บทที่ 98 เอาชนะกั่วเซี่ย
บทที่ 98
เอาชนะกั่วเซี่ย
ในพื้นที่อันกว้างขวาง กั่วเซี่ยและหลี่ฟู่เฉินอยู่ห่างกันประมาณ 10 เมตร
หนึ่งคืออัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาก่อนในตระกูลเซี่ย ผู้มีโครงกระดูกระดับ 4 ดาวอันไม่ธรรมดา
อีกหนึ่งเป็นคนจากตระกูลหลี่ที่มีสถานะต่ำต้อย แต่เขาพึ่งพาความรู้สึกอันเฉียบแหลมของตัวเองในการบรรลุทุกสิ่งที่เขามีในขณะนี้
การต่อสู้ระหว่างสองคนนี้มีความหมายที่สำคัญมาก
แม้แต่กระทั้งการแสดงออกของกั่วหยี่หลงและหลี่เทียนชิก็กลายเป็นจริงจัง
“หลี่ฟู่เฉิน เรื่องเกี่ยวกับการยกเลิกการหมั้น ข้าไม่ได้เสียใจ ชะตากรรมของข้า ข้าจะเป็นคนควบคุมเอง ไม่มีใครสามารถจัดการกับชะตากรรมของข้าได้” กั่วเซี่ยกล่าวอย่างสงบ
หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “กล่าวตามความจริง ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยชอบเจ้าอยู่แล้ว สิ่งที่ข้า หลี่ฟู่เฉินปรารถนา ข้าจะหาวิธีรับมันมาด้วยวิธีการของตัวเอง ข้าไม่ต้องการความเมตตาจากคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแต่งงาน”
“เจ้าไม่เคยชอบข้า?”
ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากได้ยินคำกล่าวนี้ ลมหายใจของกั่วเซี่ยก็กลายเป็นติดขัด
เธอมั่นใจในความสามารถและรูปลักษณ์ของเธออย่างมาก ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอยังเด็กเกินไป คนเธอไม่เคยอยู่ในสายตาของเธอเลย กลับไม่ชอบเธอเหมือนกัน แม้ว่ามันจะเป็นคนอื่น พวกเขาก็คงจะรู้สึกไม่สบายใจ
“เนื่องจากเป็นเช่นนี้ การต่อสู้ครั้งนี้จะแก้ไขข้อพิพาททั้งหมดของเรา!” หายใจเข้าลึกๆ ในสายตาของกั่วเซี่ยก็เหลือแต่เจตนาการต่อสู้ที่บริสุทธิ์และไม่มีอะไรอื่นอีก
“เสียใจด้วย การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นฝ่ายข้าที่ชนะ”
หลี่ฟู่เฉินไม่มีความตั้งใจที่จะชักดาบของตัวเองและมองไปที่กั่วเซี่ยอย่างไม่ใส่ใจ
ด้วยสายตาที่เย็นชาของเธอ กั่วเซี่ยดึงดาบเหล็กสีดำออกมาและพุ่งไปที่หลี่ฟู่เฉินอย่างรวดเร็ว
ระดับการบ่มเพาะของกั่วเซี่ยอาจต่ำกว่ากั่วหยานอยู่หนึ่งระดับ แต่ความสามารถโดยรวมของเธอดีกว่ากั่วหยาน
ไม่เพียงแต่มีเทคนิคลึกลับหยกเงาขั้นกลางระดับเก้าเท่านั้น เธอยังมีทักษะดาบลึกลับขั้นต่ำด้วยเช่นกัน วิชาดาบวารีลี้ลับขั้นสมบรูณ์ย่อย
นอกจากนี้ ร่างกายพายัพประจัญบานเมฆาของเธอก็อยู่ในขั้นสมบรูณ์ ทำให้เธอมีความแข็งแกร่งทางกายภาพอยู่ที่ 7000 กิโลกรัม
ด้วยปัจจัยทั้งสามนี้ มันจึงอนุญาตให้เธอเอาชนะระดับที่สามหรือสี่ของขอบเขตต้นกำเนิดตามค่าเฉลี่ยได้อย่างง่าย ซึ่งนั้นก็เป็นศิษย์ภายในชั้นสาม
และกั่วหยานก็เป็นเพียงศิษย์ชั้นในขั้นสาม
ท่ามกลางฝูงชนที่อยู่ที่นี่ มีเพียงกั่วเซี่ยและหลี่ฟู่เฉินเท่านั้นที่เป็นศิษย์ชั้นในขั้นหนึ่ง จำนวนศิษย์ชั้นในขั้นสองเองก็ไม่ได้มากและนับได้เดียวมือเพียงข้างเดียว
“คลื่นน้ำลี้ลับ!”
ด้วยการแกว่งดาบ อากาศก็สั่นสะเทือน เมื่อน้ำปรากฎขึ้นกลางอากาศ สร้างระลอก
ทักษะดาบของกั่วเซี่ยนั้นงดงามเป็นพิเศษและไม่มีทางที่จะหยุดได้
“หยกแดงหลอมหิมะ!”
ด้วยการทุ่มพลังทั้งหมดของกั่วเซี่ย หลี่ฟู่เฉินจึงเริ่มลงมือ
ฝ่ามือถูกส่งออกไป แสงจ้าของฝ่ามือทำให้ทุกอย่างภายในไม่กี่เมตรเปลี่ยนเป็นสีแดง
สุ้ม!
เมื่อใบดาบของกั่วเซี่ยปะทะกับฝ่ามือของหลี่ฟู่เฉิน มันก็เป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่ละลายหิมะ เมื่อดาบสำแดงพลัง ต่อมาก็ถูกกัดเซาะอย่างรวดเร็ว
“นี้ไม่ดีแล้ว”
การแสดงออกของกั่วเซี่ยเปลี่ยนไป มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลี่ฟู่เฉินใช้ฝ่ามือหยกแดง ทักษะฝ่ามือสีเหลืองขั้นสูง แต่เมื่อถูกใช้โดยหลี่ฟู่เฉิน พลังของวิชาฝ่ามือหยกแดงก็เกินความคาดหมายอย่างมาก
เปลี่ยนท่าทางดาบของเธอ กั่วเซี่ยเร่งเร้ารับมือด้วยดาบเป็นพันวัล
“รับฝ่ามือของข้า!”
หลี่ฟู่เฉินระเบิดฝ่ามืออีกครั้ง พลังฝ่ามือก็เหมือนเตาเผาไหม้ บังคับให้กั่วเซี่ยหนีกลับไปอย่างต่อเนื่อง
“เทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับระดับที่สิบ?” หลี่เทียนชิรู้สึกสับสน
ส่วนใหญ่ของตระกูลหลี่ได้รับการฝึกฝนทั้งเทคนิคเปลวเพลิงและเทคนิคเปลวเพลิง หลี่เทียนชิอยู่ระดับที่สิบเอ็ดของเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับ เขาจึงรู้สึกได้ถึงความคล้ายคลึงของพลังฉีจากตัวของหลี่ฟู่เฉิน มันเกือบ 80% หรือ 90% ที่คล้ายกับของเขา
นี่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว
มีข่าวลือว่าหลี่ฟูเฉินมีประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยม แต่นี่มันมากเกินไป!
“ข้าไม่สามารถปล่อยให้เขาชนะกั่วเซี่ยได้” ใบหน้าของกั่วหยี่หลงเย็นชา
กั่วเซี่ยเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลกั่ว ความพ่ายแพ้ของกั่วเซี่ยจะเข้าจัดการกับขวัญกำลังใจของตระกูลกั่ว เขาจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
“กั่วเหยา เจ้าจะต้องเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่สำคัญ หากมีโอกาส ข้าไม่รังเกียจหรอกหากเจ้าจะทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส” กั่วหยี่หลงกระซิบกั่วเหยา
เขาที่เป็นผู้นำของตระกูลกั่ว ไม่เหมาะสำหรับงานนี้ มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการที่จะให้กั่วเหยาจัดการกับมัน
“ไม่ต้องกังวล” กั่วเหยาหัวเราะเสียงเย็น
ฟังบทสนทนาของทั้งสอง กั่วเผิงก็หัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็นเช่นกัน
“ใช้ทักษะฝ่ามือกดดันกั่วเซี่ย หลี่ฟู่เฉินผู้นี้อาจกลายเป็นบากหนามในอนาคต”
ตระกูลหยานที่ไม่กังวลในตอนแรก แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นจริงจัง
ไม่ว่าโครงกระดูกที่หลี่ฟู่เฉินมีจะเป็นยังไง ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับอัตราการเติบโตของเขา มันเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ ตระกูลหยางนั้นมีข้อพิพาทที่ไม่ดีกับตระกูลหลี่มานานแล้ว เมื่อหลี่ฟู่เฉินเติบโตมากเกินไป เขาอาจจะทำตระกูลหยางก็ตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
แม้ความเป็นไปได้อาจจะต่ำ หรือถ้าหากเขาไม่บรรลุขอบเขตปฐพี เขาก็จะไม่สามารถข่มขู่ตระกูลหยางได้ แม้จะมีพรสวรรค์ของหลี่ฟู่เฉิน ไม่ว่าเขาจะสามารถบรรลุขอบเขตปฐพีหรือไม่ สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง มันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้
ขณะนี้เอง ตระกูลหยางพัฒนาความเป็นศัตรูต่อหลี่ฟู่เฉินอย่างแข็งแกร่งขึ้น
ในเวทีต่อสู้ กั่วเซี่ยกัดริมฝีปากของเธอและหลบอยู่ตลอดเวลา
หลี่ฟูเฉินที่ใช้ทักษะฝ่ามือในการสะกดข่มเธอ สิ่งนี้ทำให้ตาของเธอพร่ามัว
ในตอนแรก เธอไม่คิดว่าจะเดินมาอยู่เส้นทางเดียวกับหลี่ฟูเฉินอีกครั้ง
เธอไม่เคยคิดเลยว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับเธอ
การดำรงอยู่ของหลี่ฟูเฉินทำให้ความเชื่อมั่นที่เธอเคยมีเปลี่ยนไป
“ต้องชนะ!”
โคจรเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับ หลี่ฟู่เฉินว่งฝ่ามือออกไปอย่างรุนแรง พลังฝ่ามือที่สว่างไสว เข้าไปปะทะกับดาบของกั่วเซี่ย
เลือดสดไหลออกมาจากปากขณะที่ดาบเหล็กสีดำของกั่วเซี่ยตีกลับออกไป ขณะที่เธอกำลังจะพ่ายแพ้...
“หลี่ฟู่เฉิน ความสามารถในการต่อสู้ของเจ้าค่อนข้างดี ให้ข้า กั่วเหยา ให้คำแนะนำกับเจ้า”
ในขณะนี้เอง เงาก็ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้ากั่วเซี่ยและส่งฝ่ามือไปที่หลี่ฟู่เฉิน
“น่ารังเกียจ”
“ไร้ยางอาย”
หลี่เทียนชิและหลี่จิ่นซิ่วสถบ พวกเขาไม่เคยคิดว่าตระกูลกั่วจะใช้วิธีการที่ไร้ยางอายและเล่ห์เหลี่ยมเช่นนั้น
แต่มันเกิดขึ้นเร็วเกินไปและพวกเขาก็ไม่สามารถให้การสนับสนุนได้ทันเวลา พวกเขาสามารถเป็นได้แต่เพียงพยานเท่านั้น
แสงเย็นชาส่องเข้ามาในดวงตาของหลี่ฟู่เฉิน เขาไม่ได้หลบหนีหรือยอมแพ้ ขณะนั้นเองเขาส่งฝ่ามือเข้าไปปะทะกับกั่วเหยา
บูม!
เหมือนสายฟ้าในพายุฝนฟ้าคะนอง
พลังฉีที่น่ากลัวแผ่กระจายออกไป และพื้นดินจากตรงนั้นยุบลงไปสามนิ้ว
พวกเขาสองคนก้าวถอยหลังไปคนละ 7 ถึง 8 ก้าว ในแต่ละก้าวจะทิ้งรอบประทับลึกเอาไว้ที่พื้น
“สิ่งนี้ เป็นไปได้อย่างไร…” กั่วเหยาถูกทำให้ตกใจ
เขาเป็นจอมยุทธ์ขอบเขตต้นกำเนิดระดับห้า แต่เขาก็ไม่สามารถทำร้ายหลี่ฟู่เฉินได้
กั่วเหยาไม่ได้เป็นคนเดียวที่ประหลาดใจ
หลี่เทียนชิและหลี่จิ่วซิ่วต่างก็ประหลาดใจและยินดีเช่นกัน
“กั่วเหยา ใครขอให้เจ้าเข้ามาแทรกแซง? ไปให้พ้น!” การแสดงออกของกั่วเซี่ยเต็มไปด้วยความโกรธ
เมื่อได้ยินกั่วเซี่ย ใบหน้าของกั่วเหยากลายเป็นไม่พอใจ
มันเป็นที่ดีที่เขาไม่ได้ทำร้ายหลี่ฟู่เฉินอย่างจริงจัง แต่เขาก็ได้รับการตำหนิจากกั่วเซี่ย
ไม่มีสิ่งใดที่เขาถูกโปรดปราน
เขาตะลึงไปครู่หนึ่งและไม่รู้จะตอบสนองยังไง
ควบคุมความโกรธของเธอ กั่วเซี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดกับหลี่ฟู่เฉิน “ข้ายอมรับว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นฝั่งข้าที่พ่ายแพ้”
จบคำพูดของเธอ เธอหันและจากไปทันที ไม่สนใจคนจากตระกูลกั่วทั้งหมด
‘สำหรับตอนนี้ เจ้าและข้าไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป’ หลี่ฟู่เฉินคิดอยู่ในใจ ต่อจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา
เขาไม่พอใจที่เอาชนะกั่วเซี่ยไปทั้งๆ แบบนี้ สิ่งที่เขาแสวงหาคือจุดสูงสุดของโลกการต่อสู้ ไม่สำคัญว่าจะเป็นกั่วเซี่ยหรือหยูเหวินเทียนหรืออัจฉริยะอื่นๆ คู่แข่งของเขาคือตัวเขาเอง และตราบใดที่เขาค้นหาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ มันก็คงจะมีวันหนึ่งที่เขาไปถึงจุดสูงสุดและมองลงมาจากสวรรค์ทั้งเก้า
ในระหว่างการแสวงหาความยิ่งใหญ่นี้ ใครก็ตามที่กล้าขัดขวางเขา เขาจะไม่มีความเมตตาและกำจัดพวกมัน