ตอนที่แล้วGE184 นางต้องไม่เป็นอะไร [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE186 ตอบแทนด้วยร่างกาย [ฟรี]

GE185 บ้าคลั่ง [ฟรี]


หนิงฝานไม่เคยคลั่งขนาดนี้มาก่อน!

เขาทะยานสู่ทะเลไร้สิ้นสุด สถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอันตราย โดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว

โชคชะตามักเล่นตลก!

เมื่อยามที่อยู่ตระกูลหนิง ก็ถูกขายให้กับนิกายฝ่ายอธรรม

แต่โชคดีที่ได้พบอาจารย์ ผู้ซึ่งนำพาเข้าสู่เส้นทางแห่งการฝึกฝน และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมไป...

หนิงฝานช่วยเหลือหนิงกู่ แต่สุดท้ายหนิงกู่ก็เลิกที่จะเดินในเส้นทางของผู้เชี่ยวชาญ...

หนิงฝานจะทะลวงขอบเขตแก่นทองคำ แต่ก็ต้องเลือกที่จะตัดจื่อเฮ่อออกจากใจ...

เมื่อได้พบชู่ซวนเชียนสื่อ จากที่เคยเป็นปฏิปักษ์ ความสัมพันธ์ก็เริ่มแน่นแฟ้น แต่สุดท้ายก็มีเหตุให้ต้องแยกจาก และนางก็กำลังเผชิญกับอันตราย

ตั้งแต่แรกที่รู้จัก นางไม่เคยบอกกล่าวถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตน นางเก็บซ่อนมันไว้ จึงทำให้หนิงฝานเป็นกังวล

แต่เมื่อยามที่ตนหลับไหล นางกลับหาญกล้า ทำในสิ่งที่นางไม่เคยทำมาก่อน

เหตุใดสวรรค์ต้องพรากนางไปจากข้า!?

“ในเมื่อสวรรค์ลิขิตให้เป็นเช่นนี้ ข้าหนิงฝานก็ไม่ต้องสนอะไรอีก!”

แววตาหนิงฝานเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ความกังวลคลายสิ้น แต่ความรู้สึกที่อยากจะต่อต้านสวรรค์เพิ่มพูน

นางต้องไม่เป็นอะไร!

เพราะนางมีข้าอยู่!

เสียงดังราวกับอัสนีฟาดผ่าดังสนั่นไปทั่วท้องทะเล กลิ่นอายที่หนิงฝานแผ่ออกมาทำให้สัตว์อสูรทะเลสั่นสะท้าน

อัสนีสีดำไร้ที่มา ฟาดผ่าลงท้องทะเลอย่างต่อเนื่อง...

ในท้องทะเล มีเรือเดินสมุทรของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ออกเดินทางไปยังเกาะต่างๆ

ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นคนของนิกายที่อยู่ในส่วนรอบนอกของทะเลไร้สิ้น ที่มักจะเดินทางไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆ

ซึ่งผู้ที่ออกเรือเดินสมุทรได้นั้น ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลัง

เรือลำหนึ่งมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ 10 คน ผู้นำกลุ่มคือชายชราในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง ด้านหลังเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ

ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้สังกัด ‘นิกายนภาทมิฬ’ ชายชราที่เป็นผู้นำกลุ่มคือผู้อาวุโสของนิกาย ซึ่งนำกลุ่มของศิษย์ที่โด่ดเด่นออกมาหาประสบการณ์

แต่ในยามนี้ พวกมันไม่มีกะจิตกะใจจะหาประสบการณ์แล้ว พวกมันบังคับเรือเพื่อมุ่งหน้าหนีอย่างเต็มกำลัง

น่ากลัว… น่ากลัวเกินไปแล้ว!

