บทที่ 91 กลุ่มโจรวายุทมิฬ
บทที่ 91
กลุ่มโจรวายุทมิฬ
กลับไปยังนิกาย ...
หลี่ฟู่เฉินส่งภารกิจและรับอีกภารกิจมา
ครั้งนี้มันไม่ใช่ภารกิจระดับต่ำ แต่เป็นภารกิจระดับกลาง
รายละเอียดภารกิจ : กำจัดโจรวายุทมิฬที่อยู่ทางตะวันออกของเมืองชิงหลิน เอาหัวของหัวหน้ากลุ่มโจรวายุทมิฬกลับคืนมา
รางวัลภารกิจ : 8000 คะแนนสะสม
“เขาบ้าไปแล้ว? เขารับภารกิจระดับกลางขั้นหัวกะทิจริงๆ”
“ศิษย์ปกติที่อยู่ขอบเขตต้นกำเนิดระดับห้าก็ยังไม่กล้าที่จะรับภารกิจขั้นนี้ ต้องมีศิษย์ต้นกำเนิด ระดับกลางอย่างน้อย 3 ถึง 4 คนเพื่อที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้”
“ข้ารู้จักเขา เขาคือหลี่ฟูเฉินที่เคยเป็นศิษย์อันดับ 1 ของนิกายชั้นนอก”
“งั้นเขาก็เป็นศิษย์อันดับ 1 ของนิกายชั้นนอก มีคนที่แข็งแกร่งมากมายซ่อนเร้นตัวเองอยู่ในนิกายชั้นใน และจะไม่มีใครกล้าอ้างว่าตนเองแข็งแกร่งที่สุด”
“ถูกแล้ว กลุ่มโจรวายุทมิฬมีลูกสมุนมากกว่าหนึ่งร้อยคน หัวหน้าเป็นจนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่หก การไปที่นั่นเพียงลำพังเท่ากับถามหาความตาย”
ในห้องโถงภารกิจ ศิษย์ชั้นในหลายคนชี้และวิจารณ์หลี่ฟู่เฉิน
“เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าต้องการทำภารกิจนี้?” ห้องโถงด้านในที่ที่ผู้ดูแลชั้นในเป็นคนดูแลขมวดคิ้ว ขณะที่ถาม
“ใช่” หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า
“เอาล่ะ!” ผู้ดูแลชั้นในไม่มีอะไรจะกล่าวอีก
เขารับภารกิจดังกล่าวจริงๆ ผู้ดูแลสงสัยว่าหลี่ฟูเฉินเสียสติไปแล้ว
แต่กฎของห้องโถงภารกิจระบุไว้ว่า เพียงภารกิจแรกเท่านั้นที่จะต้องเป็นระดับต่ำ ภารกิจใดๆ หลังจากนั้นจะขึ้นอยู่กับศิษย์ เขาไม่มีสิทธิ์ในการแทรกแซง แต่ถ้าเขามีทางเลือก เขาจะหยุดหลี่ฟู่เฉินจากการเลือกภารกิจนี้ ก็ในเมื่อเขารู้สึกว่าหลี่ฟู่เฉินไม่มีคุณสมบัติ
ภายใต้สายตาของผู้คนจำนวนมาก หลี่ฟูเฉินออกจากห้องโถงภารกิจ
***
เมืองชิงหลินอยู่ไกลจากนิกายคังหลุนมาก ไกลยิ่งกว่าเมืองเหอซี
หลี่ฟูเฉินยืนกรานว่าจะไม่ใช้ม้าเลือดปีศาจ กลับกันเขาจะพึ่งพาย่างก้าวเงาวายุแทน
อีกสองสัปดาห์ต่อมา หลี่ฟูเฉินก็มาถึงทางตะวันออกของเมืองชิงหลิน
ตอนดึก มีเมืองเล็กๆ ที่สามารถมองเห็นได้จากเส้นขอบฟ้า
ภายใต้แสงตะวันลับขอบฟ้า เมืองให้บรรยากาศที่เงียบสงบและปลอดโปร่ง
ในโรงแรมแห่งเดียวในเมือง มีนักสู้หลายคนกำลังดื่มเหล้า
เห็นหลี่ฟู่เฉินเดินเข้ามา ในสายตาของพวกเขามีเพียงไม่กี่คนที่สงสัย
การหาประสบการณ์ในโลกภายนอกตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นก็หมายความว่าเขาแข็งแกร่งมาก ไม่ก็เด็กน้อยที่กำลังกระทำการอย่างประมาท
หลี่ฟูเฉินไม่ได้สั่งอาหารที่ด้าล่าง เขาเลยสั่งให้ผู้ช่วยร้านค้าเสิร์ฟอาหารในห้องของเขาเอง
“นายน้อย อาหารของท่านอยู่นี่แล้ว” ผู้ช่วยเคาะประตู
“วางไว้บนโต๊ะ”
หลี่ฟู่เฉินอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ
“ทราบแล้ว!”
