ตอนที่ 250 ศูนย์กลางพายุ 1
สนามรบครอบคลุมแค่ดินแดนของแอนเดรีย ซึ่งค่อนข้างไกลจากอีกสามวีป ข่าวเกี่ยวกับสงครามทุกอย่างเป็นเหมือนโรคระบาดที่ปลูกฝังความกลัวและความวิตก สงครามครั้งนี้ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้กับทั่วโลก โลกสับสนวุ่นวาย อัตราการโจรกรรมและสังหารเพิ่มขึ้นเท่าทวี ศาสนาหัวรุนแรงประกาศจุดจบของโลก และกลุ่มคนเร่ร่อนก็ตัดสินใจเข้าร่วม6ประเทศเพื่อขอความคุ้มครอง
ในช่วงสงคราม 6ประเทศมีนโยบายเข้มงวดและก็ทำการสืบสวนอย่างเข้มงวด คอยจับตาดูคนเร่ร่อน ดังนั้น คนเร่ร่อนจึงไม่กล้าพูดอะไรที่ทำให้6ประเทศโกรธ ในช่วงเวลาแห่งความสงบสุขและความรุ่งเรือง คนเร่ร่อนเหล่านี้กลับไม่รู้สึกถึงประโยชน์ของการมีประเทศเพื่อนบ้าน แต่สำหรับผู้ละทิ้งประเทศตนเอง พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของการมีประเทศที่พึ่งพาได้ การเลือกปฏิบัติและการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมมีอยู่ทั่วมุมโลก คนเร่ร่อนอาจอยู่ในสถานะต่ำกว่าสุนัขจรจัด และพวกเขาก็ทำได้แค่อยู่เงียบๆเพื่อขอความเมตตา
ดังนั้น คนเร่ร่อนบางคนจึงยังอยู่แบบไร้บ้าน ถูกโจรปล้นและโจมตีโดยสัคว์ร้ายแทนการเข้าร่วม6ประเทศ สำหรับพวกเขา ทางเลือกเดียวคือการขอความช่วยเหลือจากตาข่ายมืด โดยปราศจากนโยบายและข้อกำหนด คนเร่ร่อนจึงอยากเข้าร่วมตาข่ายมืด และเงินกับทรัพยากรทั้งหมดของเบนเน็ตก็ถูกนำมาใช้ เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า ลงมาบรรเทาความทุกข์ทรมานทั่วโลก
“อ่า ความไร้ประโยชน์ของสงคราม”
ชั้นบนสุดของเขตอนุรักษ์หนึ่ง เบนเน็ตยืนข้างหน้าต่างขณะที่ดวงตาเฉียบแหลมเขาสะท้อนให้เห็นถึงเขตอนุรักษ์
หมอกแห่งสงครามปกคลุมหอคอยและทุกคนบนอความารีนก็กังวลถึงอนาคตพวกเขา ถึงแม้เขตอนุรักษ์นี้จะก้าวไปสู่อนาคตสดใส เบนเน็ตก็ยังคงมีปัญหาเรื่องการกระทำของหานเซี่ยว มันผ่านมาหลายวันแล้วและเบนเน็ตก็ไม่ได้ยินข่าวคราวจากหานเซี่ยวเลย
เบนเน็ตไม่อาจเข้าใจหานเซี่ยวได้ ในอีกด้านหนึ่ง หานเซี่ยวนับเป็นผู้ช่วยคนสำคัญเขา และตอนนี้ ขนาดของเขตอนุรักษ์สามก็ใหญ่ยิ่งกว่าเขตอนุรักษ์1และ2ไปแล้ว บางครั้งเบนเน็ตยังพิจารณาเปลี่ยนชื่อเขตอนุรักษ์หนึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ปีศาจทมิฬด้วยซ้ำ