สีหน้าชายชราแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มหลายคน นำฝูงนางเงือกนับหมื่นตรงไปยังเรือของผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น

การที่สามารถชักนำอสูรทะเลได้นับหมื่นเช่นนี้ แสดงว่าต้องมีวิชาอสูรที่ลึกล้ำ และต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ทะเลส่วนใน เพราะที่ทะเลส่วนนอกไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังเช่นนี้

แต่พวกมันทำไปเพื่ออะไร? ชายชราเองก็คิดไม่ออก… ในเมื่ออีกฝ่ายทรงพลังมากขนาดนั้น ชายชราจึงพาศิษย์ในขอบเขตแก่นทองคำของคนจากไป

แต่เมื่อพวกมันเห็นว่าชายชราเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง พวกมันจึงไม่ไล่ตามไป

“ผู้อาวุโส! พวกมันน่ากลัวมาก… บนเรือลำก่อนหน้ามีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำหลายร้อย ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้นอีกหลายคน แต่พอถูกพวกเงือกรุมล้อม ก็ไม่อาจรอด!” ศิษย์ในขอบเขตแก่นทองคำคนหนึ่งกล่าวด้วยความหวาดกลัว

“พูดมาก! ระวังปากเจ้าด้วย!” ชายชรากล่าวตำหนิ

ชายชราต้องกลับนิกายทันที เพราะหากพวกมันเปลี่ยนใจ ต่อให้เป็นชายชราก็ไม่อาจต้านพวกมันได้

ในขณะที่ชายชรากำลังหลบหนีด้วยความเร็วสูงสุด ชายชรากลับเหลือบเห็นลำแสงสายหนึ่งตรงมา สีหน้าชายชราแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

ไกลออกไปพันลี้ มีลำแสงสีดำสายหนึ่ง ที่แฝงด้วยปราณสังหารอันน่าสะพรึงกลัว กำลังตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ลำแสงสีดำนั้นราวกับกำลังใช้ย่างก้าวพริบตา ทุกครั้งที่ใช้ย่างก้าว เสียงอัสนีฟาดผ่าดังกระหึ่ม จนผิวน้ำทะเลเกิดคลื่นโถม

ผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวดำ ผมดำขลับราวกับหมึกพลิ้วไสว แววตาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง!

การปรากฏตัวของผู้เยาว์ ทำให้ชายชราสัมผัสได้ถึงอันตรายใหญ่หลวง

และจากความเร็วของผู้เยาว์คนนั้น ชายชรารู้ว่าอีกฝ่ายฝืนทำลายทะเลสติเพื่อเค้นความเร็วออกมา

บ้า… บ้าไปแล้ว! ถึงยังยอมทำให้ทะเลสติของตนเสียหายเพื่อใช้ย่างก้าวพริบตา!

พลังอำนาจที่แผ่ออกมาจากร่างผู้เยาว์คนนั้น ทำให้ชายชราสั่นสะท้าน มันรู้ว่าคนผู้นี้ไม่อาจยั่วยุได้

“เห็นเรือที่ถูกฉลามนับหมื่นรุมล้อมหรือไม่?” ผู้เยาว์คนนั้นกล่าวถาม  แต่น้ำเสียงของผู้เยาว์คนนั้นราวกับอัสนีฟาดผ่า จนทำให้ทุกคนหวาดกลัว

ใบหน้าชายชราซีดขาว ผงะถอยไป 2 ก้าว กลิ่นอายที่ผู้เยาว์เปล่งออกมา ราวกับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง ผู้เยาว์คนนั้นแข็งแกร่งขนาดไหนกัน หรือจะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด!

“ทางตะวันออกห่างจากที่นี่แสนลี้ ที่นั่นมีฉลามนับหมื่นจู่โจมเรือลำหนึ่ง ข้าบันทึกทุกเหตุการณ์ไว้ในแผ่นหยก สถานเต๋าเอาไปดูเถอะ… สหายเต๋ากำลังหาเรืออยู่หรือ?”

ชายชราเร่งนำแผ่นหยอกออกมา ส่งให้กับผู้เยาว์คนนั้น จากนั้นป้องมือและจากไปอย่างรวดเร็ว!

แผ่นหยกที่ชายชรามอบให้คือความลับที่ต้องนำส่งนิกาย แต่มันกลับยอมมอบให้ผู้เยาว์คนนั้น เพื่อให้ผู้เยาว์คนนั้นพึงพอใจและปล่อยมันไป

“ขอบคุณท่านมาก!”