ผู้ช่วยเปิดประตูห้อง วางอาหารไว้ จากนั้นก็ปิดประตูลงหลังจากออกไป
ค่อยๆ หลับตาลง หลี่ฟู่เฉินเอนตัวลงสบายๆ อยู่ในถังไม้
(หมายเหตุ TL: ในสมัยโบราณผู้คนอาบน้ำในถังไม้)
เหตุผลที่หลี่ฟู่เฉินรับภารกิจที่สองหลังจากเพิ่งกลับไป เป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้ตัวเองผ่อนคลายเกินไป
อย่างที่มีคนกล่าวเอาไว้ ‘เติบโตในความหายนะและพินาศในช่วงเวลาที่สงบสุข’
การฝังตัวเองไปกับการฝึกฝนของคนๆ หนึ่งอาจดูเหมือนเป็นวิธีที่ง่ายกว่าที่จะแข็งแกร่งขึ้น แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น
จอมยุทธ์จำเป็นต้องมีจิตวิญญาณการต่อสู้เพื่อสู้กับสวรรค์ ปฐพี และจอมยุทธ์คนอื่นๆ หากปราศจากจิตวิญญาณการต่อสู้นี้ แม้ว่าจะมีโครงกระดูกที่พิเศษ พวกเขาก็จะไม่สามารถงัดชีด จำกัดออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ภายในนิกายคังหลุนมีข้อจำกัดที่ระบุว่าไม่อนุญาตให้ศิษย์ฆ่าฟันกัน และนั่นคือสาเหตุที่มีภารกิจในนิกาย
หากภารกิจของนิกายเรียบง่ายเกินไป มันจะไม่มีผลกระทบใดๆ กับความตื่นตัวของเหล่าศิษย์
หลี่ฟู่เฉินต้องการค้นหาขีดจำกัดของตัวเอง
นี่คือเหตุผลหลักว่าทำไมเขาถึงเลือกภารกิจระดับกลางขั้นหัวกะทิ การรับคะแนนและเหรียญทองเป็นวัตถุประสงค์รอง
เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่ฟู่เฉินออกเดินทางสู่ภูเขาเหลียนยุน
ภูเขาเหลียนหยุนเป็นภูเขาที่ใหญ่ที่สุดของเมืองชิงหลิน จริงๆ แล้วมันเชื่อมโยงกับเมืองอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
ภูเขาเหลียนหยุนทอดยาวออกไปด้วยยอดเขาและถ้ำอันไร้สิ้นสุด ทุกครั้งที่เจ้าเมืองชิงหลินส่งทหารออกไปกำจัดกลุ่ม
โจรวายุทมิฬ พวกนั้นมักจะหนีไปได้อยู่เสมอ เมื่อเวลาผ่านไป เจ้าเมืองเองสูญเสียรากฐานของตัวเองและไม่สามารถคงอยู่ได้อีกต่อไป
บนถนน หลี่ฟู่เฉินเห็นหมู่บ้านที่ถูกทำลายหลายแห่ง
หลังจากสอบถาม เขาก็ได้รู้ว่ากลุ่มโจรวายุทมิฬมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกมันไม่เพียงแต่ปล้นเหรียญทองทั้งหมดที่มี พวกมันแม้แต่กระทั้งลักพาตัวผู้หญิงที่สวยที่สุดในหมู่บ้านไปด้วย
“กลุ่มโจรกลุ่มนี้แน่นอนแล้วว่าเป็นกลุ่มที่ป่าเถื่อน”
ตามความเป็นจริง หัวหน้าของกลุ่มโจรวายุทมิฬอยู่ในขอบเขตต้นกำเนิดที่ห้าแต่เพียงเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นกลุ่มโจรที่แท้จริง
โจรที่แท้จริง คงจะต้องมีจอมยุทธ์ชั้นปฐพีอยู่ด้วยเป็นแน่
เนื่องจากบุคคลลำดับสูงของนิกายคังหลุนไม่ได้สนใจเรื่องของแคว้นมากนัก พวกมันจึงมักจะเข้าร่วมกับขุนนางเมืองต่างๆ อยู่เสมอ ดังนั้น ตราบใดที่กลุ่มโจรไม่ทำลายเมืองใดๆ และมีเบื้องหลังที่ต่ำต้อย พวกมันจึงมักจะอยู่รอดเป็นเวลานาน จนกว่าจะเกิดภัยพิบัติที่ไม่คาดคิดที่จะมากวาดล้างพวกมัน
หุบเขาวายุทมิฬ เป็นจุดลวงตาที่อยู่ในภูเขาเหลียนยุน
ทั้งสองด้านของหุบเขาเป็นยอดเขาสูงและเนินเขาสูงชัน มีเพียงเส้นทางแคบๆ เล็กๆ ที่อยู่ตรงกลาง เมื่อทหารม้ากลุ่มใหญ่เข้าไป อาจมีความเป็นไปได้ที่ก้อนหินจะตกลงมาจากยอดเขา ฝังทุกอย่างและไม่ทิ้งร่องรอยของศพ
หลี่ฟูเฉินมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมและไม่กลัวอะไรเช่นนั้น เขาไม่ลังเลเลยสักนิดและเข้าสู่หุบเขาวายุทมิฬ
“หัวหน้า มีบางคนเข้ามาในหุบเขาวายุทมิฬ”
ด้านข้างของเนินเขามีถ้ำ บุคคลที่อยู่ขอบเขตพลังฉีระดับเก้าสั่งคนด้านข้าง “ไปดูสิ”
ชายร่างผอมมาที่ปากถ้ำและมองลงมา
บนเส้นทางแคบๆ ในหุบเขามีเด็กหนุ่มสวมเสื้อผ้าสีเทา เดินไปยังส่วนลึกของหุบเขาวายุทมิฬ
“มันเป็นเด็กเหลือขอคนนึง จากพลังฉีที่ปรากฏออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในระดับที่หกของขอบเขตพลังฉี ไปจับเขา หัวหน้าสามไม่ใช่ว่าชอบวัยรุ่นหล่อๆ? ให้ของขวัญกับเธอเพื่อทำให้เธอสนุก”
ชายร่างผอมหัวเราะเสียงดัง ก่อนที่จะหยิบเชือกเส้นหนึ่งออกมาจากผนังถ้ำและโยนมันลงไป
เยาวชนที่สวมเสื้อผ้าสีเทาคือหลี่ฟูเฉิน
เมื่ออยู่ในโลกภายนอก อาภรณ์ของศิษย์ชั้นในก็มีข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีคือปัญหามักไม่ได้เชิญมาด้วยตัวเอง
ข้อเสียคือ ถ้ามีปัญหา มันมักจะเป็นปัญหาร้ายแรง
หลี่ฟู่เฉินไม่ต้องการให้เสื้อคลุมชั้นในของเขาไปกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายของเขา ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อผ้าสีเทา
สำหรับความสามารถในการปกปิดพลังฉี มันเป็นเพราะความสามารถที่มีในห้วงวิญญาณของเขา จริงๆ แล้ว เขาเชี่ยวชาญทักษะนี้มาตั้งแต่อยู่ในขอบเขตพลังฉีแล้ว
จอมยุทธ์ขอบเขตต้นกำเนิด และจอมยุทธ์ขอบเขตพลังฉีกว่าโหลโรยตัวลงมาโดยใช้เชือก
ชายร่างผอมชี้ไปที่หลี่ฟู่เฉิน “จับมันไว้!”
