บทที่ 204 - เห็นฉันไหมล่ะ? (5) [20-09-2019]
บทที่ 204 - เห็นฉันไหมล่ะ? (5)
”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างก็เกิดขึ้นมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำทั้งนั้น นี่คือความเป็นจริงที่เป็นไปในทุกๆโลกแม้กระทั่งโลกระดับสูงก็ไม่ยกเว้น
ไม่ว่าจะเกิดปรากฏการณ์อะไรยังไงมากขนาดไหนการเกิดมอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่า 270 ก็ไม่ปกติแล้ว มันก็มีความต่างกันอย่างมากระหว่างสิ่งมีชีวิตชั้นสูงและสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำทั้งในด้านบันทึกและมานาที่มากมาย หากมันเกิดขึ้นมาก็จะทำให้สมดุลหลายๆด้านเสียไปแล้ว
[ถ้ามันเกิดขึ้นง่ายขนาดนั้น กองทัพปีศาจแห่งการทำลายก็คงทำลายกองทัพสวรรค์ไปนานแล้ว จริงๆแล้วกองทัพปีศาจแห่งการทำลายเป็นกองทัพที่มีจำนวนมากที่สุดในทั้ง 4 ฝ่าย มอนสเตอร์จำนวนมากต่างก็เกิดมามีเลเวลสูงหลังจากที่โลกได้ผ่านมหาภัยพิบัติขั้นที่ 4 แต่ถึงแม้แบบนั้นการจะกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็ยังยากเหมือนคนอื่นๆอยู่ดี หากว่ากองทัพปีศาจรู้เรื่องนี้ล่ะก็...]
"งั้นแม้แต่ดาเรย์ก็ยังให้กำเนิดทหารของกองทัพปีศาจแห่งการทำลายจำนวนมากสินะ"
[ใช่แล้วล่ะ หากว่าสภาพมันยังคงเดิมอยู่น่ะนะ]
"ถ้างั้นแล้วนั่นมันอะไร?"
ยูอิลฮานได้ชี้ไปที่พายุมานาสีทองที่กำลังโหมกระหน่ำขึ้นมาและถามเลียร่า เธอได้หมดคำพูดไปในทันที
[อ่า นั่นมัน...]
พายุได้โหมกระหน่ำรุนแรงราวกับว่าามันจะดูดทุกๆอย่างที่มีมานาลงไป
สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใจกลางพายุนั่นให้ความรู้สึกอย่างรุนแรงว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง ยูอิลฮานจะรู้สึกได้แบบนี้ในระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่กับทูตสวรรค์ ตอนโจมตีเทวดาตกสวรรค์ และในตอนที่เจอเธรากะมังกรที่เพิ่งจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง
[ดูเหมือนนี่จะเป็นข้อผิดพลาดเนอะ!]
เลียร่าได้ตอบกลับมาอย่างสดใสที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยังไงก็ตามสีหน้าของเธอดูไม่ดีเลย เธอไม่อาจจะซ่อนความสิ้นหวังเอาไว้ได้
ยังไงก็ตามยูอิลฮานยอมรับในคำพูดของเธออย่างมั่นใจ
"ใช่เลยล่ะ ทำไมเธอถึงยอมรับความผิดพลาดแบบนี้ไม่ได้ทุกวันกันนะ"
เพียงแค่อยู่บนโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นกฏแห่งจักรวาลหรืออะไรก็ตามต่างก็ถูกบิดเบือนและหายไปจนไม่มีอะไรใหม่อีกแล้ว นอกไปจากนี้ยูอิลฮานก็ยังรอให้มันเกิดแบบนี้ขึ้นมาตลอดด้วย ประสบการณ์ที่จะได้จากสิ่งมีชีวิตคลาส 5 นั้นเป็นสิ่งทีน่ายินดีเสมอ หินพลังเวทย์ของพวกมันก็ยิ่งโครตจะน่ายินดี
หลังจากได้เห็นยูอิลฮานเลียริมฝีปากแล้วเลียร่าได้เป็นกังวลขึ้นมา
[นายกำลังจะทำอะไร?... จะฆ่ามันงั้นหรอ?]
"ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำนี่ ตอนนี้สกิลยมทูตของฉันก็ยังอยู่เลย"
ในปัจจุบันที่เลเวล 99 นี่มันได้ถูกเสริมพลังขึ้นอย่างมากจนเทียบกับในตอนเลเวล 1 ไม่ติดแล้ว ก่อนหน้านี้บัฟของเขาจะถูกนับไม่หากว่าเขาไม่ได้ฆ่าศัตรูเป็นเวลา 5 นาที แต่สำหรับในตอนนี้ต่อให้เขาไม่ได้ฆ่ามอนสเตอร์ต่อเนื่อง เขาก็ยังสามารถจะคงสถานะบัฟนี้เอาไว้ได้เป็นเวลาชั่วโมงครึ่ง
แต่แน่นอนว่าไม่ว่าจะไงหากเขาไม่อาจจะฆ่าศัตรูได้ในครั้งเดียวบัฟก็จะหายไปเช่นเดิม แต่แค่การยืดระยะเวลาให้สกิลคงอยู่ยาวนานขึ้นก็เป็นประโยชน์มากแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ที่เขาเจอกับมอนเตอร์นี้หลังจากเพิ่งจะล่ามอนสเตอร์มา
"ฉันคิดว่ามีเวลาเหลืออีกประมาณ 5 นาที แต่ถึงแบบนั้นแค่ฉันโดนตีไปซักครั้งก็ไม่เป็นไรแล้ว"
[นายรู้ใช่ไหมว่าสถานการณ์ในคราวนี้มันต่างจากในตอนที่นายซุ่มโจมตีเทวดาตกสวรรค์...?]
"รู้สิ"
ในตอนที่เขาซุ่มโจมตีเทวดาตกสวรรค์ เขามีสถานะที่ดีอยู่ ไม่ใช่แค่มีนายูนาที่เป็นผู้ร่ายบัพที่เก่งที่สุดอยู่ด้วยเท่านั้น เขายังรู้จุดอ่อนของเทวดาตกสวรรค์จากเลียร่าอีกด้วย หากว่าเขาโจมตีที่หัวหรือหัวใจตรงๆเขาก็คงไม่อาจจะฆ่าเทวดาตกสวรรค์ได้ง่ายๆแน่
ยังไงก็ตามที่ยูอิลฮานกล้าพูดแบบนี้ออกมาก็เพราะสถานะตอนนี้ของเขาดีกว่าตอนนั้นมาก เวลาได้ผ่านมาแล้วถึงสองปีและถึงแม้ว่าเลเวลของเขาจะไมได้เพิ่มขึ้น แต่พลังของเขาต่างจากเมื่อก่อนมากนัก เอาแค่สกิลยมทูตของเขาเมื่อตอนนั้นมีขีดสุดการเสริมพลังอยู่ที่ 80% แต่ในตอนนี้มันมีถึง 90% ไปแล้ว ประกายเพิง เทคนิคหอก แล้วก็ความเชี่ยวชาญอาวุธอื่่นๆรวมไปถึงสกิลที่ใช้สนับสนุนต่างๆก็พัฒนาขึ้นมาเช่นกัน
และยิ่งไปก่านั้นในตอนนี้เขาก็ยังมีป้อมปราการลอยฟ้า ป้อมปราการลอยฟ้านี้ถูกนับเป็นอุปกรณ์สวมใส่ของยูอิลฮานทำให้ไมเพียงแต่จะได้รับการเสริมพลังจากสกิลยมทูตเท่านั้น แต่มันยังได้รับผลจากการโจมตีทีเผลออีกด้วย
เลียร่าที่เห็นยูอิลฮานกำลังเต็มไปด้วยจิตใจแห่งการต่อสู้ได้พูดออกมาหลังจากเห็นว่าพายุแสงสีทองกำลังหายไปอย่างช้าๆ
[มันยังเกิดได้ไม่นานนัก หากว่านายอยากจะฆ่ามันจริงๆ นายก็จะต้องทำมันเดี๋ยวนี้ในตอนที่มันยังไม่ตื่นเต็มที่]
