ตอนที่ 41 ความท้าทาย [อ่านฟรี]
ตอนที่ 41 ความท้าทาย
ยืนอยู่บนสังเวียนเป็นตาย
ในขณะนี้ สายตาของหลินหานได้จ้องมองเสาหินทั้ง 50 ต้น
หลินหานเพ่งมองเห็นพลังที่แท้จริงของศิษย์ทำเนียบภายในผ่านทางเนตรนภาแห่งนักพรตวิญญาณ โดยปกติศิษย์ทั้งหลายจะมีตบะอยู่ที่ปัญจสวรรค์
ส่วนหลินหรูเยียน หลินเทียน คนหนึ่งได้อันดับที่15 อีกคนคืออันดับที่20 ได้ปะทุพลังการต่อสู้อย่างมหันต์ จากที่ลองตรวจจับพลังก็รู้ว่าใกล้จะก้าวสู่ยุทธฉะสวรรค์แล้ว
เมื่อตรวจจับได้ดังนี้ หัวใจของหลินหานตะลึงเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าไม่ใช่ว่าแค่ตัวเองที่ก้าวหน้า คนอื่นๆกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปในป่าหม่างแห่งเมืองต้วนเท่ยน ทำให้หลินหานได้รับโอกาสครั้งใหญ่ แม้ว่าเขาไม่ด้กระตุ้นกายาจักรพรรดิมังกร แต่พลังต่อสู้ของเขาในเวลานี้ยังน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
แม้แต่หลินหานเองยังไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองแข็งแกร่งแค่ไหน
ในใจของเขาคาดการณ์อย่างลับๆ หากเขาไม่ได้กระตุ้นพลังกายาจักรพรรดิมังกร เขาอาจจะเอาชนะผู้แข็งแกร่งแห่งยุทย์ฉะสวรรค์ขั้นก่อเกิดได้
และถ้าเขากระตุ้นกายาจักรพรรดิมังกร พลังต่อสู้จะเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า แม้ว่าจะทำให้สิ้นเปลืองสสารถ่องแท้อย่างล้นหลาม แต่ในระยะสั้นๆที่อยู่ในโหมดกายาจักรพรรดิมังกรจะทำให้เขาสามารถต่อกรกับผู้แข็งแกร่งแห่งยุทย์ฉะสวรรค์ขั้นสูงสุดได้
หลินหานแอบสังเกตโดยใช้เนตรนภา เขาพบว่าศิษย์ทำเนียบภายในที่ติดอันดับหนึ่งในสิบ ล้วนมีพลังแห่งยุทย์ฉะสวรรค์ ต่างกันแค่ลมปราณที่แข่งกว่ากว่าและอ่อนแอกว่า
ส่วนหลินกู่เทียนที่ทรงพลังที่สุดกำลังนั่งอยู่บนเสาหินที่สูงที่สุด เขาสวมชุดคลุมสีดำ หว่างคิ้วเผยบารมีน่าเกรงขาม ตาหลับตาลง ลมปราณสงบ
ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนตำแหน่งของเขาได้!
หลินหานประหลาดใจอย่างเงียบๆ เพราะเนตรนภาของเขามองระดับพลังที่แน่นอนของหลินกู่เทียนได้ไม่ชัดเจน
เขาจึงคาดเดาว่าหลินกู่เทียนคนนี้ หนึ่งเท้าของเขาอาจจะก้าวสู่ขอบเขตของปรมาจารย์ยุทย์แล้วก็เป็นได้ หรือบางที เขาอาจจะก้าวสู่ยุทย์สัตตะสวรรค์ จนกลายเป็นปรมาจารย์ยุทย์ไปแล้ว!
ในวัยนี้ แต่มีพลังได้ถึงน่ากลัวขนาดนี้ เรียกได้ว่าน่าสะพรึ่ง
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้หลินหานจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน
ทว่า ตอนที่อยู่ใยหุบเขาของป่าหม่างแห่งเมืองต้วนเทียน หลินหานได้พบชายหนุ่มหญิงสาวลึกลับสองคนที่มีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้น เขาในตอนนี้หลินหานจึงไม่มีความหวั่นกลัวต่อหลินกู่เทียนคนนี้อีก
"หืม?"
