มารดาปีศาจ ตอนที่ 4 วันสิ้นโลก (2)
เมืองหลวงของประเทศ Z มีประชากรอยู่จำนวนมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือที่นั่นมีผู้นำและกองกำลังทหารตั้งอยู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นวันสิ้นโลก ที่นั่นก็น่าจะมีความสงบอยู่บ้าง
จ้าวฉิงยังคงมีลูกน้อยที่ต้องเลี้ยงดู การไปที่นั่นจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับเธอ
ตอนนี้พวกเธออยู่ที่เมือง S แม้ว่าเมือง S จะไม่ไกลจากเมืองหลวงเท่าไรนัก แต่การที่ไม่มีทั้งเครื่องบินและรถไฟ ซ้ำยังเป็นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องมีความลำบากอยู่บ้าง
โชคดีที่จ้าวฉิงไม่ถูกพวกซอมบี้โจมตี นี่ทำให้การเดินทางปลอดภัยขึ้นมาก
หลังจากเดินไปได้ไม่นานจ้าวฉิงก็รู้สึกตกใจ ในตอนแรกเธอได้ยินเสียงโครกครากเบาๆ แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก จนตอนนี้เสียงนั้นได้ดังออกมาจากอกของเธอ จากลูกน้อยของเธอ “ลูกรัก หนูหิวใช่หรือเปล่า”
เสี่ยวเปาจื่อหน้าแดงขึ้นมาทันทีและตอบเธอด้วยเสียงเบาหวิว “หนูไม่ได้หิวถึงขนาดนั้นหรอก หม่าม้า” ทันที่ที่พูดจบท้องของเด็กน้อยก็ร้องออกมาทันที
“ขอโทษนะลูกรัก แม่ลืมนึกเรื่องนี้ไปเลย” ไม่รอช้าจ้าวฉิงก็พบบ้านหลังหนึ่ง หาน้ำร้อนชงผสมกับนมผงเด็ก หลังจากให้เสี่ยวเปาจื่อดื่มไปอึกใหญ่ ลูกน้อยก็อาเจียนออกมาจนหมดและมุดเข้าไปซุกในอ้อมอกเธออย่างทรมาน “หม่าม้า หนูปวดท้อง… ปวดมาก....”
“ลูกรัก...” ด้วยความเป็นกังวล ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
เสี่ยวเปาจื่อทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก และร้องไห้เสียงดังไม่ยอมหยุด แต่เพราะร่างกายของเขาแตกต่างไปจากคนอื่น จึงไม่มีน้ำตาไหลออกมา หลังจากที่อาเจียนนมออกมาจนหมด อาการเจ็บปวดก็ทุเลาลง
จ้าวฉิงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และตำหนิตัวเอง “ลูกรัก...ลูกรัก… นี่เป็นความผิดของแม่เอง...”
“หม่าม้า อย่าร้องไห้” เสี่ยวเปาจื่อปลอบโยนจ้าวฉิงด้วยจูบแผ่วเบา นี่ทำให้จ้าวฉิงรู้ว่าลูกน้อยของเธอแตกต่างไปจากเด็กคนอื่นและไม่สามารถถูกเลี้ยงดูตามธรรมดาเหมือนกับเด็กคนอื่นได้
เห็นลูกน้อยกำลังจะอดตายอยู่ตรงหน้า เธอจะไม่เค้นสมองคิดหาวิธีออกมาได้อย่างไร
จ้าวฉิงพยายามหาเนื้อให้เสี่ยวเปาจื่อกิน หลังจากกัดไปหนึ่งคำเล็กๆ ลูกของเธอก็อาเจียนออกมาอีกครั้ง การที่ได้เห็นลูกของเธออาเจียน ทำให้หัวใจของจ้าวฉิงแทบจะสลาย ถ้าเธอสามารถเฉือนเนื้อของตัวเองให้ลูกทานได้เธอก็พร้อมจะทำ
“ทำยังไงดี...” หญิงแกร่งที่เคยเลือดร้อนอยู่เสมออย่างจ้าวฉิง กลับแสดงออกอย่างกระวนกระวายราวกับจะร้องไห้ ลูกน้อยของเธอ สิ่งล้ำค่าของเธอ นี่ล้วนเป็นความผิดของหญิงร้ายชายชั่วสารเลวคู่นั้น พวกมันทำให้ลูกของเธอต้องกลายเป็นผีก็ไม่ใช่เป็นคนก็ไม่เชิง...
“แม่จะต้องช่วยหนูให้ได้” เธอเก็บความเสียใจไว้และอุ้มเสี่ยวเปาจื่อขึ้นมา เธอต้องการหาพวกซอมบี้เพื่อตรวจสอบอะไรบางอย่าง เธอเชื่อว่าร่างกายของเสี่ยวเปาจื่อต้องมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกับพวกซอมบี้เหล่านั้น
ก่อนที่เธอจะจับซอบบี้ได้ เธอก็ได้ยินเสียงปีนดังขึ้น หญิงสาวหรี่ตาลงและมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง เห็นรถคันหนึ่งวิ่งมาจอดหน้าบ้านที่เธออยู่ ภายในรถมีคนนั่งมาหลายคน หนึ่งคนในนั้นยื่นมือออกมาพร้อมกับโยนคบไฟออกไปทำให้พวกซอมบี้ที่วิ่งตามมาถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
บางที เธออาจจะต้องใช้รถสักคัน
ขณะที่เธอกำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ก็มีคนในรถโบกมือให้กับเธอ “คุณคือผู้รอดชีวิตเหรอ”
หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย จ้าวฉิงก็ตอบกลับไป “ใช่แล้ว พวกคุณมาช่วยเราหรือ”
“ใช่แล้ว เรามาเพื่อช่วยทุกคน” หลังจากจอดรถไว้ที่ด้านล่าง มีคนห้าคนออกมาจากรถและรีบวิ่งขึ้นมาที่ชั้น 2 จ้าวฉิงเปิดประตูให้พวกเขา คนแรกที่เข้ามาเป็นชายวัยกลางคนที่มีท่าทางน่าแกรงขาม แต่สายตามองกวาดไปทั่วห้อง เมื่อหันมาหยุดที่จ้าวฉิงก็สูดหายใจเข้าแล้วถามเธอว่า “คุณอยู่คนเดียวหรือ”
“ใช่แล้ว” ผิวของจ้าวฉิงซีดเผือดราวกับตกอยู่ในอาการช็อคสุดขีด “ข้างนอกเกิดอะไรขึ้น นี่มัน...นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”
“ไม่ต้องตกใจนะ พวกเราเป็นผู้ใช้พลังพิเศษ พวกเราสามารถปกป้องคุณได้ ที่ข้างนอกเมืองมีฐานที่มั่นของกลุ่มผู้รอดชีวิต เมื่อคุณไปถึงที่นั่นทุกอย่างก็จะเรียบร้อย” หลังจากที่เขาพูดจบก็ส่งสัญญาณบอกคนอื่นๆ ให้ปิดประตู
เด็กหนุ่มผมสีเหลืองซึ่งดูอายุน้อยกว่า ทันใดก็หัวเราะชั่วร้ายออกมา “หัวหน้า ไม่ต้องเสแสร้งแล้วน่า นี่มันเป็นวันสิ้นโลกนะ รีบจัดการเถอะ พวกเราพี่น้องจะต่อคิวรอและจะไม่แตะต้องเธอชั่วคราว”
โอ๊ะโอ....