ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0068
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0070

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0069


ตอนที่ 69 : ค้อนแห่งความพิโรธ

ฉินหยุนรู้สึกทั้งร่างกายเย็นเยียบ นี่คือผลของการที่จิตถูกกดดันอย่างหนัก!

กล่าวได้เพียงว่าพลังดาบของเชี่ยวหลางนี้ชวนพรั่นพรึงจนกระทบต่อจิตใจของเขาโดยตรง

เขากัดที่ปลายลิ้นก่อให้เกิดความเจ็บปวดจนได้สติกลับคืน

“พลังดาบของเชี่ยวหลางส่งผลต่อจิตใจเรา ต้องรักษาสติเอาไว้ไม่ให้โดนผลกระทบอีก ไม่งั้นเราตายแน่!”

หลังหลบเลี่ยงการโจมตี ฉินหยุนจึงปาดเหงื่อเย็นในใจทิ้ง!

แต่ชั่วขณะที่เขากำลังจะโล่งอกนั้นเอง ดาบของเชี่ยวหลางที่รุนแรงก็ไล่ล่าเขาอีกครั้ง มันสับลงที่คอของเขาพร้อมคลื่นลมเย็นเยือก!

เชี่ยวหลางได้เห็นว่าตนตอนนี้เกือบจะทำสำเร็จอยู่แล้ว ทว่า พริบตานี้ฉินหยุนกลับเอี้ยวตัวหลบทางด้านหลังหลุดรอดไปได้!

ฉินหยุนรู้สึกถึงความเจ็บปวดอ่อนจางที่ลำคอ แผลเลือดไหลเกิดขึ้นเพราะลำแสงดาบที่พุ่งพาดผ่านเข้ามา คอของเขาเกือบจะโดนเชือดไปแล้วเมื่อครู่

เชี่ยวหลางคำรามกราดเกรี้ยวขณะปล่อยคลื่นออร่าทรงพลัง เขากวัดแกว่งดาบเข้าใส่ฉินหยุนต่อเนื่องเข้าใส่จุดตายทั้งสิ้น ตราบเท่าที่โดนโจมตีถึงตัว เขาจะต้องแบกรับอาการบาดเจ็บสาหัส!

ฉินหยุนทำได้เพียงหลบ!

เคล็ดวิชาดาบของเชี่ยวหลางรวดเร็วและลึกล้ำ กระทั่งว่าฉินหยุนใช้ค้อนหลอมสกัดเอาไว้ มันก็แทบจะไร้ประโยชน์ เขากระทั่งโดนผลสะท้อนกลับจากแรงปะทะผ่านตัวค้อนด้วยซ้ำ

ดาบคืออาวุธที่มีเคล็ดวิชากว้างขวางสามารถใช้งานรับและโจมตีอาวุธหลากหลายประเภทได้

บางครั้งกระทั่งใช้การโจมตีตอบโต้ของผู้อื่นเป็นการโจมตีของตนเองก็สามารถกระทำ

ด้วยเหตุนี้ หากฉินหยุนไม่มั่นใจเต็มร้อย เขาก็ไม่อาจโจมตีตอบโต้!

“ชายหน้ากาก เจ้าจงเลิกหลบ มันจะดีกว่าหากเจ้ายอมจบเรื่องราวกับข้าที่นี่และวันนี้ ไม่เช่นนั้นตลอดชั่วชีวิตที่เหลือของเจ้าจะต้องสำนึกเสียใจ! ข้าเห็นนะว่าเจ้าเอาใจใส่นังแพศยาเม่ยเหลียนนั่นขนาดไหน!”

“หากเจ้าไม่สังหารข้า ข้าก็จะทำให้นางรู้สึกจนอยากตายด้วยตัวเอง ฮ่าฮ่าฮ่า!” เชี่ยวหลางยังคงจ้วงแทงฉินหยุนอย่างต่อเนื่องทั้งหัวเราะตลอดราวคนคลั่งเสียสติ

อีกฝ่ายพยายามยั่วยุฉินหยุนให้โจมตีตอบโต้ ถึงเวลานั้นเมื่อใด เขาจะใช้เคล็ดวิชาดาบเพื่อสวนกลับการตอบโต้นั้น

พอฉินหยุนได้ยินคำพูด จิตสังหารอย่างไม่คาดคิดพลันทะลักภายในใจเขา!

ชี่เม่ยเหลียนน่าเวทนาถึงเพียงนั้น แต่เชี่ยวหลางกลับคิดลงมือต่อนาง!

คำพูดของเชี่ยวหลาง เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายสามารถกระทำ คนเช่นนี้ไม่ว่าอะไรโหดเหี้ยมแค่ไหนล้วนสามารถ!

“นางเป็นผู้บริสุทธิ์!” น้ำเสียงแหบห้าวของฉินหยุนครั้งนี้ราวกำลังคำราม

“แล้วยังไง? นางก็แค่นังแพศยาตัวหนึ่ง ฆ่านางไปก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่าไก่สักตัว” เชี่ยวหลางหัวเราะโฉดชั่ว “แต่ว่า ชี่เสวี้ยสัญญากับข้าว่านางจะหาทางส่งตัวนังแพศยานั่นมาให้ข้าได้ลิ้มลองสักครั้ง!”

ขณะได้ยินคำกล่าวเหล่านี้ ฉินหยุนยิ่งโกรธเกรี้ยว ขณะเดียวกัน เขายังโดนเชี่ยวหลางจ้วงแทงเข้าใส่หน้าอกด้านขวา!

เมื่อเชี่ยวหลางโจมตีสำเร็จได้ ฝูงชนต่างส่งเสียงอื้ออึง!

หยางฉีเย่ว์ลอบขมวดคิ้ว นางบอกได้เพียงว่ามีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นกับฉินหยุน เพราะเมื่อครู่เขาสมควรหลบเลี่ยงการโจมตีนั้นได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างตีเหล็กที่โสโครกเอ๋ย...” เชี่ยวหลางหัวเราะออกเสียงดัง “เพื่อนังแพศยาชั้นต่ำนั่น เจ้าถึงกับวอกแวกจนเผลอทำชีวิตตัวเองตกหล่น ช่างน่าขำยิ่งนัก... มันก็แค่นางคณิกาชั้นต่ำ เจ้าคิดจริงจังอะไรกับมันถึงเพียงนั้น?”

ทุกคนต่างตระหนักได้ พวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมฉินหยุนจึงไม่หลบการโจมตีเมื่อครู่ มันเป็นเพราะคำพูดของอีกฝ่ายทำให้เขาเสียสมาธิ

แม้เชี่ยวหลางกระทำน่ารังเกียจ แต่ฉินหยุนก็ไม่หนักแน่นพอ นี่นับเป็นเรื่องร้ายแรงของการประลองยุทธ์ เขาทำได้เพียงแต่กล่าวโทษตนเองที่เสียสมาธิแล้ว

เชี่ยวหลางกำลังหัวเราะลั่นออกจากใจ เขาคิดอยากดึงดาบออก แต่แล้วกลับต้องพบว่าดาบนั้นถูกมือของฉินหยุนกำเอาไว้แน่น!

เขาตระหนักได้ยามเมื่อมองในดวงตาฉินหยุน เสียงหัวเราะกลับกลายเป็นหยุดอย่างกะทันหัน...

ดวงตาของฉินหยุนกลับกลายเป็นสีดำโดยสมบูรณ์ ตาขาวแทบไม่อาจมองเห็นได้อีกต่อไป นี่คล้ายกับวิญญาณยุทธ์สั่นไหวได้ตื่นขึ้น มันคือความมืดอันลึกล้ำน่าสะพรึงเกินใดเทียบ!

“เสี่ยวเม่ยเหลี่ยนทั้งบอบบางและบริสุทธิ์ ข้าจะไม่ยอมให้เดรัจฉานอย่างเจ้าย่างกรายนาง...” ฉินหยุนคำรามเสียงต่ำ

ค้อนหลอมในมือเคลื่อนไหว มันปล่อยกระบวนแสงไหลหลั่งออกมา ทั้งยังเปี่ยมล้นด้วยพลังสั่นสะเทือนที่บ้าคลั่ง

ค้อนหลอมกลับกลายเป็นลำแสงที่รวดเร็วฟาดเข้าที่คางของเชี่ยวหลาง แรงระเบิดเป็นผลให้ผู้คนต้องตามืดบอด นี่คือระเบิดแสง!

ร่างของเชี่ยวหลางโดนความเจ็บปวดทะลวงผ่านจนกระทั่งต้องปล่อยด้ามดาบในมือทั้งร่างกระเด็นลิ่ว!

หากนี่เป็นเพียงพลังภายในอัคคี ด้วยระดับการฝึกฝนของเชี่ยวหลาง กำลังภายในที่โคจรอยู่ในร่างสมควรสกัดการโจมตีเอาไว้ได้!

ทว่า สิ่งที่ฉินหยุนส่งออกมานี้คือพลังภายในสั่นไหว มันพุ่งตรงเข้าใส่สลายพลังปราณใต้เนื้อหนังของเชี่ยวหลางก่อนทลายการป้องกันจนสิ้น!

เชี่ยวหลางโดนค้อนหวดเข้าที่คางเป็นผลให้ทั้งร่างลอยลิ่วกระเด็น

ฉินหยุนไม่รอช้า เคลื่อนกายพุ่งออกราวอสนีฟาดฟันเข้าคว้าขาของเชี่ยวหลางเอาไว้ไม่ให้ร่วงหล่นออกนอกลานประลอง!

ค้อนหลอมพลันเงื้อขึ้นและหวดฟาดลง เสียงนี้ดังสั่นราวอสนีบาตที่ฟาดผ่าลงมา!

กระบวนฟ้าคะนองสะเทือนนี้คือเกิดแรงสะเทือนขึ้นเพราะฟ้าผ่า!

เสียงระเบิดเพราะแรงกระทำของค้อนที่ฟาดหวดนี้เพราะมันปะทะที่แผ่นหลังของเชี่ยวหลาง!

พลังสั่นไหวทะลักเข้าร่างของเชี่ยวหลางก่อนกระจายทั่วร่างราวคิดฉีกกระชากออก กระดูกแทบทุกท่อนในร่างแตกหัก ทั้งยังส่งเสียงแตกหักรุนแรงจนผู้คนล้วนได้ยินออกมา!

เสียงกระดูกแตกหักนี้ราวดอกไม้ไฟที่เบ่งบานบนฟ้าเป็นชุดไม่หยุดหย่อน ผู้คนรอบลานประลองยุทธ์ล้วนร่างกายด้านชาจนอดสั่นไหวออกจากใจไม่ได้!

“อ๊าก!” เชี่ยวหลางกรีดร้องดังสะท้อนทั่วทั้งแดนยุทธ์มังกรซ่อนเร้น ผู้ที่ได้รับฟังล้วนเส้นผมขนลุกชี้ชัน

ถัดจากนั้น ฉินหยุนก็หวดใส่อีกครั้งอย่างว่องไว!

ฟ้าคำรามเตรียมผ่าลงสู่ร่างตรงหน้าอีกครั้ง

เขาส่งคลื่นพลังปกคลุมทั่วร่างเชี่ยวหลางทั้งยังคิดฉีกกระชากทำลายเส้นโคจรทั้งหมดในร่างให้สลายเป็นผุยผง!

เชี่ยวหลางเพียงคำรามร้องจนกระทั่งลำคอโดนทุบทะลุไม่อาจส่งเสียง ดวงตาตอนนี้เปี่ยมด้วยเลือดคลั่งด้วยทั้งความเกลียดชังและหวาดกลัว

เป็นเขาไม่ยินยอมรับผลที่เกิดขึ้น เขาคือผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก ทั้งยังครอบครองราชสีห์เหมันต์ระดับที่เจ็ด แต่แล้วกลับต้องพ่ายแพ้แก่ชายหน้ากากที่มีระดับพลังเพียงแค่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า!

ฉินหยุนเงื้อค้อนหลอมขึ้นอีกครั้ง แต่ขณะที่เขากำลังเตรียมฟาดลงกลับรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอก คล้ายเขาเพิ่งจดจำได้ว่าตอนนี้ที่หน้าอกตนเองมีดาบแทงปักเอาไว้

เขาพลันดึงดาบเล่มนั้นออกจากหน้าอกจนเกิดรูเลือดทะลักทั้งเสียบแทงมันเข้าใส่เชี่ยวหลาง!

ถึงคราวนี้ ผู้อาวุโสหลายท่านจากจักรวรรดิเทียนเชี่ยวและสองอาจารย์จากสถาบันยุทธ์ระดับเสวียนเร่งรีบพุ่งกายเข้าไป

ต้วนเฉียนยังลงจากห้องรับรองแขกพิเศษที่อยู่ไกลออกไปเช่นกัน!

ฉินหยุนคำรามขณะการโจมตีครั้งสุดท้ายเตรียมปล่อยออก เขากระแทกเชี่ยวหลางกับพื้นหินหนาขณะเลือดและเนื้อกระจาย สภาพที่เกิดขึ้นทำให้ผู้พบเห็นลวนสะพรึงถึงภายใน

ต้วนเฉียนปรากฎตรงหน้าฉินหยุนพร้อมประกาศเสียงดัง “นักล่ามังกรชนะ เลื่อนขึ้นสู่อันดับสอง!”

หลังกล่าวจบคำ เขาเร่งร้อนเข้ากอดฉินหยุนที่ร่างทรงตัวไม่อยู่เอาไว้ก่อนถอนหายใจและอุ้มฉินหยุนจากไป

ต้วนเฉียนกล้าเคลื่อนไหวต่อต้านองค์ชายรัชทายาทแห่งเทียนฉินก็ใช่ แต่เขาไม่อาจล่วงเกินอาจารย์จากสถาบันยุทธ์ระดับเสวียน เขาต้องไว้หน้าบุคคลเหล่านั้น

อาการบาดเจ็บของเชี่ยวหลางรุนแรง กระทั่งว่าใช้โอสถวิญญาณยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีหรือหลายสิบปีกว่าจะรักษาให้หายดีได้ สภาพเช่นนี้อาจกล่าวได้ว่าจบสิ้นแล้ว

ผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หกในการประลองยุทธ์ครั้งนี้ พวกเขาทำได้เพียงจดจำรายละเอียดชวนขนหัวลุกนี้ไว้ในใจ!

เชี่ยวหลางและฉินหยุนออกจากลานประลองไปแล้ว และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดขึ้นไปเก็บกวาด พวกเขามองลานประลองที่เสียหายขณะสนทนากันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างการประลองอย่างดุเดือด!

การประลองยุทธ์ของชายหน้ากากล้วนทำให้ผู้คนแตกตื่นได้เสมอมา หลายคนต่างคาดหวังว่าเขาจะอาการดีขึ้นและท้าประลองเชี่ยวเย่ว์เหม่ยซึ่งเป็นอันดับหนึ่ง!

ศึกครั้งนี้ พวกเขาทั้งสองล้วนสูญเสียกันทั้งคู่!

อันดับสามอย่างเชี่ยวหลางไม่มีกำลังหลงเหลือต่อสู้อีกต่อไป อันดับที่สี่อย่างเมิ่งเฟยหลิงแข็งแกร่งยิ่ง นางย่อมต้องท้าเชี่ยวหลางประลอง ถึงตอนนั้นอันดับนางจะเลื่อนขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ทุกผู้คนล้วนเอ่ยชมนางที่วางแผนการได้อย่างปราดเปรื่อง

ครั้งฉินหยุนท้านางประลอง นางยอมรับความพ่ายแพ้แต่แรกเริ่มทั้งยังขอให้ฉินหยุนท้าประลองเชี่ยวหลาง คราวนี้ทั้งเชี่ยวหลางและฉินหยุนต่างบาดเจ็บ นางซึ่งเดิมทีอยู่อันดับสี่จึงสามารถเลื่อนขึ้นสู่อันดับสาม หรือกระทั่งอันดับสองก็ยังเป็นไปได้!

ฉินหยุนถูกส่งตัวกลับตำหนักจารึกเทวะโดยต้วนเฉียน เขาโดนแทงเข้าไปครั้งหนึ่ง แม้สูญเสียเลือดไปมากแต่ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงอะไร

เป็นเพราะแช่กายในสระราชสีห์สวรรค์ถึงสิบวัน ทั้งยังใช้พลังจิตวิญญาณโลหิตเพื่อขัดเกลาโลหิตภายในร่าง

ตราบเท่าที่ห้ามเลือดและเริ่มการบำรุงรักษา เขาจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่น่าจะเป็นปัญหาคือปราณดาบที่แทรกซึมเข้าร่าง มันต้องใช้เวลาถึงสองวันกว่าจะฝืนเอาปราณดาบทั้งหมดออกมาได้

ในช่วงสองวันนี้ เมิ่งเฟยหลิงท้าเชี่ยวหลางประลอง

เพราะเชี่ยวหลางบาดเจ็บสาหัสทั้งยังไม่ได้สติ เขาจึงถูกถอดถอนออกจากการประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้น

เรื่องนี้ทำหลายคนประหลาดใจ เมิ่งเฟยหลิงไม่ได้ท้าทายอันดับสองอย่างชายหน้ากาก

นอกจากนี้ ฉินเฟิงผู้ซึ่งโดนฉินหยุนจัดการไปก่อนหน้า ยังรักษาอาการเกือบหายดีแล้ว เขากำลังไต่อันดับรดต้นคอนาง!

ชี่เสวี้ย เย่เสินเหล่ย และเชี่ยวหลาง เหล่านี้อยู่เหนือเขาขึ้นไป ทว่าไม่มีพลังมากพอจะต่อสู้กับเขาจึงทำได้เพียงแต่ยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มการประลอง

สำหรับผู้อื่น พวกเขาไม่กล้าเข้าสู่ทำเนียบสิบอันดับแรก อย่างไรแล้วในสิบอันดับแรก แต่ละคนล้วนมีพื้นเพลึกล้ำ พวกเขาไม่กล้าพอที่จะไปยั่วยุบุคคลเหล่านั้น!

แม้ว่าชายหน้ากากไม่มีพื้นเพลึกล้ำ แต่หากคิดท้าทายก็มีสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึง เพราะเขาคือผู้ที่สามารถทำให้เชี่ยวหลางพ่ายแพ้อย่างสิ้นรูป!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด