ตอนที่ 249 โลกสั่นคลอน 2
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นคืออุปกรณ์ต่อต้านขีปนาวุธ และเขาก็เกิดรู้พิมพ์เขียวพื้นฐานของอุปกรณ์ป้องกัน ซึ่งถูกเรียกว่าป้อมปราการยืดหด มันสามารถสร้างโล่ทองคำที่ปกป้องเป้าหมายและขัดขวางแรงระเบิดได้
มีพิมพ์เขียวหลากหลายสำหรับเครื่องจักรป้องกัน และที่พบมากสุดก็คือโล่พลังงาน แต่ท่ว ความรู้เกี่ยวกับโล่เหล่านี้จำเป็นต้องศึกษาลึกในด้านพลังงานและป้อมปราการประเภทนี้ก็ไม่ต้องการทักษะระดับสูง มันต้องการแค่พิมพ์เขียวและความเข้าใจพื้นฐานเพื่อสร้างพิมพ์เขียวขึ้น และความทนทานก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้
แต่หานเซี่ยวล้มเลิกคามคิดนั้นอย่างรวดเร็ว ไม่มีทางที่เขาจะสามารถสร้างเครื่องจักรซับซ้อนได้หากไม่มีเครื่องกลึง สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการดัดแปลงและพัฒนารถโดยนำอะไหล่บางส่วนจากอุปกรณ์ศัตรูออกมา สร้างเป็นตัวป้องกันขนาดเล็ก
หลังกำจัดตัวเลือก หานเซี่ยวก็มีความคิดอื่น
ตัวต่อต้านขีปนาวุธ...เราจะต้องหาผู้เชี่ยวชาญ
...
หลังหานเซี่ยวหลบหนีมาได้ องค์กรต้นกำเนิดก็ตอบสนองโดยไม่ลังเล ภายใต้คำสั่งของผู้นำ กองทหารจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มทำการปูพรม กองทัพอากาศและกองทัพภาคพื้นดินถูกเรียกมาพร้อมกัน ขนาดของปฏิบัติการนี้คล้ายกับสนามรบ
ชั่วโมงต่อมา 6ประเทศได้หยิบประเด็นการเคลื่อนไหวขององค์กรต้นกำเนิดขึ้นมา โดยปราศจากข้อมูลใดๆ พวกเขาต้องเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มความปอดลภัยและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดใดๆ จากนั้น ในคืนเดียวกัน ทั้ง6ประเทศก็ได้จัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อวิเคราะห์การรบและพยายามทำความเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวทางทหารขององค์กรต้นกำเนิด
พวกเขาพยายามตามล่าใคร?!
6ประเทศได้ผลักดันทหารพวกเขาไปด้านหน้าฐานองค์กรต้นกำเนิด แต่พวกเขากลับยังมีเวลาทุ่มเทไปตามล่าใครบางคน คนๆนั้นต้องพิเศษมาก
สถานการณ์ไม่เป็นไปตามความคิด และ6ประเทศก็ยังถกเถียงกันว่าควรหยุดปฏิบัติการขององค์กรต้นกำเนิดไหม แม้ศัตรูของศัตรูส่วนใหญ่จะเป็นมิตร แต่เรย์เร็น ธีซุสและออดิน่ากลับคัดค้านการแทรกแซงเพื่อกรณีเป็นกับดักและเสนอว่า6ประเทศควรดำเนินการตามแผนดั้งเดิม
ขณะที่ผู้บัญชาการกำลังหารือกัน ผู้บัญชาการมังกรดาราก็ได้รับข้อความจากแผนก13 สีหน้าเขาเปลี่ยนไป“ทุกคน รอเดี๋ยว กองกำลังผมเพิ่งได้รับข้อมูลสำคัญมา ชายที่กำลังถูกล่าได้ติดต่อแผนกสื่อสารของผม ผมจะส่งต่อข้อความเขาไปยังช่องหลัก”
ทุกคนแปลกใจ
จอภาพกระพริบ และใบหน้าหานเซี่ยวก็เริ่มปรากฏ เขาใช้รูปลักษณ์ดั้งเดิมเขาและผู้บัญชาการก็จำได้อย่างรวดเร็วว่าเขาคือซีโร่ หนึ่งในบุคคลที่ต้องการตัวมากสุดในโลก ชายผู้ให้ข้อมูลแก่6ประเทศปรากฏตรงหน้าพวกเขา เหล่าผู้บัญชาการรอบโต๊ะพากันตกใจ
“คุณคือคนที่องค์กรต้นกำเนิดกำลังไล่ล่างั้นหรอ?”
“ทำไมคุณถึงไปอยู่ในนั้น?”
“ผมแทรกซึมเข้าสำนักงานใหญ่และดึงข้อมูลมาจากระบบกลาง”หานเซี่ยวตอบ“ข้อมูลทั้งหมดของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นกองกำลัง กลยุทธ์และการกระจายขีปนาวุธล้วนอยู่ในมือผมแล้ว นั่นทำให้องค์กรต้นกำเนิดถึงทุ่มทุกอย่างเพื่อฆ่าผม และตอนนี้ ผมอยากตกลงกับพวกคุณ”
เหล่าผู้บัญชาการมองหน้ากัน ไม่มีใครบอกให้ซีโร่ไปขโมญข้อมูล แต่เขากลับทำมันด้วยตัวเอง ซีโร่คนนี้ทำให้องค์กรต้นกำเนิดเกลียดชังมากแค่ไหนแล้ว?เขาอาจต้องการทำลายองค์กรต้นกำเนิดมากกว่าพวกเราซะอีก
“ว่าต่อไป”
“ส่งกองกำลังพวกคุณมาแทรกแซงศัตรู และรับรองความปลอดภัยผม เมื่อผมปลอดภัย ข้อมูลจะเป็นของพวกคุณ”
หานเซี่ยวเตรียมใช้ข้อมูลเป็นชิปต่อรองเพื่อแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือของ6ประเทศ เดิมทีข้อมูลจะถูกส่งไปให้6ประเทศอยู่แล้วและตอนนี้พวกเขากลับต้องแลกเปลี่ยนมัน
ตอนแรก แผนของหานเซี่ยวคือการขโมยข้อมูลและออกมาโดยไม่ให้ใครพบ แต่ทว่า การทำนายของบุตรแห่งโชคชะตาทำให้ผู้นำวางแผนดักเขาล่วงหน้า ดังนั้นเขาจึงต้องปรับเปลี่ยนแผนการ
หานเซี่ยวไม่คาดคิดถึงบุตรแห่งโชคชะตา แต่เขาไม่ได้หงุดหงิดที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน เขาไม่กลัวอุบัติเหตุตราบเท่าที่เขาสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ได้
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวเสียงเย็น“คณไม่อาจพิสูจน์ได้ว่ามีข้อมูลเว้นแต่จะบอกเราตอนนี้ หากคุณทำเช่นนั้น เราจะพิจารณาเรื่องการปกป้องคุณ”
“ข้อมูลนี้สามารถเผาองค์กรต้นกำเนิดให้จมลงได้ และนี่ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชัยชนะ”หานเซี่ยวตอบ“หากพวกคุณไม่ยอมรับเงื่อนไขผม ข้อมูลนี้จะถูกฝังไปพร้อมกับผม ไม่สิ..ไม่ใช่แค่ผม แต่ทหารทั้งหมดของพวกคุณก็จะตายไปด้วย หากองค์กรต้นกำเนิดยอมรับความพ่ายแพ้ พวกเขาอาจกระตุ้นอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดและกวาดล้างทุกคน และจากนั้น พวกคุณจะถามตัวเอง-ว่าทำไมถึงไม่ยอมรับข้อเสนอผม?”
เหล่าผู้บัญชาการพากันกังวลเมื่อหานเซี่ยวเห็นถึงความกังวลหลักพวกเขา พวกเขาไม่รู้ปริมาณหรือที่ตั้งระเบิดนิวเคลียร์เลย หากพวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ทัน งั้นพวกเขาก็สามารถส่งสายลับ ทหารไปจัดการมันได้
“เราจะเชื่อใจคุณได้ยังไง?”
“เพื่อแสดงความจริงใจ ผมจะส่งเอกสารแรกในระบบ’หัตถ์แห่งความตาย’ให้กองทัพมังกรดารา ผมเคยทำงานกับมังกรดารามา และมังกรดาราก็สามารถรับรองได้”
มังกรดาราถูกผลักออกมา ทุกคนมองไปทางกู่หุ่ย และกู่หุ่ยก็ดูหดหู่ ด้วยสีหน้ารำคาญ เขาพยักหน้าซึ่งหมายถึงการรับรอง
“องค์กรต้นกำเนิดมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งมาก ต่อให้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเราก็ยังไม่อาจแทรกซึมสำนักงานใหญ่ได้ แล้วคุณผ่านเข้าไปได้ยังไง?”เจ้าหน้าที่อีกคนถาม
หานเซี่ยวลูบแก้มเขา และรูปลักษณ์เขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
หลังมองหน้าเขา เหล่าผู้บัญชาการก็ดัดตัวขึ้นจากเก้าอี้ทันที
นี่คือใบหน้าของปีศาจทมิฬ!
“น...นาย..”กู่หุ่ยผู้เกือบหงายหลังกล่าวอย่างเหลือเชื่อ“ปีศาจทมิฬ?!”
หานเซี่ยวปรับภาพและแสดงให้เห็นไวเปอร์ข้างตัวเขา“ซีโร่ ปีศาจทมิฬ นั่นคือตัวตนของผม พวกคุณสามารถเรียกผมว่าหานเซี่ยวได้”
ลมหายใจของกู่หุ่ยถี่ขึ้น แผนก13พยายามส่งคนไปติดตามซีโร่ เป้าหมายคือผู้อพยพไร้ที่พักพิงเพราะพวกเขาคิดว่าซีโร่ทำได้แค่หากลุ่มคนเกาะอาศัย แต่พวกเขากลับหาผิดทาง หานเซี่ยวไม่เคยหลบซ่อน แต่เขากลับกลายเป็นนักฆ่าในตำนาน
เหล่าผู้บัยชาการไม่อาจเชื่อความจริงได้ลง ปีศาจทมิฬถือเป็นภัยคุกคามที่หลายประเทศหวั่นเกรงและไม่มีใครสามารถหาตัวตนจริงเขาพบ และตอนนี้ เขากลับแสดงตัวในฐานะซีโร่ คนที่องค์กรต้นกำเนิดต้องการตัวมากสุด
หน้ากากช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้ในชั่วพริบตา มันทำให้เหล่าผู้บัญชาการขนลุก พวกเขาดีใจที่หานเซี่ยวอยู่ฝ่ายเดียวกัน
หานเซี่ยวถอดหน้ากาก และใบหน้าเขาก็สงบ เขายืนตรงและดูทรงอำนาจ หานเซี่ยวไม่ต้องการปกปิดตัวตนเขาอีกต่อไป ไม่ช้าก็เร็ว องค์กรต้นกำเนิดต้องกระจายข่าวนี้ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงเปิดเผยความลับเอง และนี่ก็ทำให้ง่ายต่อการได้รับแต้มตำนานขึ้น
ห้องประชุมเงียบสนิท ไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้สักคำ หลังจากนั้นสักพัก พวกเขาก็เริ่มยอมรับความจริง
“เรายอมรับข้อตกลง เราจะส่งกองกำลังไปปะทะกับพวกเขา ดาวเทียมและอุปกรณ์ต่อต้านขีปนาวุธจะเปิดทำงาน ไม่มีทางที่องค์กรต้นกำเนิดจะยิงขีปนาวุธลงพื้นได้ กองกำลังช่วยเหลืออาจต้องใช้เวลาสักพัก เราไม่ได้รับอนุญาติใดๆในอากาศ ดังนั้นกองทัพอากาศจึงไม่อาจไปพาตัวคุณออกจากสนามรบได้ หลังเราหารือเสร็จ เราจะบอกตำแหน่งคุณ”
หานเซี่ยวยิ้ม“ตกลง”
…
หลังเขาปิดอุปกรณ์สื่อสาร หานเซี่ยวก็ถอนหายใจยาว การเจรจาประสบความสำเร็จและกองทหารของ6ประเทศก็กำลังรุกคืบ แทรกแซงกองกำลังต้นกำเนิด นี่เป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่สุดของหานเซี่ยว
ในจุดนี้ หานเซี่ยวไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอีก ลมหนาวเย็นพัดผ่านแก้มเขา เขาหลับตาราวกับกำลังลิ้มรสอิสรภาพ
ท้ายที่สุดเขาก็สามารถถอดหน้ากากได้หลังสวมใส่มานานกว่าหกเดือน ไม่มีเหตุผลให้ปิดบังอีกต่อไป
จากคืนนี้ไป โลกจะรู้ถึงตัวตนจริงเขา เขาคือซีโร่ และเขาก็คือปีศาจทมิฬ
แต้มตำนานย่อมไหลท่วมเหมือนน้ำหลังองค์กรบนดาวเคราะห์อความารีนยอมรับความจริง
และตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องทำคือบุกฝ่าการปิดล้อมและพบกับทีมกู้ภัยของ6ประเทศ สำหรับหานเซี่ยว การต่อสู้นี้ได้ตบลงแล้ว
ฮีล่าหันไปมองออโรร่าที่กำลังหลับด้วยสีหน้าอบอุ่น
“ในเมื่อนายเชื่อมั่น6ประเทศ งั้นเราก็คงปลอดภัยแล้ว”
“อย่าประมาท ต่อให้เรามีพันธมิตร เราก็ต้องระวังจนกว่าจะพบพวกเขา”
ท้องฟ้าค่อยๆสว่างขึ้นและค่ำคืนยาวนานก็สิ้นสุดลง
การต่อสู้จะเปิดฉากขึ้นหลังอาทิตย์ขึ้น
...
ในคืนนั้น ตัวตนที่แท้จริงของหานเซี่ยวกระจายออกไปเหมือนไฟป่า
ทุกองค์กรตื่นตะลึง
ทั่วโลกตกใจ