ตอนที่ 239 การเชื่อมต่อประสาท 2
ห้องคอมพิวเตอร์ส่วนกลางตั้งอยู่ใจกลางสำนักงานใหญ่ มันเก็บข้อมูลจำนวนมากเอาไว้ ไซเบอร์ลอสมีสิทธิ์เข้าถึง ดังนั้นเขาจึงปิดมาตรการป้องกันและพาหานเซี่ยวเข้าห้องไป
ฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่จำนวนมากถูกวางไว้อย่างเรียบร้อยคล้ายชั้นหนังสือ มีแสงไฟกระพริบอย่างต่อเนื่องและที่ปลายห้องก็คือหน้าจอและแผงควบคุม ห้องเรียบง่ายกว่าห้องคอมพิวเตอร์ส่วนกลางของแผนก13มังกรดาราซะอีก
ไซเบอร์ลอสเปิดคอมพิวเตอร์ กรอกรหัสผ่าน จากนั้นก็สแกนลายนิ้วมือและม่านตา จริงๆแล้วมีมาตรการเตือนภัยลับๆในขั้นตอนนี้ ที่รหัสผ่านชุดหนึ่งจะไปกระตุ้นสัญญาณเตือนภัยในกรณีเจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกข่มขู่ แต่ทว่า ไซเบอร์ลอสไม่คิดทำเช่นนี้เพื่อความปลอดภัยตัวเอง
เขาเชื่อว่าหานเซี่ยวสามารถฆ่าเขาได้ง่ายๆก่อนจะถูกจับตัว และก็ไม่อยากเอาตัวเองไปเสี่ยง
ดังนั้น เขาจึงเชื่อฟังคำสั่ง
ไซเบอร์ลอสไร้กฏและกล้าทำทุกอย่างตอนทดลอง แต่เมื่อเกี่ยวกับชีวิตตัวเอง เขามักขี้ขลาด
“แกอยากดูอะไร?”ไซเบอร์ลอสถสม
“แผนที่ของสำนักงานใหญ่”หานเซี่ยวกล่าว
ไซเบอร์ลอสควบคุมคอมพิวเตอร์และแผนที่ของสำนักงานใหญ่ก็แสดงขึ้นบนหน้าจอ
หานเซี่ยวนำหมวกไวเปอร์ออกจากกระเป๋าเขา ถ่ายรูปแผนที่ และเก็บมันลงฐานข้อมูลเพื่อสร้างแผนที่สามมิติ ในเวลาเดียวกัน เขาก็จดจำแผนที่ไปด้วย ระบุจุดที่ออโรร่าถูกคุมขัง
เมื่อคิดถึงตัวตนของบุตรแห่งโชคชะตาก่อนหน้า หานเซี่ยวก็พยายามค้นผ่านดู แต่ไซเบอร์กลับกล่าวว่ามีแค่ผู้นำถึงมีสิทธิ์เปิดประตูไปหาบุตรแห่งโชคชะตา ดังนั้น หานเซี่ยวจึงต้องล้มเลิกความคิด
“เปิดฐานข้อมูลหลักซะ”หานเซี่ยวกล่าว
ไซเบอร์ลอสทำตามทันที ความลับรั่วไหลออกมาต่อหน้าหานเซี่ยว
การรวบรวมข้อมูลนี้คืออีกเหตุผลที่เขามายังสำนักงานใหญ่องค์กรต้นกำเนิด เขาได้เปลี่ยนเนื้อเรื่องดั้งเดิม ดังนั้นจึงเป็นธรรมชาติที่เขาจะไม่รู้ความลับ นอกจากนี้ เขายังเป็นแค่ผู้เล่นในชีวิตก่อนหน้า ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางรู้ข้อมูลเช่นสถานะการทดลอง แผนการและอื่นๆ
หานเซี่ยวเห็นโครงสร้างของสุดยอดทหาร มันเป็นเทคโนโลยีจากแขนกลน้ำหนักเบาเขาจริงๆ
หานเซี่ยวบันทึกข้อมูลทั้งหมด โดยเฉพาะข้อมูลหัตถ์แห่งความตาย การให้ข้อมูลทั้งหมดนี้กับ6ประเทศจะสามารถสร้างข้อได้เปรียบให้พวกเขาและกำจัดที่พึ่งสุดท้ายขององค์กรต้นกำเนิด ยิ่งข้อมูลเขาเป็นประโยชน์ ภารกิจเขาก็ยิ่งคืบหน้า
นั่นไม่ใช่เลย
6ประเทศและองค์กรต้นกำเนิดล้วนครอบครองความรู้ขั้นกลาง โอกาสเช่นนี้ไม่ได้มาบ่อยๆ
เป้าหมายจริงๆเขาคือความรู้ขั้นกลาง!
หานเซี่ยวมักชอบผลประโยชน์สูงสุด การช่วยชีวิตออโรร่าไม่ใช่เป้าหมายเดียว ข้อมูลและความรู้ขั้นกลางก็นับเป็นเป้าหมายเขา
“เปิดฐานข้อมูลความรู้”หานเซี่ยวกล่าว
ความรู้สายอาชีพขั้นกลางของนักสู้ เอสเปอร์และช่างกลแสดงบนหน้าจอ หานเซี่ยวปล่อยลมหายใจยาว เขาตื่นเต้นมาก ในที่สุดเขาก็ได้รับความรู้ขั้นกลางใหม่หลังผ่านมาหลายเดือน
ความรู้ขั้นกลางสายช่างกลที่องค์กรต้นกำเนิดมีคือ[การเชื่อมต่อประสาท]
ตรวจพบความรู้ขั้นกลางสายช่างกล [การเชื่อมต่อประสาท]
ใช้แต้มศักยภาพ2หน่วยเพื่อเรียนรู้
“ยืนยัน”
กำลังเรียนรู้ โปรดอย่ายกเลิก
5%....43%...78%..
สำเร็จ!ท่านได้เรียนรู้[การเชื่อมต่อประสาท]!
หานเซี่ยวหลับตาและรู้สึกถึงความรู้ใหม่ในหัว
เหมือนกับชื่อ [การเชื่อมต่อประสาท]คือเทคโนโลยีสำคัญที่ข้องเกี่ยวกับชีวจักรกล ตามการอ่านสัญญาณประสาทจากสิ่งมีชีวิต จักรกลสามารถควบคุมได้โดยความคิด ช่วยเพิ่มการตอบสนองไปอีกหลายขั้น การได้รับความรู้สายอาชีพใหม่หมายถึงจำนวนการผสานความรู้ที่มากขึ้น และเขายังสามารถได้พิมพ์เขียวมากขึ้น มันนับเป็นประโยชน์ต่อเขามาก
ท้ายที่สุด ฉันก็มีความรู้อันที่สองหลังจากได้รับอันแรกมาเมื่อปีก่อน
หานเซี่ยวไม่หยุดแค่นั้น เขายังบันทึกความรู้สายอาชีพอื่นอย่างนักสู้และเอสเปอร์ แม้เขาจะไม่อาจใช้พวกมันได้ เขาก็ยังสามารถขายพวกมันให้ผู้เล่นในอนาคตได้
การควบคุมแหล่งข้อมูลทำให้เขามีเทคโนโลยีล้ำหน้าและดึงดูดผู้เล่นได้ นอกจากนี้ พวกมันยังเป็นความสามารถหลักสำหรับผู้เล่น ดังนั้นการขายพวกมันจึงไม่เป็นปัญหา
เมื่อระดับของผู้เล่นสูงขึ้น พวกเขาจะต้องการความรู้สายอาชีพขั้นกลาง และเมื่อพวกเขาตระหนักว่าสามารถซื้อได้จากหานเซี่ยว….
หานเซี่ยวเริ่มกังวลถึงการได้รับค่าความนิยมเพิ่มขึ้น
ข้อมูลและความรู้ มันสร้างผลประโยชน์ให้ได้มาก
ไซเบอร์ลอสกำลังเฝ้าดูจากด้านข้างตลอดเวลา ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกเสียวสันหลังและถาม“แก…แกเป็นพวกเหนือมนุษย์?”
ผ่านการวิจัยพวกเขา องค์กรต้นกำเนิดตระหนักว่าพวกเหนือมนุษย์มีความสามารถการเรียนรู้สูงมาก และการกระทำของหานเซี่ยวก่อนหน้าก็น่าสงสัย ดังนั้นไซเบอร์ลอสจึงคิดถึงความเป็นไปได้นี้
หานเซี่ยวมีความคิดชั่วร้าย เขาหัวเราะและกล่าวอย่างคลุมเครือ“อะไรทำให้แกคิดอย่างนั้น?”
ไซเบอร์ลอสรู้สึกถึงความเย็นที่วิ่งแล่นไปทั่วมือและเท้า
ศัตรูตัวฉกาจขององค์กรคือมนุษย์ที่ไม่มีวันตาย งั้นอะไรคือประเด็นของการล่าเขา?
บัดซบ!
บ้าอะไรกัน!
ไม่!
“แต่..แกปรากฏตัวเร็วกว่าคนอื่นมาก…”ก่อนไซเบอร์ลอสจะพูดจบ เขาก็กลายเป็นตกใจและมองหานเซี่ยวเหมือนกับเขากำลังมองผี
หรือซีโร่จะเป็นเหนือมนุษย์คนแรก?!ปรากฏการณ์เหนือมนุษย์ลุกลามมาจากเขาและความสามารถเขา?!
โดยไม่คิดแก้ไข ความคิดเหล่านี้ยิ่งถลำลึกขึ้นและห่างจากความเป็นจริง หานเซี่ยวตรวจสอบข้อมูลและทำให้มั่นใจก่อนถาม“มีโปรแกรมทำลายตัวเองในคอมพิวเตอร์ส่วนกลางไหม?”
“ใครจะโง่ตั้งค่าการทำลายตัวเองในสำนักงานใหญ่?นั่นต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”ไซเบอร์ลอสปาดเหงื่อ
ไวเปอร์เสร็จสิ้นการสร้างแผนที่แล้ว ดังนั้นทุกอย่างจึงเตรียมพร้อม หานเซี่ยวดึงไซเบอร์ลอสขึ้นและตะโกน“ปิดมาตรการป้องกันทั้งหมดของเขตA4 แช่ภาพของกล้องวงจรปิดทั้งหมดซะ”
ไซเบอร์ลอสรีบทำตามคำสั่ง จากนั้นเขาก็คิดขึ้น…เขตA4 นั่นคือที่ที่สาวน้อยผู้มีพลังชีวิตถูกคุมขังนี่?
“แกคิดทำอะไรกันแน่?”
“ฉันอยากช่วยเธอ ไปกันได้แล้ว”หานเซี่ยวออกห้องไปพร้อมผลักไซเบอร์ลอสมาด้วย
ไซเบอร์ลอสตกตะลึง เขาสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมหานเซี่ยวถึงอยากได้ข้อมูล แต่ออโรร่าคือความลับสูงสุดขององค์กร หานเซี่ยวไม่ได้มองรายละเอียดนี้เลย ดังนั้นมันจึงเหมือนกับว่าเขารู้มันมาตลอด
เหตุผลที่หานเซี่ยวเลือกเขาเป็ฯตัวประกันก็เพราะรู้ว่าเขาจะให้ความร่วมมืองั้นหรอ?
ไซเบอร์ลอสตัวสั่น
ความรู้สึกการถูกมองออกคือความกลัวที่แทงไปในกระดูกเขา
…
ไซเบอร์ลอสปกปิดได้ดี พวกเขามาถึงเขตA4ได้ง่ายๆ หลังเดินผ่านทางเดินคดเคี้ยว ในที่สุดพวกเขาก็ฒาถึงอุโมงค์ซึ่งนำไปหาออโรร่า มาตรการป้องกันล้วนถูกปิด
ทั้งคู่มาถึงประตู และยามก็หยุดพวกเขา
“เปิดประตู”ไซเบอร์ลอสพยายามทำตัวเหมือนปกติ
“ไซเบอร์ลอส ผมไม่ได้รับคำอนุญาติใดๆ”ยามกล่าวอย่างสับสน
“แค่การสกัดเลือด”
“แต่มีคนได้มาเอาเลือดไปแล้ว..”ยามลังเล อย่างไรก็๖ม เมื่อพวกเขาเห็นไซเบอร์ลอสกำลงหมดความอดทน พวกเขาก็เปิดประตูให้
เมื่อเดินเข้าห้อง ในที่สุดหานเซี่ยวก็เห็นออโรร่า เธอดูบอบบางมาก ผิวเธอขาวซีดจากการไม่ได้รับแสงมาหลายปี เธอถูกขังไว้ในห้องกระจก เหมือนสัตว์ในสวน
สาวน้อยนอนกอดเข่าอยู่มุมห้อง เธอมองคนในชุดขาวด้านนอกด้วยความกลัว คนเหล่านี้กำลังเตรียมอุปกรณ์และพร้อมเจาะเลือดเธอ
ออโรร่าจำได้ถึงความเจ็บปวดของการเจาะเลือด และมันก็กำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอกัดปากและหวังให้มันเป็นครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม เธอรู้ว่าคนเหล่านี้จะเข้าห้องมาอีกและใส่เข็มไปในเส้นเลือดเธอและกระดูก เธอทำได้แค่ดูพลังชีวิตเธอเปลี่ยนเป็นของเหลวสีแดง
ออโรร่าเชื่อว่าพี่สาวเธอจะพาเธอออกจากชะตากรรมนี้ แต่เธอก็รู้ว่าเธอขอมากเกินไป เธอไม่อยากให้พี่สาวเธอต้องมาอันตรายเพราะช่วยเธอ ดังนั้นเธอจึงต้องทำตัวสดใสต่อหน้าฮีล่า จากนั้นฮีล่าก็จะไม่รู้สึกแย่เกินไป
ครั้งนี้ เธอเห็นประตูเปิดอีกครั้ง คนสองคนเดินเข้ามา จากนั้นเธอก็เห็นแสงสีขาวไหววูบตรงหน้าก่อนจะเห็นว่าคนในชุดขาวและยามล้วนล้มลงกับพื้นพร้อมเลือดที่ไหลกระฉูด
ออโรร่ากระพริบตาอย่างสับสน เธอจ้องมองกำแพงกระจกที่ขวางเธอจากอิสระซึ่งเปิดออกง่ายๆ
ลุงหน้าตาดุร้ายเดินเข้ามาและยื่นมือมาหาเธอ
“ฉันมาเพื่อช่วยเธอ ตามฉันมา”
ออโรร่าแข็งค้าง เธอเชื่อมั่นและวาดฝันในหัวถึงวินาทีนี้มาตลอด แต่เมื่ออิสระมาถึง เธอกลับทำตัวไม่ถูก