ตอนที่ 40 ก้าวขึ้นสู่สังเวียนเป็นตาย (1) [อ่านฟรี]
ตอนที่ 40 ก้าวขึ้นสู่สังเวียนเป็นตาย (1)
เร่งความเร็วตลอดทาง
ในขณะที่หลินหานนอยู่บนท้องถนน เขาได้ใช้ความคิดอย่างเงียบๆ
จิตสำนึกของเขาดำดิ่งอยู่ในเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทอง "ย้อนคิด"ถึงภาพแต่ละฉากของชายในชุดเหล็กผู้ลึกลับอย่างต่อเนื่อง
ดวงตาที่เยือกเย็นของชายคนนั้นเผยจิตสังหารที่ไม่รู้จบ ทำให้เหมือนตกสู่อเวจี รายล้อมไปด้วยทะเลศพกองภูเขาศพ เลือดก่อตัวเป็นคลื่นสุดลูกหูลูกตา
ในกระบวนการของความเข้าใจนี้ทำใหสีหน้าของหลินหานดูซีดเซียว
ใช้เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทองทำความเข้าใจกับขอบข่ายความคิด จึงทำให้สิ้นเปลืองพลังจิตและพลังวิญญาณจำนวนมาก
ทว่า หลินหารนกัดฟันอดทน
หากเขาสามารถเข้าใจขอบข่ายความคิดนี้แม้เพียงเล็กน้อย มันก็อาจจะเกี่ยวข้องกับขอบเขตพลังที่น่ากลัวอย่างยิ่งของชายหนุ่มและหญิงสาวผู้ลึกลับทั้งสอง
มันเทียบเท่ากับการได้รับทักษะโจมตีของนักพรตวิญญาณ
วิถีแห่งนักพรตวิญญาณทั้งลึกลับและแปลกประหลาดยิ่ง แม้ว่าหลินหานจะมี"หนังสือวิญญาณนภา"อยู่ในมือ แต่ในปัจจุบันเขาได้รับเพียงทักษะ"เนตรนภาแห่งนักพรตวิญญาณ"เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเพียงพลังช่วยเสริมเท่านั้น มีผลช่วยในการสำรวจภูมิประเทศ การมองทะลุระดับพลังของคนอื่น การตรวจจับวิถีในการต่อสู้ เป็นต้น เนตรนภาไม่มีผลสังหารโดยตรง
ดังนั้น หลินหานจึงอดใจรอไม่ไหว อยากจะเข้าใจขอบข่ายความคิดที่แฝงอยู่ในดวงตาพิฆาตของผู้ชายผู้สวมชุดเหล็ก
แน่นอน สิ่งนี่ไม่ได้หมายความว่าชายในชุดเหล็กจะเป็นนักพรตวิญญาณ
เมื่อใดก็ตามที่ถึงขอบเขตระดับเดียวกับชายผู้สวมชุดเหล็กนั้น ลมปราณในร่างกายอาจจะมีพลังในการสร้างความหวาดกลัวแก่วิญญาณไม่มากก็น้อย
จอมยุทธิ์ระดับชายผู้นั้นนั้น ไม่ใช่จอมยุทธย์ธรรมดาอีกต่อไป
"ใกล้เเล้ว เกือบจะเข้าใจแล้ว ... "
หลินหานสื่อสีหน้าที่มีความสุข
หากประสบความสำเร็จ เขาจะมีไพ่ตายอีกใบเพื่อเอาไว้ใช้ในงานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์
ท้ายที่สุด ก็เป็นไปตามที่"ลุงกุ่ย"ได้พูดเอาไว้ ผู้ที่มีคุณสมบัติในเส้นทางแห่งนักพรตวิญญาณนั้นหายากมากเฉกเช่นเขาที่ปลุกพลังวิญญาณได้โดยกำเนิดยิ่งหายากเข้าไปใหญ่
ไม่ต้องพูดถึงรัฐเยียน ต่อให้เป็นทั้งทวีปหลิงอู่ คาดว่ามีนักพรตวิญญาณไม่มากนัก
นักพรตวิญญาณจึงกลายเป็นตำนานบนแผ่นดินใหญ่ เป็นคำที่สื่อถึงความลึกลับและความแปลกประหลาด
เพราะวิธีการต่อสู้ของพวกเขาเกี่ยวข้องกับวิญญาณ เจตจำนง และจิตใจ ที่อยู่นอกเหนือจากเนื้อหนัง จึงเป็นพลังที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง
ขณะที่ใช้พลังวิญญาณหมดไปอย่างรวดเร็วกับการทำความใจ หลินหานเองก็เริ่มเข้าใจสายตาที่สามารถโจมตีเจตจำนงและวิญญาณมากขึ้นทีละนิด เขาได้ตั้งชื่อมันว่า "ดวงตาพิฆาต"
......