ผู้เยาว์คนนั้นแผ่สัมผัสเทพอ่านสิ่งที่บันทึกอยู่ภายใน แววตาเย็นชามากขึ้น ก่อนจะพุ่งทะยานด้วยย่างก้าวพริบตา

ทางตะวันออกห่างจกที่นี่แสนลี้! มีเรือลำหนึ่งถูกฝูงฉลามนับหมื่นจู่โจม นั่นสมควรเป็นเรือล่องสวรรค์หมายเลข 7!

ข่ายอาคมของเรือลำนั้นถูกทำลาย

ย่างก้าวพริบตา!

ย่างก้าวพริบตา!

ย่างก้าวพริบตา!

หนิงฝานใช้ย่างก้าวพริบตาจนเกินขีดจำกัด ทุกครั้งที่ย่างก้าว ทะเลสติจะปริแตกหนึ่งรอย

ยามนี้ หนิงฝานออกห่างจากชายชราผู้นั้น 3 หมื่นลี้แล้ว...

สัตว์อสูรทะเลขนาดยักษ์ สูงใหญ่กว่าร้อยจ้าง แข็งแกร่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น อ้าปากกลืนเอาซากศพของผู้ตาย ศพลอยอยู่ผิวทะเลเข้าไป… นอกจากกลุ่มที่ตาย ยังมีอีกบางส่วนที่หนีไปได้ แต่การเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรทะเลในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม ก็ทำให้กลุ่มที่รอดยากจะยื้อเวลาต่อไป

“นั่นราชาสัตว์อสูรทะเล… พวกเราไม่รอดแน่!”

ราชาสัตว์อสูรทะเล… เป็นชื่อเรียกขานของอสูรทะเลในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม!

มันมีขนาดใหญ่กว่า 100 จ้าง เป็นหมึกสีม่วงมีหนวดยาว คอยเกี่ยวเก็บเอาซากศพที่มันสังหารเข้าปากกินเป็นอาหาร

หนวดของมันทรงพลังถึงขนาดเล่นงานผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำบาดเจ็บหนักไปหลายคน

“วิชาวารีผันแปร!”

เส้นแสงสีนับนับไม่ถ้วน ทะลวงร่างของราชาสัตว์อสูรทะเล จนโลหิตสีม่วงของมันพุ่งกระฉูด

ร่างขนาดใหญ่ของมันหดเล็กลง สีหน้าแปรเปลี่ยนหวาดกลัว และเร่งหลบสุดชีวิต

ช่างน่ากลัว! แสงสีดำนั่นทะลวงร่างที่แข็งแกร่งของมันได้

เมื่อใช้วิชาวารีผันแปร สีหน้าของหนิงฝานซีดขาวยิ่งขึ้น แต่เขายังใช้สัมผัสกระบี่ ทะลวงท้องของมันเพื่อค้นหาร่างของชู่ซวนเชียนสื่อ

แต่ไม่พบนาง!

“ผู้อาวุโส… ผู้อาวุโสดวงจิตแรกเริ่มมาช่วยพวกเราแล้ว! พวกข้าคือศิษย์ของเกาะสมุนไพรเซียน หากท่านช่วยพวกข้า พวกข้าจะ...”

“หุบปาก!” หนิงฝานกล่าวด้วยโทสะ เสียงที่เปล่งออกมาราวกับอัสนีฟาดผ่า จนทำให้คนเหล่านั้นหวาดกลัว

หนิงฝานยังคงฝืนใช้ย่างก้าวพริบตาทะยานไป ไม่ว่าพวกมันจะเป็นตายยังไง ก็ไม่เกี่ยวกับเขา

ใกล้แล้ว… อีกนิดเดียว

ในที่สุดหนิงฝานก็พบซากเรือ และศพของผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก

ไกลออกไปมีสัตว์อสูรทะเลนับหมื่นรุมล้อมบางสิ่ง

พวกมันคือเงือก แม้จะมีใบหน้าที่งดงาม แต่แววตาว่างเปล่า เปล่งเสียงกรีดร้องเล็กแหลม ในปากมีเขี้ยวที่แหลมคม กระทั่งสามารถฉีกกระชากร่างมนุษย์ได้ง่ายๆ

บริเวณนั้นยังมีผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่ตาย กำลังรับมือกับเงือกด้วยอาวุธคู่กาย แต่แม้จะสังหารโดยการทำลายศีรษะของพวกมันไป แต่พวกมันยังคงไม่ตาย ยังคงเหลือแรงฉีกกระชากร่างผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ก่อนที่ร่างของพวกมันจะแน่นิ่งไป

เหนือฝูงเงือกขึ้นไปบนท้องนภา มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้นอยู่ 3 คน จ้องมองเหล่าผู้รอดชีวิตเบื้องหน้าด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

“แบบนี้ผู้อาวุโส 7 ต้องพอใจแน่!”

