บทที่ 92 การสังหาร
บทที่ 92
การสังหาร
“หัวหน้า หัวหน้า!”
ในถ้ำอันกว้างขวางอีกแห่งหนึ่ง มีเสียงจากภายนอกดังเข้ามา
“เจ้าอยากตาย? นั้นใคร?”
นี่เป็นห้องภายในถ้ำ พื้นห้องถูกตกแต่งด้วยขนจากสัตว์ปีศาจ ปัจจุบัน คนร่างอ้วนถูกกำลังกดอีกคนลงบนพื้นโดยที่ไม่สามารถดิ้นรนใดๆ ได้ และก็เป็นตอนนี้เองที่เขาได้ยินเสียงจากข้างนอก เขาก็เริ่มตะโกนขอความช่วยเหลือ
“หัวหน้า เราจับเด็กหนุ่มรูปงามมาได้ และอยากส่งเขาเป็นของขวัญให้กับท่าน”
“หนุ่มรูปงาม?”
ร่างอ้วนยักษ์ยกหัวขึ้น มันเป็นผู้หญิงที่หน้าตาน่าเกลียดและอ้วนดุจหมู ดวงตาทั้งสองข้างของเธอเปล่งแสงขณะที่น้ำลายของเธอไหลออกมา
“เขาอยู่ที่ไหน”
ด้วยกาฝาดฝ่ามือเพียงครั้งเดียว เธอฆ่าชายที่เธออยู่ด้านล่างของเธอ เธอยืนขึ้นแล้วเดินไปที่ทางเข้าห้องโถงถ้ำ
ด้านนอกของถ้ำ ชายร่างผอมกักตัวหลี่ฟู่เฉินไว้ขณะที่กำลังรออยู่
“หัวหน้าสาม” เห็นผู้หญิงที่น่าเกลียด ชายร่างผอมเป็นกังวลเล็กน้อย
ชื่ของหัวหน้าสามคือ จางซินเซียง เธออยู่ในระดับที่ห้าของขอบเขตต้นกำเนิด เธอฝึกฝนเทคนิคพิเศษที่เรียกว่าเทคนิคอ่อนนิ่ม
เทคนิคอ่อนนิ่มคือเทคนิคที่ฝึกฝนพลังฉีและร่างกายได้ในเวลาเดียวกัน
เมื่อร่างกายมีไขมันมากขึ้น จะทำให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น
หากจอมยุทธ์ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่ห้าตามเฉลี่ยไม่ได้ใช้อาวุธ พวกเขาจะไม่สามารถทำลายการป้องกันของจางซินเซียนได้ ก็ในเมื่อไขมันของเธอจะเข้าไปสกัดการโจมตีนั้นไว้
จางซินเซียงเป็นบุคคลที่เสียสติ ภายในกลุ่มโจรวายุทมิฬ ตราบใดที่มีผู้ชายหน้าตาดีอยู่ พวกเขาจะถูกล่าวงเกินโดยจางซินเซียง ชายร่างผอมเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
โชคดีที่หัวหน้าวายุทมิฬห้ามเธอไว้อยู่บ้าง ถ้าไม่ คงจะไม่มีใครอยู่ในกลุ่มโจรวายุทมิฬ
“นี่คือเด็กหนุ่มรูปงามที่เจ้ากล่าวถึง?” หญิงน่าเกลียดรู้สึกยินดีเมื่อตอนที่เธอจ้องไปที่หลี่ฟู่เฉิน
แรกเริ่มเดิมทีหลี่ฟู่เฉินก็ดูดีอยู่ก่อนแล้ว ด้วยคิ้วเหมือนดาบ ดวงตาที่คล้ายกับหมู่ดาว จมูกประจุดสะพานทอดสูง และก็รูปร่างหน้าที่คมคล้าย
นอกเหนือจากนั้น ร่างกายที่แข็งแกร่งของหลี่ฟู่เฉินก็ปล่อยเสน่ห์ที่ไม่อาจบรรยายได้ออกมา ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ได้รับการปรับแต่งใดๆ ก็ตาม หญิงน่าเกลียดไม่สามารถควบคุมความต้องการทางเพศของเธอได้ และต้องการที่จะกดเขาลงกับพื้น ณ ตอนนี้เลย
“ใช้แล้ว หัวหน้าสาม” ชายร่างผอมดูพอใจ
“ทำได้ดี เจ้าทำได้ดีมาก นมศิลาหนึ่งร้อยปีขวดนี้เหมาะสมกับเจ้า” จางซินเซียงขว้างขวดหยกให้ชายร่างผอม
“ขอบคุณท่านมาก หัวหน้าสาม” ชายร่างผอมยิ้มกว้าง
ผลลัพธ์ที่ได้จากนมศิลาหนึ่งร้อยปีขวดนี้นั้นเทียบเท่ากับยาเม็ดสีเหลืองระดับกลาง มูลค่าของนมขวดนี้ใกล้เคียงกับเม็ดยาสีเหลืองระดับสูง
เก็บขวดหยก ชายร่างผอมฉลาดพอที่จะออกไปอย่างรวดเร็ว เดินออกไปด้วยการก้าวเบาๆ อย่างพึงพอใจ
“หนุ่มน้อย เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ฉันจะปฏิบัติกับเจ้าเป็นอย่างดี เข้ามากับข้า!” จางซินเซียงคว้าเชือกที่ผูกตัวหลี่ฟู่เฉินและเดินลึกเข้าไปในถ้ำ
เข้ามาภายในห้องของถ้ำ จางซินเซียงเตะศพของชายร่างเหลืองทิ้งไปและดึงหลี่ฟูเฉินมา “หนุ่มน้อย เจ้าดูไม่แข็งแรงมากนัก แต่ก็มีน้ำหนักมากเลยทีเดียว ดูเจ้าแล้วช่างน่าประทับใจ แต่ก็ช่างน่าเสียดาย”
“นี่เป็นที่ซ่อนของกลุ่มโจรวายุทมิฬ?”
หลี่ฟู่เฉินเกร็งกล้ามเนื้อและดึงเชือกออกทันที ขณะนั้นเองพลังงานที่ดูน่าเกรงขามก็ออกมาจากตัวของเขา
“เจ้าเป็นใคร?” จางซินเซียงอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ
“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือจากนี้ไป จะไม่มีกลุ่มโจรวายุทมิฬอยู่อีกแล้ว”
“ถามหาความตาย!”
จางซินเซียงดันฝ่ามือไปที่หลี่ฟู่เฉิน แรงฝ่ามือที่น่าสะพรึงกลัวทำให้อากาศในห้องของถ้ำนั้นหดตัวลง
ปั๊ง!
หลี่ฟู่เฉินนำฝ่ามือเข้าไปปะทะเช่นกัน
หนึ่งคือระดับที่ห้าของขอบเขตต้นกำเนิด ในขณะที่อีกคนอยู่ระดับที่สองของขอบเขตต้นกำเนิด ตามตรรกะ ฝั่งหลังสมควรเป็นผู้ที่โดนสกดขม
แต่ความสามารถของหลี่ฟู่เฉินนั้นไม่ได้ใกล้เคียงกับนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่สอง
ผู้ที่เข้าถึงระดับที่สิบของเทคนิคเปลวไฟลี้ลับจะมีความแข็งแกร่งและความบริสุทธิ์ของพลังฉีมากกว่าโดยจอมยุทธ์ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่ห้าตามค่าเฉลี่ย
ทั้งหมดต้องเชิดชูให้กับร่างกายที่โดดเด่นของเขา
การโจมตีด้วยฝ่ามือเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ต้นไม้เหี่ยวเฉาและละลายทองคำได้
อ๊า!
จางซินเซียงเปล่งเสียงดังขณะที่เธอถูกกระแทกอย่างรุนแรงไปติดอยู่ผนังถ้ำ
มือขวาและแขนของเธอถูกทำให้เป็นเถ้าถ่าน กลิ่นของบาร์บีคิวเนื้อสัตว์แทรกซึมอยู่ในอากาศ
จางซินเซียงมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดี แม้หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอก็กลายเป็นดุร้ายวมากขึ้นและเริ่มตะโกนเสียงกร้าวเพื่อเรียกผู้อื่น
เหมือนวิญญาณ หลี่ฟู่เฉินเข้าหาจางซินเจียง แล้วจิ้มนิ้วของเขาเข้าไประหว่างกลางหน้าผากของเธอ
เอียงศีรษะ จางซินเซียงก็เงียบไปและสูญเสียสัญาณชีวิต
อุโมงค์นำไปทุกๆ ที่ และทุกห้องถ้ำที่หลี่ฟู่เฉินบุกเข้าไป เขาจะกำจัดโจรทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
อาศัยความเงียบจากย่างก้าวเงาวายุ จึงไม่มีใครรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ
หลี่ฟู่เฉินหยุดทันทีเมื่อเขามาถึงพื้นที่ที่กว้างขวาง และห้องถ้ำที่ดูหรูหรา หลี่ฟู่เฉินชักดาบเหล็กสีดำของเขาออกมา
ในห้องมีชายห้าคนนั่งอยู่รอบๆ โต๊ะพนัน พร้อมกับเหรียญทองที่วางซ้อนกันอยู่ทั่วโต๊ะ
จากพลังฉีที่ปรากฏออกมา มีขอบเขตต้นกำเนิดระดับห้าหนึ่งคน ต้นกำเนิดระดับสามสองคน และต้นกำเนิดระดับสองมีอยู่สองคน
คนที่อยู่ในระดับที่ห้าของขอบเขตต้นกำเนิดนั้นเป็นคนหัวล้านและเป็นชายร่างใหญ่ หลังของเขามีรอยสักเสือดำดุร้ายและดูสมจริงมาก เขาจะต้องเป็นหนึ่งในสามหัวหน้าขอกลุ่มโจรวายุทมิฬ หัวหน้าคนที่สอง หลี่เหอหูที่มีนามสกุลเดียวกับหลี่ฟูเฉิน
อีกสี่คนควรเป็นหัวหน้าย่อยของกลุ่มโจรวายุทมิฬ
พวกเขาห้าคนเล่นการพนันอย่างกระตือรือร้นและไม่ระมัดระวังตัวแม้แต่นิดเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาห้าคนคงไม่คิดว่าจะมีศัตรูที่สามารถปกปิดการพลังฉีของตัวเองให้รอดพ้นจากการตรวจจับของพวกเขาได้และเข้ามาในถ้ำ
เมื่อถึงเวลาที่หลี่เหอหู่ตรวจพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ มันก็สายเกินไปแล้ว
เหมือนปีศาจ ใบมีดเยือกเย็นและแหลมคมก่อให้เกิดแนววิถีดาบขึ้น
ปิส ปิส ปิส…
พวกเขาทั้งห้าจับที่คอของตนเองและไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
พวกเขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะถูกฆ่าตายในถ้ำของพวกเขาเอง
พวกเขาไม่เคยคิด ว่าผู้บุกรุกจะเป็นคนที่มีทักษะดาบที่เหนือกว่า ถึงขั้นที่สามารถตัดคอคนทั้งห้าได้ในดาบเดียว
“นี้เป็นการปิดช่องทางในการเรียกกำลังเสริม”
หลี่ฟู่เฉินเองก็ไม่ได้อยากระมัดระวังมากนัก นอกซะจากมันจะเป็นทางเลือกสุดท้ายของเขา
เหตุผลที่เขาสามารถกำจัดพวกเขาทั้งห้าคนได้ทันที ไม่ใช่เพราะหลี่ฟู่เฉินมีความสามารถที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา แต่องค์ประกอบส่วนใหญ่มาจากการไม่ทันตั้งตัว