"เข้าใจแล้ว"
[...แล้วนายไม่มีแผนอะไรเตรียมไว้แล้วหรอ? หากว่ามันเป็นการเกิดของมอนสเตอร์ธรรมดาฉันก็ไม่สนหรอกนะ แต่นี่มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย คลาส 5 หรือคลาสที่สูงกว่านั้นขึ้นไม่จะไม่ถูกนับว่าเป็น 'มอนสเตอร์' อีกต่อไปแล้วนะ ฉันกำลังจะบอกนายว่ามันอาจจะเกิดมาไม่ได้เป็นปีศาจชั่วร้ายก็ได้นะ]
"เลียร่า เธอก็รู้จักฉันดีนี่"
ยูอิลฮานได้เปิดใช้ระดับการโจมตีที่ยอดเยี่ยมที่สุดของระบบป้อมปราการ ร้อยนัยน์ตา ก่อนที่เขาจะตอบกลับไป
"ฉันไม่ยอมความเสี่ยง"
ถ้าหากว่าสิ่งมีชีวิตนั่นไม่อันตรายมันก็ดีไป เขาจะยินดีกับเรื่องนั้นมากๆ บางทีสิ่งมีชีวิตนั่นก็อาจจะเข้าใจในเจตนาของยูอิลฮานแล้วกระทั่งช่วยเขาด้วย
ยังไงก็ตามถ้าเกิดว่ามันเกิดมาเป็นเหมือนมอนสเตอร์ตัวอื่นๆบนโลกเกิดมาพร้อมกับความต้องการที่จะสังหารเขาล่ะ? ถ้าหากการซ่อนเร้นของยูอิลฮานหายไปถ้างั้นเขาก็จะตายแน่ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งยังไงเขาก็ไม่มีทางที่จะต่อสู้กับคลาส 5 ตรงๆโดยไม่มีสกิลยมทูตช่วยได้เลย
"แล้วก็ฉันไม่ได้ชอบแนวคิดเรื่องดีชั่วเลยสักนิด"
หากว่ายูอิลฮานเป็นคนที่ทำอะไรหลังจากตัดสินดีชั่วแล้วถ้างั้นเขาก็คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แน่ เขาคงจะตายไปนานแล้ว
เรื่องความดีชั่วนี้ไม่อาจจะตัดสินใจได้จากการแค่มองและสัมผัสในเวลาสั้นๆแน่ คนหน้าซื่อใจคตมีเยอะแยะไป ดังนั้นเขาจึงไม่คิดตัดสินใจเรื่องดีชั่ว เขาก็แค่ฆ่าก็เพราะจำเป็นที่จะต้องเอาตัวรอด
ไม่มีทั้งดีหรือชั่ว มีแค่เพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น
[โอเค ฉันเข้าใจแล้ว]
เมื่อได้ยินการตอบกลับที่มั่นใจของเขาได้ทำให้เลียร่าเลือกถอยออกมาโดยไม่พูดอะไรอีก ยูอิลฮานคิดว่าเลียร่าได้พูดไว้เผื่อว่าเขาจะเกิดลังเลขึ้นมา แต่ว่าเขาไม่ได้สนใจเลยสักนิด เขาก็แค่สนใจกับการเสริมพลังให้กับกระจกคำสาปแห่งการทำลายเท่านั้น
กระจกทั้งหนึ่งร้อยบานได้ลอยตัวขึ้นเหนือป้อมปราการลอยฟ้าและเอียงองศาทำมุมราวกับว่ามันเตรียมตัวที่จะรวมพลังกันยิงออกไปเป็นเส้นเดียว นี่คือการ 'รวมเป็นหนึ่ง' ที่ยูอิลฮานได้ทำขึ้นมาเตรียมไว้ในสถานการณ์แบบนี้
[ว้าว น่าทึ่งไปเลย...]