“ฮ่าฮ่า! น่าเสียดายสตรีนางนั้น ตอนนี้นางคงไม่รอดแล้ว”

“ต่อให้ร่างของนางถูกฉีกกระชาก แต่ยังเอานางมาทำเป็นศพได้... จากนั้นนางก็จะเป็นของข้า!”

ขณะที่พวกมันกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น แสงสายหนึ่งสว่างวาบ เสียงอัสนีฟาดผ่าดังสนั่น เหล่าฝูงเงือกถูกคมกระบี่ฟาดฟัน

แม้พวกมันจะทรงพลังขนาดฉีกร่างของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำได้ แต่เหตุใดหนิงฝานต้องกลัว!

เงือกจำนวนมากเปล่งเสียงร้องโหยหวนเมื่อถูกฟาดฟัน ไม่นานร่างของพวกมันถูกตัดเป็นชิ้นๆ และตกตายอย่างรวดเร็ว

แม้ศีรษะของมันยังไม่ตาย แต่ร่างที่ถูกฟาดฟันเป็นชิ้นๆ ก็ไม่อาจทำให้พวกมันเคลื่อนไหวได้

แม้การใช้สัมผัสกระบี่จู่โจมจะทำให้หนิงฝานบาดเจ็บหนักขึ้น แต่นั่นยังไม่อาจหยุดเขาได้

“บัดซบ ผู้ใดช่างกล้าสังหารเงือกของพวกข้า!”

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มทั้งสามคนนั้นสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง แต่ในทำให้เจตนาสังหารของพวกมันเพิ่มพูน นำขลุ่ยหยกออกมาแล้วเป่าเพื่อควบคุมสัตว์อสูรทะเลที่ยังมีชีวิตรอดให้จู่โจมหนิงฝาน

ไม่ไกลนักมีฝูงฉลามอีกนับหมื่น เมื่อผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นเป่าขลุ่ย ฝูงฉลามก็ว่ายตรงเข้าหาหนิงฝานด้วยไร้ซึ่งความกลัว

ฉลามเหล่านั้นเปล่งเสียงคำราม จนทำให้หนิงฝานสั่นสะท้าน

เงือกที่ว่าทรงพลังขนาดฉีกร่างของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มได้ว่าน่ากลัวแล้ว แต่เสียงประสานที่ฉลามนับหมื่นเปล่งออกมา ก็ทรงพลังขนาดทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้นตายได้

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มทั้งสามคนนั้น ใช้เคลื่อนเสียงฉมามในการหาเรือล่องสวรรค์ และทำลายข่ายอาคมป้องกัน

“ไสหัวไป!”

แววตาหนิงฝานดุดันราวกับปีศาจคลั่ง เขาสัมผัสกระเป๋า นำเอาประกาศิตสังหารออกมาแล้วทำลายมัน

ทันใดนั้น เงากระบี่ขนาดใหญ่ปรากฏ มุ่งเป้าจู่โจมไปยังหนึ่งในสามผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม จนทำให้สีหน้าพวกมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

ปราณกระบี่สังหารเซียนที่ปรากฏ ทำให้ฝูงฉลามหวาดกลัวและเร่งหลบหนีสุดชีวิต

หนิงฝานตั้งสมาธิ แผ่สัมผัสเทพไปรอบทิศเพื่อตามหาชู่ซวนเชียนสื่อ เมื่อหนิงฝานสัมผัสพบนาง เขาก็เร่งใช้ย่างก้าวพริบตา มุ่งตรงไปหานางทันที