ในทางกลับกัน การเคลื่อนไหวของปีศาจทมิฬกลับไม่อาจคาดเดาได้ และเบนเน็ตก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบ ถึงแม้ความผิดพลาดจะน้อยนิดเทียบกับความสำเร็จของปีศาจทมิฬ เบนเน็ตก็ยังเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็ว เขาจะต้องรับโทษสำหรับการกระทำ
“เราได้รับข้อมูลจากแนวหน้าครับ มีการเคลื่อนไหวผิดปกติในสนามรบ เชิญดูครับ”ผู้ช่วยรีบเข้าห้องมาและส่งแล็บท็อปให้
ในฐานะเครือข่ายข่าวกรองที่ใหญ่สุดบนดาว ตาข่ายมืดได้ติดตามสถานการณ์การรบอยู่เสมอ เบนเน็ตอ่านข้อมูลล่าสุดอย่างถี่ถ้วน
“สองวันก่อน ทางใต้ของแอนเดรียประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ องค์กรต้นกำเนิดซึ่งเป็นฝ่ายป้องกันได้ทุ่มการตรวจค้นขนาดใหญ่รอบสำนักงานใหญ่ ในเวลาเดียวกัน 6ประเทศก็ได้กดดันองค์กรต้นกำเนิดจากทางฝั่งใต้และออก ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังส่งกองทัพเข้าไปแทรกซึมอาณาเขตขององค์กรต้นกำเนิด จากการเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่าย มันบ่งชี้ว่าพวกเขามีเป้าหมายเดียวกัน”
“มีรายงานว่าเป้าหมายคือคนทรยศที่องค์กรต้นกำเนิดต้องการตัวมากสุด ซีโร่ เขาได้แทรกซึมเมนเฟรมและดึงข้อมูลลับจำนวนมากขององค์กรต้นกำเนิดมาก ทั้งองค์กรต้นกำเนิดและ6ประเทศกำลังสู้เพื่อชิงข้อมูล จากสายเราใน6ประเทศ ข้อมูลนี้จะเป็นตัวตัดสินสงคราม”
เบนเน็ตหยุดอ่านและถอนหายใจ“ซีโร่...ฉันรู้จักชายคนนี้ เหตุผลที่องค์กรต้นกำเนิดตกต่ำจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะเขา คนทรยศที่ทำให้องค์กรต้นกำเนิดตกลงสู่เส้นทางแห่งความพินาศ ตอนนี้เขาได้รับข้อมูลสำคัญของสงคราม และเขาก็เป็นตาพายุ เขาเป็นคนที่น่าประทับใจ แม้เขาจะมีชีวิตอยู่ในยุคเก่า เขาก็อาจเป็นตำนานที่หล่อหลอมโลก”
จากนั้นเบนเน็ตก็พลิกอ่านหน้าถัดไป
“นอกจากนี้ ซีโร่ยังเรียกตัวเองว่าหานเซี่ยว และเขาก็มีหน้ากากที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้ในชั่วพริบตา ปีศาจทมิฬเป็นหนึ่งในตัวตนเขา”
เบนเน็ตพูดไม่ออก
ปัง!
สามวินาทีต่อมา หน้าต่างสำนักงานก็แตกเป็นเสี่ยงๆเมื่อเบนเน็ตโยนแล็บท็อปทิ้ง แล็บท็อปพุ่งทะลุท้องฟ้าและกระแทกกับพื้น ผู้คนบนพื้นประหลาดใจและเงยหน้าขึ้นมอง
“หานเซี่ยว!ไอระยำ!”