"ก็แน่นอนสิ เธอคิดว่าฉันหมดหินพลังเวทย์ในการทำเจ้านี่ไปมากแค่ไหนกันล่ะ?"
ออร่ามันยิ่งใหญ่ทรงพลังมากจนถึงขนาดทำให้เลียร่าต้องกลืนน้ำลายอย่างเป็นกังวล เธอมั่นใจเลยว่าต่อให้เป็นตัวเธอเองก็ไม่อาจจะป้องกันการโจมตีนี้ได้หมดจดไร้บาดแผลต่อให้เธอจะใช้พลังในฐานะทูตสวรรค์ทั้งหมดออกมาก็ตาม
แม้ว่าขนของเทวดาตกสวรรค์ที่มาจากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่ในตอนนี้ถูกแยกออกจากกันจะอ่อนแอกว่าในตอนที่เทวดาตกสวรรค์ที่มีชีวิตอยู่ใช้เองก็ตาม แต่ยังไงก็ตามยูอิลฮานได้รวมพลังทั้งหมดนั้นเข้ามาด้วยกันและสะสมจนเกิดเป็นพลังที่คุกคามสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้ นี่เป็นทั้งพรและหายนะที่เกิดมาจากพลังและเทคโนโลยี
ชุดเซ็ตอาวุธที่มีพลังทำลายล้างสูงนี้ได้เล็งเป้าไปที่จุดกึ่งกลางของพายุที่เกิดขึ้นมาบนพื้น แม้ว่าจะยังไม่มีรูปร่างแน่ชัดแต่ก็มีมานาจำนวนมหาศาลปรากฏออกมาให้เห็นแล้ว ยูอิลฮานได้ปรับแต่งองศาในการยิงเสร็จภายในนาทีเดียวและแสยะยิ้มออกมา
"แม้แต่สาวน้อยเวทมนตร์ก็ยังอ่อนแอที่สุดในตอนที่กำลังแปลงร่าง"
[นายพูดคำนี้ออกมาแบบไม่ลังเลได้ยังไงกัน]
ด้วยแบบนี้เขาก็มั่นใจแล้วว่าเขาจะสามารถฆ่าศัตรูได้แล้ว แต่ว่าด้วยความที่ศัตรูคือสิ่งมีชีวิตชั้นสูง เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะหาตัวรับประกันไว้อีกที ยูอิลฮานจะไม่มีวันยอมตายเพราะความประมาทของตัวเองไว้แน่ ตัวยูอิลฮานได้เรียนรู้รูปแบบความล้มเหลวและความสำเร็จแบบนี้มาจากตัวเอกต่างๆในนิยายมามากแล้ว
[อิลฮษนเร็วเข้า มันกำลังจะตื่นขึ้นมาแล้ว]
"ถึงเธอไม่บอก ฉันก็จะทำ..."
เขาได้เปิดใช้งานโลหิตมังกรและประกายเพลิงพร้อมๆกัน เขายังได้ใช้เพลิงนิรันดร์ทำให้เกิดเป็นเพลิงสีขาวเหมือนอย่างเคยอีกด้วย จุดที่เขาจุดเปลวเพลิงขึ้นก็แน่นอนว่าเป็นจุดกึ่งกลางของกระจกคำสาปแห่งการทำลาย เลียร่าได้ตะโกนออกมาทันที
[นี้มันเป็นไปได้ด้วยงั้นหรอ?]
"แน่นอนสิ นี่มันคือส่วนหนึ่งของอุปกรณ์สวมใส่ฉันนะ ด้วยเจ้านี่ฉันหวังว่าฉันจะได้พรจากเทพธิดาแห่งเพลิงนะ..."
เมื่อไหร่ที่เขาโลภมากมักจะล้มเหลวอยู่เสมอไป เขาได้ส่ายหัวสลัดความคิดเรื่องพรเทพธิดาแห่งเพลิงออกไปด้วยรอยยิ้มบางๆและเริ่มทำการโจมตีก่อนที่เจ้าสิ่งมีชีวิตนั้นจะมีสติและตั้งการป้องกันขึ้นมา
[กรี๊ดดดดดด!]
ในเวลาเดียวกันเลียร่าได้หัวตัวลงมาตามสัญชาตญาณของตัวเองหลังจากสัมผัสได้ถึงมานาที่ถูกบีบอัดเข้าด้วยกัน จากนั้นกระจกคำสาปแห่งการทำลายก็ได้ยิงเส้นแสงสีขาวออกไปโดยไร้ซึ่งการสั่นไหวแม้แต่นิดเดียว
เส้นแสงนี้เป็นเส้นแสงที่ถูกบีบอัดจนถึงขีดสุด เล็กบางยิ่งกว่าเส้นด้าย แต่เส้นแสงที่บางนี้ไม่เพียงแต่มีมานาของกระจกคำสาปแห่งการทำลายทั้งร้อยบานเท่านั้น แต่ยังมีพลังของประกายเพลิงที่ถูกเสริมพลังขึ้นจากโลหิตมังกรอีกด้วย
[ติดคริติคอล!]
เส้นแสงได้ตัดผ่านกลางพายุที่ไม่อาจจะมองด้วยตาเปล่าได้ในทันที ยูอิลฮานได้ให้ป้อมปราการลอยฟ้าพุ่งมาบนพื้นในทันทีที่การโจมตีของเขาสำเร็จ
[นายกำลังจะทำอะไรน่ะ!]
"มันยังไม่ตาย!"
[ถ้างั้นทำไมนายถึงให้ป้อมปราการลงจอดล่ะ]
"เฝ้าดูอย่างใกล้ชิดไงล่ะ!"
ป้อมปราการลอยฟ้าได้พุ่งลงพื้นอย่างรวดเร็ว! ด้วยออฟชั่น 'เร่งความเร็วฉับพลัน' ทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นได้ในทันที
"ถึงจะไม่มากนัก แต่เรามาเพิ่มความเร็วของช่องเก็บของลงไปกันดีกว่า"
[นายกำลังจะบอกว่ามันกำลังจะเร่งความเร็วขึ้นอี๊กกกกกกกกก!]
พื้นดินได้ใกล้เข้ามาแล้ว ยูอิลฮานได้ใช้บาเรียทรงกลมคลุมป้อมปราการลอยฟ่้าเพื่อป้อมกันส่วนสำคัญของป้อมปราการและคลุมบาเรียด้วยประกายเพลิงอีกครั้ง หากมองไกลๆนี่ไม่ต่างไปจากอุกกาบาตเลยสักนิดเดียว
[นี่นายใช้ประกายเพลิงทำได้ทุกอย่างเลยหรือไงกัน!?]
"แต่มันน่าเศร้าเนอะที่ฉันใช้โลหิตมังกรไปพร้อมๆกันไม่ได้!"
พลังของเส้นแสงจากร้อยนัยน์ตาแข็งแกร่งมากจนทำให้ศัตรูคลาส 5 ที่ปรากฏตัวขึ้นมาหลังจากพายุหายไปเพราะแรงปะทะไม่อาจจะขยับได้แม้แต่นิดเดียว ยูอิลฮานได้ยืนยันรูปร่างของศัตรูได้ในทันที
"โอ้ ให้ตายสิ"
ที่ตรงนั้นคือหญิงสาวสวยงดงามที่ทำให้แม้แต่ยูอิลฮานก็ยังลังเลไปครู่หนึ่ง ศัตรูที่ขยับไม่ได้จากการที่หน้าอกถูกเจาะทะลุและมีน้ำตาไหลออกมาจากดงตาเหมือนกับเป็นการกระตุ้นความเห็นใจของยูอิลฮาน
[ผะ ผู้หญิง!?]
เลียร่าได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจ จากขนาดของพายุแล้วมันจะไม่น่าแปลกจเลยหากว่ามอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวขึ้นมามีขนาดใหญ่กว่าโกเล็มที่เขาสู้ในลานปาส แต่สิ่งที่ปรากฏออกมาจริงๆเลยก็คือรูปร่างของมนุษย์! แล้วก็นอกจากนี้ยังเป็นหญิงสาวสวยงามบอบบางอีกด้วย!
"ไสหัวไปเลยไป!"
แต่ชายคนนี้ไม่ได้สนเรื่องนี้เลยสักนิด เขายังคงให้ป้อมปราการลอยฟ้าพุ่งชนไปต่อโดยไม่คิดหยุดลง! ความใจดำแล้งน้ำใจของเขาก็ควรจะมีขีดจำกัดบ้างสิ!
ยังไงก็ตามนี่มันไม่มีเวลาใหเลียร่าได้บ่นอะไรเลย ยูอิลฮานเขาไม่ได้หยุดลงซักนิด และก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรภาพร่างของหญิงสาวก็ได้หายไปจากการที่ป้อมปราการลอยฟ้าได้บี้เธอ
เสียงได้ดังสนั่นขึ้นมาในทันทีจากน้ำหนักที่มหาศาลของป้อมปราการที่กระแทกเข้ากับพื้นต่อให้จะมีตัวรับแรงกระแทกเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็ตามที
คลื่นพลังงานที่ตามมาจากการพุ่งชนของป้อมปราการลอยฟ้าได้แยกกระจายออกไปจนทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น แตยูอิลฮานได้เก็บเอาร่างของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงลงไปในทันทีที่เขาได้ฆ่าเธอโดยที่ไม่สนใจสภาพพื้นเลย
[คุณได้รับค่าประสบการณ์]
[??? ???? ?????? ??? ?????? ?? เลเวล 3?? ???????]
"อ่า เครื่องหมายคำถามอีกแล้ว"
[อิลฮาน นายมัน!]
ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็ชัดเจนว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที 'ดี' แน่ - แต่เพียงแค่เลียร่ากำลังจะพูดแบบนั้นออกมา เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวของยูอิลฮานก่อนแล้ว
[เฮ้! นาย! นายฆ่ากล้าจริงๆ!?] (??????)
"แน่นอนสิ ฉันฆ่าไปแล้วไง"
ยูอิลฮานได้พูดออกมาราวกับว่าเขาได้คิดเอาไว้แล้ว
"เมื่อตอนที่เธอได้เป็นผู้เชี่ยวชาญการถูกทิ้งแบบนั้น ตอนนั้นแหละที่เธอจะแสร้งทำน้ำตาปลอมออกมาได้ ทั้งๆที่เธอพึ่งจะเกิดกล้าดียังไงมาหลอกฉัน"
[...หืม?]
[...ชิ]
เลียร่าไดเงยหน้าขึ้นมาหลังจากรู้ตัวช้าไปนิด และจิตวิญญาณสิ่งมีชีวิตชั้นสูง ????? ก็ได้ยอมรับว่าเธอด้อยกว่ายูอิลฮาน
[อ๊าาาาา อีกแล้ว.... ฉันแพ้อีกแล้ว!]
ในระหว่างที่การกล่าวลาและการเจอที่คาดไม่ถึงได้เกิดขึ้นมาเงียบๆก็มีเพียงแต่โอโรจิที่กลืนน้ำลายลงไปอย่างไม่พอใจ