ไกลออกไปพันลี้ มีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญราว 10 คน บริเวณนั้นเป็นบริเวณที่เรือถูกทำลาย ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนั้นร่วมมือกันต้านรับการจู่โจมของฉลามและเงือก

ในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น สตรีนางหนึ่งมีสีหน้าซีดขาว เรี่ยวแรงแทบไม่เหลือ ในมือนางถือวงแหวนไม่ปล่อย คอยสังหารฉลามที่เข้าจู่โจม

เหนื่อย… เหนื่อยเหลือเกิน… ไม่ว่าจะสังหารไปมากขนาดไหน พวกมันก็ไม่หมดเสียที

ตาย… แบบนี้ต้องตายแน่ คงไม่ได้พบเขาอีกครั้งแล้ว… จะเกิดอะไรกับเขาหรือเปล่า… เขาจะถูกเงือกจู่โจมหรือเปล่า...

“ไม่หรอก เขาแข็งแกร่งขนาดนั้น… แต่เขาคงไม่รู้ว่าข้ากำลังจะตาย ข้าคงไม่ได้บอกความรู้สึกกับเขาอีกแล้ว...”

ชู่ซวนเชียนสื่อขบฟันแน่น นางสังหารฉลามอย่างต่อเนื่อง แต่คลื่นเสียงที่พวกมันเปล่งออกมา ทำให้อวัยวะภายในของนางแทบฉีกขาด!

*อ๊อก*

นางกระอักโลหิตอย่างต่อเนื่อง และนั่นยิ่งทำให้ฝูงเงือกที่รุมล้อมเปล่งเสียงด้วยความตื่นเต้น

แล้วพวกมันก็ทะยานเข้าใจนาง...

ในช่วงเวลาที่นางสิ้นหวัง แขนข้างหนึ่งก็เข้ามารวบเอวของนาง สัมผัสกระบี่นับหมื่นสังหารเงือกและฉลามโดยรอบ

“ไปให้พ้น!”

หนิงฝานอุ้มชู่ซวนเชียนสื่อทะยานหนีไปอย่างรวดเร็ว

“เจ้ามาทำไม! เจ้าไม่ควรมาที่นี่ ปล่อยข้าไว้แล้วหนีไปซะ...” นางแตกตื่นอย่างที่สุด นางไม่ได้กลัวว่าตนเองจะตาย แต่กลัวว่าหนิงฝานจะตายไปด้วย

“เงียบซะ!”

หนิงฝานกระอักโลหิตคำโต

อาการบาดเจ็บจากขุนพลอสูรลี่ป่านยังไม่หายดี ยามนี้กลับบาดเจ็บร้ายแรงขึ้นไปอีก

การใช้ย่างก้าวพริบตาอย่างต่อเนื่อง แทบจะทำให้ทะเลสติของหนิงฝานขาดสะบั้น

หนิงฝานสัมผัสได้ว่า อีกไม่นานทะเลสติของตนต้องขาดสะบั้น และตกตายในทะเลไร้สิ้นสุดแห่งนี้

หากไม่เพราะหนิงฝานบาดเจ็บสาหัส เขาคงไม่ยอมใช้ประกาศิตสังหารรั้งผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มทั้งสามคนนั้นไว้ เขาคงสังหารพวกมันไปแล้ว

แต่ตอนนี้ หนิงฝานไม่อาจใช้วิชาได้อีกแล้ว

ไกลออกไปด้านหลัง กลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มทั้ง 3 อ่อนจางลงอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนพวกมันไม่ได้ไล่ตามมา

แต่หนิงฝานยังคงไม่ประมาท ยังหลบหนีอย่างต่อเนื่องไม่พัก

“เราจะไปที่ไหนกัน… แต่ยังไงเราคงไม่รอดหรอก” นางกล่าว

นางข้ามผ่านความเป็นความตายมามากมาย แต่คาดไม่ถึงว่าวันนี้จะต้องมาจชีวิตพร้อมกับหนิงฝาน

แต่การได้ตายกับเขา อาจดีกว่าตายเพียงลำพัง

“ไม่ตายหรอก ข้าจะส่งเจ้าไปให้ถึงเกาะมุกหยกฟ้าให้ได้!”