ทันใดนั้นหลินหานก็รู้สึกถึงจิตสังหารที่แผ่ออกมามาจากที่สูง
หลินต้วนเจี้ยน!
ดวงตาของหลินหานเย็นชาทันที
หลินต้วนเจี้ยนคนนี้ได้อยู่ในบัญชีดำของหลินหานแล้ว เขาคือคนที่หลินหานจะต้องฆ่า
หลินกู่เทียนอาจก้าวจะก้าวสู่ขอบเขตของปรมาจยุทย์แล้ว หากเขาระเบิดพลังของกายาจักรพรรดิมังกรก็อาจจะพอต่อสู้ไหว แต่อาจจะไม่ชนะก็ได้
อันดับที่สาม ข้าขอละกัน!"
หลินหานพูดออกมาทันที น้ำเสียงไม่แยแส จิตแห่งการต่อสู้เสมือนดาบ ส่วนนิ้วได้ชี้ไปยังหลินต้วนเจี้ยนบนเสาหินต้นที่สาม
เหตุผลที่โอกาสการท้าทายนี้ถูกนำมาใช้ในหลินต้วนเจี้ยน เพราะหลินหานมีได้ไตร่ตรองดีแล้ว
อย่างแรก ถ้าเขาระเบิดพลังทั้งหมด เขาอาจจะไม่ชนะหลินกู่เทียนที่นั่งตำแหน่งศิษย์อันดับหนึ่งแห่งทำเนียบภายในมาอย่างยาวนาน ทั้งยังสูญเสียคุณสมบัติในการเข้าสู่ทำเนียบภายใน
ท้ายที่สุดแล้ว เวลาฝึกของเขายังสั้นเกินไป ยังต่างชั้นกับ"ห้าผยอง"แห่งเมืองต้วนเทียนอยู่หลายขุม
ประการที่สอง ต่อให้สุดท้ายแล้วจะใช้ไพ่ตายทั้งหมดจะเอาชนะของหลินกู่เทียนได้ มันก็ไร้ความหมายอยู่ดี เพราะรางวัลของสามอันดับแรกในงานเลี้ยงน้ำชแห่งวิถียุทย์เหมือนกัน ซึ่งรางวัลที่ได้รับจะมากที่สุดพอๆกัน สิ่งที่หลินหานต้องการจริงๆคือรางวัลที่มากมายเหล่านั้น การจัดอันดับไม่สำคัญสำหรับเขา
ประการที่สาม หลินหานรู้ว่าหากเขาเปิดเผยพลังต่อสู้ทั้งหมด หลินป้าเตาอาจจะตระหนักได้ จนกลายเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ทำให้การลอบสังหารหลินป้าเตาเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
ประการที่สี่ จุดสำคัญที่สุดคือ ... หลินหานมีความตั้งใจที่ะสังหารหลินต้วนเจี้ยน
ความอัปยศในวันนั้น ถึงเวลาที่ต้องเอาคืน
นิสัยของหลินหานคือยอมหักไม่งอ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนขี้ขลาด
ในทางตรงกันข้าม จิตวิญญาณของเขาได้รับการเปลี่ยนแปลงโดยเปลวไฟศักดิ์สิทย์สีทอง ทำให้หลินหานมั่นคงยิ่งกว่าคนในรุ่นเดียวกันอย่างมาก
ในขณะนี้ เขาวิเคราะห์อย่างใจเย็นและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ตัวเลือกของเขาคือ ...
ท้าสู้หลินต้วนเจี้ยน โจมตีสังหารเขาบนสังเวียนเป็นตาย!
ในเวลานี้ เมื่อคำพูดของหลินสิ้นสุดลง บนสนามโดยรอบก็เกิดเสียงดังขึ้นสะเทือนเลือนลั่น
หลินหานท้าประลองหลินต้วเจี้ยนอันดับสาม !
เขาบ้าไปแล้วเหรอ?
ศิษย์ทำเนียบภายนอกมีสีหน้ากังวล แม้ว่าหลินหานจะเป็น "ตำนานที่ไร้พ่าย" ในใจพวกเขา แต่หลินต้วนเจี้ยนแข็งแกร่งเกินไป เป็นอันดับสามแห่งทำเนียบภายใน นี่ก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง
"หลินหาน หวังสูงเกินไป"
"เกิดอะไรขึ้นกับราชาคนใหม่ของศิษย์ทำเนียบภายนอก? ไม่คิดเลยว่าจะโอหังขนาดนี้!"
"ท้าทายหลินต้วนเจี้ยน เจ้าหนูนี่ไม่กลัวตาย"
ศิษย์ทำเนียบภายในแต่ละคนต่างหัวเราะเย้ยหยัน
ในฐานะลูกศิษย์ของทำเนียบภายใน พวกเขาย่อมเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความน่ากลัวของอันดับสาม
ในเวลานี้ แม้แต่บรรดาผู้เฒ่าที่ดูอยู่ในสถานที่รับชมด้านบนต่างก็ขมวดคิ้ว
เจ้าหนุ่มนี่โอหังเกินไป?
"ฮ่าฮ่าฮ่า! เด็กเวรหลินหานนั่นรนหาที่ตายเอง ดูเหมือนว่าข้าไม่จำเป็นต้องจัดการเองแล้ว ... ... " สีหน้าที่มืดมนของหลินป้าตาเผยให้เห็นความยินดีอย่างยิ่งยวด สายตามุ่งร้าย หัวใจโห่ร้องไม่หยุด
ทว่า บนสนามมีเพียงหลินหรูเยียนคนเดียวที่ยังสงบ
สายตาของหญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มชุดสีเขียวบนสังเวียนเป็นตาย ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ใครก็ตามที่สามารถทำให้ "ลุงกุ่ย" จับตามอง จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้นหลินหรูเยียนและหลินหานค่อนข้างคุ้นเคยกัน นางจึงรู้ดีว่าสภาวะหัวใจของหลินหานแกร่งกล้า ไม่พูดอะไรออกมาพล่อยๆ
ในเวลานี้ ไม่ไกลจากหลินหรูเยียนนัก มีศิษย์หนุ่มคนหนึ่งที่มีอารมณ์ขุ่นเคือง
เชาคือหลินฉาย อันดับที่สี่
ในการประลองของทำเนียบภายนอก เขาได้ดูแคลนและไม่ชายตาแลหลินหาน
แต่วันนี้ หลินหานกลับ “ไม่ชายตาแล” เขา มองข้ามเขาโดยการท้าทายหลินต้วนเจี้ยนอันดับสาม
สิ่งนี้ทำให้หลินฉายเกิดความอัปยศในใจ
ดวงตาของเขาเย็นชา มุมปากของเขามีรอยยิ้มที่โหดร้าย "หลินต้วนเจี้ยน ขนาดข้ายังไม่สามารถต้านทานการวิชาดาบของเขาได้ หลินหาน เจ้ารอถูกฟันด้วยดาบไปเถอะ ... "
อย่างไรก็ตาม หลินเฉียวอันดับสี่ที่อยู่ด้านข้างหลินฉายได้จ้องมองบนสังเวียนเป็นตาย ดวงตาที่งดงามของนางจับตามองหลินหานอย่างสนใจ
ครานี้ เมื่อหลินหานประกาศออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทำให้สายตาของคนที่นี่จ้องมองมาที่เขา มองเขาและหลินต้วนเจี้ยนที่จะต่อสู้กันบนสังเวียน
ในเวลานี้แม้แต่หลินกู่เทียนที่หลับตาอยู่ได้เปิดตาดูเล็กน้อย
เขาชำเลืองมองหลินหานที่อยู่ด้านล่าง
ลมปราณแห่งยุทย์ปัญจสวรรค์?
