เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0064
ตอนที่ 64 : ฟ้าคำราม
ฉินเฟิงครอบครองอาวุธวิญญาณ ไม่เพียงฉินหยุนเกิดแรงกดดัน เชี่ยวหลางยิ่งรู้สึกกดดันยิ่งกว่า
หากฉินเฟิงไล่ไต่อันดับท้าประลองขึ้นมา เชี่ยวหลางย่อมต้องเผชิญหน้ากับฉินเฟิง!
แม้เชี่ยวหลางจะเป็นองค์ชายอันดับสองของเทียนเชี่ยว แต่เขาไม่ได้ครอบครองอาวุธวิญญาณ!
กับสิ่งของทรงพลังอำนาจระดับนั้น เขาจำเป็นต้องสู้เพื่อให้ได้รับมันมาด้วยตนเอง
บนลานประลอง ดวงตาของฉินเฟิงตอนนี้เปี่ยมด้วยโทสะ ข้อมือของเขาบาดเจ็บเพราะฉินหยุน ทั้งยังบาดเจ็บหนักเอาการ เขาไม่ลังเลที่จะลดอันดับตนเองเพื่อแสวงการแก้แค้น
นอกจากนี้เขายังต้องการให้ได้รับความชื่นชมจากเชี่ยวเย่ว์เหม่ย!
ฉินเฟิงเพียงไหวดาบหยกหมาป่าในมือเบา ๆ มันปลดปล่อยสายฟ้าคล่องแคล่วรอบตัวดาบพร้อมเสียงคำราม ผังวิญญาณบนตัวดาบส่องประกายแสงสีขาวเลือนลางแต่ก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ตัดสินจากความซับซ้อนของผังวิญญาณ ก็สามารถบอกได้ว่านั่นคือผังวิญญาณระดับกลาง
เขามองฉินหยุนที่สวมใส่หน้ากากสีดำด้วยความเย็นเยือกและกล่าว “ข้าจะทำลายหน้ากากนั่นและเผยใบหน้าแท้จริงของเจ้าออก!”
“เริ่มได้!” กรรมการประกาศก้อง
ชั่วขณะที่การประลองเริ่ม ฉินหยุนเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน
กระบี่ในมือของเขาพลันสับลงรุนแรงพร้อมพลังภายในธาตุไฟทะลักที่ตัวกระบี่ มันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะอากาศร้อนพาดผ่านเข้าใส่ศัตรูของเขา!
วูบ!
กระบี่ฟาดฟันออก ก่อเกิดขึ้นเป็นเสียงลมถูกกรีดผ่าน ปราณกระบี่ระเบิดคำรามซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ด้วยการฟาดฟันกระบี่ลงจากเหนือศีรษะ ท่วงท่าของเขานั้นมีเปรียบยิ่งกว่า เขาไม่คิดเสียเวลาแม้สักชั่วอึดใจ ฝูงชนตอนนี้อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงโห่ร้องให้แก่เขาดังสนั่น!
ฉินเฟิงเพียงมองเดียดฉันท์ที่ใบหน้า วิญญาณยุทธ์วายุเหมันต์ของเขาปลดปล่อยพลังภายในวายุเหมันต์ออกมา มันผสานรวมเข้ากับดาบหยกหมาป่า ปลดปล่อยซึ่งความเย็นเยือกทิ่มแทงกระดูก!
เขาบรรจงไหวดาบเป็นการเชื้อเชิญให้กระบี่ร้อนแรงของฉินหยุนเข้ามา!
ทุกคนแทบกลั้นลมหายใจ!
ตึง!
ทั้งดาบและกระบี่ปะทะกัน น้ำแข็งและไฟปะทะกัน บนลานประลองตอนนี้ถึงขนาดที่แบ่งเป็นสองฝ่ายคือไฟร้อนแรงและน้ำแข็งเย็นเยือกพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้าจนแทบถึงสวรรค์!
ลานประลองยุทธ์ขนาดใหญ่พลันปกคลุมด้วยอากาศเย็น ก่อเกิดขึ้นเป็นชั้นน้ำแข็ง!
หมอกเริ่มกระจายตัวขณะฉินหยุนโดนผลักดันกลับไปหลายเมตร ร่างของเขาถูกน้ำแข็งและหิมะเข้าปกคลุมขณะที่กระบี่ภูตผีในมือถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งหนาเป็นชั้น!
นี่เป็นการบ่งบอกว่ากำลังภายในของฉินเฟิงแข็งแกร่งยิ่ง อย่างไรแล้วอีกฝ่ายก็คือผู้อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก นอกจากนี้ยังครอบครองดาบหยกหมาป่า มันยิ่งเพิ่มพูนกำลังภายในได้อย่างมหาศาล!
นี่คือพลังอำนาจของสมบัติวิญญาณ
แคร้ก!
น้ำแข็งบนตัวกระบี่พลันแตก จากนั้นกระบี่จึงแตกตามน้ำแข็งก่อนร่วงหล่นกระจายกับพื้น!
อย่างแรกเลยนั้น กระบี่เล่มนี้เป็นอุปกรณ์วิญญาณครึ่งขั้น แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังแตกออกเป็นเศษเล็กเศษน้อย
เมื่อผู้ชมเบื้องล่างลานประลองได้เห็นเรื่องราวเช่นนี้ พวกเขาถึงกับเผยเสียงอุทานกันออกเป็นชุดไม่ขาดสาย พวกเขาคาดหวัง ว่าสักวันตนจะได้มีอาวุธวิญญาณแข็งแกร่งเช่นนี้ในครอบครอง!
“นี่คือพลังของดาบหยกหมาป่า!”
“สมกับที่เป็นอาวุธวิญญาณ ถ้าข้าได้ครอบครองบ้างนะ!”
“องค์ชายแห่งเทียนฉินยังต้องหามาด้วยตนเอง หากเจ้าคิดอยากซื้อดาบมีชื่อเสียงระดับนั้น คงต้องเตรียมไว้อย่างน้อยหลายล้านเหรียญผลึกแล้ว!”
นอกจากความอิจฉาแล้ว ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจภายใน!
ฉินเจิ้งเฟิงยินดีขณะกล่าวชม เขาหัวเราะเสียงดังตะโกนกว่า “น้องรอง ใช้โอกาสนี้จัดการมันซะ!”
โดยทันที ฉินเฟิงพุ่งกายเข้าหาพร้อมรวบรวมพายุหิมะพัดวนเป็นลำแสงของดาบ มันทำให้ฉินหยุนไร้ซึ่งทางเลือกจนต้องหลบอย่างต่อเนื่อง!
เมื่อไม่มีอาวุธ สถานการณ์ไม่มีอะไรกระจ่างชัดกว่านี้แล้ว
ทุกคนล้วนเชื่อ ว่าผลของการประลองครั้งนี้ตัดสินกันไปแล้ว ขึ้นอยู่กับเวลาว่าฉินหยุนจะแพ้เมื่อไร
ฉินเจิ้งเฟิงหัวเราะดังภูมิใจ “ทุกท่านรับชมให้ดี น้องรองของข้าเตรียมใช้เคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของดาบ ‘วิชาดาบกิเลน’ มันคือวิชายุทธ์ระดับวิญญาณขั้นสูง!”
เคล็ดวิชาดาบระดับวิญญาณขั้นสูงเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง มันมีจำนวนน้อยนิดยิ่งกว่าเคล็ดวิชาหมัดหรือเท้า ทั้งนี้ตัวอาวุธก็หาได้ยากยิ่ง
หลังฉินเฟิงปลดปล่อยวิชาดาบกิเลน เขาพลันคล่องตัวยิ่งขึ้น ทั้งความเร็วและกำลังภายในล้วนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล!
“ฮ่า!”
ขณะเสียดแทงดาบพุ่งออก เสียงของดาบตอนนี้ประหนึ่งหมาป่าคำราม แสงและเงาตอนนี้กำลังวูบวาบไปมาในสายลมและหิมะพร้อมเสียงคำราม!
อาจกล่าวได้ว่าเขาใช้ทั้งดาบหยกหมาป่าและเคล็ดวิชาดาบของฉินเจิ้งเฟิงอย่างถึงขีดสุด กระทั่งฉินเจิ้งเฟิงยังต้องกล่าวชม!
บรรดาผู้อาวุโสแก่เฒ่าหลายคนเบื้องล่างลานประลองยุทธ์เริ่มส่งเสียงโห่ร้องให้กำลังใจกันไม่ขาดแล้ว!
ฉินหยุนตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยเงาดาบในพายุหิมะ มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลบพ้นการโจมตีที่ยากแก่การมอง!
ฉินเฟิงยังคงปลดปล่อยวิชาดาบกิเลนอย่างต่อเนื่อง แปรเปลี่ยนให้ลานประลองกลายเป็นโลกแห่งน้ำแข็งและหิมะ มันยิ่งทำให้เขายากมองเห็นว่าสถานการณ์รอบตัวเกิดอันใดขึ้น
“ผลลัพธ์ตัดสินแล้ว!” เชี่ยวหลางยิ้มอ่อนกล่าวคำ “ฉินเฟิงทรงพลังนัก สงสัยจริงว่าข้าจะมีโอกาสไหมยามต่อสู้กับเขา!”
“น้องเชี่ยว เจ้าอย่าได้สุภาพเกินไปถึงเพียงนี้! ชายหน้ากากเพียงแค่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า นอกจากนี้วิชายุทธ์ยังธรรมดาดาษดื่น และอาวุธวิญญาณครึ่งขั้นนั่นก็พังไปเรียบร้อย เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องโดนสะกดข่ม! แต่เจ้านั้นคือขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก ทักษะยุทธ์ของราชวงศ์เทียนเชี่ยวนับว่าเหนือล้ำที่สุดในบรรดาสามจักรวรรดิ” ฉินเจิ้งเฟิงหัวเราะ “ข้าเองก็คิดอยากรับชมการประลองระหว่างเจ้าและน้องรองเช่นกัน”
เพียงเมื่อกล่าวจบคำ เสียงคมกริบของอาวุธปะทะกันพลันดังขึ้นจากลานประลองยุทธ์!
เคร้ง!
หิมะปกคลุมทั่วลานประลองยุทธ์พลันแตกกระจายออกโดยคลื่นความร้อน น้ำแข็งที่พื้นก็เริ่มถูกหลอมละลายอย่างรวดเร็ว!
พวกเขาได้เห็นฉินหยุนกำลังถือค้อนหลอมลุกโชนด้วยเปลวเพลิง มันสามารถสกัดการโจมตีถึงฆาตที่กำลังจะทิ่มแทงคอหอยของเขาได้!
ชายหน้ากากแท้จริงกำลังถืออาวุธ ทั้งยังเป็นค้อน!
ถึงกับสามารถสกัดการโจมตีอันทรงพลังจากดาบตรงหน้า ชัดเจนว่าค้อนนั่นไม่ใช่อุปกรณ์ธรรมดา!
มันเป็นค้อนหลอมที่ฉินหยุนสร้างขึ้นจากกระดูกเหล็กกล้าระดับต่ำ พละกำลังของมันไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าดาบหยกหมาป่า!
เชี่ยวหลางมองชายหน้ากากที่ยังไม่ยอมแพ้ขณะลอบยินดี “ชายหน้ากากเป็นช่างตีเหล็กของตำหนักจารึกเทวะ ไม่แปลกที่เขาจะมีค้อนที่ดีเพียงนี้!”
ฉินหยุนกวัดแกว่งค้อนหลอมรุนแรง ราวฟ้าคำราม การโจมตีพลันลั่นออกพร้อมเสียงของสายฟ้าฟาด!
มองเพียงครั้งเดียว ผู้คนล้วนบอกได้ว่านี่คือเคล็ดวิชาค้อนระดับสูง!
มังกรหลอมหกกระบวนที่ถูกดัดแปลงดั้งเดิมมาจากวิชาวายุสังหารระดับวิญญาณขั้นสูง ดังนั้นแล้วนี่จึงถูกนับเป็นวิชายุทธ์ระดับวิญญาณขั้นสูงเช่นกัน มันไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าวิชาดาบกิเลน!
ฉินเฟิงถึงกับแตกตื่นไปชั่วขณะเพราะฟ้าคำรามลั่นเข้าใส่ ขณะที่เขาแตกตื่นภายใน โดยสัญชาตญาณ มันสั่งให้เขาต้องเหวี่ยงดาบออกไปสกัดไว้!
ตู้ม!
ค้อนพลันหวดเข้าใส่ดาบหยกหมาป่า เป็นผลให้เกิดประกายไฟฟ้าแล่บแปลบปลาบ ราวกับมันกำลังตีเหล็กสีแดงฉาน ทั้งเสียงของค้อนที่ปะทะกับดาบยังคล้ายฟ้าคำราม
ที่มือของฉินเฟิงซึ่งกำลังถือดาบอยู่นั้น มันสั่นไหวระดับที่รู้สึกถึงความเจ็บปวดรุนแรง ภายในใจเขาเปี่ยมด้วยความหวาดกลัว เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีเคล็ดวิชาค้อนที่น่ากลัวถึงเพียงนี้!
นี่คือกระบวนฟ้าคำราม เป็นกระบวนท่าแรกของวิชามังกรหลอม!
เพื่อปกปิดวิญญาณยุทธ์สั่นไหว ฉินหยุนจึงไม่ได้ใช้พลังภายในสั่นไหว เขาเพียงหยิบยืมพลังภายในของพลังธาตุที่สองมาใช้งาน!
พลังภายในที่รุนแรงระดับนี้เพียงพอให้แสดงพลังในกระบวนท่าได้แล้ว!
“มังกรหลอมกระบวนที่สอง!”
ยามเมื่อค้อนหลอมฟาดลงเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้ราวกับสายฟ้าพิโรธ มันเปี่ยมไปด้วยออร่าทรงพลังเหลือล้น
ภายใต้ค้อนนี้ ผังแปรธาตุอันซับซ้อนยิ่งมาจิ่งเจิดจ้าทั้งยังร้อนแรงไม่หยุดยั้ง
ตู้ม!
ระเบิดเปลวเพลิงปะทุออกจนเกิดสะเก็ดไฟกระเด็นทั่ว!
ดาบหยกหมาป่าถึงกับ... เริ่มคดงอ!
เมื่อได้เห็นดังนี้ ใบหน้าของฉินเจิ้งเฟิงถึงกับแปรเปลี่ยน ทุกคนล้วนแตกตื่นราวกับกลายเป็นรูปปั้นหิน!
ดาบหยกหมาป่าที่คดงอเกิดสีแดงฉาน ราวกับมันกำลังถูกหลอม!
“กระบวนฟ้าคะนองสะเทือน!” ฉินหยุนโจมตีด้วยค้อนอีกครั้ง ท่ามกลางความแตกตื่น ฉินเฟิงทำได้เพียงใช้ดาบหยกหมาป่าที่คดงอตั้งรับการโจมตี
ตู้ม!
เสียงฟ้าผ่ามาพร้อมแรงระเบิด!
หลังค้อนหลอมฟาดลง มันยิ่งมายิ่งมีประกายไฟเจิดเจ้ามากขึ้น ดาบหยกหมาป่าตอนนี้ถึงขั้นแตกหักออกเป็นสอง ทั่วทั้งใบดาบถูกหลอมจนกลายเป็นสีแดงฉาน!
หลังใช้ค้อนหลอมทุบดาบจนหัก ฉินหยุนก็พลันทุบเข้าใส่ที่หน้าอกของฉินเฟิง!
เมื่อหน้าอกฉินเฟิงรับแรงปะทะ เขาร้องออกดังลั่น บาดแผลร้อนแรงถูกเผาไหม้หลงเหลืออยู่ที่หน้าอก เสื้อผ้าตอนนี้ลุกท่วมด้วยอัคคีเพลิงร้อนแรง
“ผังแปรธาตุ!”
“ผังวิญญาณนั่นดูดซับพลังภายในอัคคีและยิ่งเท่าทวีความร้อนอีกหลายเท่างั้นหรือ?”
“นั่นคือค้อนวิญญาณครึ่งขั้น มันมีพลังภายในระดับที่สามารถหลอมอุปกรณ์วิญญาณ ผังแปรธาตุช่างน่ากลัวนัก!”
ผู้คนที่มีความรู้ระดับหนึ่งในลานประลองยุทธ์ล้วนอุทานกันออก