หนิงฝานแทบหมดแรง ยามนี้เขาไม่อาจใช้ย่างก้าวพริบตาได้อีก เขาจึงขบฟัน กระตุ้นปีกวายุอัสนีที่แผ่นหลัง สยายปีกยาวกว่า 3 จ้างพุ่งแหวกท้องนภาไป

แต่ยามนั้นเอง ฝูงเงือกและผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม 2 คนก็เร่งตามมาด้วยความสูง

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มอีกคนรับมือกับประกาศิตสังหาร จนบาดเจ็บหนักไม่อาจติดตามมาได้ พวกมันรู้ว่าหนิงฝานบาดเจ็บสาหัส ไม่มีทางต่อกรกับพวกมันได้

หนิงสานสังหารสัตว์อสูรทะเลของพวกมันไปมากมาย คนอย่างหนิงฝานจึงถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงของพวกมัน ดังนั้นพวกมันต้องสังหารให้ได้

“เด็กนั่นมีสัมผัสกระบี่ อานุภาพของมันก็เหนือว่าที่ตำราโบราณบันทึกไว้ แสดงว่ามันต้องมีวิชาสัมผัสกระบี่ที่ไม่ธรรมดา ถ้าชิงวิชาของมันมาได้ ผู้อาวุโสต้องพึงพอใจมากแน่!”

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มทั้งสองคนที่ตามมา คิดว่าหนิงฝานต้องบาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจหนีได้อีก เพียงแต่ความเร็วของหนิงฝานกลับไม่ลดลงแม้แต่น้อย

หลังจากตามล่าไปหลายหมื่นลี้ ความเร็วของหนิงฝานยังไม่ลดลง ผิดกับพวกมันที่ปราณเหลือไม่มากแล้ว

“พี่สอง จะตามมันต่อหรือเปล่า?” บุรุษร่างผอมสูงกล่าวถาม

“ไม่ดีกว่า ยิ่งนานไปยิ่งอันตราย สัมผัสกระบี่ของมันน่ากลัว...” บุรุษร่างเตี้ยกล่าวด้วยสีหน้ามืดมน

แม้จะผ่านไปอีกหลายหมื่นลี้ แต่ความเร็วของหนิงฝานยังไม่ตก

ในยามนี้เอง ดูเหมือนบุรุษรูปร่างเตี้ยจะนึกบางสิ่งออก

“ที่ความเร็วของมันไม่ลด ไม่ใช่เพราะสมบัติวิญญาณ แต่เป็นอะไรที่เหนือกว่านั้น… น่าจะเป็นสมบัติพิภพ! ถึงพวกเราจะไล่ตามขนาดไหนก็ไม่ทัน!”

“ใจเย็นก่อนพี่สอง นั่นเป็นถึงสมบัติพิภพ ถ้าพวกเราเร่งความเร็วเต็มกำลัง น่าจะตามมันได้ทัน!”

“นั่นสินะ!”

“การที่มันมีสมบัติพิภพในครอบครอง แสดงว่าที่ตัวมีนต้องมีสมบัติล้ำค่าอีกมากมาย!”

“แต่ไม่ว่ายังไง ข้าขอสตรีนางนั้นก็แล้วกัน!” บุรุษร่างเตี้ยยิ้มพลางกล่าว

“ย่อมได้!”

พวกมันมองหน้ากัน หนิงฝานเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่บาดเจ็บสาหัส ย่อมเป็นเหมือนลูกแกะในกำมือพวกมัน

พวกมันเริ่มชักนำพลังธรรมชาติเข้าสู่ตน ร่างแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงสีดำพุ่งตามหนิงฝานไป ทำให้ระยะทางร่นเข้าอย่างต่อเนื่อง

“รนหาที่ตาย!”

แววตาหนิงฝานเผยเจตนาสังหาร แม้ไม่รู้ว่าพวกมันเป็นใคร แต่ในเมื่อพวกมันรนหาที่ตาย เขาจะไม่ปล่อยพวกมันไป!