เขาตรวจจับลมปราณของหลินหาน
หลินกู่เทียนจึงไม่ได้สนใจอีกต่อไป ดวงตาของเขาสื่อความผิดหวังจึงละสายตาไปทางอื่น
คราวนี้เขามองไปที่อีกด้านหนึ่ง สายตาของเขาจ้องมองบนร่างอ้อนแอ้นอรชรที่สวมชุดสีเขียวหยก มุมปากแฝงรอยยิ้ม หรือนี่เป็นความหลงใหล?
หลินหรูเยียน
หลินกู่เทียนทั้งลึกลับและทรงพลัง ไม่มีใครอยู่ในตาของเขาเลย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจหลินหรูเยียน
ในความเป็นจริงพอลองคิดดูก็คงใช่ หลินหรูเหยียนเลอโฉมดั่งสาวงามถล่มเมือง ทั้งยังมีพลังแข็งแกร่ง เป็นดั่งสตรีแห่งท้องนภาของตระกูลหลิน
ผู้หญิงที่มีความสามารถและสวยงามเช่นนี้ ใครจะไม่ใจเต้น?
แม้แต่หลินหานผู้ซึ่งไฝ่หาพลังที่ยิ่งใหญ่ ยังรู้สึกตกตะลึงกับความงามของหลินหรูเยียนยอมอยู่ใต้แสงจันทร์
อย่างไรก็ตาม เขายังมีเจตจำนงและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากจักรพรรดิมังกรผู้เป็นอันดับหนึ่งแห่งไท่กู่ เป้าหมายของหลินหานในเวลานี้จึงมีเพียงหนึ่งเดียว
นั่นคือ แข็งแกร่งขึ้น และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!
แข็งแกร่งพอที่จะตามหาดินแดนแห่งไท่กู่ให้เจอ เพื่อฆ่าหล่านปิงเหยี่ยน "เทพีน้ำแข็ง" อันเป็นหญิงโฉดที่ทรยศจักรพรรดิมังกร
ดังนั้น ทัศนคติที่หลินหานมีต่อผู้หญิงคือปล่อยไปตามธรรมชาติ เขาไม่จงใจแสดงอารมณ์ใดๆ
"หลินหาน เจ้าแน่มาก!"
หลินต้วนเทียนหัวเราะเยาะ เขากระโดดลงจากเสาหินขนาดใหญ่ ลงมาบนเวทีสังเวียนเป็นตาย
เขามองไปที่หลินหานผู้ซึ่งสงบนิ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ดวงตาของเขาเปล่งประกายแห่งการสังหารอย่างรุนแรง พูดว่า "ข้าคิดว่าเจ้าหนีหางจุกตูดไปซะแล้ว คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมายืนอยู่บนสังเวียนเป็นตายนี้จริงๆ ทั้งยังท้าประลองข้า ... แต่ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าเจ้าไปเอาความกล้านี้มาจากไหน "
“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? แค่ท้าประลองเจ้า ต้องมีความกล้าหาญด้วยเหรอ?” หลินหานกล่าว ดวงตาของเขาเย็นราวกับใบมีด
"เจ้า ......"
หลินต้วนเจี้ยนไม่คิดว่าคำพูดของหลินหานจะเลวร้ายเช่นนี้ หว่างคิ้วของเขาเปล่งประกายโหดร้าย แต่ในวินาทีต่อมา จู่ๆเขาก็หัวเราะแล้วพูดว่า "ปากคอเราะร้าย! ไอ้หนู รอก่อนเถอะ ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าไร้พลังและ ... สิ้นหวัง! "
ครืด!
ในช่วงเวลาที่พูดคำว่าสิ้นหวังจบ หลินต้วนเจี้ยนดึงดาบสีดำแล้วฟันไปทางหลินหานทันที
เขาต้องการฆ่าหลินหานด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด!
อย่างไรก็ตาม หลินต้วนเจี้ยนไม่อาจทราบได้ว่า หลินฮันในวันนี้ไม่ใช่หลินฮันที่ถูกเขามองว่าเป็นดั่งมดปลวกเหมือนเมื่อวันก่อนอีกเเล้ว
.......................................