ตอนที่แล้วตอนที่ 39 สายตาสังหาร [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 40 ก้าวขึ้นสู่สังเวียนเป็นตาย (2) [อ่านฟรี]

ตอนที่ 40 ก้าวขึ้นสู่สังเวียนเป็นตาย (1) [อ่านฟรี]


ตอนที่ 40 ก้าวขึ้นสู่สังเวียนเป็นตาย (1)

เร่งความเร็วตลอดทาง

ในขณะที่หลินหานนอยู่บนท้องถนน เขาได้ใช้ความคิดอย่างเงียบๆ

จิตสำนึกของเขาดำดิ่งอยู่ในเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทอง  "ย้อนคิด"ถึงภาพแต่ละฉากของชายในชุดเหล็กผู้ลึกลับอย่างต่อเนื่อง

ดวงตาที่เยือกเย็นของชายคนนั้นเผยจิตสังหารที่ไม่รู้จบ ทำให้เหมือนตกสู่อเวจี รายล้อมไปด้วยทะเลศพกองภูเขาศพ เลือดก่อตัวเป็นคลื่นสุดลูกหูลูกตา

ในกระบวนการของความเข้าใจนี้ทำใหสีหน้าของหลินหานดูซีดเซียว

ใช้เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทองทำความเข้าใจกับขอบข่ายความคิด จึงทำให้สิ้นเปลืองพลังจิตและพลังวิญญาณจำนวนมาก

ทว่า หลินหารนกัดฟันอดทน

หากเขาสามารถเข้าใจขอบข่ายความคิดนี้แม้เพียงเล็กน้อย มันก็อาจจะเกี่ยวข้องกับขอบเขตพลังที่น่ากลัวอย่างยิ่งของชายหนุ่มและหญิงสาวผู้ลึกลับทั้งสอง

มันเทียบเท่ากับการได้รับทักษะโจมตีของนักพรตวิญญาณ

วิถีแห่งนักพรตวิญญาณทั้งลึกลับและแปลกประหลาดยิ่ง แม้ว่าหลินหานจะมี"หนังสือวิญญาณนภา"อยู่ในมือ แต่ในปัจจุบันเขาได้รับเพียงทักษะ"เนตรนภาแห่งนักพรตวิญญาณ"เท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเพียงพลังช่วยเสริมเท่านั้น มีผลช่วยในการสำรวจภูมิประเทศ การมองทะลุระดับพลังของคนอื่น การตรวจจับวิถีในการต่อสู้ เป็นต้น เนตรนภาไม่มีผลสังหารโดยตรง

ดังนั้น หลินหานจึงอดใจรอไม่ไหว อยากจะเข้าใจขอบข่ายความคิดที่แฝงอยู่ในดวงตาพิฆาตของผู้ชายผู้สวมชุดเหล็ก

แน่นอน สิ่งนี่ไม่ได้หมายความว่าชายในชุดเหล็กจะเป็นนักพรตวิญญาณ

เมื่อใดก็ตามที่ถึงขอบเขตระดับเดียวกับชายผู้สวมชุดเหล็กนั้น ลมปราณในร่างกายอาจจะมีพลังในการสร้างความหวาดกลัวแก่วิญญาณไม่มากก็น้อย

จอมยุทธิ์ระดับชายผู้นั้นนั้น ไม่ใช่จอมยุทธย์ธรรมดาอีกต่อไป

"ใกล้เเล้ว เกือบจะเข้าใจแล้ว ... "

หลินหานสื่อสีหน้าที่มีความสุข

หากประสบความสำเร็จ เขาจะมีไพ่ตายอีกใบเพื่อเอาไว้ใช้ในงานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์

ท้ายที่สุด ก็เป็นไปตามที่"ลุงกุ่ย"ได้พูดเอาไว้  ผู้ที่มีคุณสมบัติในเส้นทางแห่งนักพรตวิญญาณนั้นหายากมากเฉกเช่นเขาที่ปลุกพลังวิญญาณได้โดยกำเนิดยิ่งหายากเข้าไปใหญ่

ไม่ต้องพูดถึงรัฐเยียน ต่อให้เป็นทั้งทวีปหลิงอู่ คาดว่ามีนักพรตวิญญาณไม่มากนัก

นักพรตวิญญาณจึงกลายเป็นตำนานบนแผ่นดินใหญ่ เป็นคำที่สื่อถึงความลึกลับและความแปลกประหลาด

เพราะวิธีการต่อสู้ของพวกเขาเกี่ยวข้องกับวิญญาณ เจตจำนง และจิตใจ ที่อยู่นอกเหนือจากเนื้อหนัง จึงเป็นพลังที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง

ขณะที่ใช้พลังวิญญาณหมดไปอย่างรวดเร็วกับการทำความใจ หลินหานเองก็เริ่มเข้าใจสายตาที่สามารถโจมตีเจตจำนงและวิญญาณมากขึ้นทีละนิด เขาได้ตั้งชื่อมันว่า "ดวงตาพิฆาต"

......