ในขณะที่พุ่งทะยานไม่หยุดยั้ง หนิงฝานเห็นเกาะอยู่ไกลลิบ

เขาจึงกระตุ้นปีกวายุอัสนีเต็มกำลัง เพื่อมุ่งไปเกาะแห่งนั้น

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม 2 คนที่ตามมา มองหนิงฝานด้วยสายตาเย้ยหยัน

เกาะแห่งนั้นมีนามว่า ‘เกาะเหิงชาน’ มีพื้นที่กว้างกว่าหมื่นลี้ บนนั้นมีนิกายเหิงชาน เป็นนิกายที่มีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำนับพันอยู่

เมื่อหนิงฝานและชู่ซวนเชียนสื่อไปถึงเกาะ ข่ายอาคมป้องกันเกาะถูกทำลาย!

ประมุขนิกายเหิงชาน… หวางเหิง ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้นตกตะลึง สีหน้าที่อาจหาญหายไป เหลือไว้เพียงความหวาดกลัว

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม 2 คน ไล่ตามผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่บาดเจ็บสาหัส พร้อมกับสตรีในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงสุด

คนเหล่านั้นไล่ล่ากันมาหรือ?

ช่างโชคร้าย! เหตุใดต้องมาเข่นฆ่ากันที่เกาะของข้า! การต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม เกาะเล็กๆแค่นี้จะไปต้านรับได้ยังไง?

“ฮ่าฮ่า ไม่หนีแล้วเหรอ? หรือเหนื่อยเกินจนขยับไม่ได้แล้ว!” บุรุษร่างเตี้ยกล่าวเย้ยหยัน

“ไม่ได้คิดหนี แต่ในเมื่อพวกเจ้าอยากตายมากจนาดนั้น ข้าจะสงเคราะห์ให้… เกราะทมิฬฆ่ามัน!”

หนิงฝานสัมผัสกระเป๋า ลำแสงสีดำวาบผ่าน ปรากฏศพที่สวมชุดเกราะสีดำสนิท เหวี่ยงหมัดเข้าใส่บุรุษรูปร่างผอมสูง จนเกราะคุ้มกายของมันแตกเป็นเสี่ยงๆ

หนิงฝานวางชู่ซวนเชียนสื่อลง เจตนาสังหารที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏ ปราณที่ทรงพลังอัดแน่นที่ปลายนิ้ว

“ดรรชนีกระบี่… อ๊อก… อ๊อก...”

หนิงฝานยังไม่กล่าวจบ แต่กลับกระอักโลหิต พร้อมกับเสียงแผ่นดินแตกร้าวดังมาจากภายในเกาะ

ภูเขาจำนวนมากบนเกาะ แปรเปลี่ยนเป็นปราณตรงเข้ามายังนิ้วของหนิงฝาน

ชั่วลมหายใจนั้น หนิงฝานชี้นิ้วไปที่บุรุษร่างเตี้ย จนทำให้มันสัมผัสได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามา!

“แย่แล้ว ถึงมันจะบาดเจ็บ แต่มันยังอันตรายเกินไป! หนีเร็ว!”

“หนีไม่พ้นหรอก! ดรรชนีกระบี่ทะลายขุนเขา!”

แสงปราณกระบี่พุ่งออกจากปลายนิ้วหนิงฝาน

บุรุษร่างเตี้ยสีหน้าแปรเปลี่ยนอัปลักษณ์ การจู่โจมระดับนี้มีเพียงผู้อาวุโสของมันเท่านั้นที่ใช้ได้

โง่เขลา… พวกมันโง่เขลาเอง

ดรรชนีกระบี่ไล่ตามบุรุษร่างเตี้ยที่กำลังหลบหนีสุดชีวิต มันนำสมบัติและอาวุธวิญญาณทั้งหมดมีออกมาต้านรับ แม้สิ่งที่มันมีล้วนเป็นสมบัติวิญญาณระดับสูง แต่ยังไม่ต้านทานได้

เมื่อดรรชนีกระบี่เข้าถึงร่าง บุรุษร่างเตี้ยร่างระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิตทันที แต่ในชั่วอึดใจ ดวงจิตแรกเริ่มของมันแยกออกจากร่างได้ทัน และหนีไปด้วยความเร็วสูงสุด

หนิงฝานราวกับรู้อยู่ก่อน แววตาแปรเปลี่ยนเย็นชา อัสนีฟาดผ่าเข้าที่ดวงจิตแรกเริ่มของมัน

“ตายซะ!”

อันสีฟาดผ่าลงที่ดวงจิตแรกเริ่มอย่างรุนแรง

บุรุษร่างเตี้ยตกตายอย่างสมบูรณ์!

เหลือเพียงบุรุษร่างผอมสูงที่หวาดกลัวจนตัวสั่น เมื่อได้เห็นศิษย์พี่ของมันตกตายต่อหน้า

แม้ศิษย์พี่ของมันจะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มเหมือนกัน แต่อีกไม่นานก็ทะลวงดวงจิตแรกเริ่มเริ่มขั้นกลาง แต่ด้วยดรรชนีกระบี่ของหนิงฝาน ยังไม่อาจเอาชีวิตรอดกลับมาได้

“เจ้าเป็นใคร! ไม่… อย่าฆ่าข้า!”

มันหมดสิ้นจิตใจที่จะสู้ เหลือเพียงความเสียใจที่เลือกไล่ตามหนิงฝาน

หากหนิงฝานไม่บาดเจ็บ พวกมันคงไม่ตามล่า แต่ในเมื่อหนิงฝานบาดเจ็บ พวกมันก็ไม่อยากปล่อยโอกาสหลุดลอย แต่ถึงหนิงฝานจะบาดเจ็บ แต่ยังสามารถสังหารพวกมันได้

หนี… ต้องหนีเท่านั้น!

มันนำเกราะที่เป็นสมบัติวิญญาณชั้นสูงสุดออกมา ระเบิดพลังจู่โจมเพื่อผลักร่างของเกราะทมิฬออกไป แล้วทะยานหนีสุดชีวิต มันคิดว่าจะหนีพ้น แต่ในจังหวะที่มันผลักร่างเกราะทมิฬ และระเบิดพลังใช้ย่างก้าวพริบตา เกราะทมิฬกลับคว้าแขนของมันไว้ จนทำให้แขนของมันขาดสะบั้น!

“อ้า~~”

บุรุษร่างผอมบางร้องลั่น หนิงฝานขบฟันใช้ปีกวายุอัสนีทะยานตามไป ส่งลูกถีบเข้าที่ศีรษะของอีกฝ่ายจนระเบิดเละ

เมื่อกายเนื้อตาย ดวงจิตแรกเริ่มก็ออกจากร่าง และทะยานหนีด้วยความเร็วสูงสุด

แววตาหนิงฝานปรากฏอัสนีวาบผ่าน อัสนีก่อตัวเป็นฝ่ามือ คว้าจับเอาดวงจิตแรกเริ่มที่กำลังหลบหนี

บุรุษร่างผอมบางหวาดกลัว

“เจ้า… เจ้าฆ่าข้าไม่ได้หรอก ข้าคือศิษย์ของ 1 ใน 72 เกาะที่ทรงพลังภายในทะเลไร้สิ้นสุด ‘วังผนึกอสูร’ หากเจ้าสังหารข้า ผู้อาวุโสในนิกายไม่ยอมแน่”

“หุบปาก!”

ฝ่ามืออัสนีบดขยี้ดวงจิตแรกเริ่มของบุรุษร่างผอมสูง อ่านความทรงจำ ชิงกระเป๋าของพวกมันมา ก่อนจะสังหารมัน

สีหน้าหนิงฝานแปรเปลี่ยน “วังผนึกอสูร… หากพวกมันมารนหาที่ตาย ก็อย่าหาว่าข้าไม่สุภาพ!”

ครั้งหนึ่ง หนิงฝานเคยกล่าวกับชู่ซวนเชียนสื่อว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องช่วยเหลือนาง

หนิงฝานจ้องมองไปยังส่วนในของเกาะเหิงชานและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ใครเป็นผู้นำเกาะนี้… ข้าให้เวลา 10 ลมหายใจ ไสหัวออกมาพบข้า”

หนิงฝานยังไม่ถอนเจตนาสังหาร เมื่อผู้เชี่ยวชาญบนเกาะสัมผัสได้ พวกมันล้วนไม่กล้าเปิดปากสักคำ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด