84 ทอดถอนใจอย่างเลื่อมใส
84 ทอดถอนใจอย่างเลื่อมใส
ทุกอย่างควรจะทำไปทีละขั้นทีละตอน เมื่อหวังเย้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว เขาจึงกลับบ้านไปกินข้าว เขากลับมากินข้าวเย็นที่บ้านบ่อยขึ้นเพราะเป็นช่วงเวลาที่ใกล้จะปีใหม่แล้ว
“แม่ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?” หวังเย้ารู้ว่าเวลานี้จะเป็นช่วงที่ยุ่งมากเพราะใกล้ปีใหม่แล้ว พวกเขาต้องปัดกวาดเช็ดถูบ้าน อบขนมปัง และทำกับข้าวด้วยเนื้อและผัก
“ไม่ต้องหรอก พี่สาวของลูกบอกแม่ว่าเธอจะได้หยุดอีกไม่กี่วันนี้แล้ว เธอจะกลับมาและช่วยแม่ทำงานบ้านเอง” จางซิวหยิงพูด
“ได้ครับ”
...
ในตอนกลางคืน ที่ห่ายชิวห่างจากหมู่บ้านไปหลายไมล์ ในบริเวณที่อยู่อาศัยติดทะเล
ในวิลล่า แม่และลูกชายนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นและดูทีวี
“แม่ แม่ดูดีกว่าก่อนหน้านั้นมากเลยนะครับ!” ชายวัยกลางคนพูด
แม่ของเขาดูซีดเซียวเมื่อเขาออกไปข้างนอก เธอแทบจะไม่มีสีเลือดบนในหน้าเลย เพราะเธอไม่มีกำลังไม่มากนัก แต่ตอนนี้ในหน้าของเธอดูกระปรี้กระเปร่าและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซึ่งมันหาได้ยากมาก
“ใช่ ยาที่เทียนหยวนถูนำมาให้มันได้ผลดีมาก!” เธอชื่นชม เธอดูดีที่สุดถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง มันเป็นเวลาแค่ครึ่งวันเท่านั้นหลังจากที่ได้ดื่มยาและเธอก็สามารถรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีของร่างกายได้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เธอทั้งรู้สึกยินดีและประหลาดใจมาก
“ดีแล้วที่มันได้ผล ผมจะบอกเขาถ้าแม่กินหมดแล้ว ผมจะขอให้เขาเอามาให้อีก” ชายวัยกลางคนพูดอย่างยินดี
“ดีเลย ลูกควรจะเชิญหยวนถูมากินข้าวที่บ้านของเรา แล้วแม่จะทำกับข้าวให้ทานกัน”
“เยี่ยมไปเลยครับ ผมไม่ได้กินฝีมือแม่มานานแล้ว”
เมื่อเห็นอาการที่ดีขึ้นของแม่ ชายวัยกลางคนก็รู้สึกดีใจมาก
“หมอที่ปรุงยานี้ขึ้นมานั้นยอดเยี่ยมมากจริงๆ!” เธอชื่นชม
“ใช่ครับ เขาเก่งมาก” เขาพูด
...
บนเนินเขาหนานชาน หวังเย้าอ่านหนังสืออยู่ภายในกระท่อมที่หนาวเย็น เขาเก็บหนังสือกลับเข้าไปในช่องเก็บของของระบบ
เมื่อนอนลงบนเตียง เขาก็คิดเกี่ยวกับภารกิจที่เขาเพิ่งจะได้รับมา เขาควรจะพิจารณาให้รอบคอบ เพราะมันไม่สามารถที่จะสำเร็จได้เองและเขาก็จะถูกลงโทษ
เขายังคิดอะไรไม่ออกและหลับไป
เช้าของวันต่อมา เขารับสายของแม่ของเขาในขณะที่กำลังทำงานอยู่ในแปลงสมุนไพร พ่อของเขาไอในตอนกลางคืนและรู้สึกไม่ค่อยสบายในตอนเช้า เธอจึงขอให้หวังเย้านำสมุนไพรที่ช่วยรักษามาให้หน่อย
หวังเย้าจึงตรงไปที่บ้าน
เขาพบว่าพ่อแม่ของเขายังอยู่ภายในบ้าน แล้วเขาจึงดูอาการของพ่อ มันเห็นได้ชัดว่าพ่อของเขามีอาการอักเสบในคอ หวังเย้าหาสมุนไพรมาหลายตัว หลังจากที่เขากลับมาบนเนินเขาแล้ว เขาได้ทำยาที่ช่วยเรื่องลดเสมหะและรักษาอาการอักเสบในคอให้พ่อของเขา
“พ่อ ในสองสามวันนี้พ่อควรหยุดสูบบุหรี่นะครับ”
“ได้” หวังเฟิงฮวาตอบ
หวังเย้าช่วยงานพ่อแม่ของเขาเล็กๆน้อยๆ ก่อนจะกลับขึ้นไปบนเนินเขา
“เขามีความสามารถจริงๆ” หวังเฟิงฮวาพูดกับภรรยาของเขาในตอนที่พวกเขากำลังทำงานกันอยู่
“ความสามารถ? ความสามารถอะไร?” จางซิวหยิงหยุดงานในมือและพูด
“ฉันรู้สึกสบายขึ้นมากหลังจากที่ได้กินยาของเขา” หวังเฟิงฮวาพูด
“แน่นอน เพราะเขาคือลูกชายของฉันยังไงล่ะ” จางซิวหยิงพูดด้วยความภูมิใจ
ได้มีแขกพิเศษขึ้นมาเยี่ยมหวังเย้าที่กำลังทำงานอยู่บนเนินเขา หนึ่งก็คือเหอฉีเชิงที่มักจะมาบ่อยๆและมีชายหนุ่มอยู่ข้างกายเขา เขาดูเด็กกว่าและหน้าตาดีมาก
“สวัสดีครับ ผมคือกั๋วเจิ้งเหอ” ชายหนุ่มพูด หวังเย้าพอจะรู้แล้วว่าเขาคือใคร เขาก็คือน้องชายของกั๋วซือหรง คนที่เคยถูกพิษคนนั้น เขาสามารถกลับมาจากความตายได้ด้วยยาของหวังเย้า
“ผมมาที่นี่เพื่อขอบคุณคุณครับ” กั๋วเจิ้งเหอดูเป็นคนที่ซื่อสัตย์ แต่ดูเหมือนว่าการมาแสดงความขอบนั้นจะช้าไปสักหน่อย
“เจิ้งเหอกลับไปเรียนต่อทันทีที่เขาหายดีน่ะครับ เขาจึงไม่ทันได้มาที่นี่ แต่พอถึงช่วงวันหยุดเขาเลยตั้งใจเดินทางมาที่นี่เพื่อแสดงความขอบคุณโดยเฉพาะครับ” เหอฉีเชิงอธิบาย
“ไม่เป็นไรหรอก เพราะยาที่ใช้ก็ราคาแพงมาก” หวังเย้าพูดอย่างสงบ ในทางกลับกัน มันก็คือการแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ ดังนั้นเจิ้งเหอไม่จำเป็นที่จะต้องมาขอบคุณเขาเลย
“ผมได้จ่ายเงินให้กับโรงพยาบาล แต่พวกเขากลับรักษาผมไม่ได้ แต่คุณกลับเป็นคนที่ช่วยผมไว้ ผมจึงมาที่นี่เพื่อขอบคุณครับ” ชายหนุ่มพูด
“เข้ามาข้างในก่อนสิ” หวังเย้าพูดกับพวกเขาทั้งสองด้วยรอยยิ้ม
ซานเซียนมองพวกเขาเข้าไปในกระท่อมเงียบๆ
“เชิญดื่ม” หวังเย้าเสริฟชาให้กับพวกเขา
“ชานี่ดีมาก ใช่ชาฉีเหมินรึเปล่าครับ?” ชายหนุ่มดื่มชาและชื่นชม
“ใช่”
“พี่ชาย ผมเรียกคุณแบบนี้ได้ไหมครับ?” กั๋วเจิ้งเหอถามด้วยรอยยิ้ม
“แล้วแต่คุณเลย”
“คุณมีชีวิตที่ดีมากเลยนะ!?”
“เพื่อนของผมให้ชานี้มา และตอนนี้ผมก็ชงมันให้กับพวกคุณ”
เหอฉีเชิงนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง เขารู้สึกประหลาดใจในขณะที่กำลังดื่มชาอยู่
ภายในกระท่อมนี้มันหนาวมาก กั๋วเจิ้งเหอจึงทนไม่ไหว
“มันหนาวมาก แต่คุณกลับไม่มีฮีตเตอร์เลยเหรอ?” กั๋วเจิ้งเหอถามด้วยความงุนงง
“ผมชินกับมันแล้ว” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“นั้นมันสุดยอดมาก!” กั๋วเจิ้งเหอพูด
ไม่มีคนธรรมดาที่ไหนที่จะทนกับความหนาวแบบนี้ได้เลย
“ขอบคุณ”
กั๋วเจิ้งเหอและเหอฉีเชิงนั่งอยู่ภายในกระท่อมสิบกว่านาทีแล้ว กั๋วเจิ้งเหอนั้นสงสัยเกี่ยวกับสมุนไพรหลายตัว หวังเย้าจึงชี้ไปที่สมุนไพรทั่วๆไปให้ดูและไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก สมุนไพรรากนั้นถูกปลูกเอาไว้ตรงนั้น แต่มันก็ถูกบดบังด้วยสมุนไพรทั่วๆไป คนอื่นนั้นอาจจะถูกหลอกได้ง่าย แต่กับเหอฉีเชิงนั้นไม่ใช่ เพราะเขามีความรู้ความเข้าใจเรื่องสมุนไพรสูงมาก และหวังเย้าก็สังเกตุเห็นได้
พวกเขาต่างมีคำถามมากมายอยู่ในใจ โดยเฉพาะเหอฉีเชิง แต่เขาก็พูดออกมาแค่สองคำเท่านั้น “ผมนับถือคุณจริงๆ!” สองคำนี้พูดออกมาจากใจจริงๆของเหอฉีเชิง