน
หนิงฝานยืนบนดาษฟ้าเรือ ผมดำขลับต้องลมไสว
อีกไม่นานเขาจะได้ไปเยือนเกาะเผิงไหล!
สิ่งที่เป็นอุปสรรคกับตนเองมากที่สุด คือการทะลวงแก่นทองคำ
“ข้าต้องทะลวงแก่นทองคำ...”
แววตาหนิงฝานเด่ดเดี่ยว
แก่นทองคำ ดวงจิตแรกเริ่ม ตัดวิญญาณ… เส้นทางที่ต้องก้าวผ่าน
หนึ่งเดือนผันผ่าน
สองเดือนล่วงเลย
เมื่อเข้าเดือนที่ 3 เกาะขนาดใหญ่ก็ปรากฏไกลออกไป!
เมื่อเข้าไปใกล้ หนิงฝานเงยหน้ามอง เกาะแห่งนี้สูงเสียดฟ้า ดูยิ่งใหญ่และมั่งคั่ง
ทะเลไร้สิ้นสุดส่วนนอก มี 10 นิกาย 3 เกาะที่เป็นขุมกำลังที่ทรงพลังที่สุด เกาะเผิงไหลแห่งนี้ เป็นเกาะที่มีขนาดเท่าแคว้นหนึ่ง
แม้เกาะแห่งนี้จะใหญ่โต แต่สิ่งที่ทำให้หนิงฝานตกตะลึงคือ เกาะแห่งนี้ไม่ได้เกิดจากดิน แต่เกิดจากซากของเต่าขนาดยักษ์!
ไม่รู้ว่าเต่าตัวนี้ตายมาแล้วกี่ปี แต่ร่างของมันได้กลายเป็นโครงกระดูก และกลายเป็นแหล่งกำลังปราณจนแคว้นจินไม่อาจเทียบ
หากบ่มเพาะพลังที่นี่ จะก้าวหน้าได้รวดเร็วกว่าทั่วไปหลายเท่า บนเกาะ หนิงฝานเห็นหอคอยสีดำขนาดยักษ์สูงเสียดฟ้า
วิหารสาบสูญ!
ในที่สุดก็มาถึง
เมื่อเรือใกล้ถึงฝั่ง หนิงฝานทะยานออกจากเรือ ขึ้นเยียบเกาะเป็นคนแรก
เกาะแห่งนี้งดงาม นกกระเรียนดำบนโผบิน ไร้ซึ่งข่ายอาคมป้องกัน เพราะเกาะแห่งนี้เป็นแหล่งชุมนุมของผู้เชี่ยวชาญไร้สังกัด
ที่ทางเข้าเกาะ มีคชสารขนาดใหญ่ราวกับภูเขาให้โดยสาร มีสิ่งก่อสร้างบนหลังของมันให้ผู้คนขึ้นไป
แม้ร่างกายของมันจะดูเทอะทะ แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่กลับรวดเร็วเท่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม
แม้เกาะแห่งนี้จะไม่มีข่ายอาคมป้องกัน แต่มีผู้เชี่ยวชาญของวิหารสาบสูญเป็นผู้ดูแล โดยมีกฏห้ามไม่ให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับต่ำกว่าดวงจิตแรกเริ่มบินในเกาะ
ดังนั้นการเดินทางในเกาะจึงจำเป็นต้องโดยสารสัตว์อสูร เพราะหากเดินเท้า ต่อให้หลายสิบปีคงเดินไม่ถึงวิหารสาบสูญ
บนเกาะมีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงหลายคน หากหนิงฝานอำพรางว่าตนคือผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง หากผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นมองออกคงกลายเป็นปัญหาใหญ่
ดังนั้นหนิงฝานถอนวิชาลับสัมผัสลวง กลิ่นอายกลับคืนชอบเขตประสานวิญญาณ จากนั้นจ่าย 500 หยกสวรรค์เพื่อโดยสารคชสาร
บนหลังคชสาร หนิงฝานนั่งอยู่บนม้านั่งตัวหนึ่ง มีผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรคอยดูแลด้วยความเคารพ
“ผู้อาวุโสเพิ่งเคยมาเกาะเผิงไหลเป็นครั้งแรกหรือ? หากท่านมอบหยกสวรรค์พิเศษให้ข้า 1 ก้อน ข้าจะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆของเกาะนี้ให้ท่านฟังอย่างละเอียด”
“แค่หยกสวรรค์ก้อนเดียวเองหรือ...” หนิงฝานยิ้มและนำหยกสวรรค์ออกมาให้นาง แล้วฟังนางบอกเล่าสิ่งต่างๆ
บนเกาะเผิงไหล มีขุมกำลังใหญ่อยู่ 3 แห่ง… อันดับแรกคือ วิหารสาบสูญ เป็นขุมกำลังที่มาจากแดนสวรรค์ ส่วนขุมกำลังอีก 2 แห่งคือขุมกำลังที่อยู่บนเกาะอยู่แล้ว
นั่นคือ ‘วังไผ่ฟ้า’ ขึ้นชื่อเรื่องการทำสุรา
อีกหนึ่งคือนิกายกระถางโอสถ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างกระถางปรุงโอสถ
การมีทั้งสามขุมกำลังนี้อยู่ ทำให้เกาะเผิงไหลคือเกาะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในส่วนนอกของทะเลไร้สิ้นสุด
หากต้องการกระถางปรุงโอสถ ให้ไปหานิกายกระถางโอสถ หากต้องการสุราให้ไปหาวังไผ่ฟ้า แต่หากต้องการยกระดับพลัง ให้ไปหาวิหารสาบสูญ… ยามนี้ ที่วิหารสาบสูญมีนักปรุงโอสถอยู่มากมาย ดังนั้นที่นั่นจึงมีโอสถหลายชนิดวางขาย หากผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มต้องการโอสถผันแปรที่ 5 ย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาซื้อ
“สถานที่แห่งนี้เปรียบได้กับสรวงสวรรค์ของข้า… ไม่รู้ว่าหยกสวรรค์ที่มีจะพอหรือเปล่า...”
ตอนนี้หนิงฝานมีหยกสวรรค์ราว 8 ล้าน เป็นจำนวนที่ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตขั้นกลางพึงมี
แต่หากจะใช้หยกสวรรค์จำนวนนี้เพื่อขอใช้สถานที่ฝึกฝนที่ดีที่สุด เกรงว่าจะไม่พอ
ภายในวิหารสาบสูญมีหอคอยสีเงินขนาดใหญ่อยู่
หอคอยแห่งนั้นมีด้วยกัน 7 ชั้น ชั้นแรกเป็นชั้นที่ช่วยเร่งเวลาให้เร็วกว่าโลกภายนอก 2 เท่า เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆกระทั่งชั้นที่ 7 มีความเร็วประมาณ 128 เท่า
หอคอยชั้นที่ 1 จำกัดไว้เพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม ชั้นที่ 2 เป็นของผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ ชั้น 3 เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ถัดจากนั้นขึ้นไปจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ขอบเขตพลังสูงชั้นขึ้นไปอีก
การจำกัดสิทธิ์เช่นนี้ มีการบังคับใช้อย่างชัดเจน
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีข้อยกเว้นอยู่… วิหารสาบสูญชื่นชอบนักปรุงโอสถ นักปรุงโอสถจะได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดี เช่นหากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 แม้ยังไม่บรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม ก็สามารถใช้วิหารชั้น 4 ได้
หากเป็นระดับพลังของหนิงฝานในยามนี้ อย่างมากเขาก็ขึ้นแค่ชั้น 2 ของวิหารเท่านั้น
หากเข้าร่วมในสถานะนักปรุงโอสถ… หนิงฝานอาจเข้าได้ถึงชั้น 5 ซึ่งฝึกฝนเพียง 1 จะเท่ากับโลกภายนอก 32 วัน
หากฝึกฝนฝนนั้น 100 ปี จะเทียบเท่ากันโลกภายนอก 3200 ปี… แต่ไม่มีผู้ใดจ่ายไหว
เพราะมันแพงจนเกินไป!