หากพวกเขาทั้งห้าคนระมัดระวัง หลี่ฟูเฉินคงจะฆ่าได้เพียงแค่สองคนแต่เพียงเท่านั้น และนั่นก็ไม่ได้รวมหัวหน้าคนที่สองของกลุ่มโจรวายุทมิฬ หลี่เหอหู
สำหรับเขาการที่จะสังหารพวกเขาสามคนในเวลาเดียวกันนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้
แต่ ถ้ามันเป็นศิษย์ชั้นในของนิกายคังหลุนคนอื่นๆ แม้ว่าพวกเขาจะมีองค์ประกอบของการไม่ทันตั้งตัว พวกเขาก็จะไม่สามารถฆ่าห้าคนในคราวเดียว
มันมีข้อกำหนดสำหรับทักษะดาบและทักษะในการควบคุมร่างกายอยู่สำหรับการฆ่าคนห้าคนได้ในทันที ซึ่งนั้นก็ถือเป็นความต้องการที่มากพอสมควร
หากมีทักษะควบคุมร่างกายที่ไม่ดีพอ เป้าหมายจะสามารถตอบสนองได้
หากทักษะดาบไม่รวดเร็วพอ การฆ่าคนทั้งห้าในระยะเวลาอันสั้นก็จะเป็นไปไม่ได้
“โชคดีที่ข้าฝึกฝนย่างก้าวเงาวายุ”
โคจรย่างก้าวเงาวายุอาจไม่ให้พลังโจมตีสูงเท่าเทคนิคเปลวไฟลี้ลับ แต่มันมีทำให้ได้ความเชี่ยวชาญในเรื่องความรวดเร็วมาและทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวเหมือนภูติผี
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความสามารถของเขา เขาไม่ได้ขาดพลังโจมตีเลย
แม้ว่าพลังโจมตีจะลดลงเล็กน้อย แต่มันเพิ่มความเร็วอีกระดับหนึ่งแทน นี้เป็นการพิสูจน์มามันน่าเกรงขามขนาไหน ก็ในเมื่อมันยากที่จะป้องกัน
“หลังจากที่ข้าสังหารเป้าหมายหลักได้แล้ว ฉันจะมารับสมบัติเหล่านี้ทั้งหมด”
หลี่ฟูเฉินไม่ได้สนใจเรื่องเหรียญทองบนโต๊ะและร่างกระพริบก่อนที่จะหายไป ออกจากห้องถ้ำ
มีโถงถ้ำใต้ดินยักษ์แห่งนี้มีทางเข้าสี่ทาง แต่ละทางเข้าจะได้รับการปกป้องจากโจรสองคน
บูม! บูม!
ศพที่ไหม้เกรียมสองศพกระเด็นเข้าไปในห้องโถงถ้ำใต้ดินและทำให้หัวหน้าวายุทมิฬและผู้ที่สวมหน้ากากตกใจ
“ใครมาที่นี่?” ใบหน้าของหัวหน้าวายุทมิฬกลายเป็นไม่น่าดู
หลังจากก่อตั้งกลุ่มโจรวายุทมิฬขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ศัตรูบุกเข้ามาในถ้ำของพวกเขา สิ่งนี้ทำให้เขาสูญเสียศักดิ์ศรีของเขาทั้งหมด
นั่งตัวตรงบนก้อนหิน ชายสวมหน้ากากยังคงเชยชมหญิงเปลือยกายที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาอยู่และกล่าวอย่างใจเย็น
“หัวหน้าวายุทมิฬ ดูเหมือนว่าถ้ำของเจ้าจะไม่ปลอดภัยนัก เหอะ!”
หัวหน้าวายุทมิฬกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ่มลึก “ไม่ต้องกังวลพี่หลู ข้าจะจัดการชายผู้นี้ให้เร็ว”
ในขณะที่เขาพูด เขาผลักผู้หญิงเปลือยออกไปและลุกขึ้นยืน ดวงตาที่ดูเย็นชามองไปที่ทางเข้าต่อจากนั้นก็มองไปยังร่างที่ไหม้เกรียม
แกร๊บ แกร๊บ!
เสียงฝีเท้าดังขึ้น ขณะเดียวกันเด็กหนุ่มสวมชุดเทาก็เดินเข้ามา
“เจ้าเป็นหัวหน้าของกลุ่มโจรวายุทมิฬ?”