หลินหานกลับไปถึงเมืองต้วนเทียนในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
เขาไม่ได้หยุดพักเลยแม้แต่น้อย ถึงขั้นที่ไม่มีเวลาไปขายสัตว์อสูรที่เขาเก็บเกี่ยวได้จากการเดินทาง เขาเอาแต่รีบเร่งตรงไปที่จวนของตระกูลหลินทันที
เมื่อเข้าไปในจวนของตระกูลหลิน หลินหานถอดแหวนใส่ไว้ไปในเสื้อผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกตรวจพบความผิดปกติ
ส่วนดาบสนิมที่สะพายอยู่ด้านหลังนั้น หลินหานไม่มีความคิดที่จะซ่อน
นี่เป็นดาบสนิมที่มีสภาพย่ำแย่มาก ต่อให้หลินหานโยนทิ้งลงบนพื้นก็ไม่มีใครต้องการ
แต่หลินหานรู้ดีว่าวัสดุของดาบสนิมนี้มีความคมและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่ได้เป็นดาบธรรมดาอย่างที่เห็นภายนอก
"ได้ยินมาว่างานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์ของทำเนียบภายในนั้นดุเดือดมาก ทำเนียบภายนอกเองก็มีอัจฉริยะรุ่นใหม่โผล่ขึ้นมามากมาย อย่างเช่น หลินเทียน หลินหรูเยียน ล้วนเหนือกว่าที่คนอื่นๆจินตนาการ จนถึงขั้นติดอันดับหนึ่งในยี่สิบของทำเนียบภายใน"
“นอกจากนี้ยังมีหลินเหยียน หลินซาและคนอื่นๆที่ติดอันดับ1ใน 50ได้ แน่นอนแล้วว่าคนเหล่านี้จะได้กลายเป็นศิษย์ทำเนียบภายใน”
“โอ้ใช่ หลินหานที่เป็นดั่งราชาคนใหม่จากการประลองของทำเนียบภายนอก ทำไมไม่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเขาเลย”
"ดูเหมือนจะหนีไปแล้ว ได้ยินว่ามีศิษย์ทำเนียบภายในเพ่งเล็งเขา ... "
หลินหานรีบรุดมาอย่างรวดเร็ว ตลอดทางเขาได้ยินเสียงผู้คนจำนวนมากพูดคุยกัน
ทว่า ขณะนั้นหลินหานใช้วิชากายาหงส์สง่า ทำให้เขาเป็นดั่งร่างเงา ตลอดทางจึงไม่มีใครตระหนักถึงเขาได้
"ดูเหมือนว่าหลินเซว่จะหายไปจริงๆ" หลินหานนิ่งเงียบ เขาไม่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับหลินเซว่เลย
ในความเป็นจริง ศิษย์ทำเนียบภายนอกที่หลินหานหมายตา มีแค่หลินเซว่ที่เป็นนักพรตวิญญาณผู้ลึกลับเท่านั้น
เมื่อลองขบคิด หลินหานก็อยากจะขอบคุณหลินเซว่สักครั้ง
เพราะหากหลินเซว่ไม่ได้กระตุ้นให้พลังวิญญาณของเขาปรากฏขึ้น หลินหานก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ เพื่อจะได้เข้าใกล้วิถีแห่งนักพรตวิญญาณอันลึกล้ำอย่างยากจะคาดเดานี้
"งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์สิ้นสุดลง ณ บัดนี้!"
เสียงที่เปี่ยมบารมีอันทรงพลังได้ดังขึ้นอย่างฉับพลันในระยะไกล ในพริบตานั้นหลินหานสามารถรับรู้ได้ด้วยพลังตรวจจับที่แก่กล้า
"แย่เเล้ว! งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์จบลงแล้วเหรอ?"
หลินหานสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ในพริบตานั้นเขาได้เร่งความเร็วยิ่งขึ้น แล้วข้ามแม่น้ำสายใหญ่มาถึงทำเนียบภายในพอดี
เมื่อมองแวบแรก หลินหานก็มองเห็น.. ด้านบนของสังเวียนเป็นตาย มีเสาหินขนาดใหญ่ห้าสิบต้น เสาหินทุกๆต้นมีความยาวต่างกัน ส่วนด้านบนจะมีเงาคนหนึ่งคนนั่งอยู่
คนที่นั่งอยู่บนเสาล้วนเป็นศิษย์ทำเนียบภายใน50คน!