หลินหานกลับไปถึงเมืองต้วนเทียนในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน

เขาไม่ได้หยุดพักเลยแม้แต่น้อย ถึงขั้นที่ไม่มีเวลาไปขายสัตว์อสูรที่เขาเก็บเกี่ยวได้จากการเดินทาง เขาเอาแต่รีบเร่งตรงไปที่จวนของตระกูลหลินทันที

เมื่อเข้าไปในจวนของตระกูลหลิน หลินหานถอดแหวนใส่ไว้ไปในเสื้อผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกตรวจพบความผิดปกติ

ส่วนดาบสนิมที่สะพายอยู่ด้านหลังนั้น หลินหานไม่มีความคิดที่จะซ่อน

นี่เป็นดาบสนิมที่มีสภาพย่ำแย่มาก ต่อให้หลินหานโยนทิ้งลงบนพื้นก็ไม่มีใครต้องการ

แต่หลินหานรู้ดีว่าวัสดุของดาบสนิมนี้มีความคมและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่ได้เป็นดาบธรรมดาอย่างที่เห็นภายนอก

"ได้ยินมาว่างานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์ของทำเนียบภายในนั้นดุเดือดมาก ทำเนียบภายนอกเองก็มีอัจฉริยะรุ่นใหม่โผล่ขึ้นมามากมาย อย่างเช่น หลินเทียน หลินหรูเยียน ล้วนเหนือกว่าที่คนอื่นๆจินตนาการ จนถึงขั้นติดอันดับหนึ่งในยี่สิบของทำเนียบภายใน"

“นอกจากนี้ยังมีหลินเหยียน หลินซาและคนอื่นๆที่ติดอันดับ1ใน 50ได้ แน่นอนแล้วว่าคนเหล่านี้จะได้กลายเป็นศิษย์ทำเนียบภายใน”

“โอ้ใช่ หลินหานที่เป็นดั่งราชาคนใหม่จากการประลองของทำเนียบภายนอก ทำไมไม่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเขาเลย”

"ดูเหมือนจะหนีไปแล้ว ได้ยินว่ามีศิษย์ทำเนียบภายในเพ่งเล็งเขา ... "

หลินหานรีบรุดมาอย่างรวดเร็ว ตลอดทางเขาได้ยินเสียงผู้คนจำนวนมากพูดคุยกัน

ทว่า ขณะนั้นหลินหานใช้วิชากายาหงส์สง่า ทำให้เขาเป็นดั่งร่างเงา ตลอดทางจึงไม่มีใครตระหนักถึงเขาได้

"ดูเหมือนว่าหลินเซว่จะหายไปจริงๆ" หลินหานนิ่งเงียบ เขาไม่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับหลินเซว่เลย

ในความเป็นจริง ศิษย์ทำเนียบภายนอกที่หลินหานหมายตา มีแค่หลินเซว่ที่เป็นนักพรตวิญญาณผู้ลึกลับเท่านั้น

เมื่อลองขบคิด หลินหานก็อยากจะขอบคุณหลินเซว่สักครั้ง

เพราะหากหลินเซว่ไม่ได้กระตุ้นให้พลังวิญญาณของเขาปรากฏขึ้น หลินหานก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ เพื่อจะได้เข้าใกล้วิถีแห่งนักพรตวิญญาณอันลึกล้ำอย่างยากจะคาดเดานี้

"งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์สิ้นสุดลง ณ บัดนี้!"

เสียงที่เปี่ยมบารมีอันทรงพลังได้ดังขึ้นอย่างฉับพลันในระยะไกล ในพริบตานั้นหลินหานสามารถรับรู้ได้ด้วยพลังตรวจจับที่แก่กล้า

"แย่เเล้ว! งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์จบลงแล้วเหรอ?"

หลินหานสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ในพริบตานั้นเขาได้เร่งความเร็วยิ่งขึ้น แล้วข้ามแม่น้ำสายใหญ่มาถึงทำเนียบภายในพอดี

เมื่อมองแวบแรก หลินหานก็มองเห็น.. ด้านบนของสังเวียนเป็นตาย มีเสาหินขนาดใหญ่ห้าสิบต้น เสาหินทุกๆต้นมีความยาวต่างกัน ส่วนด้านบนจะมีเงาคนหนึ่งคนนั่งอยู่

คนที่นั่งอยู่บนเสาล้วนเป็นศิษย์ทำเนียบภายใน50คน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด