GE181 ออกจากแคว้นจิน สัมผัสถึงความตายที่ย่างเข้ามา [ฟรี]
บนเตียง… หนิงฝานและหยุนโร่วเหว่ยลืมตาขึ้นพร้อมกัน
ในที่สุดนางก็ตัดความกังวลใจได้… จิตใจที่หนักอึ้งผ่อนคลาย มือที่จับกันแน่นคลายออก นางลุกขึ้นจากเตียง สีหน้าดูเขินอาย
หนิงฝานนวดไหล่ผ่อนคลายความเหนื่อย การเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน ทำให้หนิงฝานเหนื่อยล้าจิตใจเป็นอย่างมาก
“ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า? จากสีหน้าของท่าน หรือว่าท่านยังตัดความกังวลใจไม่หมด?”
“ไม่ใช่… ข้า… ขอบคุณ”
นางขบริมฝีปาก สีหน้าแสดงออกถึงความเขินอายอย่างชัดเจน
วิชาอสูรที่ช่วยให้เข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันเมื่อครู่ หนิงฝานพอใจกับมัน
วิชาขจัดวิญญาณและวิชาลบความทรงจำ จะทำให้ทะเลสติของผู้ที่ถูกใช้วิชาได้รับความเสียหายร้ายแรง กระทั่งทำให้คนผู้นั้นเป็นบ้า แต่วิชาอสูรที่หนิงฝานใช้ ทำให้เข้าสู่ดินแดนความฝันของศัตรู ซึ่งเหมาะกับการสืบค้นความทรงจำอย่างที่สุด
ผ่านมาแล้วครึ่งวันหลังจากหนิงฝานเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน เมื่อช่วยเหลือนางเสร็จ นางก็กล่าวลาทันที... ความกังวลใจของนางหายไป แต่เมื่อต้องอยู่กับหนิงฝาน นางกลับเขินอาย ไม่ได้เคร่งขรึมเย่อหยิ่งเหมือนก่อน
แต่ก่อนที่นางจะออกจากห้องไป นางกลับชงักฝีเท้าและเอ่ยปากกล่าวกลับหนิงฝาน
“หลังทำลายรังของอสูรเสร็จ ข้าจะไม่กลับวิหารกล้วยไม้อีกแล้ว หากวันใดเจ้าต้องการความช่วยเหลือ ให้ไปพบข้าที่ ‘สมาคมผู้เชี่ยวชาญอาคเนย์’ ข้าจะช่วยเหลือเจ้าอย่างสุดความสามารถ”
“หากจำเป็นจริงๆ ข้าจะไปหาท่าน”
หนิงฝานป้องมือ เดินลงไปส่งนางชั้นล่าง เมื่อสตรีได้ให้สัตย์ นางจะไม่คืนคำ
ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโลกพิรุณมีแคว้นอยู่นับร้อย แคว้นทั้งหมดเรียกรวมกันว่าทวีปตะวันตกเฉียงใต้ ‘สมาคมผู้เชี่ยวชาญอาคเนย์’ คือสมาคมที่เป็นแหล่งรวมของผู้เชี่ยวชาญไร้สังกัด
เดิมทีหยุนโร่วเหว่ยเป็นผู้เชี่ยวชาญวิหารพิรุณ แต่แหตุใดนางเลือกที่จะเข้าร่วมกับสมาคมผู้เชี่ยวชาญ ถึงแม้จะสงสัยแต่หนิงฝานไม่ได้ถาม
นางก้าวพ้นอาคารหยก พิรุณก็โปรยปราย
สองเท้าเปลือยเปล่าก้าวเดิน ในมือถือร่มกระดาษ เมื่อหนิงฝานหันหลังกลับและเข้าสู่อาคารไป นางชงักฝีเท้า หันกลับมามองแผ่งหลังหนิงฝานพลางยิ้มอย่างงดงาม
“ข้าเข้าใจเจ้าผิดไป… เจ้าเป็นคนดี...”
เมื่อส่งนางเสร็จ หนิงฝานกลับเข้าอาคารหยก ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย และนั่งปรับลมหายใจฟื้นฟู
ปราณและสภาพจิตใจกลับคืนสู่ความปกติอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะโลหิตอสูรที่ดูดซับมา
การที่ปราณอสูรของตนบรรลุกึ่งแก่นทองคำ ทำให้เขาใช้วิชาอสูรได้ง่ายขึ้น
หนิงฝานเดินมายังหน้าต่าง จ้องมองหยุนโร่วเหว่ยที่เดินจากไปไกล
“ร่ม… ข้าต้องเอาร่มไปส่งให้สหายเต๋าชู่ซวน… นางที่กางร่มสมควรงดงามอย่างที่สุด แต่จะมีผู้เชี่ยวชาญคนใดกันที่กางร่ม...”
ขณะที่ครุ่นคิด ระฆังทะเลตะวันออกในกระเป๋ากลับดัง ก่อนจะเงียบไป...
หนิงฝานขมวดคิ้ว แผ่สัมผัสเทพปกคลุมทั่วพื้นที่กว่าพันลี้ แต่ไม่พบสิ่งแปลกปลอมใด
“แปลก… เหตุใดระฆังถึงดัง… ช่างเถอะ อีก 10 วันข้าต้องจากที่นี่แล้ว สมควรยกระดับให้กระบี่แยกสวรรค์”
แต่ในใจของหนิงฝานยังไม่คลายกังวล เขาลองใช้วิชาทำนาย
แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับออกมาหลากหลาย จนไม่อาจทำนายได้อย่างแม่นยำ
แต่นั่นก็ยังสื่อให้เห็นถึงความจริงข้อหนึ่ง คือคนผู้ที่คิดปองร้ายสมควรแข็งแกร่ง อาจเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ!
นอกจากท่านเสวี่ยแล้ว ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่อยู่ในแคว้นจินมีเพียงผู้เดียว นั่นคือขุนพลอสูรลี่ป่าน
“เป็นไปไม่ได้! ไม่ว่าข้าจะชิงตัวผู้ติดตามของมัน หรือสังหารผู้ติดตามของมัน มันไม่สมควรสำผัสถึงตัวตนข้าได้… สถานการณ์เริ่มไม่ดี ต้องรีบไปจากจูซานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้...”
ภายในส่วนลึกของสระมังกรนิทรา
มีสถานที่ที่ปกคลุมด้วยหมอกกินบริเวณกว่าหมื่นลี้ รอบๆนั้นมีอสูรจำนวนมากเฝ้าอารักษ์
ภายในหมอก มีอสูรร่างยักษ์สูงกว่าพันจ้างอยู่ ทั่วร่างแผ่ปราณของมังกร
แต่สัตว์ตัวนั้นมีลำตัวยาว มีเขี้ยวและมีลักษณลำตัวเป็นงู เพียงแต่มันมีขาด้วย 8 ข้าง
และยามนี้ดูเหมือนมันกำลังยกระดับตน
มันคือมังกรที่วิวัฒนาการมาจากงู และนั่นก็คือขุนพลปีศาจลี่ป่าน!
การยกระดับเป็นไปอย่างเชื่อช้า แต่ในขณะนั้น ดวงตาของมันเป็นประกาย เขาค่อยๆงอกออกมาจากหัว ลักษณะใบหน้าดูเหมือนมังกรมากขึ้น
การเปลี่ยนยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง 10 วัน หมอกบริเวณนั้นค่อยๆเบาบางลง ร่างอสูรขนาดยักษ์เคลื่อนไหว มันเงยหน้าชูคอขึ้นท้องนภา เปล่งเสียงมังกรสะท้อนก้องไปทั่วทิศ
เสียงคำรามของมันราวกับอัสนีฟาดผ่า เหล่าอสูรน้อยใหญ่ที่อยู่บริเวณสระมังกรนิทราหวาดกลัว
ไม่นาน สัตว์อสูรขนาดยักษ์ได้เปลี่ยนร่างเป็นบุรุษเปลือยเปล่า บนร่างกายมีเกล็ดสีโลหิต
ผมสีแดงโลหิตพลิ้วไสว ดวงตาข้างซ้ายเป็นสีโลหิต
บนหน้าผากมีเขามังกรสีเงิน ที่มีอัสนีแปรบปราบ
ขุนพลอสูร… ลี่ป่าน!
เมฆดำทมิฬก่อตัว ทัณฑ์อัสนีสวรรค์ฟาดผ่า มันอ้าปากดูดเอาอัสนีทั้งหมดเข้ามา สีหน้าดูพึงพอใจไม่น้อย
“ยอดเยี่ยม… วิชาแปลงโลหิตขอบเขตที่สอง ‘มังกรอัสนีสำแดงเดช’... จากนี้ไปข้าก็ไม่กลัวอัสนีอีก! ที่สำคัญ ยังเป็นวิชาที่ใช้ง่ายมาก”
หนิงฝานเก็บรอยยิ้ม นำตรวนชิ้นหนึ่งออกมา
ตรวนชิ้นนี้ไม่ธรรมดา หากจะได้ฟาดใส่ จะสร้างความความเสียหายร้ายแรง
“ผู้ติดตามของข้าถูกจับตัวไป 2 ตน เจ้าสิงโตก็ถูกสังหาร… ฮึ่ม หากไม่มีโซ่แห่งผู้รับใช้ ข้าคงไม่รู้ว่าใครเป็นผู้สังหารเจ้าสิงโต ยามนี้คนผู้นั้นยังอยู่ในเขาจูซาน และที่ร่างของมันก็มีปราณโลหิตของเจ้าสิงโตอยู่ เด็กนั่นเป็นคนฆ่ามัน แต่ดูเหมือนมันก็มีสมบัติล้ำค่ากับตัวเช่นกัน เมื่อยามที่โซ่ของข้าพยายามจะตรวจหาที่มา สมบัติชิ้นนั้นกลับคอยป้องกันไว้ แต่ที่ทำให้ข้าประหลาดใจ คือเด็กนั่นมีสิ่งที่ใช้อัญเชิญเทพอสูรโบราณ”
“ถึงอสูรพวกนั้นจะตายหรือถูกจับก็ไม่นับเป็นอันใด แต่เจ้าสิงโตนั่นมีศิลาดาราโบราณที่ข้ามอบให้ การที่เสียมันไปนับเป็นปัญหาร้ายแรง และจำเป็นต้องกลับโลกอสูร แต่ก่อนจะไป ข้าต้องฆ่ามันให้ได้ก่อน”...
เมื่อสถานการณ์สงบลง ข่ายอาคมเคลื่อนในหลายเมืองก็เริ่มเปิดใช้งาน ทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญเดินทางได้สะดวกขึ้น
หนิงฝานใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้าย มุ่งไปยังข่ายอาคมเคลื่อนย้ายโบราณ
ยามนี้ ทั้งหนิงฝาน จิงสั่ว และชู่ซวนเชียนสื่อได้เร่งมุ่งหน้าไปยังใจกลางแคว้นจิน ตรงไปหาข่ายอาคมเคลื่อนย้ายโบราณเพื่อออกจากแคว้นจินให้เร็วที่สุด
ฝั่งของเขาจูซาน ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดฟื้นพลังกลับคืนสู่ความแข็งแกร่ง จึงได้เริ่มเปิดฉากบุกสระมังกรนิทรา
แต่นั่นไม่ใช่ธุระของหนิงฝาน การเข้าร่วมสงคราม มุ่งยังรังของอสูรเพื่อพบขุนพลอสูร เป็นเรื่องที่เสียงอันตรายเป็นอย่างมาก
แต่ละครั้งที่หนิงฝานใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายเดินทางข้ามเมือง เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ราวกับมีบางสิ่งกำลังไล่ตามเขามา
“หรือจะเป็นขุนพลอสูร… หรือมันยอมละทิ้งสระมังกรเพื่อติดตามข้า?!”
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หนิงฝานก็ไม่สบายใจ เมื่อใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายเสร็จ เขาก็ใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายหนีไปยังเมืองแห่งอื่นอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปอีก 2 วัน หนิงฝานก็มาถึงสถานที่มีข่ายเคลื่อนย้าย
ด้วยที่หนิงฝานมีแต้มมากมาย เขาจึงเก็บไว้ 3 แสนแต้ม ที่เหลือก็เอาไปแลกหยกสวรรค์ทั้งหมด
เมื่อแลกเปลี่ยนเสร็จ หนิงฝานและสหายอีก 2 คนก็มุ่งไปยังข่ายอาคมเคลื่อนย้ายที่อยู่ใต้ดิน
ลึกลงไปใต้เมืองแห่งนี้พันลี้ เป็นที่ตั้งของข่ายอายคมโบราณ
หนิงฝานที่เงียบสงบ ได้แผ่สัมผัสเทพปกคลุมพื้นที่กว่า 500 ลี้เพื่อเฝ้าระวัง
ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายโบราณนี้ มีตาของข่ายอาคมอยู่รวมกันถึง 7 หมื่น… หนิงฝานรู้ว่าข่ายอาคมเคลื่อนย้ายนี้ไม่ธรรมดา ผู้ที่สร้างข่ายอาคมระดับนี้ได้ สมควรมีสัมผัสเทพในขอบเขตไร้แบ่งแยกเป็นอย่างน้อย และยามนี้ หนิงฝานไม่อาจวางข่ายอาคมระดับนี้ได้
ดูเหมือนข่ายอาคมเคลื่อนย้าย สมควรเป็นข่ายอาคมระดับเซียนเป็นอย่างน้อย...
ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายโบราณรองรับได้เพียง 10 คน ในอดีตผู้ที่ต้องการใช้ข่ายอาคม ต้องจ่าย 1 แสนหยกสวรรค์ แต่ยามนี้สามารถใช้แต้มแลกได้
ภายในสถานที่แห่งนี้มีข่ายอาคมโบราณกว่า 10 ข่าย การใช้งานแต่ละครั้งต้องเสียหยกสวรรค์ 7 หมื่น เหลือ 3 หมื่นเป็นกำไร
แต่จริงๆแล้วกลับไม่อาจกล่าวว่าเป็นกำไร เพราะในจำนวน 3 แสนที่ได้ ต้องแบ่งให้วิหารพิรุณ 9 ส่วน อีก 1 ส่วนจึงเป็นของแคว้นจิน
ความต่างของกำไรช่างมหาศาล… หนึ่งปีเปิดข่ายอาคมเคลื่อนย้าย 1 ครั้ง ได้กำไร 270,000 หยกสวรรค์… 100 ปีได้ 27 ล้านหยกสวรรค์… 1,000 ปีได้ 270 ล้านหยกสวรรค์
ราชาแคว้นจินปกครองแคว้นแห่งนี้มานาน แต่แคว้นกลับมีหยกสวรรค์ไม่มาก ทำให้ราชาแคว้นจินไม่พอใจวิหารพิรุณ
หากมันได้หยกสวรรค์มากกว่านี้ มันอาจทะลวงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม!
และแคว้นจิน ก็จะมีความหวังที่จะยกระดับเป็นแคว้นระดับสูง
การที่วิหารพิรุณมายังแคว้นจิน ไม่ต่างกับพวกมันมาปล้นชิงหยกสวรรค์ รั้งไม่ให้แคว้นจินเติบโต… ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายจึงกลายเป็นแหล่งทำเงินให้แคว้นจินอย่างดี
“ข่าอายคมไม่ธรรมดาจริง!” หนิงฝานถอนสัมผัสพลางกล่าว
เมื่อได้ยินหนิงฝานกล่าวเรื่องนี้ ผู้นำทางก็หันมากล่าว
“ผู้อาวุโสซัวสายตาเฉียบคมยิ่งนัก ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายนี้เป็นข่ายอาคมระดับเซียน ได้ยินว่าปรมาจารย์ข่ายอาคมของวิหารพิรุณเป็นผู้มาวางด้วยตนเอง… คาดไม่ถึงว่าท่านที่เพิ่งเห็นจะมองออก”
“อืม”
หนิงฝานพยักหน้า ไม่ได้ใส่ใจผู้เชี่ยวชาญที่นำทางมากนัก
มันเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น การที่มันได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม นับเป็นเกียรติของมันอย่างที่สุด ที่สำคัญ ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มผู้นี้ ยังเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
จิงสั่วมองหนิงฝานด้วยแววตานับถือ หากมันไปทะเลไร้สิ้นสุดและทะลวงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม มันคงมีชื่อเสียงเหมือนหนิงฝาน
ชู่ซวนเชียนสื่อจ้องมองหนิงฝาน สองมือปิดปากเพื่อปิดบังรอยยิ้ม
ขณะนางขบคิด ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำที่นำทางก็นำทั้งหมดไปถึงสถานที่จัดตั้งข่ายอาคมเคลื่อนย้าย
พื้นที่จัดวางข่ายอาคมกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยอักขระต่างๆมากมาย
บนพื้นมีแผ่นศิลาสีดำวางเรียงราย บนแผ่นศิลาเหล่านั้นมีหลุมใส่หยกสวรรค์ เพื่อขับเคลื่อนข่ายอาคม
หนิงฝานเห็นคนทั้งหมด 7 คนที่ยืนรอใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้าย ในหมู่ 7 คนนั้น 5 คนเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ อีก 2 คนเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น เมื่อคนทั้งหมดเห็นหนิงฝาน พวกมันยิ้มให้ ป้องมือคารวะ
“เฉินเสวี่ยคารวะแม่ทัพซัวหมิง!”
“ข้ารู้สึกคุ้นหน้าสหายเต๋าทั้งสองนัก...”
“ฮ่าฮ่า พวกข้าเป็นเพียงแม่ทัพที่ไร้กำลัง พวกข้าอยู่หน่วยรบ เราเคยพบกันเมื่อครั้งที่ประชุมหารือกับท่านเสวี่ย”
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มสองคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญจากแคว้นอื่น แม้ทั้งสองจะมาจากแคว้นระดับกลาง และมีสถานะสูงส่ง แต่เมื่อพบหนิงฝานยังต้องเคารพในความแข็งแกร่ง
“ฮ่าฮ่า ได้พบสหายเต๋าทั้งสองนับเป็นโชคดี...”
หนิงฝานยิ้มและคารวะกลับ แต่ในขณะนั้น เขากลับประหลาดใจอย่างที่สุด
เพราะจู่ๆกลับเห็นใบหน้าของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มทั้งสองคนนั้น กลายเป็นหน้าตาที่ดูอัปลักษณ์
ลางสังหรณ์ล่วงหน้านี้ถือเป็นลึกลับซับซ้อน มันเหมือนการได้เห็นว่าผู้เชี่ยวชาญสองคนเบื้องหน้ากำลังจะตายอย่างน่าสยดสยอง
หรือความตายนี้จะเกี่ยวข้องกับความกังวลใจของหนิงฝาน?
หรือว่าขุนพลอสูรลี่ป่านจะมาถึงเมืองแห่งนี้แล้ว?
“แย่แล้ว ต้องรีบใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายทันที! อีกไม่นานผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณจะจู่โจม เราไม่มีทางต้านมันได้!”...