“เข้าไป!”
นักสู้ขอบเขตพลังฉีสองคนวิ่งไปหาหลี่ฟู่เฉิน
เห็นได้ชัดว่าหลี่ฟูเฉินจะไม่ยอมแพ้โดยที่ไม่ต่อสู้ และเริ่มต่อสู้กับทั้งสอง โดยการกระแทกเข้าไปหนึ่งในนั้นด้วยฝ่ามือข้างนึง
***
ห่างออกไปหลายสิบไมล์เป็นยอดเขาที่ไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็ดูแข็งแรง
มันมีถ้ำอยู่มากมาย ในถ้ำหลักคือพื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้นขนาดใหญ่ซึ่งขยายไปทุกทิศทาง มันเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม ตรงกลางมันเป็นสระน้ำขนาดใหญ่
ในสระว่ายน้ำมีผู้หญิงเปลือยกายหลายสิบคนเล่นอยู่ในท่าทีที่ดูเจ้าชู้
แต่หากสังเกตอย่างระมัดระวัง มันก็สามารถเห็นได้ลึกๆ จากดวงตาของพวกเธอ จริงๆ แล้วมันเป็นความเกลียดชัง
ด้านหน้าสระว่ายน้ำมีชายสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้หินเพื่อคุยกัน
“หัวหน้าวายุทมิฬ ตามที่หัวหน้าที่ปรึกษาของข้าพูด ตราบใดที่เจ้ายินดีที่จะเข้าร่วมกับป้อมปราการเหลียนหยุนของเรา เทคนิคนี่ก็จะเป็นเจ้าที่ครอบครองมัน” ชายสวมหน้ากากนำคัมภีออกมาและวางไว้บนโต๊ะหิน
หัวหน้าวายุทมิฬเป็นชายร่างใหญ่ที่มีหนวดเครา เขามองไปที่คัมภี สิ่งนี้น่าจะเป็นเทคนิคสีเหลืองขั้นสูง
แม้ว่าเทคนิคสีเหลืองขั้นสูงจะมีมูลค่า เขาก็มีแล้วหนึ่งอัน
แต่เมื่อเขาเปิดคัมภี การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไป
“สีเหลือง ขั้นสูงสุด?”
ชายสวมหน้ากากหัวเราะ “ถูกแล้ว”
“ข้าต้องทำอะไร?” หัวหน้าวายุทมิฬถาม
“ง่ายมาก แค่เจ้ามอบเหรียญทองจำนวน 100,000 เหรียญให้แก่ป้อมปราการเหลียนหยุนทุกปี ก็เท่านั้น”
“ตกลง” หัวหน้าวายุทมิฬไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“ไม่น่าแปลกใจที่หัวหน้าวายุทมิฬสามารถก่อตั้งกลุ่มโจรวายุทมิฬขึ้นมาได้ มันเป็นเพราะเขาเป็นคนที่สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและมีความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว” ชายสวมหน้ากากรู้สึกพอใจกับทัศนคติของหัวหน้าวายุทมิฬ
หัวหน้าวายุทมิฬเองก็พอใจเช่นกัน เขาปรบมือ “ทุกคนมาที่นี่เพื่อรับใช้ท่านผู้นี้ให้ดี”