เบนเน็ตโกรธจัด เขาเกาหัวด้วยความคลุ้มคลั่ง และจัดทรงผมเขาให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินกลับไปสงบสติในห้องเขา
ต้นกำเนิดของปีศาจทมิฬมักลึกลับ ราวกับตัวตนเขาเกิดขึ้นจากอากาศธาตุ เบนเน็ตพยายามหาประวัติเขา แต่น้ำเสียงของหานเซี่ยวก็แสดงถึงการปกปิดสูง
“มนุษย์ทุกคนล้วนมีอดีตที่ไม่อยากเผชิญ เหมือนกับมือที่เปื้อนเลือดของคุณ และนั่นก็คือเรื่องจริงสำหรับผม ผมได้ทำผิดพลาดมามาก ผมเคยสวมหน้ากาก และไม่เคยรู้ว่าตัวเองแท้จริงแล้วเป็นใคร ผมเพิ่งพบตัวตนที่แท้จริงของผม และแน่นอน คุณไม่รู้จักผม”
เบนเน็ตเชื่อในตัวเขา เขาพยายามนึกตำนานไร้หน้าในองค์กรต่างๆ และเขาก็จำได้ว่ามีชายผู้ทรงอำนาจหายไปในกระแสประวัติศาสตร์ จากประสบการณ์เขา เขาได้ข้อสรุปว่าหานเซี่ยวคือชายคนนั้น ชายผู้ต้องการปลักวิเวก เบนเน็ตคิดว่าเขาคงมีหัวข้อทั่วไปให้พูดกัน
ตอนนี้ เบนเน็ตกลับรู้สึกผิดหวัง
นายกล้าหลอกฉันได้ยังไง
เบนเน็ตสูดหายใจลึกและปล่อยลมหายใจยาว เขามองภาพสะท้อนนี้บนกระจกแตกและจัดทรงผมเขา หลังสงบสติลง เขาก็หันไปมองผู้ช่วยที่ตัวสั่นและกล่าว“ข้อมูลนี้กระจายสู่สาธารณะไหม?”
ผู้ช่วยพยักหน้า
เบนเน็ตนั่งลงและจมลึกลงในความคิด พลางเคาะนิ้วบนโต๊ะเหมือนกำลังเล่นเปียโน
...
ทางฝั่งทิศใต้ของแอนเดรีย ขบวนรถถูกสกัดกั้นโดยมังกรดารา รถหลายสิบคนอยู่ในพื้นที่พร้อมขีปนาวุธ
แผนก13มังกรดาราเริ่มภารกิจแทรกซึมพวกเขา พวกเขาเข้ายึดฐานทหารในส่วนในของเขตองค์กรต้นกำเนิดและก็มีหัวรบอยู่หลายชุด
สายลับของทุกประเทศล้วนลงมือพร้อมกัน พวกเขาค่อยๆบั่นทอนพลังขององค์กรต้นกำเนิดด้วยข้อมูลที่หานเซี่ยวให้มาก่อนเริ่มสงคราม พวกเขาได้คิดแผนขึ้นหลังรู้กลยุทธ์ขององค์กรต้นกำเนิดและขนาดของปฏิบัติการพวกเขาก็แคบลงเรื่อยๆ ดังนั้น 6ประเทศจึงหมดหวังกับข้อมูลที่หานเซี่ยวมี
สายลับกลุ่มเล็กได้ออกจากรถ และทีมของตี้ซูซูและจางเหว่ยก็อยู่ในนั้น
ตี้ซูซูกำลังจะโบกมือให้หลี่ย่าหลิน แต่ก็เห็นหลี่ย่าหลินพร้อมพวกของเธอรีบออกจากพื้นที่ไป
หลี่ย่าหลินและทีมเธอพุ่งเข้าห้องบัญชาการ
“ท่านคะ ดูเหมือนว่าหานเซี่ยวจะมีข้อมูล!”หลินเหยากล่าวอย่างกังวล
ผู้บัญชาการพยักหน้า และก็ส่งเอกสารให้“สถานการณ์ซับซ้อน เจ้าหน้าที่ระดับสูงอยากให้ฉันมอบข้อมูลนี้ให้พวกเธอ”
หลี่ย่าหลินคว้าเอกสารมา และทุกคนก็เบียดหัวเธอเพื่ออ่าน บนบรรทัดแรก เอกสารระบุว่าตัวตนที่แท้จริงของปีศาจทมิฬคือหานเซี่ยว
“ฮ่าๆ เขาคือปีศาจทมิฬจริงๆ ฉันเดาถูกด้วย!”หลี่ย่าหลินระเบิดเสียงหัวเราะดัง และเสียงหัวเราะเธอก็เหมือนเสียงระฆัง เธอตบหลินเหยาด้านหลังและเขาก็เกือบหน้าทิ่ม
ในสนามรบแม่น้ำเทอดราม่า หลี่ย่าหลินจำหานเซี่ยวได้ ในเวลานั้น ทุกคนในทีมพากันคาดเดาถึงตัวตนของหานเซี่ยว จางเหว่ยรายงานต่อเบื้องบน แต่เบื้องบนก็ไม่กล่าวอะไร บอกแค่ว่าอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก ราวกับพยายามปิดซ่อนบางสิ่ง หลินเหยาได้ขโมยบันทึกบางส่วนมาได้ แต่ก็ตระหนักว่าเบื้องบนไม่สนใจบันทึกนี้และไม่เคยติดตามคดีดังกล่าว
ตอนนี้ มันพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาคิดถูกและความจริงนี้ก็เหมือนการตบหน้าเหล่าเบื้องบน
หลี่ย่าหลินถอนหายใจยาว
“รอเดี๋ยว..”สีหน้าจางเหว่ยดำมืด“เขายังมีอีกตัวตน”
ทั้งทีมรีบอ่านกระดาษ และก็ต้องตกใจ
ซีโร่คือหานเซี่ยว?!