ภายในหอคอยแห่งนั้น แต่ละชั้นจะมีความเร็วของเวลาต่างกันเป็นเท่าทวีในแต่ละชั้น
ค่าใช้จ่ายสำหรับชั้นแรก 1 ปี 100 หยกสวรรค์
ชั้นสอง 1 ปี 1000 หยกสวรรค์
ชั้นสาม 1 ปี 10,000 หยกสวรรค์
ชั้นสี่ 1 ปี 120,000 หยกสวรรค์
แต่สำหรับชั้นห้า 1 ปีต้องจ่าย 960,000 หยกสวรรค์
ก่อนหน้านี้มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มบางคนเข้าใช้ชั้นที่ 2 เพื่อฝึกฝน แต่ด้วยเป็นการเอาเปรียบ วิหารสาบสูญจึงได้ตั้งกฏระดับพลังของแต่ละชั้นขึ้น
เมื่อสตรีในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มบอกเล่าเรื่องราวต่างๆเสร็จ นางก็จากไปด้วยความเคารพ
ยามนี้หนิงฝานเหลือเวลาไม่มาก ยิ่งใช้หอคอยชั้นสูงได้เท่าไหร่ยิ่งดี แต่ด้วย 8 ล้านหยกสวรรค์ที่มี คงเพียงพอให้ใช้ได้แค่ 8 ปีเท่านั้น
32 เท่าของ 8 ปี คือ 256 ปี ซึ่งเป็นเวลาที่อายุขัยของหนิงฝานแทบจะหมด หากเขาไม่อาจสร้างจิตวิญญาณอีกส่วนที่ตัดผ่าไปได้ เขาจะต้องตาย
แต่หากในช่วง 256 ปีนี้ เขาสามารถทะลวงขอบเขตแก่นทองคำได้ อายุขัยเขาจะเพิ่มอีก 500 ปี
สิ่งสำคัญที่ควรทราบของวิหารสาบสูญคือ มันแค่ช่วยให้เวลาเดินเร็วขึ้นเท่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโชคชะตาใดๆ
ต่อให้มาวิหารสาบสูญ แต่ไม่อาจทะลวงแก่นทอคำได้ก็ไร้ความหมาย
ต่อให้มาวิหารสาบสูญ แต่ไม่อาจทะลวงแก่นทองคำได้ก็ไร้ความหมาย
“จิงสั่วต้องใช้เวลา 100 ปีในการทะลวงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม… มันสมควรใช้วิหารชั้น 3 เป็นเวลา 10 ปี ส่วนข้าต้อใช้ชั้น 5 เป็นเวลา 8 ปี… แต่สิ่งแรกต้องทำคือ ทำให้วิหารสาบสูญรู้ว่าข้าเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5”
ผ่านไป 10 วัน หนิงฝานโดยสารคชสารไปจนถึงจุดจอดแรก
ผ่านไปอีก 15 วันหนิงฝานก็ไปถึงจุดจอดที่สอง
ผ่านไปอีก 1 เดือน ในที่สุดหนิงฝานก็มาถึงจุดหมาย ‘เมืองเต่าทมิฬ’
หนิงฝานจากเมืองหนิงมาได้เกือบ 2 ปีแล้ว
ยามนี้เขาอายุได้ 20 ปี
การที่ฝึกฝนและยกระดับตนเองมาได้ระดับนี้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ นับเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างที่สุด
เมืองเต่าทมิฬ เขตแดนปกครองของวิหารสาบสูญ
ใจกลางเมืองมีสิ่งก่อสร้างคล้ายหอคอยสีดำสูงหมื่นจ้าง นั่นคือวิหารสาบสูญ… ฝั่งทางทิศตะวันออก ทิศตะวันตก เหนือ และใต้ของวิหารสาบสูญ มีหอเคยไม่สูงมากอยู่ 4 แห่ง ชื่อของพวกมันคือ ‘หอคอยโอสถ’
หากผู้ใดจะเข้าร่วมในฐานะนักปรุงโอสถ คนเหล่านั้นต้องมาลงชื่อที่หอคอยโอสถ และเข้ารับการทดสอบ
“ข้าต้องการตรานักปรุงโอสถ!”
หนิงฝานเข้าไปยังหอคอยโอสถใต้ และได้พบกับสตรีในขอบเขตประสานวิญญาณขั้นกลางที่งดงาม
“โปรดแจ้งชื่อของท่าน เพื่อเข้ารับการทดสอบ”
“ข้าแซ่ ‘ซัว’ ชื่อ ‘หมิง”
“ไม่ทราบว่าท่านซัวเป็นนักปรุงโอสถระดับใด หากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ข้าสามารถทดสอบท่านได้ แต่หากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ข้าต้องเรียกผู้อาวุโสมา” นางกล่าวถลางมองสำรวจหนิงฝาน
ด้วยเพราะระดับพลังของนางยังไม่สูง สายตาจึงไม่เฉียบคม
แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับหนิงฝานที่มา ส่วนมากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 บ้างก็มี 3 มาให้เห็น
การเข้ารับการทดสอบและเข้าร่วมกับวิหารสาบสูญนั้น นอกจากจะได้ตำรับโอสุแล้ว ยังจะได้รางวัลอีกมากมาย
หลังจากนางจ้องมองหนิงฝานอยู่นาน นางก็ตัดสินใจ
บุรุษผู้นี้ยังเยาว์มาก สมควรเป็นเพียงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2… แม้ใบหน้าจะปลอมแปลงได้ แต่อายุกระดูกไม่สามารถทำได้ นางเองก็มีอายุมากว่า 100 ปีแล้ว แต่ในหน้ากลับไม่ต่างจากสตรีอายุ 20 ปี
“ช่วยตามผู้อาวุโสของเจ้ามาด้วยเถอะ ระดับการปรุงโอสถของข้า เจ้าไม่อาจทดสอบได้...” หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย
“หรือท่านซัวจะเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3? ข้าทำให้ท่านเสียเวลาแล้ว ข้าไม่น่าถามคำไร้สาระเลย...”
แววตาของเป็นประกาย อายุเพียง 20 ปี แต่เป็นถึงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 มีเพียงขุมกำลังใหญ่บางแห่งเท่านั้นที่เพาะสร้างคนระดับนี้
ยามนั้นเอง นางกลับมองหนิงฝานด้วยสายตาแปลกๆ
“ข้ามีนามว่า ‘ย่าหลาน’ หากท่านซัวยังไม่มีสตรีข้างกาย ข้าขออาสาเป็นให้ท่าน”
“ฮ่าฮ่า ขออภัยแม่นาง ข้ามีอยู่แล้ว”
“ช่างน่าเสียดาย...”
นางกล่าวออกมาโดยไม่อาย เพราะโลกของผู้ฝึกตนก็เป็นเช่นนี้
หากอีกฝ่ายเป็นถึงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ต่อให้โดนประณามว่าไร้ยางอาย ขอเพียงได้อยู่ข้างกายก็นับว่าคุ้มค่า
“เช่นนั้นข้าจะไปเชิญผู้อาวุโสโม่มาพบท่าน… ผู้อาวุโสโม่คือนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 แต่ผู้อาวุโสโม่อาจเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวไปบ้าง ท่านซัวเองก็คอยระวังท่าทีเอาไว้”...