งั้น ตัวตนจริงเขาก็คือคนทรยศที่องค์กรต้นกำเนิดต้องการตัว!
เมื่อนึกถึงพฤติกรรมแปลกๆของหานเซี่ยวตอนเขาเข้าร่วมมังกรดารา ทุกคนก็เหมือนเชื่อมปริศนาได้
นั่นคือเหตุผลที่เบื้องบนอยากปกปิดตัวตนเขา เขาถูกองค์กรต้นกำเนิดหมายหัว
ตอนนี้เรารู้ว่าทำไมถึงไม่มีใครจับซีโร่ได้ เขาสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์เขาได้นี่เอง
ตอนนี้เรารู้แล้ว...
เหตุการณ์ลึกลับทั้งหมดที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะมีคำอธิบายแล้ว ผู้คนต่างตกตะลึงกับความจริงนี้
หลินเหยากลืนน้ำลายและกล่าว“ประวัติเขาน่าเหลือเชื่อมาก”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ไม่มีใครคิดว่าเพื่อนร่วมทีมพวกเขาจะเป็นตำนาน
อีกฝั่งหนึ่ง สีหน้าห่าวเย่เย็นชา เขาเคยได้ยินมามากเกี่ยวกับสมาชิกทีมเก่าคนนี้ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่สุดยอดขนาดนี้
ตี้ซูซูเองก็ตามเข้ามาและอ่านเอกสารบนโต๊ะ ผู้บัญชาการไม่ได้หยุดเธอ ยังไงข้อมูลนี้ก็คงกระจายออกไปอยู่ดี
หลังอ่านเอกสาร สีหน้าตี้ซูซูก็เปลี่ยนไป
“ไม่แปลกใจเลยตอนฉันเห็นปีศาจทมิฬใกล้เมืองนกนางนวล ฉันรู้สึกว่าเขาคุ้นเคย มันกลับกลายเป็นว่าเขาคือหานเซี่ยว...รอเดี๋ยว งั้นสิ่งที่จิ้งจอกทองกล่าวก็...”
เมื่อเธอพูดถึงเหตุการณ์ ทุกคนในห้องก็ขนลุกและหยุดไม่ให้เธอพูดต่อ
หลี่ย่าหลินตระหนักถึงความอันตรายในตัวหานเซี่ยว เธอถามถึงสถานการณ์ ผู้บัญชาการตอบกลับ“นอกจากปฏิบัติการทางทหาร เจ้าหน้าที่ยังได้จัดตั้งทีมคุ้มกันเพื่อเข้าสนามรบและนำตัวหานเซี่ยวออกมา”
จางเหว่ยเดินมาและถาม“เราสามารถเข้าร่วมทีมคุ้มกันได้ไหมครับ?”
ผู้บัญชาการส่ายหัว“คุณยังไม่ถึงมาตรฐานของทีม”